21 1 ม.4 บร ษ ทส งโตพลาสต ก จำก ด

หมายเหตุ Prin หรอื จดบันทึกลงในสมุด Recycle เกษตรตัง้ แตห่ นา้ แรกให้พอดีกบั หน้าสมุด หา้ มพับอยา่ งเด็ดขาด

ลงช่อื .................................................... (นายวธัญู ทองเหลือ)

ง30101 การดำรงชวี ติ ฯ 1 ม.4

เกษตรทฤษฎใี หม่

ปัญหาหลกั ของเกษตรกรในอดตี จนถึงปัจจบุ นั ทีส่ าคญั คือ การขาดแคลนนา้ เพื่อเกษตรกรรม มฝี นคอ่ นขา้ งนอ้ ยและสว่ นมากเป็ นนาขา้ ว และพืชไร่ เกษตรกรยงั คงทาการเพาะปลกู ไดป้ ี ละคร้ังในชว่ งฤดฝู นเทา่ นนั้ และมีความเสยี่ งกบั ความเสียหายเน่ืองมาจากความแปรปรวน ของดินฟ้ าอากาศและฝนท้ิงชว่ งและสว่ นใหญ่ปลกู พชื ชนิดเดยี ว พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร จึงได้ พระราชทานพระราชดาริ เพ่ือเป็ นการชว่ ยเหลือเกษตรกรทป่ี ระสบความยากลาบาก ใหส้ ามารถผา่ นพน้ ชว่ งเวลาวกิ ฤติ พระราชดารินี้ ทรงเรียกว่า "ทฤษฎใี หม"่ ซึง่ เป็ นแนวทางหรอื หลกั การในการบรหิ ารการจดั การท่ีดินและนา้ เพ่ือการเกษตรในท่พี นื้ ทขี่ นาดเล็กใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ

ทฤษฎใี หมข่ นั้ ตน้

ใหแ้ บ่งพนื้ ทอ่ี อกเป็ น 4 สว่ น ตามอตั ราส่วน 30: 30: 30: 10 ซง่ึ หมายถงึ

• พื้นทส่ี ว่ นทีห่ นงึ่ ประมาณ 30% ใหข้ ดุ สระเก็บกกั นา้

• พื้นที่สว่ นที่สอง ประมาณ 30% ใหป้ ลกู ขา้ ว

• พ้นื ที่สว่ นที่สาม ประมาณ 30% ใหป้ ลกู ไมผ้ ล ไมย้ นื ตน้ พชื ผกั พชื ไร่ พืชสมนุ ไพร ฯลฯ • พน้ื ที่สว่ นทส่ี ี่ ประมาณ 10% เป็ นทอี่ ย่อู าศยั เล้ยี งสตั วแ์ ละโรงเรือนอน่ื ๆ

ทฤษฎีใหมข่ นั้ กลาง

คือการรวมพลงั กนั เป็ นกลมุ่ วสิ าหกิจชมุ ชนหรอื สหกรณ์ ร่วมแรงรว่ มใจในการดาเนินการในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ี

• การผลติ ร่วมมอื กนั ตง้ั แตเ่ ตรยี มดนิ หาพนั ธ์ุ หานา้ เตรียมป๋ ุย เพอ่ื เพาะปลกู • การตลาด เตรียมจาหนา่ ยเพอื่ ใหไ้ ดป้ ระโยชนส์ งู สดุ ปลกู เอง แปรรปู เอง ขายเอง รวมตวั กนั ขายเพอื่ ใหไ้ ดร้ าคา • ความเป็ นอยู่ เกษตรกรตอ้ งมีความเป็ นอยทู่ ีด่ ีสมฐานะ • สวัสดกิ าร แตล่ ะชมุ ชนควรจัดตงั้ กองทนุ ไวใ้ หส้ มาชกิ เมอ่ื จาเป็ น • การศึกษา มีโรงเรยี นในชมุ ชนเพอ่ื ส่งเสรมิ การศกึ ษา นาภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นมาสอดแทรกในการสอนและเนน้ ให้

นกั เรยี นดารงชวี ิตดว้ ยการพ่งึ พาตนเองใหไ้ ด้ • สงั คมและศาสนา ชมุ ชนควรเป็ นศนู ยก์ ลางในการพฒั นาโดยมศี าสนาเป็ นเครื่องยดึ เหนีย่ ว

ทฤษฎใี หมข่ นั้ กา้ วหนา้

เม่ือผา่ นพน้ ไป 2 ขน้ั แลว้ เกษตรกรจะมรี ายไดท้ ่ีดขี นึ้ มฐี านะความเป็ นอย่ทู มี่ นั่ คงขน้ึ และมกี ารจดั หาแหลง่ เงนิ ทนุ เขา้ มา ชว่ ยในกลมุ่ สหกรณเ์ พอื่ พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของสมาชกิ อกี ดว้ ย

ประโยชนข์ องทฤษฎใี หม่

จากพระราชดารสั ของ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทไ่ี ดพ้ ระราชทานในโอกาสตา่ ง ๆ นน้ั พอจะสรปุ ถึงประโยชนข์ องทฤษฎใี หมไ่ ด้ ดงั นี้

• ใหป้ ระชาชนพออยพู่ อกนิ สมควรแก่อตั ภาพในระดบั ทีป่ ระหยดั ไมอ่ ดอยาก และเล้ยี งตนเองได้ • ในหนา้ แลง้ มนี า้ นอ้ ยก็สามารถเอานา้ ที่เก็บไวใ้ นสระ มาปลกู พืชผกั ตา่ ง ๆ ได้ • ในปี ท่ีฝนตกตามฤดกู าลโดยมนี า้ ดตี ลอดปี ทฤษฎใี หมน่ กี้ ็สามารถสรา้ งรายไดใ้ หร้ า่ รวยขน้ึ ได้ • ในกรณีทเี่ กิดอทุ กภยั ก็สามารถทจี่ ะฟ้ื นตวั และชว่ ยตวั เองไดใ้ นระดบั หนงึ่ โดยทางราชการไมต่ อ้ งชว่ ยเหลอื มาก

เกินไป อนั เป็ นการประหยดั งบประมาณดว้ ย

อา้ งองิ เกษตรทฤษฎใี หม่ (พ.ศ. 2537) | มลู นธิ ิม่นั พฒั นา ท่มี า: //www.tsdf.nida.ac.th รูปภาพ : //www.naewna.com [14 พฤศจกิ ายน 2564]

หญา้ แฝก

พระราชดารขิ องพระเจา้ อยหู่ วั “ใหใ้ ชห้ ญา้ แฝกในการพฒั นา ปรบั ปรุงบารุงดนิ ฟ้ืนฟูดินใหม้ ีความอุดม สมบูรณ์ และแกป้ ัญหาดินเส่อื มโทรมดาเนินการขยายพนั ธุ์ ทาใหม้ กี ลา้ หญา้ แฝกเพยี งพอดว้ ย ทีส่ าคญั ตอ้ ง ไม่ลืมหนา้ ทข่ี องหญา้ แฝก ในการอนุรกั ษด์ ินและนา้ และเพ่ือการรกั ษาดนิ ใหท้ กุ หนว่ ยงานและหนว่ ยงาน ราชการทมี่ ีศกั ยภาพในการขยายพนั ธุ์ ใหค้ วามรว่ มมอื กบั กรมพฒั นาท่ดี นิ ในการผลิตกลา้ หญา้ แฝก และ

แจกจา่ ยกลุ่มเป้ าหมายทีต่ อ้ งการใหเ้ พียงพอ”

ณ ศาลาเรงิ วงั ไกลกงั วล อาเภอหวั หนิ

จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เม่อื วนั ท่ี ๒๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๔๖

ลกั ษณะของหญา้ แฝก

หญา้ แฝก เป็นพืชใบเล้ียงเด่ียวตระกลู หญา้ ชนิดหนง่ึ เชน่ เดียวกบั ขา้ วโพด ขา้ วฟ่ าง ออ้ ย ซงึ่ พบกระจายอยู่ทวั่ ไปหลายพ้ืนท่ตี ามธรรมชาติ จากการสารวจพบวา่ มีกระจายอยู่ทวั่ โลกประมาณ ๑๒ ชนิด และสารวจพบในประเทศไทย ๒ ชนดิ ไดแ้ ก่

๑.กลุ่มพนั ธุห์ ญา้ แฝกลมุ่ ไดแ้ ก่ พนั ธุส์ ุราษฎรธ์ านี กาแพงเพชร ๒ ศรลี งั กา สงขลา ๓ และพระราชทาน ฯลฯ

๒.กลมุ่ พนั ธุห์ ญา้ แฝกดอน ไดแ้ ก่ พนั ธุร์ าชบุรี ประจวบครี ขี นั ธ์ รอ้ ยเอด็ กาแพงเพชร ๑ นครสวรรค์ และเลย เป็นตน้

หญา้ แฝกเป็นหญา้ ทข่ี ้ึนเป็นกอ หนอ่ เบียดกนั แน่น ใบของหญา้ แฝกมี ลกั ษณะแคบยาว ขอบขนานปลายสอบแหลม ดา้ นทอ้ งใบจะมีสีจางกวา่ ดา้ นหลงั ใบ มี รากเป็นระบบรากฝอยที่สานกนั แนน่ ยาว หยง่ั ลึกในดิน มขี อ้ ดอกตงั้ ประกอบดว้ ย ดอกขนาดเลก็ ดอกจานวนครง่ึ หนึ่งเป็นหมนั

การท่ีหญา้ แฝกถูกนามาใชป้ ลูกในการอนุรกั ษด์ ินและนา้ เน่ืองมาจากมลี กั ษณะเดน่ หลายประการ ดงั น้ี

๑.มีการแตกหน่อรวมเป็นกอ เบียดกนั แน่น ไม่แผข่ ยายดา้ นขา้ ง

๒.มกี ารแตกหน่อและใบใหม่ ไมต่ อ้ งดแู ลมาก ๖.ระบบรากยาว สานกนั แนน่ และชว่ ยอมุ้ นา้

๓.หญา้ แฝกมีขอ้ ทลี่ าตน้ ถี่ ขยายพนั ธุโ์ ดยใชห้ นอ่ ไดต้ ลอดปี ๗.บรเิ วณรากเป็นทีอ่ าศยั ของจุลินทรยี ์

๔.สว่ นใหญ่ไมข่ ยายพนั ธุด์ ว้ ยเมล็ด ทาใหค้ วบคุมการแพรข่ ยายได้ ๘.ปรบั ตวั กบั สภาพตา่ ง ๆ ไดด้ ี ทนทานตอ่ โรคพชื ทวั่ ไป

๕.มีใบยาว ตดั และแตกใหม่งา่ ย แข็งแรงและทนตอ่ การยอ่ ยสลาย ๙.สว่ นที่เจริญตา่ กวา่ ผวิ ดิน ชว่ ยใหอ้ ยรู่ อดไดด้ ีในสภาพตา่ ง ๆ

การขยายพนั ธุห์ ญา้ แฝก

๑.การขยายแมพ่ นั ธุห์ ญา้ แฝก คอื การนาแม่พนั ธุห์ ญา้ แฝกที่มีลกั ษณะดมี าทาการขยายเพม่ิ ปรมิ าณทง้ั การปลกู ลงดนิ ปลกู ลง ถงุ พลาสติกขนาดใหญ่ หรอื การเพาะเล้ียงเน้ือเยื่อ ๑.๑การขยายพนั ธุใ์ นแปลงขนาดใหญ่ เหมาะสมกบั พ้ืนทที่ ี่มีการชลประทานและระบายนา้ ดี สามารถปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ โดย ไม่ตอ้ งยกรอ่ งกไ็ ด้ การเตรียมตน้ พนั ธุโ์ ดยแยกหน่อจากกอ นามาตดั ใบใหเ้ หลือความยาว ๒๐ เซนตเิ มตร และตดั รากใหส้ น้ั แชใ่ น ระดบั นา้ สงู ๕ เซนติเมตร เป็นระยะเวลา ๕-๗ วนั รากจะแตกออกมาใหม่นาไปปลกู โดยใชร้ ะยะปลูกหา่ งตน้ ๕ เซนตเิ มตร และ ระหวา่ งแถว ๕๐ เซนติเมตร หลงั จากปลูกตอ้ งใหน้ าอยา่ งสมา่ เสมอ เม่อื อายไุ ด้ ๑ เดอื น ใสป่ ๋ ุยสตู ร ๑๕-๑๕-๑๕ ตน้ ละ ๑ ชอ้ นชา เม่อื ถึงอายุ ๔-๖ เดือน ใหข้ ุดนา้ ไปเพาะชาในถุงพลาสติก หรือเตรยี มเป็นกลา้ รากเปลือยสาหรบั ใชป้ ระโยชนไ์ ดต้ ่อไป ๑.๒การขยายพนั ธุใ์ นถงุ พลาสติกขนาดใหญ่ โดยวางเป็นแถวคตู่ ดิ กนั ระยะห่างระหวา่ งแถวคู่ ๑ เมตร ยาวตามพ้นื ท่ใี ชว้ สั ดุปลกู ที่มี การระบายนา้ ดี เชน่ ดนิ รว่ นทราย และข้เี ถา้ แกลบ หรือขุยมะหรา้ ว ในสดั สว่ น ๑:๒:๑ การติดตงั้ ระบบนา้ พน่ ฝอย หรือมีตาข่าย พรางแสง นาหน่อมาปักชาดแู ล จนกระทง่ั อายุ 4 เดอื น จึงนาไปแยกหนอ่ เพาะชาตอ่ ไป ๒. การขยายกลา้ หญา้ แฝกสาหรบั ใชป้ ลกู คือการนาหนอ่ ที่ไดจ้ ากการขยายแม่พนั ธุม์ าเพาะชา เพือ่ นาไปปลกู ในพ้นื ท่ี ไดแ้ ก่ กลา้ ใน ถุงพลาสติกขนาดเลก็ และกลา้ หญา้ แฝกแบบรากเปลอื ย

๒.๑การเตรียมกลา้ หญา้ แฝกในถงุ โดยตดั รากใหส้ น้ั และแยกหน่อจากกอตดั ใบใหย้ าว ๑๐ เซนติเมตร นามาลา้ งนา้ มดั รวมกนั วาง ลงบนขยุ มะพรา้ วท่ีช้นื หรอื แชใ่ นระดบั นา้ สูง ๕ เซนติเมตร ในทร่ี ม่ เงา ๔ วนั แลว้ จงึ คดั หนอ่ ทอี่ อกรากมาปักชาในถงุ พลาสตกิ ขนาด เลก็ (๒x๖ น้วิ ) และใสว่ สั ดเุ พาะชาทร่ี ะบายนา้ ดีมธี าตอุ าหารสมบูรณ์ ดแู ลรดนา้ ในสภาพเรอื นเพาะชา เมือ่ อายุ ๔๕-๖๐ วนั ใหน้ าไป ปลูกในพ้นื ที่ขณะท่ดี ินมีความช้ืน

การดูแลรกั ษาหญา้ แฝก

๑.การคดั เลือกกลา้ ที่มคี ุณภาพ กลา้ หญา้ แฝกทมี่ คี ณุ ภาพโดยทวั่ ไปเป็นกลา้ ที่มอี ายุ ๔๕ ถงึ ๖๐ วนั เม่อื นากลา้ ท่แี ข็งแรงมาปลูกก็ จะไดแ้ นวรวั้ หญา้ แฝก ทมี่ ีการเจริญเติบโตแข็งแรงอย่างสมา่ เสมอ ๒.การเลอื กชว่ งเวลาปลูก การปลกู หญา้ แฝกในช่วงตน้ ฤดูฝนจะเหมาะสมท่ีสุด สภาพของดินทป่ี ลูกในช่วงตน้ ฤดูฝนจะมีความชมุ่ ช้นื สงู ติดตอ่ กนั มากกวา่ ๑๕ วนั ข้นึ ไป ๓.การตดั ใบ ในชว่ งตน้ ฤดูฝนใหต้ ดั ใบหญา้ แฝกใหส้ นั้ สูงจากพ้นื ผวิ ๕ เซนติเมตร เพอื่ ใหเ้ กิดการแตกหน่อใหม่ และกาจดั หน่อแก่ท่ี แหง้ ตาย ในชว่ งกลางฤดูฝนใหเ้ กย่ี วใบสูง ไมต่ า่ กวา่ ๔๕ เซนติเมตร เพื่อใหม้ แี นวกอที่หนาแน่นในการรบั แรงปะทะของนา้ ไหลบ่า และในชว่ งปลายฤดูฝน เกีย่ วใบใหส้ น้ั ๕ เซนตเิ มตร อกี ครง้ั เพ่ือใหห้ ญา้ แฝกแตกใบเขียว ในฤดแู ลง้

๔.การดแู ลรกั ษาตามความเหมาะสม ในตน้ ฤดูฝนใหใ้ สป่ ๋ ุยหมกั ตามแถวหญา้ แฝกกจ็ ะเป็นการชว่ ยใหห้ ญา้ แฝกมีการเจริญเติบโตดี ข้นึ และกาจดั วชั พืชขา้ งแนวจะเป็นการชว่ ยใหส้ งั เกตแนวหญา้ แฝกไดช้ ดั เจน ชว่ ยใหห้ ญา้ แฝกเจรญิ เตบิ โตไดอ้ ยา่ งเต็มที่ และเพอ่ื ป้ องกนั การไถแนวท้ิงเนื่องจากสงั เกตไมเ่ หน็ ๕.การปลูกซอ่ มและแยกหนอ่ แก่ออก การปลูกซอ่ มแซมในชว่ งฤดฝู นจะทาใหไ้ ดแ้ นวรวั้ หญา้ แฝกที่แขง็ แรง และควรตดั แยกหน่อแก่ที่ ออกดอก หรือแหง้ ออกไป เพอ่ื จะใหห้ นอ่ ใหม่ไดแ้ ทรกข้นึ มาไดอ้ ยา่ งเต็มที่

ประโยชนข์ องหญา้ แฝกและวธิ กี ารปลกู

๑.การปลูกหญา้ แฝกในพ้ืนที่ลาดชนั ควรปลูกหญา้ แฝกเป็นแถวตามแนวระดบั ขวางความลาดเทในตน้ ฤดูฝน โดยการ ทาแนวรอ่ งปลกู ตามแนวระดบั ใชร้ ะยะระหวา่ งตน้ ๕ เซนตเิ มตร สาหรบั กลา้ รากเปลือยและระยะ ๑๐ เซนตเิ มตร สาหรบั กลา้ ถุง ระยะหา่ งแถวตามแนวด่ิงไม่เกิน ๒ เมตร หญา้ แฝกจะเจรญิ เติบโตแตกกอชดิ กนั ภายใน ๔-๖ เดอื น

๒.การปลกู เพอ่ื ควบคมุ รอ่ งนา้ และกระจายนา้ นากลา้ หญา้ แฝกในถงุ พลาสติกท่มี ีการแตกกอ และแขง็ แรงดีแลว้ ไป ปลกู ในรอ่ งนา้ โดยขุดหลุมปลูกขวางรอ่ งนา้ เป็นแนวตรง หรือแนวหวั ลกู ศรช้ยี อ้ นไปทิศทางนา้ ไหล อาจใชก้ ระสอบ ทรายหรอื กอ้ นหนิ ชว่ ยทาคนั เสรมิ ฐานใหม้ น่ั คงตามแนวปลกู หญา้ แฝก ระยะหา่ งระหวา่ งตน้ ๕ เซนตเิ มตร สาหรบั กลา้ รากเปลอื ย และ ๑๐ เซนตเิ มตร สาหรบั กลา้ ถุง และระหวา่ งแนวปลูกหญา้ แฝกไมเ่ กนิ ๒ เมตร ตามแนวตง้ั หลงั จาก เกิดคนั ดนิ กนั้ นา้ ควรปลกู หญา้ แฝกตอ่ จากแนวคนั ดนิ กนั้ นา้ ออกไปทง้ั สองขา้ ง เพ่ือเป็นการกระจายนา้ เขา้ สูพ่ ้ืนท่ี เพาะปลกู

๓.การปลูกเพือ่ รกั ษาความชุม่ ช้นื ในสวนผลไม้ ควรปลูกหญา้ แฝกในสวนผลไม้ ระยะที่ไมผ้ ลยงั ไม่โต หรอื ปลกู ก่อนทจี่ ะ ลงไมผ้ ล โดยปลกู แถวหญา้ แฝกขนานไปกบั แถวของไมผ้ ลทรี่ ะยะกึ่งกลางของแถวไมผ้ ล หรอื ปลกู เป็นรูปคร่งึ วงกลมให้ หา่ งจากโคนตน้ ไมผ้ ล ๒.๕ เมตร เพื่อไมผ้ ลเจริญเติบโตข้ึนมาคลมุ พ้ืนที่ หญา้ แฝกจะตายไปกลายเป็นอนิ ทรียว์ ตั ถุใน ดินตอ่ ไป

๔.การปลูกหญา้ แฝกในพ้นื ที่ดอนท่ีปลูกพชื ไร่ การปลูกหญา้ แฝกตามแนวระดบั ในพ้นื ทด่ี อนท่ีปลูกพืชไร่ โดยการขุด รอ่ งปลกู ตามแนวระดบั ระยะหา่ งระหวา่ งตน้ ๕ เซนตเิ มตร สาหรบั กลา้ รากเปลือย และ ๑๐ เซนตเิ มตร สาหรบั กลา้ ถุง ควรใชป้ ๋ ุยหมกั รองพ้ืนกอ่ นปลูกหญา้ แฝก หรอื ปลกู หญา้ แฝกเป็นแนะระหวา่ งแถวปลูกพืชไร่ และควรปลูกในสภาพดนิ ที่ มีความชมุ่ ช้นื ในชว่ งตน้ ฤดูฝน

๕.การปลูกหญา้ แฝกในพ้นื ทีร่ าบหรือพ้ืนที่ลุ่ม ในสภาพพ้นื ทร่ี าบหรือพ้ืนท่ีล่มุ ท่ีมีการปรบั สภาพเป็นแปลงยกรอ่ งเพอื่ ปลูกพืชนน้ั สามารถปลกู หญา้ แฝกเป็นแถวรอบขอบเขตพ้นื ท่ี หรอื ปลกู ที่ขอบแปลงยกรอ่ งหญา้ แฝก จะชว่ ยยดึ ดิน ไม่ใหพ้ งั ทลาย และรกั ษาความช้นื ในดนิ เอาไว้

๖.การปลกู รอบขอบสระเพ่ือกรองตะกอนดิน ควรปลูกตามแนวที่ระดบั นา้ สูงสดุ ทว่ มถึง ๑ แนว และปลูกเพิ่มข้ึนอกี ๑-๒ แนวเหนอื แนวแรก ซงึ่ ข้ึนอยกู่ บั ความลึกของขอบสระ ระยะหา่ งระหวา่ งตน้ ๕ เซนติเมตร สาหรบั กลา้ รากเปลือย และ ๑๐ เซนตเิ มตร สาหรบั กลา้ ถุง โดยขดุ หลมุ ปลูกตอ่ เนื่องกนั ไป ในระยะแรกควรดูแลปลกู ซ่อมแซมใหแ้ ถวหญา้ แฝก เจรญิ เตบิ โตหนาแน่น เม่อื นา้ ไหลบ่ามาลงสระ ตะกอนดนิ ที่ถกู พดั พามากบั นา้ จะติดคา้ งอยูก่ บั แถวหญา้ แฝก สว่ นนา้ จะ คอ่ ย ๆ ไหลผ่านลงสสู่ ระ และระบบรากของหญา้ แฝกยงั ชว่ ยยึดตดิ ดนิ รอบ ๆ ขอบสระไม่ใหเ้ กิดการพงั ทลาย

อา้ งองิ

หญา้ แฝกเฉลิมพระเกยี รติ-หญา้ แฝก แหลง่ ที่มา ; //www.ldd.go.th/link_vetiver/index.htm หญา้ แฝก(17 พฤศจกิ ายน 2564)

นางสาวแพรพลอย ถาวรสาร เลขท่3ี 4

ถ่านชวี ภาพ หรอื ไบโอชาร์ (Biochar) คอื วสั ดทุ อ่ี ดุ มดว้ ยคารบ์ อน ผลติ จากชวี มวลหรอื สารอนิ ทรยี ท์ ย่ี ่อยสลายไดจ้ ากธรรมชาติ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง