เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2566 สำนักข่าว BBC รายงานการประสบความสำเร็จของทีมสูติ-นารีแพทย์ ที่ทำคลอด "แฝดหญิง" ที่เกิดจาก "มดลูกแฝด" ของ เคลซีย์ แฮทเชอร์ วัย 32 ปี เธอคลอดลูกสาวคนแรกในวันอังคารที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา และคลอดลูกสาวอีกคนตามมาในวันพุธที่ 20 ธ.ค. ใน รพ.แห่งหนึ่งในรัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา
หลังจากให้กำเนิดแฝดสาวตัวน้อยอย่างปลอดภัย คุณแม่เคลซีย์ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรม ระบุว่า
พวกเด็กสาวสุดมหัศจรรย์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว! พวกเธอเลือกที่จะมีวันเกิดเป็นของตัวเอง โรซี เลย์ลา เกิดคืนวันอังคารที่ 19 ธ.ค. เวลา 19.49 น. ส่วนน้องสาว เรเบล เลคเคน เกิดเช้าวันพุธที่ 20 ธ.ค. เวลา 6.09 น.
แต่เจ้าหญิงน้อยทั้ง 2 ไม่ใช่การให้กำเนิดลูกครั้งแรกของเคลซีย์ เธอผ่านการคลอดลูกมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สุดพิเศษสำหรับเธอเพราะตั้งครรภ์ลูกแฝด และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ช่วงที่เธอไปพบแพทย์และอัลตร้าซาวด์เพื่อดูความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์นั้น
ทุกคนในห้องหัวเราะกันเสียงดังมาก เพราะภาพจากจอบอกว่า ฉันมีทารกอยู่ในมดลูกคนละข้าง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ตามสถิติคือ 1 ใน 50 ล้าน ถึงจะมีเคสแบบนี้
เคลซีย์โพสต์ภาพโชว์พร้อมบรรยายด้วยความตื่นเต้น
สิ่งที่น่าตกใจในชีวิตของเคลซีย์เริ่มต้นเมื่อเธออายุ 17 ปี เธอพบว่าในร่างกายเธอมีภาวะทางการแพทย์ที่เรียกว่า "Didelphic Uterus หรือ ภาวะมดลูกแฝด" ที่ทำให้ระบบสืบพันธุ์ในร่างกายเธอมีมดลูก 2 ข้าง ปากมดลูก 2 ช่อง และรังไข่ 2 ฝั่ง เคลซีส์รู้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับภาวะนี้คือ เมื่อตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงแท้งลูก หรือ คลอดก่อนกำหนด
แต่สำหรับตัวเธอ การคลอดลูกทั้ง 3 คนแรกนั้น คนแรกอยู่ครบ 40 สัปดาห์ และคนที่ 2 และ 3 อยู่จนถึง 41 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าครบกำหนดอย่างสมบูรณ์สำหรับการอุ้มท้อง ส่วนท้องที่ 4 ของเธอนั้น เธอสามารถอุ้มท้องได้จนถึง 39 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ สำหรับคุณแม่ท้องลูกแฝด
ฝาแฝดผู้มีอะพาร์ตเมนต์เป็นของตัวเอง
แพทย์ผู้ทำคลอดให้เคลซีส์ บอกว่า เด็กๆ แต่ละคนเลือกที่จะมีความสุขในพื้นที่และพัฒนาการของตัวเอง
พวกเขาเลือกกันเองว่าจะอยู่ในมดลูกข้างใด ซึ่งไม่เหมือนกับการตั้งครรภ์แฝดทั่วไป เหมือนกับว่าทารกทั้ง 2 เกิดในท้องแม่คนเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน พวกเขาแค่มีอะพาร์ตเมนต์แยกเป็นของตัวเอง ก็เท่านั้น
สำหรับการทำคลอดในวันนั้น ทารกเพศหญิงคนแรกที่คลอดออกมาชื่อ "โรซี" คลอดด้วยวิธีการทางธรรมชาติ ส่วนอีกคนชื่อ "เรเบล" ต้องใช้วิธีการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง ทารกเพศหญิงทั้ง 2 คน ถือได้ว่าเป็นแฝดเทียม ซึ่งเกิดจากไข่คนละฟอง ที่ปฏิสนธิกับสเปิร์มคนละตัว
รู้จักภาวะมดลูกแฝด
Didelphic Uterus คือภาวะมดลูกแฝด (Double Uterus) นับเป็นความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์แต่กำเนิด ที่ผู้หญิงมีมดลูก 2 ข้าง มีปากมดลูก (cervix) และ ช่องคลอด (vagina) 2 อัน ผู้หญิงที่มีมดลูกแฝด จะมีความเสี่ยงภาวะประจำเดือนไหลมาก ภาวะมีบุตรยาก แท้งบุตร คลอดก่อนกำหนดสูงกว่าคนทั่วไป
การดูแลตัวเองเมื่อมีภาวะมดลูกแฝด "ไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ" แต่เมื่อเตรียมตั้งครรภ์ ควรปรึกษาสูติ-นารีแพทย์อย่างละเอียด และเมื่อตั้งครรภ์แล้ว ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อดูสัญญาณการคลอดก่อนกำหนดหรือความเสี่ยงอื่นๆ ที่จะเกิดกับทารกตลอดเวลา
ปัจจุบัน ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) มีสาขาสำหรับให้บริการลูกค้าภายในประเทศ ด้วยสโลแกน “คิดจะแลกเงินคิดถึง ซุปเปอร์ริช สีส้ม” ซึ่งนับเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีสาขามากที่สุด ด้วยความเป็นมืออาชีพด้านการให้บริการและความซื่อสัตย์ที่เรายึดมั่น ประกอบกับการใส่ใจเรื่องการพัฒนาบุคลากร ทำให้กิจการสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการมากกว่า 1,000,000 รายต่อเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก้าวต่อไปของซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) คือ “การขยายสาขาไปตามประเทศต่างๆ” โดยมีเป้าหมายคือกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา เมียนมาร์ และ ลาว
ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพฯวันนี้ (28 ธ.ค.66) เวลา 05.00 - 07.00 น. ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กรุงเทพมหานคร รายงาน สถานการณ์ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) พื้นที่กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดได้ 28.3-56.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) พบว่า เกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 42 พื้นที่
โดย สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (26 ธ.ค.66) ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ในช่วง 28.3 -56.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 42 พื้นที่ คือ
1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 56.1 มคก./ลบ.ม.
2.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 52.1 มคก./ลบ.ม.
3.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 50.6 มคก./ลบ.ม.
4.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 47.8 มคก./ลบ.ม.
5.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 47.5 มคก./ลบ.ม.
6.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 47.4 มคก./ลบ.ม.
7.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม.
8.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม.
9.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 46.8 มคก./ลบ.ม.
10.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 46.7 มคก./ลบ.ม.
11.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.
12.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม.
13.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 45.9 มคก./ลบ.ม.
14.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 45.1 มคก./ลบ.ม.
15.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 45.1 มคก./ลบ.ม.
16.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 44.2 มคก./ลบ.ม.