การลงทะเบ ยน ม.ราม จำเป นต องลงไล ไปตามรห สม ย

ก่อนจะถึงวันจันทร์สัปดาห์นี้ถก รัฐบาล “หาเสียงหรือทำงาน” เส้นบางๆ ที่แยกลำบาก ชมวีทีอาร์เส้นทางสู่สภาสัญจรเชียงใหม่ ชี้บึ้มร้านก๋วยเตี๋ยวยะลาเป็นการการตอบโต้ที่รัฐฯระดมจับตัวอุสตาซ คาดหวังรัฐบาลใหม่ให้ปฏิรูปโครงสร้างเรื่องงานนิติวิทยาศาสตร์

สโรชา – สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ค่ะ กลับมาพบกันเป็นประจำกับเรื่องราวสรุปข่าวตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้ต้องคุยกันหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของการเมือง บรรยากาศการหาเสียงของหลายๆพรรคการเมือง รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายๆพรรค ถึงการหาเสียงของพรรคไทยรักไทย วันนี้คงจะต้องคุยกัน โดยเฉพาะเรื่องราวที่ กกต. กำลังจับตาอยู่ ก็มีที่รับลูกไปหลายเรื่องราวทีเดียว

รวมไปถึงเรื่องราวการตรวจศพในภาคใต้ด้วยค่ะ ความขัดแย้งระหว่างคุณหญิงหมอกับทางฝ่ายตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูเหมือนว่าจะได้ข้อสรุปแล้ว แต่ว่าอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ถึงความน้อยอกน้อยใจบางประการของคุณหญิงหมอ วันนี้เราต้องคุยกันหลายต่อหลายเรี่องค่ะ พบกับเราเช่นเคยค่ะ คุณสำราญ รอดเพชร และดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ

สำราญ – สวัสดีครับ

สโรชา – วันนี้เรามากันแค่ 2 คนค่ะ หายไปไหนคนนึง

สำราญ – คุณคำนูณวันนี้ไม่สบายจริงๆครับ ผมทราบเมื่อตอนหัวค่ำ ปกติเขาเป็นคนระเบียบวินัยดีมาก อันนี้เราเชื่อนะ แต่พรุ่งนี้ต้องเอาใบรับรองแพทย์มาด้วยนะ

สโรชา – วันนี้เราเริ่มกันที่เรื่องการเมืองก่อนดีไหม

สำราญ – ก็คงการเมืองนะ การเมืองรวมๆ ก่อน แล้วเราบังเอิญในเครือผู้จัดการ หนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ ไทยเดย์ดอทคอม 11 News 1 จับมือกับช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ก็คือทำข่าวเลือกตั้งร่วมกัน ก็เดินสายไปทุกศุกร์ ตอนหัวค่ำเปิดช่อง 11

สโรชา – ประมาณ 2 ทุ่ม – 2 ทุ่มครึ่ง

สำราญ – ก็สัญจรไปภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ มากทม. ทำนองนี้ทุกศุกร์

สโรชา – ก็จะออกคู่กันเลยทั้งช่อง 11 และช่อง 11 News 1 ด้วย

สำราญ – แล้วข่าวประจำวันเขาก็ร่วมมือกันในบางข่าว บางชั่วโมง

สโรชา – ก็มีการประสานงานกันระหว่างพิธีกรด้วย คุณสำราญก็เคยไปจัดใช่ไหม ของช่อง 11

สำราญ – ก็ไม่ได้ไปจัด เพียงแต่ช่วยเขานิดหน่อยครับ ไม่ได้เป็นตัวหลัก

สโรชา – เดี่ยวเราจะมีเทปบรรยากาศของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามาให้ดูกัน เส้นทางสู่สภา

สำราญ – แต่ก่อนจะดูคุยกันหน่อยนะ การเมือง

สโรชา – เป็นยังไงคะ ตกลง คือดิฉันฟังจนดิฉันเวียนหัวไปหมดแล้ว คือแต่ละพรรคก็หาเสียงกันไปแหละ อันนั้นรู้ แต่ก็มีเสียงโดยเฉพาะจากมหาชนและประชาธิปัตย์ว่า มันมีบางประการที่ไม่เหมาะสมไหม การหาเสียงของพรรคไทยรักไทยนี่ มันจะก้ำกึ่งกันเกินไปหรือเปล่าระหว่างเวลาทำงาน กับเวลาไปหาเสียงอะไรประมาณนั้น

สำราญ – อันนี้มีเป็นธรรมดานะ คือบางอย่างที่หมิ่นเหม่ ท่านนายกฯก็ยกเลิกไปแล้ว อย่างเช่นการจัดวิทยุทุกวันเสาร์ก็เลิก ตอนนี้ก็โดนเข้าหลายลูกนะครับ เรื่องไปตรวจราชการ ไปแจกข้าวแจกของ

สโรชา – ใช่ ไปสัญญาอะไรหรือเปล่า

สำราญ – สัญญานโยบายอย่างนั้นอย่างนี้ รัฐบาลจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ อีก 4 ข้างหน้าจะทำอย่างโน้นอย่างนี้

สโรชา – แต่ว่าโดยหลักแล้ว อย่างที่ท่านไปเดินสายในหลายๆ จังหวัด ตอนกลางวันท่านก็จะทำงานในฐานะนายกฯ แต่ตอนเย็นท่านก็จะขึ้นปราศรัยในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย อันนั้นคือไม่ผิดกฎ อันนั้นคือนอกเหนือเวลาราชการ

สำราญ – อันนี้ว่ากันไม่ได้นะ ถ้าว่ากันอย่างเป็นธรรม คือถ้าคุณชวนเป็นนายกฯ ก็ต้องทำอย่างนี้ เพียงแต่ว่าตอนหัวค่ำหรือตอนเย็นที่เลิกงานแล้ว มันจะขนาดไหนเท่านั้นเอง

สโรชา – ขนาดไหนนี่อย่างไร คือถ้าขึ้นเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ และก็ขึ้นไป คือนอกเหนือจากโฆษณาเรื่องราว ผลงานที่มีมาตลอด 4 ปีแล้ว อะไรที่มันก้ำกึ่งที่เขากล่าวหากันว่า มันจะเหมือนเป็นการสัญญาในการหาเสียงเลือกตั้งหรือเปล่า ตอบยากนะ

สำราญ – ก็มีหลายเรื่อง มันพูดยากมากเรื่องนี้ มันมีเส้นแบ่งที่บางมาก สมมุติว่าคุณสโรชาลองยกตัวอย่างกันดู ที่เขาสงสัยกันมาก

สโรชา – อย่างที่เขาสงสัยกันมากเรื่องราคาข้าว ท่านนายกฯเหมือนกับไปสัญญาว่า กลับมาสมัยหน้าราคาข้าวมันจะดีขึ้นหรืออะไรประมาณนั้น ก็เหมือนกับว่า กกต. ก็รับลูกด้วยนะว่า เอ๊ะ พูดอย่างนี้มันก็น่าคิดเหมือนกันนะ

สำราญ – สัญญาว่าจะให้ คือมันมีบางข้อของกฎ กติกา มารยาทของกฎหมายเลือกตั้ง คำว่าสัญญาว่าจะให้มันต้องไปตีความว่า มันหมายถึงเรื่องอะไร แต่ถ้าเราฟังแค่นี้นะ ถ้าฟังแค่นี้ตอนนี้เกวียนละ 7 พันบาทนะ ถ้าผมเป็นนายกฯอีกสมัยรับรองไม่ต่ำกว่า 8 พันบาท อันนี้ถือว่าผิดไหม

สโรชา – ไม่ผิดนะ เพราะทุกคนหาเสียงก็ต้องหาเสียงในลักษณะนั้นอยู่แล้ว ถูกไหมคะ อันนี้ก็ว่ากันไป

สำราญ – แต่ตอนนี้คือ อย่างวันนี้ ดร.มั่นที่สมุทรปราการก็ไปแจ้งความ คล้ายๆ ว่าคือถูกมือที่มองไม่เห็นเข้าไปร้องเรียน ว่าถูกกดดัน หรือคุณติ่ง มัลลิกา บุญมีตระกูล พะเยา ฟังข่าวเมื่อซักครู่ว่า ไปแจ้งความแล้วว่า ญาติมิตรถูกกดดัน ร้องห่มร้องไห้ด้วยนะตามข่าวนี่นะครับ

สโรชา – เรื่องนั้นก็หนักขึ้นนะ ดิฉันว่ามันก็พอๆกับการเลือกตั้งครั้งก่อนๆนะ กระแสอย่างนี้ก็มาเรื่อยๆ มันไม่ได้หนักหนาหรือผิดปกติ

สำราญ – หนักทุกปีแหละครับ หนักทุกครั้ง บางสมัยเมื่อหลายปีก่อน อย่าระบุสมัยเลย มีการซ้อมกัน มีการยกคนมีสีไปถล่มกันนะ แต่ผมคิดว่าในยุคนี้ จะพูดไปมันก็ยังไม่สาหัสเท่าไหร่ ดีขึ้นในสายตาของสำราญคนเดียวนะ

สโรชา – ในฐานะที่ทำข่าวการเมืองมาเป็น 10 ปี ดีขึ้น

สำราญ – ก็คือความรุนแรงมันน้อยกว่าเดิม คือ ประเภทเอากันถึงตายมันน้อยกว่าเดิม คือเมื่อก่อนนี่เละยิ่งกว่านี้

สโรชา – คือใกล้ฤดูหาเสียงนี่ต้องป้องกันกันสุดชีวิตล่ะ

สำราญ – แต่เดี๋ยวนี้มันก็มีบ้าง อย่างเช่น สจ. ที่อยุธยา หรือยิงบ้านแม่เลี้ยงแถวภาคเหนือ บ้านหัวคะแนน แต่โดยระดับความรุนแรงผมว่ามันก็น้อยลงนะ แล้วประเภทต้องยกถล่มกัน ต้องฆ่ากันตายปิดอะไรอย่างนี้นะ ผมคิดว่าสมัยนี้คงทำลำบากขึ้น แล้วคนก็ไม่ได้โง่นะ แล้วก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการที่หมิ่นเหม่ในการเอาเปรียบทางการเมือง แม้กระทั่งการทำงานนั่นแหละ ในนามรัฐบาล ประชุม ครม. สัญจรที่เชียงรายอย่างนี้ ถ่ายทอดช่อง 11

สโรชา – อันนั้นก็คำถามเยอะเหมือนกัน

สำราญ – 5 ชั่วโมงนะครับ

สโรชา – แล้วก็ถ่ายทอดที่ท่านนายกฯไปเปิด China Street ด้วย ใช่ไหมคะ

สำราญ – อะไรอย่างนี้ ผมว่าของแบบนี้นะ มันก็ถ้าพูดตรงๆรัฐบาลเองก็เสี่ยงนะ เสี่ยงในเชิงที่ว่า แม้จะได้คะแนน ดูแล้วขยันขันแข็ง แอ็กชั่นเยอะ

สโรชา – แต่คนก็มีคำถามกลับเหมือนกัน

สำราญ – แต่คนก็มีคำถามกลับ พูดตรงๆว่ารายการที่ไป ครม. สัญจรที่ช่อง 11 เป็นเวลา 5 ชั่วโมงที่ช่อง 11 ถ่ายทอดสด แล้วไปที่เชียงรายนะ คนในเมืองใหญ่ ปัญญาชน คนชั้นกลางนะ ผมคิดว่าเขาเริ่มไม่น่าจะรับภาพแบบนี้

สโรชา – อันนี้ก็คือสืบเนื่องไปถึง จริงๆ แล้วก็ไม่ บางคนเขาบอกว่าไม่อยากจะพูดถึงนะ เรื่องว่าถูกกล่าวหา หรือว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นำภัยพิบัติมาเป็นกระแสในการหาเสียงไปด้วย

สำราญ – สึนามิหรือ อันนี้ก็คืออยู่ที่ คือของที่อย่างมันกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา นี่เราพูดกันหลักธรรมหน่อย สึนามินี่นะ ก็เหมือนกันแหละ คือเอาเข้าจริง คืออย่าปฏิเสธเลย ว่ารัฐบาลก็ต้องใช้โอกาสนี้ในการที่จะโชว์ให้เข้าตากรรมการ เข้าตาประชาชนนะ ภายใต้ความรับผิดชอบด้วย เขาก็ไม่ได้ว่าเขาจะหาเสียงอย่างเดียวนะ

สโรชา – ใช่ พูดถึงว่าไม่ทำอะไรเลยก็ถูกวิพากษ์อยู่ดี

สำราญ – คือเขาทำตามหน้าที่ด้วยด้านหนึ่งนะ แต่บังเอิญเหลือเกิน มันช่วงหน้าเข้าหน้าเหล้า หน้าสิ่วหน้าขวาน หน้าเลือกตั้งพอดี เขาก็ต้องทำแบบ เอาละ ใครจะว่าโชว์ก็โชว์ ลุยก็ลุย แต่ผมคิดว่าชาวบ้านเขาแยกออกนะ แต่โดยกระแส โอเค ตอนนี้รัฐบาลเขาก็ต้องยอมรับล่ะ ก็วิธีคิดแบบไทยๆ จริงๆเขาก็ทำงานเยอะ ก็คงได้เปรียบหน่อย

สโรชา – ก็คง เขาคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ พูดถึงบทบาทตรงนั้น ที่ต้องทำงานตรงนั้น ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์ยังไงก็ว่ากันไป ดิฉันว่าคนในพื้นที่นั่นแหละ ที่จะเป็นคนที่รู้

สำราญ – คนในพื้นที่จะมองเห็น แม้กระทั่งหมอพรทิพย์นี่ เพื่อนฝูงผมเยอะแถวนั้น เขาก็โทรมานะ เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้อย่าไปแตะหมอพรทิพย์นะ ไม่ได้เลย เพราะชาวบ้านเขาปกป้อง

สโรชา – Protect กันสุดชีวิต

สำราญ – ภูเก็ต นราธิวาส ยะลาเขามาเยี่ยมให้กำลังใจนะ แค่เป็นข่าวคุณหมอพรทิพย์ล้งเล้งหน้าจอทีวี

สโรชา – อย่าไปว่าแกล้งเล้งสิ เดี่ยวเราคุยกันเบรก 2 เรื่องคุณหมอพรทิพย์ เดี๋ยวคุยกันเบรก 2 เดี่ยวเราไปชมบรรยากาศ ไฮไลท์งานเส้นทางสู่สภา 2548 สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการร่วมมือระหว่างช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และ 11 News 1 นะคะ โดยมีพิธีกรผู้ดำเนินรายการ คือ คุณจินดารัตน์ของ 11 News 1 และคุณอดิศักดิ์ ศรีสมด้วยค่ะ ไปชมกันค่ะ

VTR

อดิศักดิ์ – เส้นทางสู่สภา 2548 ครับ และต้องขอกล่าวคำสวัสดีกับพี่น้องประชาชนที่อยู่ที่ ณ ที่นี้ครับ ว่าสวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวเชียงใหม่ทุกท่านครับ แน่นอนครับ วันนี้เราอยู่กันที่จังหวัดเชียงใหม่ครับ อยู่ที่ประตูท่าแพ บรรยากาศคึกคักมากทีเดียว สำหรับการติดตามบรรยากาศก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ เราจะฟังนโยบายดีๆกัน จากทุกพรรคการเมือง

จินดารัตน์ – ค่ะ วันนี้มาทั้งหมด 6 พรรคการเมืองด้วยกัน

อดิศักดิ์ – ครับ ผมขออนุญาตแนะนำเลยนะครับ เอาจากทางด้านข้างผมเป็นต้นไปแล้วกันนะ จากพรรคชาติไทย นั่นก็คือ คุณจินดา วงศ์สวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ลำปาง พรรคชาติไทยนะครับ และที่ติดกันนะครับ ก็คือท่าน ดร.บุศรา โพธิสุข ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เชียงใหม่ พรรคชาติไทยครับ ถัดไปครับ เป็นผู้สมัครจากพรรครักถิ่นไทยในเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ คุณสัญญา ศุกระศร ครับ และถัดไปนะครับ ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทย คุณบุญทรง เตริยาภิรมย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ครับ และที่ติดกันนะครับ คุณลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อไทยรักไทยครับ

จินดารัตน์ – ค่ะ และถัดมานะคะ ที่ติดกับคุณลดาวัลลิ์ คุณยงยุทธ สุวภาพ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 9 จากพรรคประชาธิปัตย์ค่ะ และตามมาด้วย ร.อ. (หญิง) เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เชียงใหม่ จากพรรคประชาธิปัตย์ค่ะ และถัดมาคุณณรงค์ นิยมไทยจากพรรคความหวังใหม่ รองหัวหน้าพรรคค่ะ และที่ติดกันนะคะ คุณสวัสดิ์ วงศ์วัจนสุนทร ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เชียงใหม่ พรรคมหาชนค่ะ และนั่งติดดิฉันวันนี้ ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อจากพรรคมหาชนค่ะ

อดิศักดิ์ – ครับ และแม้ว่าเราจะมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ก็ตาม จริงๆ เชียงใหม่ก็เป็นตัวสะท้อน เป็นภาพสะท้อนของหลายๆ จังหวัดในภาคเหนือ ในหลายปัญหาด้วย เพราะฉะนั้นทุกท่านก็จะได้มีโอกาส นอกจากพูดถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ในฐานะผู้สมัครแล้ว ในฐานะตัวแทนพรรคการเมือง ก็อาจจะสะท้อนทัศนะที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ในภาครวมของภาคเหนือได้ด้วย

จินดารัตน์ – โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่นี่นะคะ เขาบอกว่าตอนนี้ชาวบ้านมีปัญหาคับอกคับใจ ลองดูกันซิว่า ผู้สมัครท่านใดจะเดาใจคนเชียงใหม่ถูกว่า ปัญหาไหนเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับคนเชียงใหม่ค่ะ

อดิศักดิ์ – เริ่มจากที่ติดผมเลยก็ได้ พรรคชาติไทย แนวนโยบายของพรรคชาติไทยที่มีต่อจังหวัดทางภาคเหนือ ในการที่จะลงมาแก้ไขปัญหาในภาพรวมๆ เป็นยังไงครับ เชิญครับ คุณจินดาครับ

จินดา – ครับ ก็ปัญหาที่เป็นปัญหาของคนภาคเหนือส่วนใหญ่นี่นะครับ ตอนนี้ก็มีประเด็นอยู่ 2 เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของราษฎรภาคเหนือ เกี่ยวกับเรื่องแนวเขตป่าสงวนที่ไปทับที่ประชาชน แล้วเอกสารสิทธิที่ไม่ได้ ยังไม่ได้รับการแก้ไข และอีกเรื่องนึงก็คือ เรื่องของน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นปัญหาหลักสำหรับคนภาคเหนือ ซึ่งพรรคชาติไทยมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาทั้ง 2 เรื่องนี้ ให้เสร็จสิ้นภายใน 4 ปี ถ้าพรรคชาติไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยการจัดเรื่องที่ดินทำกินให้กับประชาชน ให้กันพื้นที่ออกจากเขตป่า และก็ออกเอกสารสิทธิให้ พร้อมทั้งจัดทำแหล่งน้ำขนาดเล็ก ตามแนวพระราชดำริ ก็คือการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด เพื่อประชาชนในชนบทจะมีน้ำในการทำการเกษตรให้สมบูรณ์

อดิศักดิ์ – แนวนโยบายที่พูดมานี่ ผมขอภาพรวมนิดหนึ่ง เราจะเรียกแนวนโยบายของพรรคชาติไทยว่าอะไร ผมเห็นติดป้ายสัจนิยม มันหมายความว่าอย่างไร อธิบายให้ชัดหน่อยได้ไหม สัจนิยมนี่

จินดา – ก็หมายความว่า คำว่าสัจนิยมนะครับ ก็หมายความว่า พูดในสิ่งที่เป็นไปได้ พูดในสิ่งที่เป็นความจริง ต้องทำได้ถึงจะพูด ถ้าพูดแบบว่าเป็นภาพลวงตานี่เราไม่พูด อย่างนั้นไม่เรียกว่าสัจนิยม เราสัจนิยมหมายถึงพูดในสิ่งที่เป็นไปได้ แล้วก็ทำได้จริงๆ ถึงจะพูด

อดิศักดิ์ – นั่นคือสัจนิยม

จินดา – ครับ ปัญหาที่มันเกิดทุกวันนี้ ที่มันแก้ไม่จบสิ้น ปัญหามันอยู่ที่คน ก็คือปัญหาสังคมครับ ปัญหาสังคมเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องเน้นเรื่องของจริยธรรม และศีลธรรมหนักขึ้น เพราะว่ามีเงินแต่ไม่มีศีลธรรม ไม่มีจรรยาบรรณ อยู่ไม่ได้ครับ สังคมวุ่นวาย ฉะนั้นเราจะเน้นที่จุดนี้ด้วยครับ อันนี้เป็นปัญหาเรื่องภาคสังคมสำคัญที่สุดครับ

อดิศักดิ์ – ไปที่ท่านต่อไปเลยนะครับ คุณสัญญา จากพรรครักถิ่นไทย ขอทราบนโยบายก่อน นโยบายที่จะมีต่อพื้นที่ทางภาคเหนือ อาจจะหยิบยกประเด็นปัญหา ภาพรวมของภาคเหนือขึ้นมา แล้วมีนโยบายยังไงจะแก้ได้

สัญญา – ในส่วนของผมเองนี้ เนื่องจากว่าได้ลงในเขต 1 เชียงใหม่ จริงๆแล้วปัญหาในพื้นที่เขต 1 ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นที่ใน อ.เมือง จ. เชียงใหม่ มีปัญหาในทางความเป็นสังคมเมือง ซึ่งก็มีทั้งในแง่ของคุณภาพชีวิตของบุคคลในสังคมเมืองนั้น และในขณะเดียวกันก็เป็นปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาในการสูญเสียของสภาพที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับประชาชน อย่างเช่นว่า แม่น้ำตอนนี้ อย่างเช่นในลุ่มน้ำปิง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำสายใหญ่ของประเทศ ก็ทั้งแห้งขอดและมีมลภาวะจำนวนมาก เพราะฉะนั้นในส่วนของพรรครักถิ่นไทย ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองสีเขียว เราก็จะเน้นในการดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งคุณภาพชีวิตของคนในสังคมนั้นๆ เอง อันนี้คือพื้นฐานใหญ่สำหรับในแง่ของการที่จะเข้ามาสู่ในการเลือกตั้งในครั้งนี้ครับ

อดิศักดิ์ – ไปทางไทยรักไทยบ้าง คุณบุญทรง คุณลดาวัลลิ์ช่วยกันนะครับ ในเรื่องของนโยบายของไทยรักไทย เอาภาพรวมภาคเหนือก่อนก็ได้นะครับ จริงๆมีนโยบายอะไรที่จะตอบโจทย์ ต่อปัญหาที่มีต่อพื้นที่ภาคเหนือครับ

ลดาวัลลิ์ – ค่ะ จริงๆแล้วพื้นที่ภาคเหนือก็เป็นพื้นที่พิเศษ แต่ว่าในนโยบายภาครวมของพรรคไทยรักไทยนะคะ เราก็ยังจะคงนโยบายเดิมที่ทำแล้วได้ผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาค ก็คือการแก้ปัญหาความยากจน กองทุนหมู่บ้าน กองทุนชุมชน เราจะยกระดับขึ้นมาเป็นธนาคารหมู่บ้าน ให้อำนาจประชาชนเต็มที่เลย หยิบยื่นโอกาสให้เขา แล้วก็มีโครงการ SML นะคะ พัฒนาหมู่บ้าน ให้อิสระเขาใช้จ่ายเงินโดยดูปัญหาเร่งด่วน โดยไม่ต้องไปปรึกษาองค์กรท้องถิ่นในอำเภออะไรแล้ว ก็ตัดสินใจใช้เงินที่รัฐบาลนำมาเป็นทุนให้เลยนะคะ

แล้วก็โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค อันนี้ก็ทำต่อ แต่ว่าเราจะสรุปเป็นโอกาส หยิบยื่นโอกาสให้กับประชาชน 5 โอกาสด้วยกัน ก็คือโอกาสทางสังคม ทางสังคมนี่เราจะบุกให้สังคมปลอดภัย เด็กและเยาวชนปลอดภัยกันทั่วประเทศ ภาคเหนือนี่ประชาชนจะชอบใจกันมากเลย เพราะว่าลูกหลานนั้นอ้วนสมบูรณ์ กลับมาสู่อ้อมอกของพ่อแม่ เพราะว่าปลอดจากยาเสพติด อันนี้เราจะบุกในการปราบขบวนการค้ายาเสพติดอย่างไม่หยุดยั้งต่อ เพื่อให้สังคมเราปลอดภัยนะคะ

แล้วก็มีการสร้างโอกาสทางปัญญา เราจะให้เด็กเรียนจนกระทั่งถึงปริญญาเลยนะคะ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย พอจบแล้วมีงานทำ รายได้เยอะๆแล้วค่อยมาผ่อนรัฐบาลน้อยๆ ผ่อนนานๆ สบายๆเลย แล้วก็จะมีทุนให้อำเภอละ 1 ทุนไปเรียนต่างประเทศ ให้เลือกเอาเลย และต่อไปก็จะมีทุนให้ลูกของชาวบ้านได้เรียนแพทย์ พยาบาล วิศวกร อันนี้เป็นการหยิบยื่นโอกาสให้ประชาชน

แล้วก็มีการสร้างโอกาสให้ประชาชน ในการที่จะสร้างฐานะชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาหัตถกรรม OTOP นะคะ เราก็จะช่วย โดยเฉพาะการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน เป็นสิ่งที่ประชาชนก็เริ่มเข้าใจ แล้วก็ได้รับประโยชน์แล้ว ว่าเขาไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์อะไรมากมาย เพียงแต่ว่าธุรกิจที่เขาทำอยู่เล็กๆตรงนั้น หยิบมาแปลงเป็นทุนของเขาที่จะขยายธุรกิจของเขาต่อไปได้

แล้วก็สร้างโอกาสให้ทุกหมู่บ้านมีอำนาจในการต่อรอง ในการที่จะจัดการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชนของเขา และก็สร้างโอกาสให้ประชาชนมีปัจจัย 4 ให้ครบเลย เราจะให้มีบ้านมั่นคงให้ครบอีก 6 แสนครอบครัว 6 แสนหลัง สร้างไปแล้วประมาณ 6 หมื่นหลัง สำหรับทางภาคเหนือก็คือแหล่งน้ำ เราจะมีแหล่งน้ำให้ประชาชน สระน้ำที่ประชาชนร่วมทุนแค่ 2500 บาท แต่มูลค่าสระประมาณ 25000 บาทนั้นรัฐบาลจะสนับสนุนให้ เพื่อให้มีแหล่งน้ำครบถ้วน แล้วก็เอกสารสิทธิที่ดินทำกินที่ภาคเหนือต้องการมากๆเลย เราแจกไปเยอะมากเลย 4 ปีที่ผ่านมา แล้วก็จะแจกต่ออีกนะคะ และก็ที่ดินทำกินประชาชน ที่ไม่มีเราจะจัดสรรให้ ตามนโยบายที่ประกาศไปแล้ว

จินดารัตน์ – คุณยงยุทธ สุวภาพ และคุณเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ จากพรรคประชาธิปัตย์ เชิญค่ะ

ยงยุทธ – ครับ สวัสดีครับ พี่น้องชาวเชียงใหม่ พี่น้องที่ชมทีวีทางบ้านครับ คือพรรคประชาธิปัตย์เราเน้นนโยบายหลักในด้านการพัฒนาอาชีพ และด้านสวัสดิการครับ นโยบายหลักของประชาธิปัตย์เน้นเรื่องเรียนฟรี จบมามีงานทำ ล้างหนี้ด้วยงาน 60 ปีมีเบี้ยเลี้ยง รักษาฟรีมีคุณภาพ ถ้ามองในทางภาพรวมของทางภาคเหนือ จริงๆตรงนี้เราเน้นเรื่องการศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะประชาธิปัตย์เคยทำเรื่องการศึกษามา เรียนฟรีอนุบาล-ป.7 มีนมโรงเรียนทาง จบ ม.6 แล้วมีทุนเพื่อการศึกษาต่อ ถ้าเราจะต่อตรงนี้อีก นโยบายพรรคของเราก็เรียนฟรีถึง ม.6 คือเราเน้นเรื่องบุคลากร ทรัพยากรมนุษย์

เดี๋ยวนี้ทางชนบท ทรัพยากรของเรามีโอกาสทางการศึกษาน้อยมาก จบไม่ถึง ม.6 แล้วก็จบมาแล้วก็งานทำไม่มี ก็ไปประกอบอาชีพอื่นๆ ในบางสิ่งก็ล้มเหลวไปไม่ได้ เราอยากให้เด็กๆเขามีโอกาสเรียนถึง ม.6 ฟรี เปิดโอกาสให้เขาเรียนต่อ เขาเรียนเก่ง มีทุนการศึกษาให้ เด็กชนบทมีโอกาสในการศึกษา จบถึงปริญญาตรี เป็นหมอก็ได้ เป็นครูบาอาจารย์ก็ได้ ตรงนี้เราอยากพัฒนาด้านคุณภาพของคน ของมนุษย์ให้มีคุณภาพมากสูงขึ้น ต่อไปนี้องค์การบริหารท้องถิ่น ต้องพัฒนาเกี่ยวกับการศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยตรงนี้

ร.อ.เดือนเต็มดวง – ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นะคะ แนวนโยบายของที่เราบอกไป ที่ชู 5 ข้อไปพูดไปเมื่อกี๊นี้ ก็มีส่วนของการรักษาพยาบาลฟรีอยู่ด้วย ซึ่งคิดว่าทำได้แน่นอน แต่ทุดวันนี้นะคะ ในโครงการที่มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคอยู่ อาจจะมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ หรือการที่ให้งบประมาณต่อโรงพยาบาลต่างๆไม่พอเพียง ทำให้คุณภาพของการรักษานั้นลดต่ำลงนะคะ ตรงนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็มีนโยบายเพิ่มค่ารักษาพยาบาลต่อหัวให้มากขึ้น

และนอกจากนี้แล้ว ในส่วนของการจัดการ เช่น ในเรื่องของการที่ส่งผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหนึ่งไปสู่โรงพยาบาลหนึ่ง และโรงพยาบาลเล็กไม่มีค่าใช้จ่าย จะตามไปให้โรงพยาบาลใหญ่อย่างเพียงพอ ทำให้มีปัญหาอาจจะมีการส่งผู้ป่วยล่าช้า การรักษาไม่ได้คุณภาพ ตรงนี้รัฐบาลจะเข้ามาจัดการและดูแลค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วยนะคะ ซึ่งเราคิดว่าจะเป็นนโยบายที่ทำได้ดี และทำให้ระบบการรักษามีคุณภาพมากขึ้น

ส่วนในส่วนที่ว่าทำได้หรือไม่นั้น งบประมาณของแผ่นดินมีจำนวนหนึ่ง ฉะนั้นในการที่เราจะให้งบประมาณในด้านรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยลดงบประมาณทางด้านอื่นๆลงไปบ้าง ก็คงจะทำได้ เพียงแต่รัฐบาลนี้อาจจะใช้เงินไปในทางอื่นมากจนเกินไป และก็อาจจะทำให้มีงบประมาณทางด้านรักษาพยาบาลไม่พอเพียง ทำให้โครงการ 30 บาทมีปัญหา

จินดารัตน์ – ท่านต่อไปเชิญคุณณรงค์ จากพรรคความหวังใหม่ เชิญค่ะ

ณรงค์ – ครับ ถ้าเรียกผมณรงค์เฉยๆ คนภาคเหนือเขาไม่รู้จักผม

จินดารัตน์ – ต้องเรียกว่าหนาวโฮะหรือคะ

ณรงค์ – ถูกต้อง คุณนี่คนเก่ง ครับ พรรคความหวังใหม่ต้องถอยหลังให้ท่านฟังนิดนึง มีคนเยอะแยะครึ่งแผ่นดินนี้ บอกว่าพรรคความหวังใหม่ ล่มสลายไปไหนก็ไม่รู้แล้ว ยังอยู่ครับ ความจริงท่านบิ๊กจิ๋วหัวหน้าเก่าความหวังใหม่ ท่านไปกอดคอกับไทยรักไทยเรียบร้อยแล้ว ความหวังใหม่เลยยุบไปเลย อาจารย์ชิงชัย มงคลธรรม ตอนนั้นท่านเป็นรองหัวหน้าพรรค ท่านก็บอกว่าความหวังใหม่ต้องอยู่ต่อไป ท่านก็จดทะเบียนความหวังใหม่ขึ้นมา

จินดารัตน์ – เดี๋ยว ขออนุญาตนะคะ เกริ่นนาน เดี๋ยวเวลาหมดก่อน

ณรงค์ – ก็ไม่เป็นไรครับ เอาให้ทั้งประเทศได้รู้ว่า ความหวังใหม่ยังไม่ตายนะน้อง

อดิศักดิ์ – ประกาศดังๆ ว่าความหวังใหม่ยังไม่ความหวังหมด

ณรงค์ – ใช่ ยังไม่หมด ยังอยู่

จินดารัตน์ – เชิญคุณสวัสดิ์ค่ะ จากมหาชน อาจารย์สังศิตก่อนก็ได้ค่ะ เชิญค่ะ

สังศิต – ผมอยากจะเรียนอย่างนี้นะครับ พรรคมหาชนนี่วางปัญหาใหญ่ๆ ของประเทศว่ามีปัญหาอะไรบ้างนะครับ ก็ได้แก่ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาการศึกษาที่ด้อยคุณภาพ ปัญหาการพัฒนาเศรษฐกิจที่พึ่งตัวเองไม่ได้ ปัญหาคอร์รัปชั่น นี่เป็นปัญหาใหญ่ๆของประเทศไทย พรรคมหาชนจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไรนะครับ ก็ขอประกาศว่า พรรคมหาชนจะนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นกรอบในการบริหารสังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย บนหลักการที่สำคัญที่สุด 2 ประการ นโยบายต่างๆของพรรคมหาชนจะอยู่บนหลักการที่สำคัญ 2 ข้อนี้เสมอไป

ก็คือข้อแรก จะให้องค์กรภาคประชาชนนี่ มีส่วนร่วมในการทำข้อเสนอแนะ และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนโยบายทุกระดับ ทุกเรื่อง ทุกขั้นตอน นั่นเป็นหลักการข้อที่ 1 ข้อที่ 2 นโยบายทุกนโยบายจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ให้สื่อมวลชน ให้ประชาชนนี่ตรวจสอบได้ เชื่อถือได้ ถ้าหากว่านโยบายใดไม่สามารถจะอธิบายให้สังคมนี่ยอมรับได้ พรรคมหาชนจะไม่ยอมรับนโยบายนั้นนะครับ

พรรคมหาชนของประกาศอุดมคติของพรรคนะครับว่า เราจะยืนตรงกันข้ามกับอุดมคติของพรรคไทยรักไทย พรรคไทยรักไทยเน้นปรัชญาของเศรษฐกิจที่เน้นเรื่องเงินเป็นใหญ่ เราจะเน้นเรื่องคุณธรรมความดีนะครับ จะทำให้เห็นว่าพรรคของเรา กับพรรคไทยรักไทยนี่ ยืนระหว่างสีขาวกับสีดำนะครับ ภายใต้หลักการ ปรัชญา และอุดมคติอันนี้ เราขอประกาศว่า ปัญหาหนี้สินความยากจน จะเป็นปัญหาแรกที่เราจะเข้าไปแก้ไขนะครับ

หลักการของเราก็คือ หนี้สินใดๆที่รัฐบาลเป็นผู้ก่อ รัฐบาลมหาชนนี่จะยกเลิกทิ้งทั้งหมด สิ่งที่พรรคไทยรักไทยไปสร้างหนี้สร้างสิน พรรคมหาชนมาแล้วนี่จะยกให้หมด ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้านนะครับ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนกู้ยืมการศึกษา การปลดหนี้เพื่อจะลดรายจ่ายของประชาชน จะเป็นหลักประกันที่สำคัญที่สุดนะครับ การเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีจะเป็นการเกษตรของประเทศไทย เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เลี้ยงควาย นี่นะครับ จะไม่ใช้สารเคมี ที่สำคัญที่สุดเราจะออกพระราชบัญญัติต่างๆไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติสภาการเกษตร พระราชบัญญัติสำหรับผู้ปลูกและก็ผลิตลำไย รวมทั้งสินค้าการเกษตรทุกชนิดนะครับ จะให้พี่น้องเกษตรกรเป็นคนร่างกฎหมาย พรรคมหาชนจะไม่มีวาระของตนเอง จะให้องค์กรภาคประชาชนเป็นคนที่ร่างกฎหมายทุกฉบับครับ

สโรชา – นั่นแหละค่ะ ภาพจากจังหวัดเชียงใหม่นะคะ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็พอจะเห็นภาพอยู่นะ สำหรับตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง ดิฉันว่าช่วงสุดท้ายนี่ มีสีสันที่สุด คือประกาศชัดเจน เราคือสีขาว เขาคือสีดำ ก็เป็นสีสันดี

สำราญ – อันนี้ก็เป็นการเอาจริงกันแล้ว ก็คือเพียงตัดภาพมาให้ดูเพียงบางเสี้ยวบางตอน คือให้ย้อนรำลึก คือเราไม่ได้ดูการเลือกตั้งมาแล้ว 4 ปี นานมากนะ แล้วสภาครบเทอมลืมเสียแล้วว่า เขาดีเบทกันอย่างไร เขาหาเสียงกันอย่างไร

สโรชา – คือปกติ 2-3 ปี เราก็ได้เห็นกันทีแล้ว

สำราญ – นี่เขาประเดิมกันที่เมืองหลวงของภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ ชิงกัน 10 ที่นั่ง แล้วเที่ยวนี้ไฮไลท์คือ ไทยรักไทยเขากะจะยึดหมดทั้ง 10 ที่นั่งนะ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเสียทีเดียวเที่ยวนี้นะ แล้วมีสีสันน้องนายกฯก็ลง คนนามสกุลวงศ์สวัสดิ์ก็ลง นี่ไทยรักไทยนะ แล้วนี่ ดร.สังศิต จริงๆปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 4 ของมหาชน ก็เป็นตัวแทนของพรรคไปช่วยหาเสียง คุณลดาวัลลิ์ก็อยู่ปาร์ตี้ลิสต์เที่ยวนี้ ก็ไปช่วยหาเสียง เป็นตัวแทนของพรรค ผมกลับมาจากเชียงราย เขาบอกว่าเชียงรายเที่ยวนี้ ไทยรักไทยที่ไปกันก่อน ที่เราพูดกันเมื่อซักครู่ 8 ที่นั่ง ไทยรักไทยเขาก็กะจะยกจังหวัดเหมือนกัน แต่ดูแล้ว

สโรชา – ก็ไม่ง่ายอีกเหมือนกัน

สำราญ – เผลอๆมันจะหลุดมาซักที่ 2 ที่ ฟังๆเสียงดูนี่ คือมหาชนเขาหวังมากภาคเหนือ ภาคเหนือชิงกันทั้งหมด 76 ที่นั่งนะ

สโรชา – คือฟังมาทั้งหมด คือเดิมทีที่เราเคยเข้าใจว่า จะมีบางพื้นที่ที่เป็นของชัวร์ของแต่ละพรรคเลยนี่ มาถึงตอนนี้ดิฉันฟังแล้ว ไม่มีที่ไหนในประเทศไทยที่เรียกได้ว่าเป็นของชัวร์ของพรรคการเมืองไหนเลย แม้แต่ที่เดียว มีไหม มีบางพื้นที่ไหม อาจจะไม่ต้องเอ่ยก็ได้ ว่าพรรคไหนได้ แต่มีของ 100% เลย

สำราญ – ของ 100% วิเคราะห์เลยนะ เช่นสุพรรณบุรีนี่ ชาติไทยยกจังหวัด มันมีอยู่

สโรชา – แล้วแสดงว่าอย่างนี้น้องก็ฆ่าพี่ไม่สำเร็จ หรือพยายามไม่ฆ่าหรืออย่างไร

สำราญ – น้องฆ่าพี่ อันนี้เดี๋ยวท่านผู้ชมที่แคลิฟอร์เนียอาจจะไม่เข้าใจ

สโรชา – เดี๋ยวงง คือคุณบรรหารท่านได้ตัดพ้อต่อว่า คุณน้องแม้ว

สำราญ – คือคุณบรรหารคล้ายๆ กับว่ายึดมารยาททางการเมือง คำว่ามารยาททางการเมืองของคุณบรรหารก็คือ พื้นที่ใดที่หัวหน้าพรรคเขาลงนะ คุณให้เกียรติหน่อยอย่ามาสู้กัน

สโรชา – ก็คือไม่ควรจะลงตัวแทน อย่างสุพรรณก็ไม่ควรจะลงตัวแทนของพรรคใดพรรคหนึ่ง

สำราญ – หรือส่งแต่เว้นไว้พื้นที่หัวหน้าซึกเขตหนึ่ง อย่างเที่ยวนี้คุณบรรหารแกลงเขตนะ ที่สุพรรณบุรี แต่ปรากฏว่า ไทยรักไทยนั้นส่งประกบทั้ง 6 เขตเลย คือตอนนี้ว่าทำไมต้องส่งประกบกันนะ คุณบรรหารก็ยัวะนิดหน่อย ว่าทำไมน้องทำกับพี่อย่างนี้นะ มันมีอีกหลายเรื่องนะ ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว นี่เป็นเพียงเรื่องเดียว ก็เลยสงสัยน้องจะฆ่าพี่เสียแล้ว ก็มีการตอบโต้ผ่านสื่อกัน

สโรชา – คือพี่นี่ไม่มีวันฆ่าน้องหรอก แต่น้องสิจะฆ่าพี่ได้ลงคอหรือ

สำราญ – ทีนี้น้องก็คือทักษิณก็โทรศัพท์ไปแล้ว ก็ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวาน บอกว่าไม่มีปัญหา คุยกันแล้ว น้องคนนี้น่ารักออก ไม่ฆ่าพี่หรอก ก็ว่ากันไป

สโรชา – ก็ส่งไปอย่างนั้นแหละ อะไรอย่างนี้หรือ ถามต่อ

สำราญ – คือหลักๆก็คือ สะท้อนให้เห็นอย่างนี้ว่า ทุกคะแนนมีความหมายหมด ปาร์ตี้ลิสต์ เพราะทุกคะแนน อย่างน้อยเขากาพรรคๆนะ มันไปบวก ถ้าไม่ถึงล้านห้านะ คะแนนคร่าวๆ คะแนนก็ไม่ถึงนำไปคิดเป็นปาร์ตี้ลิสต์ก็ยุ่งเลย ดังนั้นชูวิทย์จะเอามาได้อีกซัก 3 หมื่นก็เอา เขตนั้นได้มาอีก 300 แต้มก็เอา 3000 ก็เอา เอามาบวก เอามาหมด ก็หรือในไทยรักไทย บางครอบครัวเดียวกันแต่ลงคนละพรรค ท่านนายกฯก็ไม่เป็นไร แต่บางเขตก็คงเหนื่อยหน่อย ต้องออกแรง คือมันมีอยู่ 4-5 พื้นที่ วันหลังจะมาพูดคุยกัน

สโรชา – ที่เป็นของชัวร์

สำราญ – ไม่ใช่ ที่พี่กับน้อง แต่ลงคนละพรรค หรือผัวกับเมียแต่ลงคนละพรรค

สโรชา – ก็คงมีเวลาอีกประมาณ 3 สัปดาห์ เราคงมาไล่เลียงกันว่า พรรคไหนเขตไหนเป็นอย่างไร ใครเป็นของชัวร์ของใคร แต่ที่แน่ๆ สุพรรณบุรีนี่ยกจังหวัดเรียบร้อยแล้ว

สำราญ – ชาติไทยยกนะ ไม่ใช่ใครยก

สโรชา – เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวเราพักกันซักครู่นะคะ กลับมาเดี๋ยวจะมาดูความคิดเห็นของคุณผู้ชม เราจะไปติดตามสถานการณ์ในภาคใต้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงความขัดแย้งระหว่างคุณหญิงหมอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยค่ะ ซักครู่เดียวค่ะ

*****************

สโรชา – กลับมาสู่ช่วงที่ 2 ของรายการก่อนจะถึงวันจันทร์ คุณสมชายจากสกลนคร บอกว่าอยากให้ช่วยวิพากษ์วิจารณ์กรณีคุณหญิงพจมานไปร่วมประชุมแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง กรณีคุณหญิงหมอกับสำนักงานตำรวจแห่งชาตินะคะ สักครู่คงจะได้คุยกันถึงปัญหานี้ คุณผู้ชมสามารถโทรเข้ามาได้นะคะที่ 02-6294433 เดี๋ยวเราจะไปติดตามสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อน เพราะว่ามีเหตุลอบวางระเบิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวนะคะ ที่จังหวัดยะลาด้วย

สำราญ – ตอนบ่ายโมงนี่เองนะ ก็ดูตามกายภาพนะ ก็ถือว่านี่คือแรงที่สุดในรอบเดือนเศษๆเท่าที่ผมจำได้นะ คือเมื่อก่อนมันระเบิดตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อยนะ ตอนนี้ตูม แล้วคนนี้เบื้องต้นบอกว่าบาดเจ็บตั้ง 50 และเสียชีวิตไป 1 ราย

สโรชา – เสียชีวิตทันทีเลย 1 ราย เข้าใจว่าเป็นเจ้าของร้าน แล้วก็บาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย และก็บาดเจ็บทั่วๆไปด้วย เดี๋ยวเราจะไปคุยกับผู้สื่อข่าวภูมิภาคของ 11 News 1 ที่จังหวัดยะลา อยู่ในสายแล้ว คุณอะหมัด สะตะวาค่ะ สวัสดีค่ะ

อะหมัด – ครับ สวัสดีครับ คุณสโรชาครับ

สโรชา – ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ

อะหมัด – ครับ ก็สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนะครับ ก็อย่างวันนี้ก็ยังมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ใจกลางเมืองยะลานะครับ ก็แรงระเบิดก็ทำให้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 50 ราย และก็เสียชีวิตไป 1 ราย

สโรชา – ผู้เสียชีวิตที่ว่า 1 รายนี่คือยืนยันแล้วนะคะ ว่าเป็นเจ้าของร้าน

อะหมัด – ครับ ถูกต้องครับ คือนายเกตุ รัตนะซ้อน อายุ 40 ปีนะครับ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านสวนอาหารโบราณ

สำราญ – เขาไปวางยังไงครับ คุณอะหมัดครับ

อะหมัด – จากการที่เข้าไปสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ปรากฏว่า สวนอาหารดังกล่าว เป็นสวนอาหารที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากนะครับ โดยเฉพาะวันทำงานของราชการ จะมีข้าราชการส่วนใหญ่ไปใช้บริการตรงนั้น แล้วก็ในวันนี้ซึ่งเป็นอาทิตย์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่มาเรียนพิเศษที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาเป็นส่วนใหญ่ ก็มาทานอาหารตรงนั้น แล้วปรากฏว่าเมื่อเวลา 13.15 น. ก็ได้เกิดระเบิดขึ้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุปรากฏว่า ระเบิดเนี่ยคนร้ายได้ใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วก็ไปวางไว้บนเก้าอี้ซึ่งอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ของร้านอาหารดังกล่าว ก็ทราบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องกดชนวนระเบิดนะครับ

สโรชา – และหลังจากที่ระเบิดครั้งแรกไปแล้ว มีการพบระเบิดอีกลูกนึงด้วย ซ่อนอยู่ในรถจักรยานยนต์

อะหมัด – ครับ คือ จากการระเบิดไปแล้วลูกหนึ่ง ผมก็อยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้จากกองกำกับการ ตชด. ที่ 44 ซึ่งในสถานการณ์ตรงนั้น ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเข้าใกล้ครับ เพราะว่าที่ผ่านมาเราก็เจอสถานการณ์ที่ลอบวางระเบิดลูกแรกแล้ว และก็ลูกสองก็ตามมา ทำให้การตรวจสอบตรงนั้นเกิดชุลมุนกันขึ้น เพราะว่าเราจะเข้าไปไกล ไปตรวจสอบก็ยังเกรงว่า จะมีระเบิดอีกลูกหนึ่งซุกซ่อนไว้

ทีนี้ทางเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดก็ได้หากล้องส่องทางไกล ผมก็ได้อยู่ด้วยกับเจ้าหน้าที่ตรงนี้ แล้วก็เอากล้องส่องทางไกลส่องดู ทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่า มีสิ่งต้องสงสัยอาจจะเป็นระเบิดก็ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอยออกมาตั้งหลักใหม่ และก็พร้อมด้วยต้องหาชุดเกราะที่ใส่เพื่อป้องกันตัวเองที่จะเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดในที่เกิดเหตุ ก็ปรากฏว่า ต้องใช้เวลาตรงนั้น เพราะว่าต้องเอาชุดมาสวมใส่ใหม่ และกันเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปห่างจากพื้นที่ และก็เข้าไปตรวจสอบ แต่การตรวจสอบอย่างละเอียดก็ปรากฏว่า ไม่มีระเบิดลูกที่สองครับ

สำราญ – นี่ถ้าเป็นวันราชการ แสดงว่าคนที่บาดเจ็บต้องเป็นราชการเสียส่วนใหญ่

อะหมัด – ครับ ก็อย่างวันนี้ก็ยังมีข้าราชการอยู่ ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับนายตำรวจ 2 นายนะครับที่บาดเจ็บสาหัส แต่ว่าวันนี้ ถือว่าเป็นวันหยุดราชการ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขาจรที่มาจากที่อื่น หรือไม่ก็เป็นนักศึกษาที่มาเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ที่ ม.ราชภัฏยะลา แต่ถ้าเป็นวันธรรมดา แทบจะเป็นที่ข้าราชการส่วนใหญ่จะไปใช้บริการตรงนั้น

สโรชา – ใน 6 รายที่บอกว่าบาดเจ็บสาหัสนี่ นอกเหนือจากนายตำรวจ 2 รายแล้ว ทราบบ้างไหมคะว่าอีก 4 รายเป็นใครบ้าง

อะหมัด – ก็มีชื่ออยู่ ในรายละเอียดยังไม่ชัดเจนนะครับ

สโรชา – เข้าใจว่ามีครูอยู่ด้วยใช่ไหมคะ

อะหมัด – ก็มีครูอยู่คนหนึ่งครับ เป็นครูจาก อ.ยะหานะครับ

สำราญ – ขอสาเหตุเบื้องต้นสั้นๆ ครับ เจ้าหน้าที่เขาสันนิษฐานว่าอย่างไร

อะหมัด – ในเบื้องต้นเท่าที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่นะ โดยเฉพาะท่านผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ยะลา พล.ต.ต.ปริญญา ขวัญยืน ท่านก็บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดจะถี่ขึ้น โดยในพื้นที่ของ จ.ยะลานั้น คาดว่าหรือสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นการก่อเหตุที่ตอบโต้จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่จากรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกหมายจับและก็ตามจับตัวแกนนำระดับครูสอนศาสนาไปหลายรายในพื้นที่ อย่างกรณีวันก่อนที่มีการแถลงข่าวขึ้นค่าตัวของนายสะแปอิง บาซอ ผู้จัดการเจ้าของโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ หลังจากแถลงข่าวเป็น 10 ล้านนี่ ก็เกิดระเบิดขึ้นทันทีที่ในตัวเมืองยะลาครับ

สำราญ – โดยรวมก็คือน่าจะเป็นกรณีนี้ ว่างั้นเถอะ

อะหมัด – ครับ โดยการสรุปของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ จะมองประเด็นนี้เป็นประเด็นหลักนะครับ

สโรชา – ล่าสุดที่บาดเจ็บ 6 รายนี่ยังอยู่ใยการรักษาของแพทย์ใช่ไหมคะ

อะหมัด – ครับ ถูกต้องครับ ขณะนี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ก็ได้สั่งการให้แพทย์เข้าดูแลเฝ้าอาการบาดเจ็บสาหัสของทั้ง 6 รายอย่างใกล้ชิดนะครับ

สโรชา – ค่ะ ขอบคุณนะคะ

อะหมัด – ครับ สวัสดีครับ

สำราญ - ครับ ก็ข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ยะลาก็บอกว่า เป็นการตอบโต้ที่ไปจับครูสอนศาสนา หรืออุสตาซที่เรียกกัน ก็มีอีกท่านหนึ่งที่ยังจับไม่ได้ แต่ว่าบุคคลนี้ก็เป็นคนสำคัญที่บอกว่า ถ้ามีการแยกดินแดนแล้วจะได้เป็นผู้นำเลย คุณสะแปอิง เป็น ผอ.โรงเรียนธรรมวิทยา ที่คุณอะหมัดพูดเมื่อซักครู่ ก็หลายคน ก็น่าสนใจ

สโรชา – แต่ก็ยังมีเหตุอย่างต่อเนื่อง คือจริงๆ แล้วมีเหตุเล็กๆ น้อยๆ นี่ เกือบจะทุกวันเลย ยังคงมีอยู่

สำราญ – ก็เป็นการตอบโต้นะ ที่ไปขึ้นค่าหัวเป็น 10 ล้าน ผมคิดว่าก็คงจะมีอย่างนี้ไปเรื่อยๆนะ ดูแล้วก็ ตอนนี้รัฐบาลเองก็ ด้านหนึ่งก็ต้องเลือกตั้งหาเสียงกันไป อีกด้านก็ภาคใต้

สโรชา – แล้วการหาเสียงในภาคใต้เป็นอย่างไรบ้าง บรรยากาศใน 3 จังหวัด ก็คงยังหาเสียงได้ตามปกติไหม

สำราญ – ก็เดินไป ก็ตามปกติในตลาด ตามชุมชนก็เข้าไปได้ครับ ไปปราศรัย แต่ว่ามันก็คงต้องระมัดระวังกันนิดหน่อย กลางคืนอาจจะน้อยหน่อย ไม่ค่อยนิยมกัน เน้นกลางวัน

สโรชา – ดีนะที่ไม่เกิดขึ้นวันธรรมดา อย่างที่คุณอะหมัดว่า

สำราญ – มีอยู่นิด รู้สึกว่าจะในส่วนของทางการกอ.สสส.จชต. ทางที่จัดตั้งหน่วยทหารถาวรพิเศษใน 3 จังหวัด ในเบื้องแรกนี่ก็เขาบอกว่าจะใช้การฟื้นกองพลทหารราบที่ 15 ซึ่งเมื่อก่อนมีอยู่แล้วขึ้นมาใหม่ คล้ายๆปัดฝุ่นแล้วรีดใหม่ จัดใหม่ ให้ไปอยู่ที่ปัตตานี แล้วก็ดูแล 3 จังหวัด

สโรชา – ตอนนี้กำลังจัดโครงสร้างอยู่

สำราญ – แต่ว่ากองพลนี้ไม่ได้ขึ้นกับกองทัพภาคที่ 4 ที่นครศรีธรรมราช ขึ้นตรงมาที่กองทัพบกเลย แต่ว่าให้กอ.สสส.จชต.สามารถที่จะใช้ได้ ยังไม่ยุบ กอ.สสส.จชต.

สโรชา – คือพูดง่ายๆ ว่ามีหน่วยงานตรงนี้ขึ้นมาอีกหน่วยงานหนึ่ง เฉพาะกิจ ที่ขึ้นตรงกับส่วนกลาง

สำราญ – ก็ไม่ใช่เฉพาะกิจ อยู่ยาวเลย เป็นกองพลที่อยู่ยาว อยู่ถาวรเลย ก็ด้านหนึ่งก็ดีนะ แต่ผมว่าไม่ใช่ด้านหลักหรอก เป็นเรื่องเดิมๆ ที่พูดหลายรอบแล้ว แต่ว่าก็ต้องให้กำลังใจครับกับสถานการณ์แบบนี้ เจ้าหน้าที่เขาก็เหนื่อย

สโรชา – ใช่ค่ะ เขาบอกว่ากองกำลังนี้จะไม่เน้นการรบนะ แต่ว่าจะเน้นทางด้านจิตวิทยามากกว่า

สำราญ – แต่ว่าทางด้านจิตวิทยา ทาง กอ.สสส.จชต. เขาพัฒนาทางด้านจิตวิทยาอยู่แล้ว คือมันยังตอบปัญหาทั้งหมดยังไม่ขาด ว่ากันตรงๆนะ

สโรชา – ก็ลองดู ลองกันหลายๆทาง อะไรผิดอะไรถูกก็ลองกันไปก่อน

สำราญ – แต่ลองมากไม่ได้นะ 3 จังหวัดนี่ อันตราย

สโรชา – ก็ว่ากันไป ก็ยังให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อยู่นะ แต่ตอนนี้เหลืออีก 5 นาที ไปเรื่องคุณหญิงหมอหน่อยไหม

สำราญ – เรื่องคุณหญิงหมอนี่มันหลายมิตินะ

สโรชา – เอาความเป็นมาก่อนไหม ว่าอยู่ดีๆ ทำไมถึงได้เกิดปะทะกัน คุณสนธิก็ได้อธิบายประมาณว่า มันเป็นความขัดแย้งซึ่งเกิดมาประมาณซัก 2 ปีเห็นจะได้ ตั้งแต่มีการปฏิรูปราชการ มีการแยกงานนิติเวชออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยที่ขึ้นตรงต่อกระทรวงยุติธรรม ซึ่งตรงนี้ก็สร้างรอยร้าว

สำราญ – เอาเชิงโครงสร้างก่อนดีไหม คือมันยังไม่ชัดเจนเสียทีเดียว ตอนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขาก็ยังมีนิติเวช ในการพิสูจน์ศพเขาก็ยังมีอยู่ แต่บังเอิญกระทรวงยุติธรรมในยุคปฏิรูป ด้านหนึ่งก็ตั้งกรมขึ้นมา กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI อีกด้านหนึ่งก็มีสถาบันขึ้นมา

สโรชา – นิติวิทยาศาสตร์

สำราญ – ซึ่งคุณหมอพรมชทิพย์นั้นเป็นรองผู้อำนวยการสถาบัน ใหญ่นะสถาบันนี้ แต่ว่าดูเหมือนอำนาจจะยังไม่ค่อยชัดเจน ภารกิจหน้าที่ทำยังไง แล้วมันไปทับซ้อนกับทางตำรวจ แล้วไปเหยียบเท้ากัน ก็คือคดีคุณห้างทอง เห็นชัดเจน

สโรชา – ว่าอยู่ดีๆ ไม่ได้ฆ่าตัวตายนะ ทางกระทรวงยุติธรรมเขาก็บอกว่าไม่ได้ฆ่าตัวตายนะ ทางตำรวจเขาก็บอกว่ายืนยันมาตั้งนานแล้วว่าฆ่าตัวตาย เกิดการปะทะกัน ตรงๆนั้นคงจะจำได้

สำราญ – ทีนี้พอสึนามิตูม วันที่ 27 คุณหมอพรทิพย์ลงไปเลย ทันทีเลย ศพที่สดๆ ที่เพิ่งเสียชีวิต บางคนเขาก็มาเอาไปก็ธรรมดานะ ก็เอาไปๆ ทีนี้ศพที่เพิ่งค้นหาวันที่ 7,8,9,10 พวกนี้มาขึ้นอืดแล้ว บางศพก็เน่าเปื่อยแล้ว อะไรก็หลุดกันไป แต่ว่าต้องเก็บศพหมด ต้องกู้มาให้หมด ตรงนี้นะ คุณหมอพรทิพย์ก็ทำมาตลอดนะ ตำรวจทำไหม ตำรวจก็ทำนะ แต่ไม่ใช่ไปทำพิสูจน์ศพตรงนั้นนะ เขาทำหน้าที่อื่น อำนวยความสะดวก แต่ว่าเจ้าภาพใหญ่คือคุณหมอพรทิพย์ ระดมหมอ ระดมอะไรต่างๆ ในการจัดระเบียบ เข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ อยู่ดีๆวันหนึ่ง

สโรชา – ก็มีคำถามเกิดขึ้นเรื่องมาตรฐานของการตรวจศพ ของทีมคุณหญิงหมอ ถูกไหมคะ โดยตำรวจก็บอกว่า แถลงข่าวเลย บอกว่าเอาล่ะ เราก็จะมาดูแลเรื่องของการตรวจศพ

สำราญ – พูดเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวันพุธ ตำรวจ ผบ.ตร.มานั่งแถลงเลย กับท่านนพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ที่ปรึกษากฎหมายของสำนักงานตำรวจ บอกว่าจากนี้ไป ไม่ใช่คำพูดของท่านนะ แต่แปลความว่าอย่างนี้ บอกว่าจากนี้ไปการพิสูจน์ศพนะ พิสูจน์เอกลักษณ์ อะไรต่างๆเป็นเรื่องของตำรวจ เพราะตอนนี้มันมีนานาชาติเข้ามาแล้ว เป็น 20-30 ประเทศเข้ามาแล้ว แล้วเราต้องทำภายใต้กฎ กติกา มารยาทของ DVI

สโรชา – ก็คือหน่วยพิสูจน์เอกลักษณ์ของผู้ประสบภัย

สำราญ – ซึ่งมันต้องยึดกติกาสากลว่างั้นเถอะ คือประมาณว่าคุณหมอพรทิพย์ทำมานี่ บกพร่องนิดหน่อย

สโรชา – คือ พูดทำนองว่าไม่เป็นระเบียบ คือ ไม่ตรงกับมาตรฐานสากล เดี๋ยวเราจะมาคุยกันต่อถึงเรื่องนี้ ยังมีอีกหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุด ว่าตกลงเขาแบ่งงานกันอย่างไร แล้วคุณหญิงพจมานแล้วที่บอกว่าเข้าไป เหมือนกับไปหย่าศึกนี่ มีบทบาทมากน้อยขนาดไหน เดี๋ยวเราชมข่าวต้นชั่วโมงแล้วกลับมาคุยกันต่อค่ะ

*****************

สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของรายการก่อนจะถึงวันจันทร์นะคะ เมื่อซักครู่เราทิ้งท้ายถึงความเป็นมาระหว่างสถาบันทางนิติวิทยาศาสตร์ ของกระทรวงยุติธรรม กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจจะมีความไม่ลงรอยกันมาตั้งนานแล้ว มาถึงตอนนี้ ถึงตอนที่มีการแถลงข่าวกัน

สำราญ – ก็พอมันเกิด พอสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าว คุณหมอพรทิพย์ก็งง ก็สุดท้ายก็มีการให้ประชุมกันเมื่อวันที่ 13 โดย ดร.โภคิน พลกุล ท่าน มท.1 ก็ไปนั่งเป็นหัวโต๊ะที่ประชุม ก็คือใช้อำนาจในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ไปประชุมว่าจากนี้ไป ก็คือผลสรุป คงทราบแล้ว ก็คือทางนี้กู้ไป แล้วให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เหมือนกับเป็นเจ้าภาพว่างั้นเถอะ

สโรชา – ก็คือโอนกลับมาที่ตำรวจ

สำราญ – ทำให้เป็นระบบเสีย อะไรอย่างนี้ แล้วก็จากนี้ไปศพนี่ก็ให้ลำเลียงไปอยู่ที่สุสานที่ภูเก็ต เพราะที่นั่นศพตรงนั้นที่พังงามันร่วมๆ 3 พันกว่าศพนะ ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นชาติไหน

สโรชา – ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หรือว่าที่ตรวจไปบ้างบางส่วนนะคะ

สำราญ – บางส่วนเขาตรวจแล้ว

สโรชา – ก็จะย้ายมาอยู่ที่ศูนย์กลางก็คือที่ภูเก็ตทั้งหมดเลย

สำราญ – เขาก็อ้างว่าเพื่อความสะดวก เพื่ออะไรก็แล้วแต่นะ คือประเด็นมันอยู่นิดเดียว ผมฟังดูแล้วคือ ทำไมต้องมาแถลงคล้ายๆว่า มันเท่านั้นเอง ทำไมต้องมาทุบโต๊ะแถลงว่าตั้งแต่บัดนี้ไป ข้าพเจ้าจะรับผิดชอบเอง ที่ทำมาก็ดีแล้วขอบคุณ ผมว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง น่าจะมีกระบวนท่า หรือมีการประสานงานที่ดีกว่านี้ นี่ในความเห็นของผมนะ

สโรชา – หลายๆ ท่านก็อาจจะเห็นตรงกันว่า จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ คือ ทุกอย่างก็ดำเนินการไปเหมือนเดิม เพียงแต่เจ้าภาพอาจจะเปลี่ยน สถานที่อาจจะเปลี่ยน เพียงแต่ว่าพูดกันภายใน แล้วก็ดำเนินการก็ได้ อาจจะไม่ต้องถึงกับแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

สำราญ – ก็วันก่อนผมก็สัมภาษณ์ท่านนพดล ก็ถามอยู่ 2 ข้อใหญ่ๆ ว่าทำไมสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่งเข้ามา ท่านก็ตอบไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ประการที่สองคือ แล้วได้ประสานกับคุณหมอหรือเปล่า ท่านก็บอกว่าได้ประสาน แต่ก็พูดแบบประโยคเดียวไม่มีคำอธิบายมาก ก็พยายามซักก็เกรงใจท่านอยู่เหมือนกันนะ ก็ไม่ชัดเจน คนก็เลยสงสัยว่าทำไม น่าจะคุยกันรู้เรื่องนะ ยิ่งยามนี้ด้วยแล้ว มันต้องคุยกันรู้เรื่อง

สโรชา – ค่ะ ปัญหาอย่างนี้มันไม่น่าจะเกิด

สำราญ – ทีนี้คุณหญิงหมอพรทิพย์ก็ต้องรู้สึกว่า จู่ๆเหมือนท่านยึดอำนาจ ทำมาเกือบตายนะ ท่านคงไม่ได้เห็นแก่หน้าหรอกนะ แต่ว่ายังไงนี่

สโรชา – ว่าคนทำงานจะรู้สึกอย่างไรอะไรประมาณนั้น

สำราญ – แล้วท่านเกณฑ์คนกว่าจะลงไปได้นะ มันหลากหลายหน่วยงาน แล้วนักศึกษามีใครต่อใคร แล้วศูนย์ก็จะไปอยู่ที่ภูเก็ต ก็อ้างว่าเพื่อต่อไปจะขนศพนี้ไปสวีเดน ไปนอร์เวย์ ไปฟินแลนด์อย่างนี้มันก็อ้างว่าสะดวกหน่อย

สโรชา – ก็ง่าย ก็คือศูนย์อยู่ที่ภูเก็ต ถ้าเป็นคนไทยจะกลับพื้นที่ รัฐบาลก็จะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ส่วนเป็นคนต่างชาติก็คงจะมีของออสเตรเลียเขาเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ ใช่ไหมคะ

สำราญ – มันก็มีเสียงเล่าลือเล่าอ้างกันมาว่า อาจจะมีเรื่องเงินความช่วยเหลือจากต่างชาติ จากอเมริกา จากที่โน่นที่นี่ ตรงนี้ใครจะบริหารดูแลอะไรอย่างนี้ อันนี้ก็เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า คือข่าวลือมันเยอะในพื้นที่ แต่คุณหญิงหมอพรทิพย์ แน่นอนครับถ้าถามว่า ท่านชนะใจคนในพื้นที่ไหม

สโรชา – เกินร้อย คนในพื้นที่และคนทั่วประเทศ

สำราญ – ผมก็เลยเสียใจอยู่ว่า ทำไมประสานงานกันไม่ได้นะ ท่านก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นต่อไป มันก็เลยเป็นข่าวพาดหัวว่าท่านจะลาออก

สโรชา – จากราชการใช่ไหมคะ หลังจากที่จบเรื่องนี้แล้ว

สำราญ – ความหมายถ้าดูตามข่าวก็ประมาณนั้น แต่วันนี้ฟังท่านสัมภาษณ์เมื่อตอนเย็นนี่นะ ก็ความหมายคือบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้อีกนะ ท่านจะเปลี่ยนงานดีกว่า ไปสอนหนังสือดีกว่า

สโรชา – ท่านบอกว่า ท่านทำประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชนในรูปแบบอื่นก็ได้

สำราญ – เช่นไปสอนอนุบาล หรือไปสอนเด็กมัธยม หรือไปสอนนักเรียนหมอก็ได้

สโรชา – แล้วก็มีติดอยู่นิดนึงว่า หวังว่าคงไม่ตามราวีกันอีก

สำราญ – แต่ ท่านมีแต่นะ คือท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่นะ คุณหญิงหมอพรทิพย์ไม่ใช่ว่าเอาแต่อารมณ์ ไม่ใช่ อย่าไปมองภาพท่านอย่างนั้น ท่านบอกว่า แต่ถ้ามีการปฏิรูป หรือมีการจัดระเบียบให้บทบาทภารกิจ อำนาจหน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมชัดเจน ท่านก็จะลุยต่อ ท่านพูดอย่างนี้นะ ผมก็เลยมองในแง่ดีว่า สุดท้ายท่านคงไม่ลาออกหรอก

สโรชา – คือถ้าสามารถแก้ไขในตัโครงสร้างได้ ว่าจริงๆแล้วอำนาจหน้าที่ของใครอยู่ตรงไหนกันแน่ ใช่ไหมคะ เพราะว่าที่ผ่านมาค่อนข้างจะเทาๆ

สำราญ – ผมก็เลยแว้บขึ้นมาว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ รัฐบาลไทยรักไทยจะอยู่ต่อ เขาว่ากันอย่างนั้นนะ ปฏิรูปรอบสอง นิติเวช นิติวิทยาศาสตร์ การเหยียบเท้ากันตรงนี้นะ

สโรชา – แก้ซักหน่อยดีไหม อะไรประมาณนั้น คุณประพันธ์ถามว่า สถาบันนิติเวชได้รับค่าตรวจศพบ้างหรือเปล่า ทำไมจึงมีปัญหากับทางตำรวจ และตำรวจได้อะไรจากการลงไปช่วยตรวจศพครั้งนี้ คือรู้สึกว่าจะมี

สำราญ – สถาบันนี้ คงจะหมายถึงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

สโรชา – คือคุณสนธิเมื่อวันศุกร์ได้พูดมาแล้วว่า มันมีค่าตรวจศพ คือ ในทีมหนี่งที่ตรวจศพ 1 รายเนี่ย สามคนที่เข้าไปตรวจ หมอนิติเวชนี่นะคะ ที่เข้าไปตรวจจะด่าตรวจศพ 1500 ต่อหมอ 1 คน แล้วก็บอกตัวเลขกลมๆ ถ้าเกิดคิดกันคร่าวๆ ก็อยู่ที่รายละเป็นล้านเหมือนกัน คือคุณหมอท่านหนึ่งได้เป็นล้านเหมือนกัน จากจำนวนศพเป็นพันๆ ศพนี่ ก็ตรงนั้นก็มีอยู่ ส่วนตำรวจได้อะไรจากการที่ลงไปนี่ คือจริงๆ แล้วตามอำนาจหน้าที่ ตามตัวบทกฎหมายยังคงเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่ในการตรวจพิสูจน์ศพนี่

สำราญ – คือตรงนี้เราเข้าใจ เพราะเขาก็ต้องประสานกับทางตำรวจสากล ตรงนี้อธิบายได้

สโรชา – คือเราต้องทำตามมาตรฐานสากลที่เราเป็นสมาชิกอยู่ เพราะฉะนั้นตรงนั้นก็คือเป็นหน้าที่ที่ประเทศไทยต้องทำในฐานะสมาชิกขององค์กรสากล

สำราญ – คือปัญหาหลัก ผมว่าอย่าไปเหม็นหน้ากันนะ

สโรชา – จริงๆ แล้วมันนิดเดียว

สำราญ – คนไทยมันศักดิ์ศรีเยอะอย่างว่านั่นแหละ อันนี้ว่าทุกฝ่ายนะ

สโรชา – อันนี้มันหลายปี กลับไปถึงเรื่องของคุณหญิงพจมาน จริงๆ ไปร่วมประชุมเฉยๆใช่ไหมคะ

สำราญ – ตามข่าวนี่เขาบอกว่าแค่ไปประชุมนอกรอบ ไปหารือกับคุณพงษ์เทพ เทพกาญจนา คือ ท่านไปเยี่ยมชาวบ้านเป็นหลัก แล้วบังเอิญก็ไปนัดนี้พอดี ที่เขาประชุมกัน ก็เลยเป็นข่าวพาดหัวว่าคุณหญิงพจมานหย่าศึก ทีนี้พอเห็นข่าวขึ้นคนจะหมั่นไส้คุณหญิงนะ

สโรชา – คนจะงงไงคะ

สำราญ – ว่านี่รัฐมนตรีกระทรวงอะไรนี่ จริงๆดูตามข่าวแล้วท่านก็ไป อาจจะไปเจอนอกรอบกับคุณพงษ์เทพ เทพกาญจนาอะไรอย่างนี้นะ

สโรชา – แต่ท่านก็ลงไปตอนแรก ตอนที่เกิดเรื่องไม่กี่วันแรก ก็ลงไปอยู่กับทีมของคุณหญิงหมอนี่แหละ

สำราญ – คือใครลงไป มีรัฐมนตรี บางคนก็ร้องห่มร้องไห้จริงๆนะ มันสะเทือนใจ บางคนก็เด็กกำพร้า เห็นศพเห็นอะไรต่างๆ

สโรชา – เดี๋ยวไปที่ต่างประเทศนิดนึง เข้าใจว่าเวลาเหลือไม่เยอะ ไปที่ประธานาธิบดีบุชก่อนแล้วกัน เพราะว่าอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในสมัยที่ 2 แล้ว ซึ่งในโอกาสนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับวอชิงตันโพสต์ ของสหรัฐ ถึงนโยบาย การดำเนินงานต่างๆในสมัยที่ 2 ซึ่งก็ได้พูดกันอย่างชัดเจน คือเดิมทีก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ก็มีการคาดการณ์กันอยู่แล้ว ว่าถ้าหากประธานาธิบดีบุชกลับมาเป็นสมัยที่ 2 ท่านจะใช้เสียงของประชาชนที่เลือกท่านกลับมา เป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมในการทำสงครามในอิรัก

ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว เพราะว่าการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ ก็มีการถามกัน ว่าทำไมการคาดการณ์ของสหรัฐ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐที่คาดการณ์ผิดว่า อิรักมีอาวุธในการทำลายล้างร้ายแรงนี่ ไม่มีจริงๆ เข้าไปตรงสอบทั้งประเทศก็ยังหาไม่เจอ คาดการณ์ผิดถึงขั้นนั้น ทำไมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่สหรัฐท่านใดเลยที่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจในครั้งนั้น ซึ่งบุชได้ตอบอย่างภูมิอกภูมิใจ เต็มปากเต็มคำว่า เราได้ผ่านช่วงเวลาที่ไล่เลียงหาความรับผิดชอบกันไปแล้ว นั่นก็คือการเลือกตั้งในปี 2004 ที่ผ่านมา พูดง่ายๆ ว่าถ้าหากว่าประชาชนคิดว่าเขาทำผิดในการตัดสินใจบุกอิรักนี่ ผลการเลือกตั้งจะไม่ออกมาเป็นอย่างนี้ การที่เขาได้รับเลือกเข้ามาเป็นสมัยที่สองเท่ากับว่า ประชาชนไม่ติดใจอะไรกับการตัดสินใจในครั้งนั้น นี่ก็คือคำบอกเล่า

ส่วนระยะเวลาที่ทหารสหรัฐจะยังคงอยู่ในอิรัก บุชหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบเลย เพราะว่าคอลิน เพาเวลล์ที่กำลังจะลงจากตำแหน่ง ก็ได้พูดเอาไว้แล้วว่า น่าจะช่วงปลายปีนี้แหละ หลังจากที่เลือกตั้งใน 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี่ วันที่ 30 มกราคม หลังจากนั้นซักระยะหนึ่งก็จะมีการทยอยนำทหารกลับบ้านแล้ว แต่ประธานาธิบดีบุชกลับไม่ได้ยืนยันคำพูดนี้ของเพาเวลล์เลย ไม่ได้พูดถึงด้วยซ้ำไป ส่วนต่อคำถามที่ว่า ทำไมถึงไล่ล่าบินลาเดนอยู่ ไม่สามารถที่จะจับกุมได้เสียที บุชตอบเพียงสั้นๆว่า ก็เขาซ่อนตัวอยู่

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง