จะทำอย่างไรเมื่อเจอคนหมดสติ? จะโทรศัพท์เรียกเบอร์ไหนเพื่อขอความช่วยเหลือ? หากจำเป็นต้องช่วยทำ CPR จะทำได้ไหม? คำถามเหล่านี้คงผุดขึ้นมากมาย หากเจออุบัติเหตุหรือคนหมดสติอยู่ข้างหน้าคุณ จะดีกว่าไหมถ้าเรามีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง ถูกวิธี ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยรอดชีวิต ลดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นตั้งสติให้พร้อมแล้วมาเรียนรู้วิธีช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ AED ไปพร้อมๆ กันได้เลย
1. ปลุก
เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ อย่าเพิ่งตกใจ ให้ประเมินความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุก่อนเป็นอันดับแรก โดยตรวจดูบริเวณรอบๆ ก่อนเข้าไปช่วยเหลือ เช่น สายไฟฟ้าที่ช็อตอยู่จุดใด บริเวณนั้นใกล้แหล่งน้ำหรือไม่ มีรถสัญจรหรือเปล่า จะได้ไม่เกิดอันตรายซ้ำ หลังจากนั้นให้ปลุกเรียกผู้ป่วยด้วยการตบไหล่ทั้งสองข้างและเรียกเสียงดังๆ ว่า “คุณคะๆ” หรือ “คุณครับๆ” หากไม่รู้สึกตัวและไม่หายใจ ให้รีบทำตามขั้นตอนต่อไปโดยทันที
ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยรู้สึกตัวและหายใจเองได้ ให้จับตัวผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนตะแคง และทำการปฐมพยาบาลตามอาการที่เจอซึ่งจะกล่าวในภายหลัง
2. โทร
รีบโทรขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 โดยแจ้งอาการผู้ป่วย สถานที่เกิดเหตุ ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้แจ้งเพื่อให้เจ้าเหน้าที่ติดต่อกลับหากที่หาที่เกิดเหตุไม่เจอ รวมถึงแจ้งรายละเอียดของผู้ป่วย เช่น อาการ สถานที่ที่พบ เส้นทางที่เดินทางมาได้สะดวก หากอยู่เพียงลำพัง อย่าทิ้งผู้ป่วยไปไหน ให้เปิดลำโพงโทรศัพท์ เพื่อสื่อสารและรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพ หากอยู่หลายคนให้ผู้อื่นเป็นคนโทร.แจ้ง หากแถวนั้นไม่มีเครื่อง AED ให้แจ้งเจ้าหน้าที่นำเครื่อง AED มาด้วย
ตัวอย่างการแจ้งเหตุทางโทรศัพท์ : พบผู้ป่วยหมดสติไม่หายใจ เป็นผู้ชายอายุประมาณ 50 ปี ที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนเอบีซี ผมผู้พบเหตุ ชื่อนายต้น เบอร์ติดต่อ 081-XXX-XXXX และให้นำเครื่อง AED มาด้วย
3. ปั๊ม
การกดหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นขณะที่รอหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพ โดยให้คุกเข่าบริเวณข้างลำตัวผู้ป่วยในระดับไหล่ จัดท่าผู้ป่วยนอนหงายเพื่อเปิดทางเดินหายใจโดยการ ดันหน้าผาก - ดึงคางขึ้น และตรวจสอบการหายใจโดยการเอียงหูฟังแนบที่จมูกผู้ป่วย จากนั้นให้เริ่มช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ด้วยการกดหน้าอก โดยวางสันมือข้างที่ถนัดตรงครึ่งล่างกระดูกหน้าอก และวางมืออีกข้างทับประสานกันไว้ เริ่มการกดหน้าอกด้วยความลึกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร ในอัตราเร็ว 100 - 120 ครั้งต่อนาที
ข้อแนะนำ : หากมีโอกาสได้เรียนให้พยายามซ้อมทำบ่อยๆ เวลาทำจริงเราจะทำได้ด้วยความแรงและน้ำหนักที่ถูกต้อง
4. แปะ
ขณะที่ทำ CPR (กดหน้าอก) เมื่อเครื่อง AED มาถึง ให้ผู้ช่วยเหลืออีกคนหนึ่งเตรียมเครื่อง AED โดยการถอดเสื้อผู้ป่วยออก และติดแผ่นนำไฟฟ้าทั้ง 2 แผ่นบริเวณใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวาและชายโครงด้านซ้าย โดยให้ทำความสะอาดจุดที่แปะแผ่น เช่น หากผู้ป่วยตัวเปียกจะต้องเช็ดให้แห้งก่อนหรือหากมีขนเยอะก็ให้โกนขนออกก่อน
5. ช็อก
เปิดเครื่อง AED และปฏิบัติตามคำแนะนำจากเครื่อง จนเมื่อเครื่องสั่งให้ทำการช็อก ให้พูดเสียงดังๆ ว่า “ฉันถอย คุณถอย ทุกคนถอย” เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนกดปุ่มช็อกไฟฟ้า แต่หากเครื่องไม่สั่งช็อก ให้ทำการกดหน้าอกต่อไปจนกว่าทีมกู้ชีพจะมาถึง
คำเตือน : ก่อนกดปุ่มช็อกต้องมั่นใจว่าไม่มีใครสัมผัสตัวผู้ป่วยรวมถึงมีสื่อไฟฟ้าต่างๆ
6. ส่ง
ระหว่างที่รอรถพยาบาลมารับ หากผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัวให้ทำการปั๊มหัวใจและปฏิบัติตามคำแนะนำของเครื่อง AED ไปจนกว่าผู้ป่วยจะหายใจหรือรถพยาบาลจะมา หลังจากรถพยาบาลมาก็ส่งต่อผู้ป่วยให้กับทีมกู้ชีพเพื่อนำส่งโรงพยาบาล เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอดและปลอดภัย
เห็นไหมว่าการช่วยกระตุ้นหัวใจไม่ยากอย่างที่คิด หากเกิดเหตุฉุกเฉินแล้วทำได้ตามขั้นตอนทั้ง 6 ข้อนี้ โดยไม่ตื่นเต้นตกใจ เราจะสามารถช่วยผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เขามีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น
“น้ำตาล เครื่องเทศ สารพัดของกุ๊กกิ๊ก ทั้งหมดคือเครื่องปรุงที่เลือกสรรเพื่อสร้างสาวน้อยสมบูรณ์แบบ แต่ศาสตราจารย์ยูโทเนียม เติมสารพิเศษอีกอย่างลงไปในส่วนผสมโดยไม่ตั้งใจ ‘สารเคมี X’ จึงได้เกิดเป็นพาวเวอร์พัฟฟ์ เกิลส์ ด้วยพลังเหนือมนุษย์ที่มีอยู่ในตัว บลอสซัม! บับเบิลส์! บัตเตอร์คัพ! จึงอุทิศชีวิตให้การต่อสู้อาชญากรรม และพลังอำนาจแห่งความชั่วร้าย!” หลายคนที่มีวัยเด็กในช่วงปี 2000s น่าจะเคยได้ยินประโยคเปิดของการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้กันมาบ้าง แม้บางคนจะไม่สามารถระบุได้ว่าคนไหนคือ บลอสซัม บับเบิลส์ หรือบัตเตอร์คัพ แต่ความโด่งดังของเด็กผู้หญิง 3 คนนี้ ก็ท่วมท้นเสียจนยากที่เด็ก ๆ ซึ่งโตมากับช่องการ์ตูนระดับโลกอย่าง Cartoon Network จะไม่รู้จักหัวกลม ๆ ตาโต ๆ และพลังวิเศษแสนน่าทึ่งของฮีโร่ทั้งสาม เดอะ พาวเวอร์พัฟฟ์ เกิลส์ (The Powerpuff Girls) เป็นการ์ตูนสัญชาติอเมริกัน ที่ออกอากาศมาแล้ว 6 ซีซั่น เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 1998 มาจนถึงกลางปี 2005 นับว่าเป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่แจ้งเกิดในยุคทองของช่อง Cartoon Network ซึ่งขณะนั้น มีการ์ตูนดังอย่าง ห้องแล็บของเด็กซ์เตอร์ (1996) จอห์นนี่ บราโว (1997) และเคอเรจ หมาน้อยผู้กล้าหาญ (1999) กำลังฉายอยู่ เรื่องราวของเดอะ พาวเวอร์พัฟฟ์ เกิลส์ เริ่มต้นขึ้นจากการที่ ศาสตราจารย์ยูโทเนียม (Professor Utonium) นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง พยายามคิดค้นหาวิธีสร้างสาวน้อยสมบูรณ์แบบขึ้นโดยการผสมน้ำตาล เครื่องเทศ และสารพัดของกุ๊กกิ๊ก แต่ตอนนั้นเขาเผลอกวนไม้พายไปชนกับภาชนะใส่สารเคมีที่มีชื่อว่า ‘X’ จนมันหกลงมาใส่ถังผสม ทุกอย่างทำปฏิกิริยากันจนระเบิด และเกิดมาเป็นสาวน้อย 3 คนที่มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ ศาสตราจารย์ยูโทเนียมตั้งชื่อให้เด็กผู้หญิงผมแดง ที่มีคำพูดคำจาฉลาด มีบุคลิกเป็นผู้นำ และมีลักษณะของนักคิดว่า บลอซซัม (Blossom) ส่วนเด็กผู้หญิงผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ที่ดูบอบบาง รักสัตว์ และชอบของน่ารัก ชื่อ บับเบิลส์ (Bubbles) ส่วนคนสุดท้ายเด็กหญิงผมดำ หน้าตาไม่รับแขก นิสัยห้าวหาญ และชอบใช้กำลัง เธอมีชื่อว่า บัตเตอร์คัพ (Buttercup) แม้เด็ก ๆ จะมีนิสัยและความสนใจที่แตกต่าง แต่เพราะพวกเธอก็ยังรักและสนิทกันเหมือนพี่น้อง ทั้งสามอุทิศตนเป็น ‘ฮีโร่’ ที่ปกป้องเมืองทาวน์สวิลล์ (Townsville) โดยมีนักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างคอยดูแลราวกับพ่อแท้ ๆ