ไก่ เท อริ ยา กิ ครัว บ้าน พิ ม

วันนี้ต๊ะทำเป็นข้าวราด (Donburi) เพราะช่วงนี้อากาศชื้นต้องกินข้าวเยอะหน่อย ไม่งั้นบรรดาข้าวสารที่ซื้อเก็บสะสมไว้ในช่วงโปรจะถูกมอดกินซะหมด ส่วนรอบเอวจะเพิ่มขึ้นอีกบ้างก็เรื่องเล็ก แต่จะหวังให้ทิ้งอาหารล่ะก็ขอบอกเลยว่ายากมาก

แล้วยิ่ง2-3ปีที่ผ่านมาต้องมาเรียนหนังสือไกลบ้านนั้น การทานอาหารไทยหรือจำพวกข้าว นอกบ้านนั้น ไม่ได้ถูกเลย มื้อละอย่างต่ำ 300บาทขึ้น ซึ่งอาหารไม่ได้หรูเลย เราก็เลยได้พัฒนาฝี(ที่)มือการทำอาหารตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตั้งแต่การเลือกซื้อข้าวจ้าวและข้าวเหนียว คือแยกไม่ออกเลยค่ะ ตอนนั้น ก็ศึกษาการทำอาหารเรื่อยมา ทำถูกปากบ้าง จนไม่อร่อยถึงกับต้องทิ้งขยะก็มีค่ะ

เมื่อ2-3เดือนที่แล้ว ทางมหาลัยประกาศให้เรียนOnline เราก็มีเวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น และการสั่งอาหารหรือรับประทานอาหารนอกบ้านก็อันตราย เราจึงเริ่มทำอาหารเอง ทุกวัน และ ทุกมื้อ เราไม่เพียงแต่ทำให้ตัวเราเองนะ ต้องทำให้พี่น้องสองหนุ่มทานอาหาร วันละ3มื้อ ทุกวัน

จากที่เคยผอมๆ ทานข้าวเหนียวมะม่วง มะม่วงชีสเค้ก แพนเค้ก ขนมครก ทะเลผัดฉ่า สปาเกตตี้ คือเรียกง่ายๆว่า น้ำหนักขึ้น 6 กิโลกรัม ภายใน2เดือนค่ะ

แต่ว่าตอนนี้ก็พยายามควบคุมอาหาร และ ออกกำลังกาย เพื่อให้น้ำหนักกลับมาเหมือนเดิมค่ะ ส่วนผสมหรือส่วนประกอบส่วนใหญ่จะค่อนข้างดีต่อสุขภาพนิดหน่อยนะคะ

ไก่เทอริยากิ สูตรง่ายๆทำได้เองที่บ้าน เราเลือกใช้ข้าวกล้องและอกไก่ ไม่ใส่น้ำตาลในส่วนผสม หรือใครจะลองเอาไก่ที่มีหนังมาทำก็ได้ค่ะ เพิ่มความอร่อย 😋

เป็นสูตรแนะนำนะคะ ถ้าส่วนผสมไม่ครบไม่เป็นไรนะคะ

ส่วนสำคัญในการทำไก่เทอริยากินั้น คือการหมักไก่และซอสเทอริยากิค่ะ ส่วนผสมต่างๆ เพื่อนๆสามารถใส่ตามที่ต้องการ และตามรสชาติที่เพื่อนๆชอบนะคะ เลยจะบอกแค่คร่าวๆ

ส่วนผสมการหมักไก่ -กระเทียมสับ -น้ำมันงา(เพิ่มความหอม และความนัว แบบไม่ใส่ผงชูรส) -งาขาว พริกไทย -ซอสถั่วเหลือง -ซอสเทอริยากิ -มิริน (ถ้าอยากให้รสชาติหวานก็ใส่ตัวนี้เลยค่ะ แทนน้ำตาล เราเลือกใช้มิรินแบบ 0 cals ค่ะ)

เวลาหมักไก่เราใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ แค่ไม่เกิน10นาทีเอง แค่ขยุมไก่กับส่วนผสมทั้งหมดให้เข้าเนื้อค่ะ

ทอดไก่ -น้ำมัน -หัวหอมหั่น -ซอสถั่วเหลือง -ซอสเทอริยากิ -น้ำเปล่า (ใส่เพิ่มตอนเวลาไก่ผัดซอสแล้วแห้ง ไม่ใส่เยอะ) -มิริน(ใส่เพิ่มได้ตอนนี้ ถ้าไม่มีไม่ต้องใช้ก็ได้จ้าา)

ทอดไก่ใช้เวลาแค่5-6นาทีเองค่ะ เราใช้น้ำมันมะกอกนะคะ ใช้ไฟกลางนะคะ ตอนกระทะร้อนเราก็ใส่น้ำมันแล้วผัดหัวหอม ใส่ซอสถั่วเหลือง หอมมากค่ะ มาถึงจุดนี้ ผัดพอหอมค่ะ หลังจากนั้นก็เขี่ยหัวหอมไปไว้ข้างๆกระทะ แล้วทำการทอดไก่ค่ะ เราเอาไก่ลงแล้วใส่ซอสเทอริยากิ มิริน ซอสถั่วเหลือง ใส่พอประมาณนะคะ เดี๋ยวจะเค็มไป ชิมรสตามชอบเลยค่ะ ขาดรสอะไรก็ใส่เพิ่ม พอซอสเริ่มแห้งเราก็ใส่น้ำปริมาณเล็กน้อยเป็นระยะๆค่ะ

เราแอบเอาเห็ดลงไปทอดด้วยหล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีผักเลย แต่นอกเฟรม มีผัก 3 สี(แครอท ถั่วเขียว ข้าวโพด)ต้มค่ะ

หลายปีก่อน ตอนที่มีศูนย์การค้าใหม่มาเปิดแถวบ้านพิม (ศูนย์การค้าชื่อ CDC) อยากบอกว่าเป็นอะไรที่พิมตื่นเต้นมากเลยค่ะ

เหตุที่พิมตื่นเต้นก็เพราะว่าสมัยนั้นเนี่ย แถวบ้านพิมหาของกินที่ไม่ใช่อาหารไทยยากมากกกกก ที่มีขายอยู่ก็ไม่ค่อยโดนใจพิมสักเท่าไหร่ แถมต้องใช้เวลาเดินทางกว่าครึ่งชั่วโมงอีก เพราะนั้นพอมีศูนย์การค้าใหม่ที่ห่างจากบ้านพิมแค่ 10 นาที มาเปิดพร้อมกับร้านอาหารใหม่ ๆ มากมาย โดยเฉพาะร้านอาหารที่ไม่ใช่อาหารไทย (เพราะอาหารไทยทำกินเองทุกวันอยู่แล้ว) พิมก็เลยดีใจที่สุดนะคะ _

สมัยนั้นเนี่ย ร้านประจำที่พิมไปกินบ่อยๆ ที่ CDC นอกจากร้านปิ้งย่างอย่างกิวโคคุ กับร้านอาหารเกาหลีบุฟเฟท์ที่ชื่อว่าจังวอนแล้ว ก็จะมีร้านขายยากิโทริ หรือไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นนี่แหละค่ะ ที่ได้เงินจากพิมบ่อยมากๆ อย่างน้อยก็อาทิตย์ละครั้งนะคะ (สลับร้านกันไปน๊าา) ... แต่แล้วอยู่ดี ๆ ผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี วันนึงก็เหมือนสายฟ้าฟาด (แอบเว่อร์เล็กน้อย 555) ร้านขายยากิโทริที่พิมไปกินบ่อย ๆ เค้าปิดตัวไปค่ะ พิมก็ไม่แน่ใจว่าเพราะสาเหตุอะไร แต่เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะราคาที่สูงไปสักนิดนึงกับไก่ย่างไม้เล็ก ๆ ที่เค้าขาย 2 ไม้ 130 บาท เฉลี่ยแล้วก็ไม้ละ 65 แต่เล็กกว่าที่พิมทำให้ดูในวันนี้ คนก็เลยไม่ค่อยนิยมกัน อีกอย่างคือเรื่องของทำเลที่อยู่ในมุมอับ แถมกระจกหน้าร้านยังเป็นสีเข้ม ถ้าไม่เดินผ่านไปหรือเดินไปส่องดี ๆ ก็แทบจะไม่เห็นว่ามีร้านยากิโทริอยู่ตรงนี้นะคะ

และด้วยการปิดตัวของร้านนี่แหละ เป็นสาเหตุทำให้พิมซึ่งช่วงนั้นชอบกินยากิโทริมาก ก็เลยต้องมานั่งหัดทำเองค่ะ ซึ่งพอได้ลองทำเองแล้วก็พบว่าวัตถุดิบไม่เยอะ แถมวิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก (แล้วทำไมขายแพงขนาดน๊านนนนน) ก็เลยทำให้หลัง ๆ พิมไม่เคยไปกินยากิโทริที่ไหนเลย แบบว่าทำซอสเก็บเอาไว้ อยากกินเมื่อไหร่ก็ไปซื้อไก่มาหมักย่าง แป๊บเดียวก็ได้กินนะคะ

เพราะนั้นวันนี้พิมก็เลยจะเอาสูตรยากิโทริที่พิมคิดว่ามันอร่อยมาฝากทุกคนค่ะ เผื่อใครอยากจะลองไปทำกันดู ถ้าใครชอบไก่ ชอบอาหารรสเค็มนำ หวานตามนิดๆ รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่นอนจ้า .... ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยนะคะ

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- เนื้อไก่ส่วนสะโพก 400 กรัม (ชั่งเฉพาะเนื้อ ไม่รวมกระดูกนะจ๊ะ) - โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ - พริกไทยขาวป่น 1/4 ช้อนชา

- ต้นหอมญี่ปุ่น 2 ต้น

- ขิงแก่ทุบพอแตก หั่นเป็นเว่น 3 ชิ้น - เหล้าสาเกสำหรับปรุงอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ - มิริน 2 ช้อนโต๊ะ - โชยุ 5 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 5 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ

** สูตรนี้จะได้ประมาณ 7 ไม้ ตามภาพด้านล่างน๊า

:: วิธีทำ ::

เริ่มแรกมาดูที่เนื้อไก่กันก่อน พิมใช้เป็นเนื้อส่วนสะโพกไก่ เพื่อน ๆ จะซื้อแบบที่เป็นเนื้อล้วนมาแล้ว หรือซื้อแบบยังมีกระดูก แล้วมาเลาะกระดูกออกเองก็ได้นะคะ

พอได้เนื้อไก่มาแล้ว ก็อาจจะล้างน้ำหรือซับด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ ให้สะอาดก็ตามสะดวก แล้วก็หั่นเป็นชิ้นขนาด 1 x 1 นิ้วเอาไว้ค่ะ (พิมหั่นได้ประมาณ 21 ชิ้น)

จากนั้นหมักไก่กับพริกไทยป่น และโชยุตามสัดส่วนที่พิมบอกไว้ด้านบน ประมาณสัก 10-15 นาทีนะคะ

ระหว่างนั้นเราจะมาทำซอสกันค่ะ

หยิบหม้อใบเล็ก ๆ มาใบนึง ใส่ขิง โชยุ มิริน สาเก น้ำตาลทรายไม่ขัดสี น้ำตาลทรายแดงลงไป คนด้วยช้อนให้เข้ากัน ตั้งบนเตา ใช้ไฟอ่อน คนเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลาย แล้วเคี่ยวต่อประมาณสัก 8-10 นาที จนได้ซอสที่เหนียวนิดนึง ก็ปิดไฟเตา แล้วยกลงพักไว้ให้เย็นนะคะ

** เวลาเคี่ยวซอส ให้ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวไปอย่างใจเย็น คนบ้างเป็นระยะ ห้ามใช้ไฟแรงเด็ดขาด จะทำให้น้ำตาลในซอสไหม้ และซอสจะมีรสขม

** โชยุ เรียกอีกอย่างว่า ซีอิ๊วญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนละอย่างกับซีอิ๊วขาวของไทยนะคะ _ เพราะโชยุจะมีชั้นตอนกระบวนการหมัก ส่วนผสมที่ใช้ในการหมักแตกต่างจากซีอิ๊วขาวบ้านเรา ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ

** มิริน คือ เหล้าหวาน เป็นเหล้าสำหรับปรุงอาหาร ทำมาจากข้าวเหนียวที่ผ่านกระบวนการหมักคล้ายๆ ข้าวหมากของบ้านเรา แต่มีความใสและมีปริมาณแอลกฮอล์น้อยมาก นิยมนำไปปรุงอาหารหลายชนิด เช่นโอยาโกะด้ง (ข้าวหน้าไก่ใส่ไข่) ซุปมิโสะ ข้าวซูชิ, ซอสต่างๆ / ถ้าไม่มี ใช้น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะแทน (เฉพาะในสูตรนี้)

** สาเก คือ เหล้าอีกชนิดนึง เป็นเหล้าคนละแบบกับมิริน มีกระบวนการหมักเหมือนเหล้าทั่ว ๆ ไป แต่ไว้ใช้ในการปรุงอาหารโดยเฉพาะ มีแอลกอฮอล์ต่ำมาก เวลาถูกความร้อนแอลกอฮอล์ก็จะระเหยหมด ใส่เพื่อให้ซอสมีความกลมกล่อม ทำให้รสชาติซอสมีมิติ ไม่เค็มหวานแบบด้านๆ นะคะ

ทั้งโชยุ มิริน สาเก หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป โชยุขวดเล็กราคาหลักสิบบาท ส่วนสาเกิ มิริน ขวดเล็กร้อยกว่าบาทค่ะ

ระหว่างรอซอสเย็น เราก็จะมาเตรียมย่างไก่กันนะคะ แต่ก่อนจะไปย่างไก่ เรามาดูวัตถุดิบอีกอย่าง ก็คือ ต้นหอมญี่ปุ่นค่ะ

สำหรับต้นหอมญ๊่ปุ่น หลังจากล้างสะอาดแล้ว ก็ให้เราหั่นไว้เป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้วนะคะ เราใช้เฉพาะส่วนที่เป็นต้นแน่น ๆ ส่วนใบเขียว ๆ ที่อยู่ตรงปลาย ในเมนูนี้เราไม่ได้ใช้ แต่เราเอาไปผัดกับเนื้อสัตว์ต่างๆ (เหมือนผัดผัก) อร่อย หอม และก็หวานแบบไม่ต้องใส่น้ำตาลเลยค่ะ _

ส่วนจำนวนต้นหอมที่เราต้องหั่น ก็ให้ดูว่าไก่เรามีกี่ชิ้นแล้วหารด้วย 3 คูณด้วย 2 ก็จะได้เป็นจำนวนชิ้นของต้นหอมนะคะ สมมติว่าพิมหั่นไก่ได้ 21 ชิ้น หาร 3 ก็จะเท่ากับ 7 แล้วเอาไปคูณด้วย 2 ก็เท่ากับ 14 ... แปลว่าเราต้องหั่นต้นหอมให้ได้ 14 ชิ้นค่ะ แต่ถ้าสมมติว่าจะขาดหรือเกินไปบ้าง ก็ไม่ต้องซีเรียส ไม่เป็นไรนะคะ เราแค่เสียบต้นหอมต่อ 1 ไม้ ให้มากขึ้นหรือน้อยลงสักหน่อยเท่านั้นเองค่ะ

** ต้นหอมญี่ปุ่น หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป โลละ 60 กว่าบาท / ตลาดสดบางที่ก็มี

จากนั้นก็หยิบไม้เสียบลูกชิ้นขนาดยาวประมาณ 1 คืบออกมา จัดการหยิบไก่ที่หมักไว้มาเสียบสลับกับต้นหอมแบบในภาพด้านล่างนี้นะคะ โดยเริ่มจากเสียบไก่ - ต้นหอม - ไก่ - ต้นหอม แล้วก็จบที่ไก่อีกชิ้นนึง เบ็ดเสร็จแล้วเราก็จะได้ประมาณ 7 ไม้ค่ะ แต่ถ้าสมมติว่าต้นหอมหรือไก่ไม่พอ หรือว่าหั่นไว้เยอะเกิน เราก็อาจจะเสียบต้นหอมหรือไก่เพิ่ม เช่น ต้นหอม 3 ไก่ 3 หรือต้นหอม 1 ไก่ 3 อะไรอย่างนี้ก็ได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องเป๊ะเหมือนที่พิมทำก็ได้ค่ะ

ปกติแล้วเมื่อเราเสียบเสร็จ เราก็จะเอาไก่ไปย่างบนเตาถ่านเพื่อให้สุกเน๊าะคะ แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกย่างเตาถ่าน และมีหม้อทอดไร้น้ำมันอยู่แล้ว พิมแนะนำให้ย่างในหม้อทอดไร้น้ำมันเลยค่ะ เพราะนอกจากจะไม่ต้องมาคอยพลิกกลับไก่บ่อยๆ ไม่ต้องมาคอยนั่งระวังว่าถ่านจะลุกเพราะน้ำมันไก่ ไม่ต้องมานั่งคอยเอาขี้เถากลบถ่าน การใช้หม้อทอดไร้น้ำมันย่างไก่ ก็จะทำให้ไก่มีสีสวยและสุกเสมอกันทั่วทุกชิ้น ที่สำคัญคือจะยังมีความชุ่มฉ่ำในเนื้อไก่ กินแล้วไม่รู้สึกว่าเนื้อไก่แห้งด้วยนะคะ

วิธีย่างไก่ด้วยหม้อทอดก็ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ อย่างแรกเลยคือ เอาแปรงซิลิโคนจุ่มลงไปในน้ำมันนิดหน่อย แล้วทาไปทีตัวตะกร้าหม้อทอด เพื่อกันไม่ให้ไก่ติดตะแกรงนะคะ

จากนั้นก็วางไก่ลงไปเลยค่ะ ถ้าหั่นชิ้นประมาณพิม ก็จะย่างได้ทีละประมาณ 4-5 ไม้นะคะ

ตั้งอุณหภูมิที่ 180 องศา เวลา 15 นาที แล้วก็ปล่อยให้หม้อทำงานไปค่ะ

พอครบเวลาก็จะได้ไก่ย่างออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ

ก็ให้เราใช้แปรงอันเดิมจุ่มลงไปในหม้อซอส (ซึ่งตอนนี้เย็นสนิทแล้วและก็จะมีความข้นเหนียวหน่อยๆ) .... ทาลงไปที่ไก่ย่างของเรา แล้วย่างต่ออีก 2-3 นาทีค่ะ พอครบเวลาก็เปิดมาทาซอสอีกครั้ง แล้วก็ย่างต่ออีก 2 นาทีนะคะ (รวมเป็นย่างทั้งหมด 20 นาที)

พอครบเวลาก็หยิบทั้งหมดออกมาใส่จาน (ระวังร้อนนน) ทาด้วยซอสอีกครั้ง แล้วก็เสิร์ฟได้เลยค่า

ซึ่งยากิโทริ หรือไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้รสชาติ รสสัมผัสก็จะออกแนวละมุน ๆ หน่อย คือ ไก่นุ่ม หอม มีรสเค็มหวานๆ .. กินไก่คำ ต้นหอมคำ ฟินนนนเลยค่า

ยังไงถ้าชอบก็ลองไปทำกันดูน๊าาา ถ้าไม่ทานไก่อาจจะใช้เป็นเนื้อสัตว์อย่างอื่นดูก็ได้ เอาที่ชอบเลย แล้วพบกันใหม่เมนูถัดไป สวัสดีค่ะ _

:: เพิ่มเติม ::

ใครกำลังมองหาหม้อทอดไร้น้ำมันแบบที่พิมใช้อยู่ ลองดูตัวนี้นะคะ Summer Magic Oven มีแบบตัวเครื่องสีขาวกับสีดำ เพื่อน ๆ สามารถดูรายละเอียดได้ >> ที่นี่ << และถ้าสนใจ ก็สามารถสั่งซื้อได้ >> ที่นี่ << เลยค่ะ