Asus zenfone 4 selfie pro ด ม ย

Asus Mobile Android Mobile OS Asus Zenfone Selfie Asus Zenfone

Zenfone 4 Selfie pro กับ Zenfone 4 Selfie ต่างกันอย่างไร

- เพิ่ม SD card ได้ไหม - แบตเตอร์รี่ใช้ทนไหม - ถ่ายรูปสวยไหม - รองรับ 4G ไหม

ขอบคุณทุกความคิดเห็นคะ

แก้ไขข้อความเมื่อ

0

1

weiweija

สมาชิกหมายเลข 3152787 ถูกใจ

▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼

แสดงความคิดเห็น

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

สมาชิกหมายเลข 1234115

BananaBoat Lim

สมาชิกหมายเลข 3174186

สมาชิกหมายเลข 2141439

มังกรเปอร์เซีย

Pantip IT News

Ego sum Resurrectio et Vita

สมาชิกหมายเลข 3650339

Gogolico

สมาชิกหมายเลข 6459361

อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ Asus Mobile Android Mobile OS Asus Zenfone Selfie Asus Zenfone

ASUS Zenfone 4 Selfie Pro (ZD552KL) มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD, ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 625 Octa-Core 2.0GHz, GPU Adreno 506, RAM 4GB, ROM 64GB รองรับ microSD สูงสุด 128GB และมาพร้อมกล้องหน้าคู่ 24 ล้านพิกเซล, LED Flash, กล้องตัวที่สอง 8 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, dual-tone LED flash

ภาพที่แสดงเป็นเพียงภาพประกอบ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นโปรดสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้ากับบริษัท-ผู้จำหน่ายทุกครั้งก่อนตัดสินใจ

พอดีช่วงปลายเดือนนี้คิดว่าจะซื้อโทรศัพท์ใหม่สักเครื่องครับ แล้วไปเห็น review ของ asus zenfone 4 selfie (ตัวที่พึ่งออก)

นั่งดูอยู่หลายรีวิวแล้วรู้สึกว่า spec ค่อนข้างโอเค สำหรับผมนะ (พอดีไม่ค่อยรู้เรื่องโทรศัพท์ แต่คิดว่านี่โอเคแล้วน้า) ราคาก็กำลังดี

การใช้งานหลักๆของผมก็มีเล่นเกมบ้าง ถ้าเกมที่หนักๆอาจจะเป็นพวก ROV แล้วก็เล่น social ทั่วไปปกติครับ

เรื่องการถ่ายภาพคิดว่ากล้องหน้าจัดเต็มขนาดนี้เลยไม่น่าจะมีปัญหา

แต่แอบกังวลกล้องหลังว่าชื่อรุ่นมันชื่อ selfie กล้องหลังจะโอหรือเปล่า เพราะผมชอบถ่ายภาพเพื่อนๆเก็บไว้น่ะครับ (เค้าน่าจะเรียกกันว่าภาพบุคคลใช่มั้ย)

กล่องของ Asus Zenfone 4 Selfie Pro เป็นกล่องสีขาวล้วนพร้อมหน้าตาที่เกี่ยวกับตัวเครื่องในรูปแบบภาพการออกแบบตัวเครื่องซึ่งดูเผินๆ หากไม่รู้ชื่อรุ่นคงคิดว่ารุ่นนี้มีกล้องหลังคู่เป็นแน่แท้แต่ความจริงแล้วมันคือกล้องหน้าคู่ ฉะนั้นดีไซน์หน้ากล่องไมได้บ่งบอกอะไรถึงหน้าตาตัวเครื่องเลยแม้แต่น้อยซึ่งก็แปลกดี

สำหรับ Zenfone 4 Edition ด้านข้างกล่องต้องมีคำว่า We love Photo

ด้านหลังบอกสเปคแบบคร่าวๆ พร้อม Serial Number, IMEI

เปิดกล่องมาจะยังไม่เจอตัวเครื่องแต่เจอกับกล่องใส่เคสใส คู่มือ ใบรับประกันและเข็มจิ้มถาดซิม

พอยกกล่องออกจึงจะพบกับตัวเครื่องนอนรอในห่อพลาสติกใส

ยกตัวเครื่องขึ้นมาดูอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องซึ่งเป็นสีขาวทั้งหมดประกอบด้วย

  1. Adapter
  2. สาย Micro USB
  3. หูฟังแบบ in-ears

หูฟังที่แถมเป็นแบบ in-ears พร้อมมีจุกยางให้เปลี่ยนขนาดได้อีก 2 ขุด

Adapter ที่แถมจ่ายไฟ 5V 2A ซึ่งมิใช่แบบ Fast Charging แต่จากสเปคตัวเครื่องระบุว่ารองรับ ซึ่งถือว่าแปลกที่ไม่แถม Adapter Fast Charging มาให้ในกล่องเลย

ตัวเครื่องที่ทางแบรนด์ให้ยืมมาทำรีวิวนั้นเป็นสีทอง (Gold) ซึ่งด้านหน้าตัวเครื่องจะเป็นสีขาวล้อมรอบหน้าจอ

เหนือหน้าจอมีกล้องหน้าคู่อยู่ทางขวาของลำโพงสนทนา

ใต้หน้าจอมีปุ่มสัมผัสสามปุ่มประกอบด้วย Back Home Recent Apps ซึ่งปุ่ม Home เนี่ยจะไม่ใช่ปุ่มกดนะ มันคือปุ่มสัมผัส

ด้านหลังตัวเครื่องเสมือนใช้วัสดุเป็นโลหะเคลือบด้วยสีที่ดูเหมือน Rose Gold มากกว่าสีทองตามข้างกล่อง

กล้องถ่ายรูปด้านหลังถูกจัดวางไว้ตรงกลางขนาบไฟแฟลชทางซ้ายของกล้อง

ด้านล่างมีเพียงเส้นเสาอากาศเท่านั้น

ด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องให้เสียบเข๋มเพื่อดึงถาดซิมแบบ Hybrid ออกมา

ถาดซิมของ Zenfone 4 Selfie Pro เป็นแบบ Hybrid ต้องเลือกใช้งานระหว่าง 2 Sims หรือ 1Sim+Micro SD Card

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มพาวเวอร์และปุ่มเพิ่มลดเสียง งานประกอบแน่นหนาดี กดแล้วไม่ก๊อกแก๊ก

ด้านล่างตัวเครื่องมีชองเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม., ลำโพงตัวเครื่องและช่องเสียบสายชาร์จแบบ Micro USB

ด้วยขนาดตัวเครื่อง 5.5 นิ้วและขอบหน้าจอที่บางมาก ทำให้จับถือใช้งานมือเดียวถนัดกว่าเดิมอีกนิด

ภายในกล่องมีเคสยางใสแถมมาให้เสร็จสรรพเรียกว่าไม่ต้องหาเคสใช้งานกันเลยทีเดียว แต่ฟิล์มกันรอยนี่ยังคงต้องไปหาอยู่นะ

Software

User Interface ของสมาร์ทโฟน Asus จะถูกครอบด้วย Zen UI ซึ่งจะใช้ Launcher และไอคอนที่ทำขึ้นมาเอง ส่วน Launcher นั้นการใช้งานเหมือนเดิมคือมีการแบ่งหน้า Home, App Drawer ไว้ และในส่วนของหน้าแถวแอปพลิเคชั่นสามารถเลือกได้ทั้งสองหน้า

แน่นอนว่าในการตั้งค่าสามารถเลือกขนาดของ App Drawer ได้ว่าหน้านึงจะให้แสดงแอปพลิเคชั่นกี่ตัว เช่น 5:5 รวมถึงสามารถตั้งค่า Unread count badge ทีเ่ป็นการแจ้งเตือนตรงมุมแอปฯ บ่งบอกว่ามีกี่ข้อความบนแอปฯ ดังกล่าวที่ยังมิได้อ่าน

Theme เองก็มีให้เลือกดาวน์โหลดมาเปลียนกันได้หลากหลาย ใครสาวกกงยูนี่คงฟินกันไป

Notification Bar แบ่งเป็นแถบแจ้งเตือนต่างๆ และทางลัดในการเปิดปิดการเชื่อมต่อและการควบคุมเครื่องหลายๆ ส่วน ซึ่งสามารถปรับแก้ไขการวางตำแหน่งตามใจชอบได้

AppLock: ฟีเจอร์ที่เอาไว้ล็อคแอปพลิเคชั่นให้รอดพ้นจากมือผู้ไม่หวังดีซึ่งก่อนจะเข้าใช้งานแอปฯ จะต้องใส่รหัสหรืออาจตั้งเป็นสแกนลายนิ้วมือได้ เผื่อบางทีวางไว้บนโต๊ะแล้วเพื่อนแอบหยิบไปโพสต์เฟสบุ๊คเล่นก็ป้องกันงานเข้าได้ไม่รู้ตัวนะ ฮ่าๆ หรือใครแอบเก็บของลับอะไรไว้ทางนี้ก็ช่วยได้เช่นกัน

Easy mode: อันนี้เป็นเสมือนอีก Launcher นึงเลยที่ทำให้ตัวเครื่องเสมือนฟีเจอร์โฟนเลย ด้วยการแปลงไอคอนให้ใหญ่และตั้งเอาได้ว่าจะเอาแอพใดไว้ตรงไหน เหมาะสำหรับให้ผู้ใหญ่ใช้เพราะเลยจิ้มและปาด ไม่ซับซ้อนดี

Kids Mode: โหมดสำหรับเด็ก อันนี้ตรงตัวหากเปิดใช้ก็จะให้เราทำการตั้งค่าว่าจะให้ใช้งานแอปพลิเคชั่นตัวใดบ้าง รวมถึงสามารถตั้งได้ด้วยว่าขณะใช้โหมดเด็กอยู่จะให้สายเรียกเข้าสามารถโทรหาได้หรือไม่ หรืออาจกำหนดว่าให้เฉพาะรายชื่อที่อนุญาตเท่านั้นก็ได้ แน่นอนเพื่อความปลอดภัยการจะออกจากโหมดนี้จะต้องใส่ PIN หรือ Password ที่ตั้งเอาไว้ด้วย ทำให้หมดห่วงว่าเด็กจะออกจากโหมดดังกล่าวเองได้ นอกจากจะเดาถูกล่ะ

ZenMotion: การใช้การเคลื่อนไหวต่างๆ แทนคำสั่งทั้งหลายในนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้

  • Touch Gesture: มีให้มาด้วยแน่นอนซึ่งเป็นการจับความเคลื่อนไหวต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น หากหน้าจอดับอยู่ เราก็สามารถเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อให้หน้าจอติดขึ้นมาได้ หรือจะเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อปิดหน้าจอก็ทำได้ครับ (แต่ต้องอยู่ที่หน้าโฮมนะ) รวมถึงยังมี Gesture หลายๆ อย่างอีกที่ใช้ ณ ตอนหน้าจอดับโดยการเขียนตัวอักษรอีกดังนี้ – C เพื่อเปิดกล้องถ่ายรูป – W เพื่อเปิดเว็บบราวเซอร์ – S เพื่อเปิดกล้องถ่ายรูป (กล้องหน้า) – e เพื่อเปิดอีเมล – Z เพื่อเปิด Asus Boost – V เพื่อเปิดหน้าโทรออก
  • Motion Gesture: มีแค่สองคำสั่งคือ Flip mute หรือคว่ำหน้าจอให้เสียงเรียกเข้าเงียบและ Hands Up คือเมื่อมีสายเรียกเข้าให้เอาโทรศัพท์มาแนบหูจะเป็นการรับสายทันที
  • One-handed mode: คนมือเล็กอาจใช้งานมือเดียวไม่ค่อยสะดวกจึงได้ใส่ฟีเจอร์ One Hand Mode มาให้ด้วยเพื่อทำการย่อหน้าจอลงมา จะได้ใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้สะดวกมากยิ่งขึ้นครับ

กล้องถ่ายรูป

Zenfone 4 Selfie Pro มีกล้องถ่ายรูปด้านหน้าที่เป็นจุดเด่นมากกว่ากล้องหลัง โดยกล้องหน้าเป็นกล้องคู่ความละเอียด 12 (F1.8) +8 ล้านพิกเซล รองรับการทำหน้าชัดหลังเบลอได้เวลาเซลฟี่ ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.2) พร้อมไฟแฟลช LED มี Auto HDR ทำให้การถ่ายภาพทำได้ง่ายเพราะตัวเครื่องจะเลือกเองว่าภาพไหนต้องใช้งานหรือไม่ใช้งาน HDR นอกจากนี้ยังมีโหมด Pro รองรับการตั้งค่าต่างๆ อัตโนมือเราอีกด้วยซึ่งปรับได้ทั้ง White Balance, ISO, Speed Shutter (ต่ำสุด 32 วินาที), EV และระยะโฟกัส

คุณภาพของภาพถ่ายจากกล้องของรุ่นนี้นับว่าพอใช้ได้ จัดอยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งภาพที่ถ่ายได้จะเป็นเช่นไรลองมาดูกัน ทั้งหมดใช้ Auto Mode ไม่ผ่านการตกแต่งนอกจากย่อขนาดและใส่ลายน้ำเท่านั้น

ในส่วนของ Auto HDR นับว่าทำได้ดีในเรื่องของแสงสีที่เก็บรายละเอียดของส่วนมืดและส่วนสว่างในภาพเอาไว้ได้ โดยอย่างภาพนี้ท้องฟ้าไม่ขาวสว่างหรือหายไป

ลองถ่ายคนกันดู ถ้าแสงพอนี่ยังไงภาพก็สวยสำหรับกล้องสมาร์ทโฟนสมัยนี้ และ Zenfone 4 Selfie Pro ก็ทำได้ดีเช่นกัน

ถ่ายคนแบบย้อนแสงก๋จะเห็นว่า Auto HDR ทำได้ดี เก็บรายละเอียดคนมาครบ (แม้จะดำไปหน่อยก็ตาม) แต่ฉากหลังก็ไม่หายไป

ลองถ่ายอาหารในร้านไฟสีเหลืองดู ถ้าจับมาถ่ายอาหารนี่นับว่าทำได้ดีกับแสงไฟที่มีมากพอ

อย่างภาพนี้แสงไฟน้อยและมีแดดส่องจากทางซ้าย รูปน่ะถ่ายออกมาดูออกว่าอะไรเป็นอะไร แต่รายละเอียดนับว่าเก็บได้ไม่ดีเลยล่ะ

ปิดท้ายภาพจากกล้องหลังด้วยภาพถ่ายกระป๋องโค้กในร้านอาหารแสงน้อยมาก อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้ไม่เน้นกล้องหลัง ภาพก็พอถ่ายออกมาได้ แต่อย่าซูมดูรายละเอียดจะดีืที่สุด

กล้องหน้า

กล้องหน้าของรุ่นนี้สามารถทำภาพแบบชัดตื้นได้ (Portrait Mode) จะได้เบลอฉากข้างหลังทิ้งซึ่งก็ทำได้ดีในระดับนึง แน่นอนว่าแม้จะเปิดการใช้งานโหมดนี้ก็ยังสามารถปรับแต่งความสวยได้ทั้งหน้าเนียน ความสว่างของหน้า ตาโต หน้าเรียว ที่เด็ดกว่าคือเปลี่ยนสีผิวได้ด้วย ฮ่าๆ จะเอาให้ขาวอมชมพูกันก็จัดไปได้ แต่ปรับมากเกินระวังจะไม่เหมือนตัวจริง

ภาพนี้ลองเซลฟี่โดยไม่เปิด Portrait Mode ซึ่งภาพที่ได้ดูเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าและไม่ฟุ้งเพราะซอฟต์แวร์ไม่จำเป็นต้องไปพยายามทำฉากหลังให้เบลอล่ะมั้ง

สรุป: Asus Zenfone 4 Selfie Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มีจุดเด่นหลักคือกล้องหน้าคู่เหมาะกับสายเซลฟี่ที่ปรับได้ทั้งหน้าชัดหลังเบลอ หน้าสวยระดับสิบที่ปรับได้ตั้งแต่หน้าเนียน ตาโต หน้าเรียว สีผิว ทั้งยังปรับความสว่างได้อีกด้วย ส่วนกล้องหลังมีคุณภาพพอใช้งานได้แบบไม่จริงจังมากนัก สามารถถ่ายรูปออกมาดูออกแม้สภาวะแสงน้อย อย่างไรก็ตามตัวเครื่องกลับมีสเปคที่ไม่แรงมากนักเมื่อนึกถึงราคาหมื่นกว่าทั้งยังใช้ชิปเซ็ตที่นับว่าเก่าพอตัวอีกด้วย ฉะนั้นสำหรับใครที่จะนำมาเล่นเกมส์จริงจังคงไม่เหมาะเท่าไหร่นัก แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปก็นับว่าไปได้ไม่ติดปัญหาอะไร ซอฟต์แวร์ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอะไร คงต้องรออัพเดท Android 8.0 Oreo อีกทีว่าจะมีอะไรน่าสนใจขึ้นหรือไมสำหรับแบรนด์นี้

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง