Boost post select ช อเฟสให เห นได ม ย

การทำ Facebook Ads นั้นเราสามารถทำได้สะดวกเป็นอย่างมาก เพราะใช้ได้ทั้งมือถือทั้งคอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์โฆษณาสักชิ้นขึ้นมา สำหรับบนคอมนั้นจะมีลูกเล่นที่หลากหลาย ครบถ้วน มีตัววิเคราะห์หลังจากยิงโฆษณา Facebook ได้ครบกว่ามือถือพอสมควร

แต่ทั้งนี้ด้วยมือถือเป็นสิ่งที่พกพาสะดวก Facebook เลยได้ใส่ Application อย่าง “ตัวจัดการโฆษณา” เอาไว้ให้สำหรับใครที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ ให้สามารถทำโฆษณาได้สะดวกรวดเร็ว และทำได้ทุกที่ทุกเวลาด้วย

“แนะนำหากจะทำโฆษณาแบบจริงจังแล้ว ควรใช้คอมพิวเตอร์ในการทำจะดีกว่า เนื่องจากมีความละเอียด และการกำหนดวัตถุประสงค์โฆษณา Facebook Ads ได้เยอะมากกว่ามือถือพอสมควร”

อ่านเพิ่มเติมฉบับเต็ม : ลงโฆษณา Facebook Ads บน มือถือ VS คอมพิวเตอร์

1.2 ตั้งเป้าหมายว่าจะยิงแอด Facebook ไปเพื่ออะไร?

การตั้งเป้าหมายให้กับธุรกิจเราก่อนที่จะเริ่มยิงแอดนั้น ช่วยให้เราเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว เราต้องการยิงไปเพื่อให้ได้อะไรกันแน่ เพื่อให้เราสามารถเลือกวัตถุประสงค์ตรงกับความต้องการของเรา โดยวัตถุประสงค์โฆษณา Facebook Ads นั้นมีทั้งสิ้น 3 หัวข้อใหญ่ และอีก 11 วัตถุประสงค์ย่อย ในการอัพเดทใหม่ล่าสุดจากเดิมมีวัตถุประสงค์อยู่ 11 ตัว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 6 ตัว จากตรงนี้เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายจากการยิง Facebook Ads ได้

1.3 คำศัพท์น่ารู้สำหรับการยิงแอด Facebook

ในการทำโฆษณา Facebook Ads นั้น เราจำเป็นจะต้องรู้ศัพท์ต่าง ๆ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจข้อมูลในหน้าวิเคราะห์จากการยิงโฆษณาของ Facebook

2. เริ่มสร้างเพจ Facebook

ก่อนที่เราจะทำโฆษณา Facebook Ads เราจะต้องมีเพจเสียก่อน เพราะว่า Facebook ไม่อนุญาตให้ทำการโปรโมทโพสต์หรือเนื้อหาใด ๆ ในเฟสส่วนตัว ดังนั้นแล้วเราจำเป็นจะต้องสร้างเพจขึ้นมาก่อน

การสร้างเพจนั้น ขั้นแรกให้เราเลือกที่คำว่า “เพจ” ซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือตามรูปด้านล่างกรอบสีแดง

แอดได้มีการอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างเพจ Facebook 2022 สร้างอย่างไรให้ขายของได้ เหมาะทั้งกับสายยิงแอดและสายฟรี

เมื่อกดเข้ามาแล้วก็จะเจอกับหน้าดังกล่าว ให้เรากดสร้างเพจได้เลย

3. ตั้งชื่อเพจ อัพโหลดรูปภาพ ใส่ข้อมูลเพจของเรา

หลังจากสร้างเพจ Facebook แล้วให้เรากรอกชื่อเพจ ข้อความทักทายตามกรอบสีแดงให้เรียบร้อย

หลังจากที่กรอกรายละเอียดเรียบร้อยก็ให้เราใส่รูป Cover Photo รวมถึงรูปโลโก้ประจำเพจของเราได้เลย

เมื่อใส่รายละเอียดของเพจรวมถึงรูปภาพเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถกดสร้างเพจ Facebook ได้เลย เมื่อสร้างเสร็จก็จะได้หน้าตาแบบรูปภาพด้านล่างเลย

คอร์สเรียนแต่งรูปง่ายๆด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ได้รูปมือโปร เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

4. รู้จักกับบัญชีโฆษณา

บัญชีโฆษณาช่วยทำให้เกิดความสะดวกเป็นอย่างมากสำหรับใครที่มีเพจให้ดูแลหลายเพจ ช่วยให้เราไม่ต้องเข้าออกบัญชีบ่อย ๆ โดยที่เราสามารถเข้าใช้งานบัญชีแต่ละเพจได้เลยทันที สำหรับใครที่มีหลาย ๆ เพจ จึงควรสร้างบัญชีโฆษณาเอาไว้ ช่วงหลังๆ มาได้มีการอัพเดท Facebook Algorithm บ่อยครั้งมาก การมีบัญชีสำรองหลายๆ ตัวก็ช่วยให้ธุรกิจของเราไม่สะดุดเมื่อเวลาถูกแบนบัญชี Facebook

4.1. ความแตกต่างระหว่างบัญชีส่วนตัวและบัญชีโฆษณา

สำหรับบัญชีส่วนตัวนั้นก็คือเมื่อเราสร้างเพจและเมื่อทำการ Boost Post หรือใช้งาน Facebook Ads Manager บัญชีโฆษณาส่วนตัวก็จะถูกสร้างขึ้นมาทันทีโดยอัตโนมัติ ซึ่งบัญชีโฆษณาส่วนตัวจะสามารถดูแลได้เพียงเพจเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเป็นบัญชีแบบบัญชีธุรกิจ จะสามารถดูแลได้หลายๆ เพจพร้อมกันได้ง่ายมากขึ้น

4.2. เริ่มต้นควรสร้างบัญชีธุรกิจเลยหรือไม่

หากคุณทำเพจแค่เพจเดียวหรือสองเพจ ไม่จำเป็นต้องสมัครบัญชีแบบธุรกิจก็ได้ เพราะอาจจะยังไม่เหมาะมากนัก โดยบัญชีธุรกิจเหมาะกับสายงาน Agency หรือบริษัทที่มีเพจแยกย่อยแต่ละสินค้าเป็นจำนวนมากแบบนั้นจะเหมาะกว่า แรกๆ อาจจะยังไม่ต้องเริ่มสร้าง ใช้บัญชีส่วนตัวไปก่อน

5. ความแตกต่างระหว่าง Boost Post กับ Facebook Ads Manager

การทำ Facebook Ads สามารถทำได้สองวิธีคือ การใช้วิธีการ Boost Post และการทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads Manger ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งคู่ แล้วแต่ว่าใครต้องการทำโฆษณาในรูปแบบไหน และชื่นชอบแบบไหนมากกว่ากัน

5.1. Boost Post คืออะไร?

Boost post การสร้างโฆษณาแบบรวดเร็ว เน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง ๆ เหมาะกับประเภทโฆษณา Brand Awareness เป็นส่วนใหญ่

5.2. Facebook Ads Manager คืออะไร?

Facebook Ads Manager เป็นเครื่องมือที่กำหนดได้ละเอียดครบถ้วน มีวัตถุประสงค์ให้ครบทั้ง 3 ชนิด สามารถดูข้อมูลหลังจากที่เรายิงโฆษณาออกไปได้แล้ว

“ถ้าจะทำโฆษณาแบบจริงจังก็แนะนำให้ใช้ Facebook Ads Manager หากถามว่าใช้ Boost Post ได้หรือไม่นั้น ตอบเลยว่าได้เหมือนกัน แต่แนะนำให้ใช้ตัว Ads Manager จะดีกว่า”

อ่านเพิ่มเติมแบบละเอียดที่ : ความแตกต่างระหว่าง facebook Ads Manager กับ Boost Post คือ

6. สอนวิธีลงโฆษณา Facebook Ads ตั้งแต่ 0 – 100 ใน Facebook Ads Manager (ฉบับละเอียดยิบ)

สำหรับการทำโฆษณา Facebook Ads หลาย ๆ คนก็หวังว่าจะช่วยทำให้เป้าหมายที่คุณตั้งไว้ได้ประสบความสำเร็จ แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยทำโฆษณาและไม่รู้วิธีทำ วันนี้จะสอนการทำโฆษณาบน Facebook ตั้งแต่ 0 – 100 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าต้องยิงอย่างไร

6.1 เตรียมคอนเทนต์ รูปภาพหรือวิดีโอ ทำการโพสต์ลงไปในเพจของเราก่อน

เตรียมคอนเทนต์ รูปภาพหรือวิดีโอ ทำการโพสต์ลงไปในเพจของเราก่อน เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวบ้างก่อน และนอกจากนี้เราสามารถยิงโฆษณา Facebook Ads ด้วยโพสต์ที่เราเคยทำได้ด้วย

6.2 สร้าง Campaign สำหรับการทำ Facebook Ads ขึ้นมา

สำหรับการสร้างแคมเปญนั้นก็เหมือนกับเป็นฐานของการทำโฆษณา โดยพื้นฐานแล้วหากเราต้องการทำโฆษณาเราก็จะต้องเริ่มด้วยแคมเปญเสมอ คล้าย ๆ กับเป็นแกนหลักของการที่เราทำโฆษณาชุดนี้ไปเพื่ออะไร เช่น ลดราคาสินค้า ต้องการข้อมูลลูกค้า เป็นต้น

6.3 เข้าใจกับกลุ่มวัตถุประสงค์ของ Facebook เบื้องต้น

การทำโฆษณาบน Facebook จำเป็นจะต้องเลือกวัตถุประสงค์ในการยิงแอด Facebook ด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ Facebook เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับวัตถุประสงค์เราได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

โดยสามารถอ่านแบบละเอียดได้ที่ : วัตถุประสงค์โฆษณา Facebook Ads

6.4 เลือกวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา

เมื่อเข้าใจวัตถุประสงค์แต่ละตัวที่ Facebook ได้มีมาให้ ก็เลือกวัตถุประสงค์ตามที่เราได้วางเอาไว้ได้เลย เช่น หากเราต้องการยอดไลค์ แชร์ คอมเมนต์โพสต์หรือเพจก็ให้เลือกที่ “การมีส่วนร่วม” หรือหากต้องการให้ลูกค้าแชทเข้ามาก็เลือกที่ “ข้อความ”

6.5 การตั้งชื่อแคมเปญ

ในการตั้งชื่อแคมเปญเราควรที่จะตั้งชื่อแบบที่เราเข้าใจ และสามารถค้นหาได้ง่าย โดยควรตั้งให้รู้เรื่องเข้าใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เราทำโฆษณา เมื่อเราทำโฆษณาอย่างต่อเนื่องแล้ว เราก็สามารถค้นหาโฆษณาตัวดังกล่าวย้อนหลังได้ง่ายจากฟังก์ชัน Search และ Filter ของ Facebook

การตั้งชื่อแคมเปญที่ดีอาจจะต้องทำให้เป็นรูปแบบที่เราเข้าใจ มองเห็นแล้วเรารู้ทันทีว่าโฆษณาตัวนี้คือสินค้าอะไร ยิงไปรูปแบบไหน เพื่อที่จะง่ายต่อการค้นหา ตัวอย่างการตั้งชื่อโฆษณา เช่น วันที่ 01/01/64 – ยาลดน้ำหนัก – Awareness 01 – 05 มกราคม 64 – รองเท้าวิ่งยี่ห้อสบายเท้ารุ่น A01 – ราคา 550 – ข้อความ คนเข้าเว็บไซต์ – ABC.com – มีส่วนร่วมในช่องทาง Facebook, IG อ่านเทคนิคการตั้งชื่อแคมเปญแบบละเอียดที่ : เทคนิคการตั้งชื่อแคมเปญ

ในแคมเปญนั้นก็จะมีหมวดย่อย ๆ ลงมาอีกนั่นก็คือ

  1. 1. แคมเปญ
    1. ชุดโฆษณา
    2. โฆษณา

ให้เราใส่ชื่อต่าง ๆ ลงในแต่ละชุดแคมเปญให้เรียบร้อยและกดถัดไปได้เลย

หลังจากที่ได้ตั้งค่าการสร้างชุดแคมเปญโฆษณาแล้ว Facebook Business Manager ก็จะนำเรามาอีกหน้านึง เมื่อถึงหน้านี้แล้วก็สามารถตั้งค่าตามลำดับและตามความเหมาะสมของแต่ละธุรกิจได้เลย

6.6. ตรวจสอบชุดแคมเปญเบื้องต้น

6.6.1. หมวดหมู่โฆษณาพิเศษ

หากโฆษณาของคุณเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม การเลือกตั้งหรือการเมือง จะต้องกดเปิดหมวดหมู่โฆษณาพิเศษเพื่อให้ทาง Facebook ได้ตรวจสอบโฆษณาดังกล่าวและไม่ผิดหลักการทำโฆษณาของ Facebook

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาพิเศษที่ : //www.facebook.com/business/help/298000447747885

6.6.2. รายละเอียดแคมเปญ

ตรงนี้ Facebook มีตายตัวอยู่แล้วนั้นก็คือการประมูลนั้นเอง โดยระบบของ Facebook จะเป็นผู้ที่กำหนดการมองเห็นของโฆษณานั้น ๆ ให้

6.6.3. วัตถุประสงค์แคมเปญ

หากเปลี่ยนใจจะเปลี่ยนวัตถุประสงค์ ก็สามารถแก้ไขในขั้นตอนนี้ได้เหมือนกัน

​6.6.4. แสดงตัวเลือกเพิ่มเติม

อันนี้เราสามารถกำหนดงบประมาณในการโฆษณาได้ว่าตลอดระยะเวลาแคมเปญทำโฆษณา Facebook Ads เรามีงบไว้ที่เท่าไหร่ อย่างในรูปมีงบ 3,000 บาท ก็ใส่ตามงบที่มีเลย

หลังจากตั้งค่าด้านบนเสร็จตามรูปด้านล่างแล้วให้เลื่อนลงมาด้านล่างก็จะเจอหน้าดังต่อไปนี้ สามารถตั้งตามลำดับต่อไปได้เลย

6.6.5. การทดสอบ A/B

เป็นการทดสอบชุดโฆษณาระหว่าง 2 ชุดโฆษณา สำหรับมือใหม่อาจจะยังไม่ต้องทดสอบ เพราะในนี้มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะพอสมควร เดียว Marketing In Secret จะมาเจาะลึกให้อีกครั้งสำหรับการทำชุดโฆษณาสำหรับทดสอบ A/B Testing

6.6.6. การปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณแคมเปญ

ตรงจุดนี้เราสามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้ชุดโฆษณาใช้เงินต่อวันเป็นจำนวนเท่าไหร่ อย่างของ Marketing In Secret มีงบ 3,000 บาท ต้องการโฆษณาสัก 5 วัน เอา 3,000/5 = 5 – 600 บาท/วัน เผื่อเหลือเผื่อขาด แต่ตรงนี้จะกำหนดหรือไม่ก็ได้ เพราะในหน้าถัดไปเราก็กำหนดได้เช่นกัน

นอกจากนี้หากกดตรง Dropdown ตรง “งบประมาณต่อวัน” ก็จะมีตัวเลือกอีกตัวคือ “งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน” หากเราเลือกเป็นตัวนี้การเพิ่มวงเงินค่าใช้จ่ายของแคมเปญก็จะหายไป อันนี้เราเลือกได้ว่าใช้เป็นแบบไหน ใครที่กลัวเงินไหลมากเกินไป สามารถเลือก “งบประมาณตลอดอายุการใช้งานได้เลย”

6.6.7. กลยุทธ์การประมูลราคาแคมเปญ

ตรงจุดนี้หากเป็นมือใหม่ แนะนำให้ใส่ “ต้นทุนต่ำที่สุด” ไปเลย เพราะเดียว Facebook เค้าจะจัดการงบประมาณของเราให้วิ่งไปหากลุ่มเป้าหมายดีที่สุด ในราคาที่ต่ำที่สุด

6.6.8. การกำหนดเวลาแสดงโฆษณา

ตรงนี้ปล่อยไปเลยให้แสดงตลอดเวลา เพราะเราไม่สามารถแก้ไขได้ หากต้องการตั้งเป็นเวลา เราอาจจะต้องใช้การเปิด – ปิด เอาเอง เมื่อเราตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้กดถัดไปได้เลย

รวมกลุ่มเป้าหมายของสินค้าทุกชนิดไว้ใน E-Book เล่มเดียว ยิงแอดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

7. กำหนดกลุ่มเป้าหมายยิง Facebook Ads

7.1. เข้าสู่หน้าชุดโฆษณา

เมื่อเข้าสู่หน้าโฆษณาแล้ว ก็จะเจอกับหน้าดังกล่าวตามรูปด้านล่าง ให้เราเริ่มตั้งค่า “หน้าชุดโฆษณา” ไปทีละขั้นตอนได้เลย

7.2. กำหนดปลายทางข้อความ

เป็นการเลือกปลายทางของข้อความว่าเราต้องการให้ลูกค้าของเราทักแชททางไหน ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปของเราก็จะเลือกเป็น Messenger อยู่แล้ว หากใครมีร้านค้าบน IG ก็สามารถรวมช่องทางการแชทให้อยู่ใน Messenger ได้เลย

7.3. งบประมาณและกำหนดเวลา

ตรงนี้เราสามารถกำหนดได้ว่าจะปล่อยให้โฆษณาเริ่มต้นวันไหนและสิ้นสุดเมื่อไหร่ ถ้าเราต้องการใส่วันสิ้นสุดให้ติ๊กตรงช่องสี่เหลี่ยม แล้วจะมีชุดวันที่กำหนดวันที่สิ้นสุดมาให้อีกชุดหนึ่ง หรือหากเราไม่ต้องการใส่วันสิ้นสุด ก็สามารถปล่อยให้โฆษณา Facebook Ads วิ่งจนครบกำหนดวงเงินของเราได้

7.4. วงเงินใช้จ่ายของงบโฆษณา

เป็นตัวที่กำหนดวงเงินใช้จ่ายโฆษณาในแต่ละวัน ในช่อง “มูลค่าน้อยสุดต่อวัน” ส่วนตัวจะไม่ค่อยใส่ จะไปเน้นตรงที่ “มูลค่าสูงสุดต่อวัน” ที่เป็นตัวควบคุมการใช้จ่ายงบยิงแอดในแต่ละวันที่เรายิงไป เพื่อไม่ให้เกิดตามที่เรากำหนด อย่างเช่น ไม่อยากให้เกิด 500 บาท ก็ใส่ไป 450 – 500 บาทก็ได้

7.5. กลุ่มเป้าหมาย

ตรงนี้มือใหม่อาจจะกังวลว่าจะยิงไม่ถูกกลุ่ม เลยจะขอแนะนำทริคเล็ก ๆ ส่วนตัวของ Marketing In Secret ให้ภายในเนื้อหานี้ โดยไล่ทีละสเต็ปตั้งแต่ช่องแรกของกลุ่มเป้าหมายเลย

1. กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราเคยทำโฆษณา Facebook Ads ไปแล้ว และมีการบันทึกกลุ่มเป้าหมายไว้ เราสามารถดึงข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเก่ากลับมาใช้ใหม่อีกครั้งได้ แต่สำหรับการยิงครั้งแรก จะไม่มีข้อมูลดังกล่าว ฉะนั้นข้อนี้ข้ามไปเลย

แนะนำบทความน่าสนใจ : วิธีหากลุ่มเป้าหมาย Facebook ให้ได้กลุ่มที่มีคุณภาพมากที่สุด

2. ตำแหน่งที่ตั้งหากเราต้องการยิงแค่ในประเทศที่เราอาศัยอยู่ก็เลือกตามประเทศนั้น ๆ ได้เลย แต่ในที้นี้ขอยกตัวอย่างเป็นประเทศไทย เพราะเราไม่รู้ว่าจังหวัดไหนเป็นลูกค้าเรา ค่อยมาวิเคราะห์อีกครั้งหลังจากทำโฆษณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจากช่องตำแหน่งที่ตั้งก็สามารถเลือกการนำส่งโฆษณาได้อีก 4 รูปแบบ ซึ่งมีรายละเอียดตามรูปภาพเลย

การเลือกตำแหน่งที่ตั้งสามารถใช้ให้เหมาะสมได้เลย สมมติว่า Marketing In Secret ขายเสื้อผ้า เลยต้องการเลือกคนที่อาศัยอยู่ในตำแหน่งนี้ และคนที่เพิ่งมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เห็น

“ตำแหน่งที่ตั้ง สามารถระบุเขตพื้นที่ จังหวัด รวมถึงรหัสไปรษณีย์ลงไปในนี้ได้เหมือนกัน”

3. ในส่วนของอายุนั้น การยิงแอดครั้งแรกอยากให้ปล่อยให้วิ่งหาลูกค้าไปก่อน เพราะเคยมีเคสนึงที่ยิงแอดขายเสื้อผ้าคนวัยทำงานสำหรับคนอายุประมาณ 25 – 40 ปี ปรากฏว่า กลุ่มลูกค้าใหญ่ ๆ กลายเป็นวัย 40+ เสียเป็นส่วนใหญ่ซะงั้น ดังนั้นแล้วเราไม่ต้องกำหนดอายุ แล้วค่อยมาดูอีกทีว่าช่วงอายุเท่าไหร่ที่น่าจะเป็นลูกค้าของเรา ให้ตัวเลขเป็นคนบอกเราจะดีที่สุด

4. ต่อมาเป็นเพศก็จะปล่อยให้ยิงเป็นเพศทั้งหมดเช่นกัน เพราะเราไม่รู้ว่ากลุ่มลูกค้าเราจะเป็นใครกันแน่เมื่อขายบน Facebook อย่างมีเคสนึงเป็นกางเกงในคุณผู้ชาย แต่เมื่อยิงแอด Facebook ออกไปแล้ว ปรากฎว่าผู้หญิงเห็นมากกว่าและเกิดการซื้อมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นอย่าคิดไปเองทั้งหมด ให้คิดคร่าว ๆ ไว้ แล้วลองยิงแอดสัก 2 – 3 ครั้งดู เท่านี้ตัวเลขก็จะเป็นคนบอกคุณเองว่าลูกค้านั้นเป็นใครกันแน่

7.6. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียด

ขั้นนี้หลายคนคงรอคอยกันมานาน ในขั้นนี้จะมีกลุ่มเป้าหมายที่แบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ ๆ คือ “ข้อมูลทางประชากรศาสตร์ ความสนใจ และพฤติกรรม” คร่าว ๆ ให้เราลองวิเคราะห์ว่าลูกค้าเป็นใครโดยเบื้องต้นที่ยกตัวอย่างคือ “ชุดเดรสผู้หญิง” ตัวอย่างการวิเคราะห์ เช่น

“ชุดเดรสผู้หญิง เหมาะกับวัยทำงาน สาว ๆ ออฟฟิศ อายุ 24 – 35 ปี สนใจในแฟชั่น ชอบการแต่งตัว และชอบความสวยงาม”

ดังนั้นจึงได้ลองยิง Facebook เป็นคนที่สนใจ “ชุดเดรสและเสื้อผ้าผู้หญิง” แต่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้กว้างเกินไป ก็เลยบีบให้แคบลงด้วยการที่กลุ่มเป้าหมายต้องชอบ “Eveandboy และ Zara” ซึ่งก็คือนอกจากจะสนใจชุดเดรสแล้ว ก็ต้องชอบหรือถูกใจเกี่ยวกับเสื้อผ้าแบรนด์ซาร่าและถูกใจเครื่องสำอาง Eveandboy ด้วย (Eveandboy เป็นเครื่องสำอางที่ผู้หญิงชื่นชอบอยู่แล้ว จึงคาดว่าอาจจะได้ผลสำหรับการใส่กลุ่มเป้าหมายรวม) แต่จะถูกต้องหรือไม่นั้น ต้องให้ตัวเลขเป็นคนบอกหลังจากการยิงโฆษณา Facebook Ads แล้ว

“Facebook มีกลุ่มเป้าหมายอยู่หลัก 1,000 กลุ่มที่แอบไว้ไม่ได้แสดงให้เห็นตรงช่องแนะนำ ทางเราจึงได้ใช้ เครื่องมือเจาะกลุ่มเป้าหมายของ InterestPRO ที่มีการใช้ API ของ Facebook เข้าไปแอบดูกลุ่มเป้าหมายเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ และนำมาใช้ทำโฆษณา Facebook Ads”

การขยายการกำหนดเป้าหมายโดยละเอียด

อันนี้ส่วนตัวไม่ติ๊กเลือกเพราะจำนวนเงินที่น้อยเกินไป โดยวิเคราะห์จากกลุ่มเป้าหมายก่อนการบีบให้แคบลงมากถึง 27 ล้านคน ซึ่งวงเงิน 3,000 ไม่สามารถนำส่งได้ถึง 27 ล้านคนแน่นอน ดังนั้นแล้วจึงไม่เลือกการปรับปรุงประสิทธิภาพ เมื่อเราตั้งค่าเสร็จก็จะได้หน้าตาประมาณนี้เลย (ถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าให้กลุ่มเป้าหมายเกิน 3 ล้านคน เพราะมันอาจจะส่งได้ใม่ถึงขนาดนั้น และ AI Facebook ที่ทำโฆษณาอาจจะสับสนได้)

หลังจากตั้งค่ากลุ่มเป้ามหมายทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้หน้าตาประมาณนี้เลย

7.7. ภาษาที่เราต้องการส่งโฆษณา

ตรงนี้แล้วแต่เราเลยว่าจะเลือกให้นำส่งโฆษณาให้กับคนที่ใช้ภาษาใด แต่ส่วนตัวแนะนำเป็น “ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ” เนื่องจากว่าคนไทยบางคนก็ยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักบน Facebook อยู่เหมือนกัน ดังนั้นแล้วหากเราเลือกเฉพาะภาษาไทย คนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษบน Facebook ก็จะมองไม่เห็น

เมื่อตั้งค่าด้านบนเสร็จแล้ว ก็ให้เลื่อนลงมาตั้งค่ากันต่อด้านล่างจะเจอในส่วนของ “ตำแหน่งการจัดวาง”

7.8. ตำแหน่งการจัดวางโฆษณา

ตำแหน่งการจัดวางนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ

ตำแหน่งการจัดวางอัตโนมัติ คือ Facebook จะหาตำแหน่งการจัดวางที่เหมาะสมให้เราทั้งใน Facebook, IG, Messenger โดยเลือกตำแหน่งการจัดวางในฟีดข่าว สตอรี่ ข้อความ ในบทความ หรืออื่น ๆ ที่เป็นของ Facebook โดยอัตโนมัติ

ตำแหน่งการจัดวางที่กำหนดเอง คือ เราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้แสดงเฉพาะแพลตฟอร์มไหนบ้างเช่น Facebook, IG, Messenger เป็นต้น รวมถึงกำหนดได้ถึงการจัดวางบนที่ต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มนั้น ๆ

ข้อแนะนำ หากไม่รู้ว่าจะจัดวางตรงไหนถึงจะได้ผลที่สุด ให้เราเลือกการวางแบบอัตโนมัติไปก่อนและค่อยมาทดสอบการจัดวางอีกครั้งหนึ่ง อัพเดทเพิ่มเติมปี 2022 Facebook ได้เปิดให้ยิงแอดขึ้นบนวิดีโอ Facebook Reels ได้แล้ว แอดว่าโอเคมากเลย ใครที่เก่งการทำวิดีโอแนะนำทดลองดูก็เวิร์คนะ

ตรงนี้ขอเลือกเป็น “ตำแหน่งการจัดวางอัตโนมัติ” และส่วนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องเราก็ข้ามไปได้เลย

ถัดไปก็จะเป็นเรื่องการปรับให้เหมาะสมและการแสดงโฆษณา หน้าตาก็จะเป็นแบบในรูปเลย

โดยในรูปเราสามารถเลือกตรงที่ “การตอบกลับ” และจะมี Dropdown มาให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ เราสามารถเลือกได้ให้ตรงกับตามวัตถุประสงค์ของเราเลยว่าเราต้องการให้คนมีส่วนร่วมกับเราในรูปแบบใด เช่น “การคลิกโฆษณา การสนทนาผ่านข้อความ การแสดงโฆษณาให้คนที่สนใจและอยู่ในกลุ่มเป้าหมายของเรา” ตรงนี้ในส่วนตัวจะขอเลือก “ผู้แสดงความสนใจ” เนื่องจากวัตถุประสงค์ของ Marketing In Secret คือต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเห็นมากที่สุด

เมื่อตั้งค่าตรงปุ่มการตอบกลับเสร็จแล้ว ส่วนอื่น ๆ อย่างเช่น การควบคุมต้นทุน และเกณฑ์การเรียกเก็บเงินก็ข้ามไปได้เลย เพราะเราได้กำหนดไปหมดแล้วตั้งแต่ต้น

7.9. การตั้งค่าโฆษณา

ตรงนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกสร้างใหม่ ทำโพสต์ใหม่ หรือใช้โพสต์เดิมที่มีอยู่แล้ว แต่เดียวจะสอนสำหรับการสร้างโฆษณาใหม่ก่อน ส่วนใครที่อยากใช้โพสต์ที่มีอยู่แล้วในการทำโฆษณา ก็เลือกใช้โพสต์ที่มีอยู่ จากนั้นเราก็เลือกโพสต์ที่ต้องการ พอได้แล้วเราก็เหลือแค่เลือกพื้นที่การจัดวางเท่านั้น

ก่อนอื่นให้เราเลือกว่าเราอยากทำโฆษณาแบบไหน มีให้เลือกทั้งภาพเดี่ยว และภาพสไลด์

ตัวอย่างภาพเดี่ยวที่ใช้สำหรับโฆษณา

ตัวอย่างภาพสไลด์ที่ใช้สำหรับโฆษณา

ตรงนี้เราสามารถเพิ่มรูปตรงคำว่า “เพิ่มสื่อ” ตามปกติได้เลย หรือแม้กระทั่งจะนำรูปหลาย ๆ รูปแล้วให้ Facebook ทำเป็นวิดีโอให้ก็ยังได้

เมื่อเราเลือกได้แล้วว่าจะใช้รูปภาพหรือวิดีโอสำหรับการทำโฆษณา ให้เราไปเลือก “เพิ่มสื่อ” และเมื่อเพิ่มเข้ามมาแล้วก็จะมี Preview แสดงผลอยู่ด้านขวามือ แต่ละช่องจะแสดงตรงไหนนั้นสามารถอ่านรายละเอียดด้านล่างและดูรายละเอียดประกอบตามได้เลย

  • ช่อง A จะแสดงตัวอย่างอยู่ตรงหมายเลข 1
  • ช่อง B จะแสดงผลอยู่ตรงหมายเลข 2
  • ช่อง C จะแสดงผลอยู่ตรงหมายเลข 3

7.10. การติดตาม (แนะนำว่ามือใหม่ข้ามไปเลย ยังไม่ต้องใส่)

ในการติดตามนั้น เราสามารถใช้ได้กับโฆษณาที่เป็นวัตถุประสงค์กับ “คอนเวอร์ชั่น” จะเกิดผลดีที่สุด แต่แบบอื่น ๆ ก็สามารถใส่ได้เหมือนกัน โดยการติดตามนั้นแบ่งออกเป็น 3 หมวดย่อย ๆ คือ

เหตุการณ์บนเว็บไซต์ หรือที่เราคุ้นเคยคือ Facebook Pixel นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ของมันก็มีมากมาย ใช้สำหรับเก็บข้อมูลลูกค้าที่กระทำสิ่งใด ๆ บนเว็บไซต์ของเรา เช่น การกดใส่ตระกร้า การชำระค่าสินค้า เป็นต้น

เหตุการณ์ในแอพ คือ หากคุณต้องการให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ก็สามารถทำตามขั้นตอนการตั้งค่าเพื่อเก็บข้อมูลว่ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ทำสิ่งใดบ้างกับโฆษณาแอพพลิเคชั่นของเรา

พารามิเตอร์ URL คือตัวที่ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ สามารถระบุแหล่งที่มาของจำนวนผู้เข้าชมโฆษณาได้ว่ามาจากที่ใด และสามารถแสดงให้เห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคลิกเชื่อมโยงลิงค์ไปยังที่ใดได้บ้าง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์ Facebook : www.facebook.com/business/help/1016122818401732

หลังจากตั้งค่าเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยตามที่คุณต้องการ ก็จะได้ตามแบบข้างล่างเลย

7.11. ตรวจสอบ Preview ของชิ้นงานที่เราจะยิงแอดเฟสบุ๊ค

เมื่อทำครบทุกขั้นตอน อาจจะย้อนเช็ครายละเอียดสักนิด เมื่อถูกต้องตามแบบที่เราต้องการแล้วก็กดเผยแพร่ได้เลย ทีนี้ก็จะเป็นของทาง Facebook แล้วที่จะตรวจสอบข้อมูลโฆษณา Facebook Ads ของเราว่าถูกต้องตามกฎของเค้ารึเปล่าโดยอาจจะใช้เวลา 5 นาที – 1 วันสำหรับการยิงครั้งแรก

หากได้เผยแพร่โฆษณาแล้ว ต้องติดตามดูผลวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด เพื่อที่เราจะนำข้อมูลที่ Facebook ได้มานำมาปรับปรุงโฆษณาหาสูตรของเราเฉพาะ เพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายและชิ้นงานโฆษณาที่ดีที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในการยิงแอด Facebook เหมือนหลาย ๆ คน

สรุป

การทำโฆษณาด้วย Facebook Ads ก็คือการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Facebook ซึ่งช่วยให้ชิ้นงานโฆษณาของเรามองเห็นและสามารถเป็นไปตามที่เราต้องการได้ เช่น ต้องการยอดขาย ต้องการยอดไลค์ แชร์ คอมเมนต์ ก็ต้องทำโฆษณาเพื่อให้เข้าถึงผู้คนมากยิ่งขึ้น การยิงโฆษณาครั้งแรกไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จดังที่หวัง แต่คนที่ประสบความสำเร็จได้นั้น เค้าเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุง ทดลองใหม่จนได้สูตรลับแห่งความสำเร็จเฉพาะตัวเอง ฉะนั้นคุณอย่ารอช้า รีบลงมือทำให้เร็วที่สุด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

สำหรับการยิงแอดเฟสบุ๊คปี 2022 ก็ถือว่ามีความดุเดือดไม่น้อย แล้วแอดจะมาแนะนำเทคนิคเพิ่มเติมให้อีกครั้งหนึ่ง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง