สอบ cu-tep and speaking ม สถานสอบท เช ยงใหม หร อไม

สวัสดีน้องๆ ชาว InterPass ที่มีความฝันอยากเข้ามหาวิทยาลัยท็อปอย่าง จุฬาฯ และธรรมศาสตร์ หลายๆ คนอาจจะจะมีคำถามบ่อยๆ ว่า CU-TEP และ TU-GET นั้นมีความแตกต่างกันรึเปล่า? และน้องๆ ควรจะสอบอันไหนบ้างดีจากทั้ง 2 อันนี้กัน ไปดูกันเลย

ทำความรู้จัก ข้อสอบ CU-TEP และ TU-GET คืออะไร?

เริ่มต้นเลยเราต้องรู้ก่อนว่า 2 ข้อสอบนี้คืออะไร?

  • CU-TEP ย่อมาจาก Chulalongkorn University Test of English Proficiency คือ การทดสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาเหมาะสำหรับระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษาโดยการวัดทักษะด้านการฟังอ่านเขียน
    • คะแนนเต็ม 120 คะแนน ผลการสอบจะเก็บได้ 2 ปีนับจากวันสอบ
    • ผลคะแนนส่วนใหญ่สามารถยื่นเข้าแทบทุกคณะของทางจุฬาได้ในสายอินเตอร์
    • ผลคะแนนสามารถยื่นที่อื่นนอกจากจุฬาได้ด้วย เช่น แพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น แพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ รวมไปถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์อินเตอร์ของ ม.ธรรมศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งคะแนนก็ต่างกันไปแต่ละที่
    • คะแนน CU-TEP สามารถใช้ยื่นต่อในปริญญาโทของจุฬาได้
  • TU-GET ย่อมาจาก Thammasat University General English Test คือ การทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษของผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ ผู้จะทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษเพื่อทราบระดับความสามารถของตนเอง
    • คะแนนเต็ม 1000 คะแนน (PBT) และ 120 คะแนน (CBT) ผลสอบจะเก็บได้ 2 ปีนับจากวันสอบ
    • ผลคะแนนสอบ TU-GET สามารถใช้ยื่นเป็นคะแนนให้กับคณะอินเตอร์ของธรรมศาสตร์ในหลายๆคณะได้และยังใช้ต่อปริญญาโทที่ธรรมศาสตร์ได้เช่นกัน
    • เกณฑ์ในการยื่นเข้าของแต่ละคณะและแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีความแตกต่างกันปตามแต่ละที่ประกาศ

รายละเอียดกับข้อสอบ CU-TEP และ TU-GET

ต่อมาเราจะมาดูกันว่าทั้ง 2 ข้อสอบ แต่ละ Part นั้นจะพูดถึงอะไรบ้าง เพื่อให้น้องๆจะได้เตรียมตัวกับการสอบได้ถูกทั้ง 2 วิชา

  • CU-TEP สำหรับข้อสอบนี้จะมีคำถามทั้งหมด 120 ข้อ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
    • Listening Part มีทั้งหมด 30 ข้อ 30 นาที แบ่งออกได้อีก 3 ส่วนคือ บทสนทนาระหว่างคน 2 คน 15 ข้อ, บทสนทนาการพูดโต้ตอบกัน 3 บท บทละ3 ข้อ, บทการพูดคนเดียว 2 บท บทละ 3ข้อ
      • Remark: สำหรับ Part นี้จะได้ยินบทสนทนากันเพียงครั้งเดียว และ คำถามเพียงครั้งเดียวเช่นกัน เมื่อคำถามจบลงผู้สอบจะต้องตอบคำถามจากตัวเลือกทั้ง 4 ข้อที่ได้ยินไป
    • Reading Part มีทั้งหมด 60 ข้อ 70 นาที แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ Cloze reading เป็นบทความที่มีการเว้นช่อว่าง 15 ช่อง 15 ข้อ 15 คะแนน ผู้สอบต้องเลือกตอบให้ถูกตามเนื้อหาและไวยากรณ์, บทความสั้น บทความ 1 ย่อหน้ามักจะเป็นในรูปแบบจดหมาย ตอบแบบปรนัย 5 ข้อ, บทความยาว บทความประมาณ 1 หน้า A4 มี 4 บทความทั้งหมด 40 ข้อ
      • Remark: ด้วยจำนวน 60 ข้อ 70 นาที ทำให้มีเวลาในการทำแต่ละข้อน้อยจึงต้องฝึกการบริหารเวลาในการทำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
    • Writing Part มีทั้งหมด 30 ข้อ 30 นาที เป็นข้อสอบ Error Identification ที่วัดทักษะด้านไวยากรณ์ของผู้สอบ โดยให้เราสังเกตว่าส่วนใดของประโยคมีการใช้ หลักไวยากรณ์ไม่ถูกต้อง ซึ่งเราต้องมีความรู้เรื่อง grammar* และด้านโครงสร้างประโยค (sentence structure) เป็นอย่างดี เป็นแบบปรนัยเลือกจากตัวเลือก 1 2 3 4 เช่นกัน
    • Speaking (optional) ทั้งหมด 3 ข้อ มีเวลา 10-15 นาที พาร์ทการพูด จะเป็นการเลือกสอบแยกโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ในห้องสอบจะได้ดูภาพและดูวีดีโอเพื่อตอบคำถาม

สำหรับผลคะแนนสอบสอบสามารถตรวจสอบผ่านออนไลน์ได้หลังจากการสอบภายใน 2 สัปดาห์ค่าธรรมเนียมในการสมัครอยู่ที่ 900 บาท หรือ CU-TEP + Speaking ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบอยู่ที่ 2,900 บาท นอกจากนี้ยังมีการสอบแบบ E-Testing ทราบผลสอบได้ทันที ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 2,500 บาท และหากเลือกสอบ CU-TEP + Speaking ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 4,000 บาท หรือน้องจะเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมต่อได้ที่นี่

  • TU-GET สำหรับข้อสอบนี้จะมีคำถามทั้งหมด 100 ข้อ แบ่งออกได้ 3 ส่วน
    • Grammar and Structure Part ข้อสอบพาร์ทนี้จะวัดความรู้เรื่องไวยากรณ์มี 25 ข้อแบบได้อีก 2 ส่วนคือ Error identification เป็นการหาจุดผิดจากประโยค จะมีความคล้ายคลึงกับข้อสอบ writing ของ CU-TEP, Sentence completion เป็นการเติมคำตอบในช่องว่างที่วัดความรู้ทางไวยากรณ์ แล้วเลือกเติมประโยคให้สมบูรณ์
    • Vocabulary Part เป็นพาร์ทวัดความรู้ทางด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 25 ข้อ แบ่งได้อีก 2 ส่วนคือ Fill in the blanks เป็นประโยคมาให้ทีละข้อ และให้เลือกคำศัพท์ที่ถูกต้องทั้งถูกความหมายและถูกบริบทไปเติม ตัวเลือกเป็นปรนัยแบบ 4 ตัวเลือก ความยากของพาร์ทนี้คือ ตัวเลือกที่โจทย์ให้มาจะมีความใกล้เคียงกันมาก อาจจะทำให้ลังเลน้องๆ ต้องเลือกใช้คำให้ถูกบริบทด้วย, Synonyms พารทนี้จะเป็นการวัดคำศัพท์จากโจทย์ที่กำหนดมาหรือไม่ต้องเลือกคำตอบที่ใกล้เคียงมากที่สุด
    • Reading comprehension มีทั้งหมด 50 ข้อ จาก 6 passage และความยาวจะแตกต่างกันในแต่ละ passage ส่วนเรื่องที่ออกมาอาจจะมีหลายเรื่อง และคำถามในพาร์ทนี้จะมีความคล้ายกัน CU-TEP ทั้งการถาม title, main idea, reference, vocabulary รวมถึงการถามแบบลงรายละเอียด

การสอบแบบ Paper test จะเปิดให้สมัครทุกวันที่ 1 – 15 ของเดือนค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 500 บาท แต่ถ้ามีการสมัครเลยไปวันที่ 16 จนถึงวันสอบค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 700 โดยผลสอบจะออกภายใน 3 วันหลังจากการสอบสามารถเช็กได้บนออนไลน์ ถ้าน้องๆอยากดูข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่นี่เลย

  • TU-GET Paper – based (CBT) มีทั้งหมด 4 พาร์ท พาร์ทละ 30 คะแนนรวมทั้งหมด 120 คะแนนได้แก่ Listening, Reading, Writing, Speaking

การสอบแบบ Computer-based ทุกวันที่ 16-30 หรือ 31 ของเดือน ค่าธรรมเนียมสมัครสอบจะอยู่ที่ 1,000 บาท แต่ถ้าสมัครวันที่ 1 – ก่อนวันที่สอบ 3 วัน ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 1,500 บาท โดยผลสอบจะสามารถตรวจสอบผ่านระบบออนไลน์ได้หลังจากทำการสอบ ภายใน 15 วัน จะเปิดให้สมัครสอบออนไลน์ ที่นี่

สรุปสิ่งที่เหมือนและต่างกันของการสอบทั้ง 2 ข้อสอบ

ความเหมือนของข้อสอบ TU-GET และ CU-TEP

  • ความยากของข้อสอบในภาพรวม
  • Grammar Error Identification เป็นการหาจุดผิดจากประโยค จะมีความคล้ายคลึงกับข้อสอบ Writing ของ CU-TEP
  • การตั้งคำถามและบทเนื้อเรื่องที่พูดถึงของ TU-GET มีความคล้ายกับพาร์ท Reading ของ CU-TEP
  • การวัดความรู้การสอบด้านคำศัพท์ผ่าน Context

ความแตกต่างของข้อสอบ TU-GET และ CU-TEP

  • ระยะเวลาในการสอบแตกต่างกัน
  • ข้อสอบ TU-GET ไม่มีพาร์ท Listening
  • พาร์ท Reading ­ของ TU-GET ไม่มี Cloze Test
  • ข้อสอบ CU-TEP ไม่มีพาร์ท Vocabulary
  • พาร์ท Writing ของ CU-TEP เป็นการหา Error อย่างเดียว

เอาละน้องๆคงได้เห็นถึงข้อมูลที่ชัดมากขึ้นแล้วระหว่างความเหมือนหรือต่างกันของข้อสอบ CU-TEP และ TU-GET อย่างที่น้องๆ ได้รับข้อมูลไปทั้ง 2 ข้อสอบนี้มีบางส่วนหรือบางพาร์ทและรูปบบคำถามที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ความยากของข้อสอบทั้งสองค่อนข้างจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่จะมีบางคนที่บอกว่าข้อสอบ CU-TEP ยากกว่า ซึ่งอาจจะเนื่องด้วยเวลาสอบที่น้อยกว่าทำให้น้องๆ มีความรีบเร่งอาจจะเกิดความกดดันตัวเองได้

ซึ่งตอนนี้ทาง InterPass ก็มีคอร์สที่ให้น้องๆเตรียมพร้อมกับการสอบ ทั้งคอร์ส CU-TEP และ TU-GET ทั้งสองในคอร์สเดียวกัน บอกเลยว่าปูพื้นให้ตั้งแต่เริ่มไปจนเนื้อหาเข้มข้นตะลุยโจทย์ และแถมยังมีคอร์สตะลุยโจทย์ที่ยากท้าทายมากขึ้นบอกเลยว่าจัดมาให้น้องแบบจัดเต็มแน่นอน หรือถ้าใครอยากปรึกษาคอร์สเรียนเพิ่มเติม ติดต่อได้ทางช่องทางด้านล่างเลยค่า

CU

CU-TEP Speaking คือ การทดสอบภาษาอังกฤษด้านการพูดโดยเฉพาะ แตกต่างจาก CU-TEP แบบปกติ ตรงที่น้องๆ ต้องพูดเพื่อตอบข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ แทนการเขียนหรือฝนคำตอบนั่นเอง คะแนนสอบเต็ม 150 คะแนน ค่าสมัครสอบครั้งละ 2,900 บาท คะแนนสอบมีอายุ 2 ปี นับจากวันที่สอบ

CU

ศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารจามจุรี 8 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330. Email : cuatc@chula.ac.th. ส่วนงาน หมายเลขติดต่อ

CU

CU-TEP (Chulalongkorn University Test of English Proficiency) คือ การทดสอบวัดระดับความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการศึกษาต่อ ข้อสอบ CU-TEP ออกโดยศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University Academic Testing Center)

การสอบ CU

CU-TEP คือ แบบทดสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษ ที่มีการจำลองแนวคิด และวิธีการทดสอบมาจาก ข้อสอบ TOEFL ดังนั้น ระดับความยาก จึงพอๆกับ TOEFL โดยคำว่า CU-TEP ย่อมาจาก Chulalongkorn University Test of English Proficiency.

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง