Loreal white perfect laser ม ก ต ว

พอดีอยากลองใช้

Loreal white perfect laser serum

แต่เห็นเค้าบอกกันว่าจะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระ ไรพวกนี้ แต่คือหน้าเราไม่มีกระเลยอ่า สิวก้ไม่มี แต่เราอยากใช้ในเรื่องของความ ขาวใส เฉยๆ แล้วหน้าเราก้ค่อนข้างแพ้ง่ายด้วย เลยไม่รู้ว่าตัวนี้ใช้ดีมั้ย ยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยนะ ขอบคุณค่ะ

0

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

Usage tips: แต้มผลิตภัณฑ์ลงบนใบหน้า 5 จุด เริ่มจากแก้มสองข้างของเราก่อน ต่อด้วยหน้าผาก จมูกและคาง ค่อยๆเกลี่ยด้วยทิศทางวงกลมเล็กๆให้ซึมลงสู่ทั่วใบหน้าเป็นประจำทุกเช้า ควรหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา อย่าลืมบริเวณลำคอเพื่อเผยผิวเปล่งประกายมีออร่าได้ทุกโทนผิว

มีใครเคยใช้ L'OREAL White perfect laser บ้างคะ ผลลัพธ์โอเคกันมั๊ย?

0

0

สมาชิกหมายเลข 906621

▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼

แสดงความคิดเห็น

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

ไม่บอกชื่อได้มั้ย

สมาชิกหมายเลข 2023377

สมาชิกหมายเลข 1479025

สมาชิกหมายเลข 1035494

สมาชิกหมายเลข 979747

สมาชิกหมายเลข 1519408

สมาชิกหมายเลข 5010016

สมาชิกหมายเลข 1114457

สมาชิกหมายเลข 1586332

สมาชิกหมายเลข 7650724

อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ ความงาม

Fibroblast เป็นเซลล์ที่อยู่ลึกในผิวชั้นหนังแท้หรือ Dermis มีหน้าที่ในการสังเคราะห์พวก คอลลาเจน อีลาสติน และบรรดา Extracellular Matrix อย่างเช่นไฮยาลูโรนิคแอซิด เพื่อเป็นโครงสร้างของผิวนั้นเอง

ทีนี้มันก็มีการศึกษาที่พบว่า Fibroblast มีความสัมพันธ์กับ Melanocyte หรือเซลล์ที่คอยผลิตเม็ดสีเมลานินซึ่งอยู่บนผิวชั้นนอกหรือ Epidermis ด้วย เพราะว่า Fibroblast จะมีการหลังสาร Dikkopf 1 (DKK1) ที่มีคุณสมบัติสูงมากในการกดการทำงานของเซลล์ Melanocyte

แน่นอนว่าเจ้า Fibroblast มันก็ทำงานลดด้อยถอยลงไปตามกาลเวลาที่อายุมากขึ้น มันก็หลั่งสารที่กดการทำงานของการสร้างเม็ดสีได้น้อยลง เป็นเหตุผลให้ตอนที่คนเรามีอายุมากขึ้นก็จะเกิดจุดด่างดำได้ง่ายขึ้น เป็นกระ ฝ้าขึ้น และกว่าจะหายก็ใช้เวลานานมากขึ้นเช่นกัน (สังเกตง่ายสุดคือรอยสิว ตอนเด็ก ๆ เรารอยแปปเดียวก็จาง แต่พออายุเลย 25 เป็นต้นมา หลายเดือนหรือบางทีเป็นปีกว่าจะหาย)

ว่าแต่ผลิตภัณพ์ตัวนี้จะไปทำงานกับ Fibroblast เพื่อลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างไรล่ะ? เราก็คงต้องมาดูกันที่ส่วนผสมหลักกันต่อ

(Source : Modifying skin pigmentation – approaches through intrinsic biochemistry and exogenous agents. )

L’Oréal : White Perfect Laser Anti-Spot Derm White Essence ชูส่วนผสมหลัก 3 ชนิด ได้แก่ Acety-C กับ Adenosine และ Fibrelastyl แต่เอาจริง ๆ แล้วเขายัดอะไรมาเยอะกว่านั้นพอสมควร ปูเป้จะลำดับตามตัวที่น่าสนใจและหาข้อมูลมาได้ก่อนละกัน

ขอเริ่มต้นที่ส่วนผสมสุดโปรดอย่าง 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ซึ่งถูกพัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย Shiseido ซึ่งหลังจากสิทธิบัตรหมดอายุแล้วส่วนผสมนี้ก็ถูกใช้กันแพร่หลายมากขึ้น ข้อดีของวิตามินซีรูปแบบนี้คือทนต่อการเสื่อมสภาพมากและดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดี วิตามินซีช่วยขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยเสริมการปกป้องผิวได้ จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วปูเป้รู้สึกว่านี่เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่ลองใช้ใช้แล้วรู้สึกเห็นผลที่สุดในแง่ของการลดรอยแดงและจุดด่างดำ

(Source : Quasi-Drugs Developed in Japan for the Prevention or Treatment of Hyperpigmentary Disorders , 3-O-Ethyl Ascorbic Acid: A Stable, Vitamin C-Derived Agent for Skin Whitening)

ส่วนผสมหลักตัวต่อไปที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Niacinamide ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดการส่งผ่านแคปซูลเม็ดสีหรือ Melanosome เข้าไปสู่เซลล์ผิว เป็นการตัดขั้นตอนเกือบสุดท้ายของกระบวนการเกิดจุดด่างดำ และมีคุณสมบัติอื่น ๆที่ดีกับผิวอีกหลายอย่าง นับเป็นวิตามินสารพัดประโยชน์

(Source : The effect of niacinamide on reducing cutaneous pigmentation and suppression of melanosome transfer. )

Adenosine เป็นส่วนผสมที่ใช้กันในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิดซึ่งส่วนใหญ่เคลมถึงคุณสมบัติเสริมการสร้างคอลลาเจนเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย แต่ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้เคลมว่ามีผลต่อการผลิตเมลานินเพื่อป้องกันการเกิดจุดด่างดำในอนาคต ซึ่งก็มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่บอกว่า Adenosine จะมีผลต่อการกระบวนผลิตเม็ดสี โดยในการศึกษากับเซลล์มะเร็งผิวหนัง เมื่อใช้ Adenosine ในความเข้มข้นน้อยจะมีผลในการเพิ่มการผลิตเม็ดสี แต่เมื่อมีความเข้มข้นสูงกลับช่วยลดการผลิตเม็ดสีแทน ทว่าผลของ Adenosine กับการผลิตเมลานินในเซลล์เมลนาโนไซต์ตามปกติ และในระดับของเครื่องสำอางนั้นจะให้ผลอย่างไรนั้นปูเป้ยังไม่มีข้อมูลครับ

(Source : Effect of Adenosine on Melanogenesis in B16 Cells and Zebrafish)

ส่วนผสมหลักอีกหนึ่งชนิดที่ทางแบรนด์ไม่ได้พูดถึงคือ Oxothiazolidinecarboxylic Acid หรือในชื่อทางการค้าว่า Pro-Cysteine ซึ่งจะพบในไลน์ Youth Code Luminize ที่ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ทาง L’Oréal ได้จดสิทธิบัตรว่าสารตัวนี้สามารถใช้เป็นไวทืเทนนิ่งและช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวได้อีกด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาจากแหล่งอื่นมาสนับสนุน

(Source : L-2-oxothiazolidine-4-carboxylic acid derivatives and use thereof for skincare, Method of depigmenting or bleaching mammalian skin using L-2-oxothiazolidine-4-carboxylic acid ) )

Acetyl Trifluoromethylphenyl Valylglycine น่าจะเป็นส่วนผสมที่เรียกว่า Fibrelastyl ซึ่งเคลมว่าช่วยฟื้นบำรุงผิวชั้นนอก ลดสาเหตุของผิวหมองคล้ำ สารตัวนี้เป็นเปปไทด์ชนิดหนึ่งที่ทาง L’Oréal ได้จดสิทธิบัตรเอาไว้และระบุว่ามีคุณสมบัติเป็น Elastase Inhibitors เพื่อช่วยให้ผิวคงความยืดหยุ่นได้นานขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามันช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำได้อย่างไร…

(Source : Anti-ageing composition)

ส่วนผสมหลักตัวสุดท้ายคือ Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid หรือ HEPES ซึ่งจากเอกสารการจดสิทธิบัตรของ L’Oréal ระบุว่า HEPES จะไปเสริมการทำงานของ Protease ที่คล้ายกับเอนไซม์ Trypsin ซึ่งช่วยสลาย Desmosome ที่เป็นเสมือนกาวยึดเกาะเซลล์ผิวเข้าไว้ด้วยกัน จึงช่วยเสริมการผลัดผิวตามธรรมชาติ

(Source : Aminosulfonic acid compounds for promoting desquamation of the skin.)

โดยสรุปแล้วในแง่ของการทำงานของสาร Actives นั้น จะใช้วิตามินซีในการช่วยต้านอนุมูลอิสระเพื่อปกป้องผิว และทำงานคู่กับ Adenosine และ Pro-Cysteine ในการลดการผลิตเมลานิน เพื่อช่วยเรื่องจุดด่างดำ ส่วน Niacinamide จะช่วยลดการส่งเม็ดสีไปยังเซลล์ผิว ในขณะที่ HEPES จะช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำให้หลุดออกไป แต่มันเกี่ยวอะไรกับ Fibroblast บ้างล่ะนั่น?

Ingredients : Aqua/Water, Glycerin, Alcohol, Dipropylene Glycol, Butylene Glycol, PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin, Niacinamide, Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid, Bis-PEG-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, 3-O-Ethyl Ascorbic Acid, Isononyl Isononanoate, Sodium Citrate, Sodium Hyaluronate, Adenosine, Ammonium Polyacryldimethyltauramide/Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate, Disodium EDTA, Hydrogenated Lecithin, Citric Acid, Acetyl Trifluoromethylphenyl Valylglycine, Xanthan Gum, Oxothiazolidinecarboxylic Acid, Tocopheryl Acetate, Salicylic Acid, Phenoxyethanol, Linalool, Geraniol, Limonene, Citronellol, Butylphenyl Methylpropional, Hexyl Cinnamal, Benzyl Alcohol, Parfum/Fragrance.

เนื้อเอสเซนส์มีลักษณะเป็นเจลหยุ่น ๆ ค่อนข้างใส มีความขุ่นเพียงเล็กน้อย แม้จะมีแอลกอฮอล์เป็นลำดับที่ 3 แต่มีปริมาณของ Glycerin ที่มากกว่า กับ PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin และ Sodium Hyaluronate ช่วยชดเชยความชุ่มชื้น เนื้อผลิตภัณพ์เกลี่ยได้ง่าย แห้งไวปานกลาง มีการเคลือบผิวเพียงบาง ๆ ไม่ดูมันวาวหรือเป็นฟิลม์หนึบ ๆ มีกลิ่นน้ำหอมปานกลางตามสไตล์ของแบรนด์นี้

จากการใช้ส่วนตัวรู้สึกว่าสามารถนำมาใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่ใช้อยู่ปกติได้โดยไม่ก่อปัญหาอะไร ผิวในช่วงนี้ค่อนข้างโอเคอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาเรื่องจุดด่างดำเท่าไหร่ จึงอาจจะไม่เห็นผลในแง่ของการลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างชัดเจนนัก แต่ว่าช่วงนี้ปูเป้จะออกกำลังกายช่วงบ่ายในฟิตเนสที่มีกระจกใสรอบด้าน ผิวก็ยังคงดูไม่หมองคล้ำไปกว่าเดิมซึ่งก็ถือว่าโอเคกับผลที่ได้ สิวไม่ได้ขึ้นเพิ่ม และไมไ่ด้มีการระคายเคือง ผิวไม่แห้ง (ติดตรงแค่ไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมเท่าไหร่)

โดยภาพรวมแล้ว L’Oréal : White Perfect Laser Anti-Spot Derm White Essence เป็นอีกทางเลือกของผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่ใช้ส่วนผสมและเทคโนโลยีที่แชร์มาจากแบรนด์ขึ้นเคานืเตอร์ราคาสูง ๆ มาอยู่ในราคาที่เราจับต้องได้ง่ายขึ้น

ส่วนผสมหลักอย่าง Acetyl-C กับ Niacinamide ก็คาดหวังผลได้ในเรื่องของการลดเลือนจุดด่างดำ (และส่วนตัวก็ชอบส่วนผสมสองตัวนี้ด้วย) ส่วนผสมตัวอื่น ๆ นั้นเป็นสารที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ L’Oréal เอง ซึ่งยังหาข้อมูลจากแหล่งอื่นมาสนับสนุนได้ไม่มากนัก แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายแบบนี้จะลองใช้ดูก็คงไม่เสียหาย

เนื้อผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เว้นแต่ผู้ที่กังวลเรื่องส่วนผสมของน้ำหอมและ Fragrance Component ก็คงต้องทดสอบอาการแพ้ก่อนทดลองใช้

ประเด็นเรื่องของ Fibroblast ที่มีผลต่อการเกิดจุดด่างดำนั้นน่าสนใจ แต่เนื่องจากด้วยกฏหมายของเครื่องสำอางนั้น แบรนด์ไม่สามารถเคลมหรือบอกได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเขาจะไปทำงานลึกถึงผิวชั้นในเพื่อช่วยให้ Fibroblast กลับมาแข็งแรงเพื่อช่วยจัดการลดจุดด่างดำที่ต้นกำเนิดได้อยู่ดี ส่วนตัวจึงมองว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดประเด็นของ Fibroblast มาตั้งแต่แรกแต่ไม่สามารถเคลมได้เลยว่าผลิตภัณฑ์มีการทำงานกับ Fibroblast อย่างไรบ้าง

สิ่งหนึ่งที่อยากเตือนเอาไว้เพราะหลายคนยังมีความเข้าใจผิดว่าถ้าแค่ไม่โดนแสงแดดหรืออยู่กลางแจ้งก็จะไม่ต้องกลัวเรื่องจุดด่างดำ แต่แม้เราจะอยู่ในที่ร่มอย่างในตึกสำนักงานหรือในห้องที่บ้าน รังสี UVA ที่ก่อให้เกิดจุดด่างดำก็สามารถแทรกผ่านเข้ามาทางกระจก นอกจากนี้ความเครียด ฮอร์โมน รวมถึงการอักเสบก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีได้เหมือนกันนะจ๊ะ ยังไงก็ดูแลตัวเองกันให้ดี ๆ ด้วย

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง