Oblivion-2023-อ บ ต การณ โลกล ม

ไม่ว่าคุณจะรู้จัก ไกรมส์ (Grimes) จากเพลงอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปใสๆ อย่าง “Oblivion” หรือเพลงเฮฟวีอิเล็กทรอนิกส์กลิ่นอายอนิเมะอย่าง” Kill V. Maim” สิ่งหนึ่งที่คุณต้องรู้จักเธอเป็นอย่างดีก็คือความแคมป์ (Camp) ที่ไม่มีอะไรสามารถอธิบายความหมายนี้ไปได้มากกว่าภาพลักษณ์ หรือ Alter Ego ที่เธอสร้างขึ้น และแนวเพลงในอัลบั้มใหม่ชุดที่ 5 นี้ ก็ยิ่งตอกย้ำความแคมป์และความไกรมส์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีกใน Miss Anthropocene

นับตั้งแต่เธอเปิดตัวว่ากำลังคบหาดูใจกับมหาเศรษฐีเจ้าพ่อเทคโนโลยีอย่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) หลังจากทั้งคู่เกิดการสปาร์กและจีบกันผ่านทวิตเตอร์ ด้วยมุกและแนวคิดแบบชาวเนิร์ดสายเทคฯ ที่คนอย่างเราๆ อาจจะไม่เก็ต แต่เขาเก็ตกันสองคน ผลสุดท้ายก็เลยเกิดเป็นการรวมพลังของสองขั้วที่ดูเหมือนจะแตกต่างกัน แต่กลับเข้ากันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งการสนับสนุนแนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์ซึ่งกันและกัน ชุดออกงาน Met Gala ที่มัสก์ออกแบบให้ไกรมส์ หรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่เธอกำลังตั้งท้องลูกของทั้งคู่อยู่ การประกาศข่าวจึงต้องไม่ธรรมดาตามสไตล์ของเธอ ที่ยิ่งตอกย้ำว่าเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วเหมือนการผลักดันซึ่งกันและกันไปสู่โลกในอุดมคติ โลกใหม่ที่ไม่ไกลเกินเอื้อม

เหล่านี้สอดคล้องกับแนวคิด Anthropocene โดยพอล ครูตเซน (Paul Crutzen) ที่ว่าด้วยโลกยุคใหม่โดยอ้างอิงจากหลักธรณีวิทยาอย่างไม่เป็นทางการ ที่เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่ปี 2000 และจะลากยาวไปไม่รู้อีกกี่ปีข้างหน้า สอดคล้องกับวันพิพากษาโลกตามคัมภีร์ไบเบิล และแนวคิดสังคมแบบ Dystopia อาจจะเป็นเหมือน 2049 ในเรื่อง Blade Runner หรือ 2077 ในเกม Cyberpunk ที่เตรียมจะปล่อยปลายปีนี้ หรือแม้กระทั่งปี 2019 ในสุดยอดแอนิเมชั่นญี่ปุ่นแนวไซเบอร์พังก์จากยุค 80's อย่าง Akira ที่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า Anthropocene นั้นเป็นเช่นไร และเมื่อคุณเห็นภาพแล้ว ไกรมส์ก็เลยขอทำหน้าที่เป็นตัวช่วยเพิ่มอรรถรสทางการได้ยินให้ภาพรวมชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก

ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เธอจะทำให้เราอินไปกับแนวความคิดนี้ เพราะทั้งจากการใช้ชีวิตจริงๆ ของเธอ การแต่งตัว หรือทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงผลงานที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้เราเชื่อว่าถ้าเธอตั้งใจจะทำเพลงเพื่อเป็นซาวนด์แทร็ก หรือแม้กระทั่งเพลงชาติเพื่อโลกใบใหม่ เธอก็สามารถทำมันได้ไม่ยาก และเธอก็ทำมันสำเร็จแล้วด้วยในอัลบั้มใหม่นี้

Miss Anthropocene เลยมาพร้อมกับแนวความคิดและบรรยากาศของโลกยุคใหม่หลังวันพิพากษา พร้อมเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความมุ่งหวัง ท่ามกลางความโศกเศร้าและมืดหม่นในชีวิต Miss Anthropocene จึงเป็นเสมือนอีกตัวตนหนึ่งของเธอ หรือ Alter Ego กับความเป็นเจ้าแม่มานุษยรูปนิยม “Anthropomorphic Goddess” ตามที่เธอกล่าวถึงเบื้องหลังของอัลบั้มนี้ ที่สรุปง่ายๆ ว่าเป็นการนำความเป็นมนุษย์ไปใส่ไว้ในสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ เป็นการรวมทั้งความเชื่อโบราณและหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ฟังแล้วอาจจะงง แต่เมื่อคุณเห็นภาพของเธอขณะนั่งอยู่บนบัลลังก์ของ Akira ในมิวสิกวิดีโอเพลง “Delete Forever” คุณจะเห็นภาพสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อในทันที พร้อมกับอีก 11 เพลง และ 4 รีมิกซ์ในอัลบั้มนี้ ที่เปี่ยมไปด้วยเอเนอร์จีอันมากล้นจนคุณสัมผัสมันได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง หรือถ้าไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งต่อๆ ไปที่คุณหยิบมาฟัง รู้ตัวอีกทีคุณก็ตกหลุมรักเข้าอย่างจังเมื่อคุณเปิดใจและสัมผัสได้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในผลงานของเจ้าแม่ผู้จุติขึ้นมาหลังการล่มสลายของโลกมนุษย์ปัจจุบัน

“Delete Forever” คือซิงเกิลแรกอย่างเป็นทางการของอัลบั้มนี้ ที่เปิดมาด้วยเครื่องดีดกลิ่นอายคันทรี แต่ก็ตบด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สังเคราะห์แปลกหูและติดหูในเวลาเดียวกัน จนมีการกล่าวเรียกว่าเป็นดนตรีแนว Space Country ที่ไม่น่าจะมีใครเคยทำมาก่อน ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่าเพลงอมตะตลอดกาลอย่าง “Wonderwall” คือแรงบันดาลใจในการทำเพลงนี้ “ตอนที่ฉันเขียนเพลงนี้ ฉันพยายามจะให้มันเหมือนกับแพตซี คลิน (Patsy Cline) เพราะว่าฉันพยายามให้มันเป็นเพลงคันทรี แต่สุดท้ายแล้วมันกลับให้อารมณ์และความรู้สึกแบบ “Wonderwall” แทน มีเหตุผลอยู่แล้วว่าทำไมเพลงนั้นถึงได้ดังขนาดนั้น เพราะมันคือตัวเปลี่ยนแปลงและกำหนดแนวเพลงขึ้นมาใหม่ด้วยตัวของมันเอง” เธอให้สัมภาษณ์กับเซน โลฟ์ (Zane Lowe) นอกจากนี้แล้วการเสียชีวิตของแร็ปเปอร์ ลิล พีป (Lil Peep) จากการใช้ยาเกินขนาดเมื่อปี 2017 ก็คืออีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำคัญ เพราะเธอเขียนเพลงนี้ในคืนที่เห็นข่าวการเสียชีวิตของเขา ที่ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเศร้าและส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอ ทั้งในฐานะแฟนเพลงของเขา และการสูญเสียคนรอบตัวในชีวิตของเธอจากสาเหตุเดียวกัน

สิ่งที่ทำให้อัลบั้มนี้โดดเด่นจนนับว่าเป็นอัลบั้มที่มีความไกรมส์แบบไม่สามารถจะเป็นไกรมส์ได้มากกว่านี้อีกแล้ว ก็คือการเล่นแร่แปรธาตุของการทำเพลง การหยิบเอาสิ่งที่สร้างชื่อให้เธอ การซ่อนความหมาย ซ่อนแนวดนตรี ที่ซ่อนซึ่งกันและกันอยู่อีกชั้นหนึ่งก่อนจะเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้เป็นครั้งแรก เพราะถึงแม้ว่าในอัลบั้มนี้ดนตรีจะมีความหนักหน่วงและดาร์กกว่าอัลบั้มก่อนๆ ทั้งความเป็น Nu-Metal ใน “We Appreciate Power” ที่ความดาร์กได้แพร่กระจายไปสู่ “Darkseid”, ความกอทิกใน “My Name Is Dark” หรือความ Futuristic Rave อย่างหนักหน่วงใน “4ÆM” (ที่เพลงนี้ยังเป็นเพลงประกอบเกม Cyberpunk 2077 อีกด้วย)

แม้แต่เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอที่มีความหวานความกระซิบอย่างแผ่วเบา ที่ไม่ว่าจะถูกหยิบมาใส่ในเพลงดาร์กๆ แบบข้างบน หรือความบัลลาดใน “New Gods” และ “Before the fever” ไปจนถึงกลิ่นอายความบับเบิลป๊อปในเพลง “You’ll miss me when i’m gone” ก็ล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงความเข้ากันอย่างประหลาดของสองสิ่งต่างขั้วที่มีแต่เธอเท่านั้นที่ทำได้

นับตั้งแต่ความสำเร็จของเธอจากอัลบั้ม Visions (2012) และตามมาด้วย Art Angels (2015) ที่ยิ่งตอกย้ำตำแหน่งเจ้าแม่ความแปลก ความเปรี้ยว และมักจะไม่เคยทำให้เราในฐานะแฟนตัวยงของเธอผิดหวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ถ้าจะบอกว่าอัลบั้มนี้คืออัลบั้มที่ดีที่สุดที่เธอเคยทำมา ก็คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เพราะมันคือการฝังอดีตและมุ่งสู่ตัวตนใหม่ในเวอร์ชั่นอัปเกรดที่ไฉไลกว่าเดิม “IDORU” ที่มาจากคำญี่ปุ่นที่แปลว่า Idol ที่เธอน่าจะตั้งใจให้เพลงนี้เป็นอนุสรณ์แก่ผลงานเก่าๆ ของเธอที่ล้วนแต่ช่วยกันเสริมช่วยกันสร้างจนถือกำเนิดเป็นไกรมส์คนใหม่ เราจึงได้กลิ่นอายของความเป็น “Genesis” จากอัลบั้ม Visions เสริมด้วย “California” จาก Art Angels ออกมาเป็นเพลงแนว Folktronica พร้อมกลิ่นอายของสังคม Utopia ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือและพลังของเธอบนโลกใบใหม่นี้ ที่พร้อมจะพาคุณออกเดินทางไปสัมผัสโดยที่ไม่ต้องง้อยานอวกาศ Space X เพราะเธออาจจะครองตั๋วชั้นวีไอพีจนไม่เหลือให้คุณไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Recommended Tracks: “Delete Forever” คือแนวเพลงที่แหวกตลาดที่สุดแล้วก็ว่าได้ในขณะนี้ กับการหยิบเอาความเป็นคันทรีมาผสมกับความเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงก็อาจจะไม่ได้ฟังดูน่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก และสำหรับคนที่คุ้นเคยกับงานของเธอมาตลอดก็อาจจะเกิดความรู้สึกถึงความเบาและไม่ใช่ไกรมส์ที่เรารู้จัก แต่เมื่อหยิบมาฟังหลายๆ รอบคุณจะรับรู้ได้ว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของเธอ กับการมองชีวิตด้วยมุมมองที่ปลงและเรียบง่ายท่ามกลางความหวือหวาในห้วงความคิดของเธอ จนเกิดเป็นเพลงแนว Space Country ที่ติดหู แถมมิวสิกวิดีโอก็คือสิ่งที่ควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่ง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง