Outlook 2023 for macbook เพ ม user ไม ได

ในปี 2020 ทาง Apple เปิดตัว Mac มาหลายรุ่นมาก ๆ เช่น MacBook Air 2020, MacBook Pro 13" 2020, Mac รุ่นที่ใช้ชิป M1 จำนวน 3 รุ่น ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานหลายคนสนใจที่จะซื้อหา Mac ไปใช้งานมากยิ่งขึ้น วันนี้ทีมงาน iMoD รวบรวมแอปที่น่าใช้มาแนะนำให้ชม เผื่อว่าใครสนใจจะได้ดาวน์โหลดไว้หาใช้งานกันครับ

รายชื่อแอปบนเครื่อง Mac ที่แนะนำให้เลือกดาวน์โหลดและติดตั้งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน มี 40 กว่ารายการ ดังนี้

  1. Safari (ฟรี มาพร้อม macOS) - เอาไว้เปิดท่องเว็บใช้บ่อยสุดชอบที่โหลดเร็ว จำรหัสผ่านพ่วงกับ iCloud Keychain ได้ กิน RAM น้อย มาพร้อมความเป็นส่วนตัวสูงและล่าสุดใน macOS Big Sur นั้น Safari รองรับการเล่นวิดีโอจาก YouTube ความละเอียด 4K แล้ว
  2. Google Chrome (ฟรี) - เปิดท่องเว็บเหมือน Safari แต่เน้นใช้งานกับฝั่ง Google ชอบที่เพิ่ม User แยกบัญชีได้หลายคน, ลง Extension อื่นๆ เพิ่มได้เยอะ, ใช้งานกับ Google Drive และ Google Service ได้เต็มประสิทธิภาพ แน่นอนว่าดูวิดีโอ 4K บน YouTube ชัดแจ๋ว โหลดเลยแนะนำ
  3. Clean My Mac X - เป็นเครื่องมือทำความสะอาดเครื่อง Mac กำจัดขยะต่างๆ ได้ง่าย ทำให้พื้นที่ในเครื่องเพิ่มขึ้น และมีแนะนำให้ปิด Service ที่ไม่ได้ใช้งาน ช่วยให้การใช้งาน Mac ราบรื่นมากขึ้น แนะนำว่าต้องมีติดเครื่องจริงๆ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากใช้งานฟีเจอร์เต็ม)
  4. Keynote (ฟรี มาพร้อม macOS) - ถ้าหากคุณเคยใช้งาน Microsoft PowerPoint ในการสร้างไฟล์นำเสนอผลงานหละก็ แอปนี้ก็เหมือนกัน จำว่ามันคือ PowerPoint จากฝั่ง Apple แล้วกัน ความดีงามของแอนปนี้มีเยอะมาก มีเทมเพลตให้เลือกใช้งานเยอะแถมการใช้งานก็สุดแสนจะง่าย หัดใช้งานเอาไว้รับรองจะหลงรัก อีกฟีเจอร์ที่เด็ดคือเราสามารถแก้ไขไฟล์นำเสนอพร้อมกันหลายๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน
  5. Numbers (ฟรี มาพร้อม macOS) - แอปตารางเหมือนกับ Microsoft Excel ใส่ตัวเลข คำนวณข้อมูล การสร้างกราฟจากตัวเลขข้อมูลต่างๆ ทำได้เยี่ยมเช่นกัน สรรพคุณถ้าให้พูดนั้นก็คงบรรยายไม่หมดแต่บอกได้เลยว่าแอปนี้ของดีมากๆ และเจ๋งที่ Apple แถมมาให้ด้วยเลยไม่ต้องซื้อเพิ่มเหมือน Microsoft Office บน Windows
  6. Pages (ฟรี มาพร้อม macOS) - สำหรับงานพิมพ์เอกสาร Document ต่างๆ ที่เหมือนกับ Microsoft Word ใช้งานง่ายดาย มีเทมเพลตให้เลือก ใช้งานร่วมกับ iPhone iPad ซิงก์ไฟล์ผ่าน iCloud ก็สบายๆ แอปฟรีที่ Apple แถมมาให้พร้อม macOS ไปหัดลองใช้กันได้เลย
  7. Preview (ฟรี มาพร้อม macOS) - แอปสำหรับเปิดไฟล์อย่างรูปภาพ PDF จุดเด่นคือสามารถแก้ไขไฟล์เหล่านั้นได้ เช่น เพิ่ม annotation, ปรับขนาดรูปภาพ, ปรับแสง, การใส่คอมเมนต์ลงไป, การเพิ่มหรือลบหน้าไฟล์ PDF ฯลฯ เห็นว่าเป็นแอปพื้นฐานแต่บอกเลยว่าความสามารถเหลือล้นจริงๆ
  8. Magnet (35 บาท) - แอปสำหรัปจัดหน้าต่างแอปบน Mac ให้แสดงผลบนจอใหญ่แบบเป็นสัดส่วนแบบ Snap Assist ของ Windows แอปที่ต้องมี ใช้งานง่ายและสะดวกมาก ชมการใช้งานที่นี่
  9. LINE (ฟรี) - ใช้งาน LINE Chat บน PC ทั้งแชทกลุ่มทำงาน กลุ่มเพื่อน กลุ่มครอบครัวพิมพ์ตอบได้รัวๆ ไม่ต้องง้อ iPhone ตอนนั่งเล่นหน้าคอมฯ
  10. Atom (ฟรี) - แอป text editor สำหรับแก้ไขไฟล์ text และหรับเหล่านักพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ แอปนี้ดีที่ใช้งานได้ฟรี ลูกเล่นมีเยอะมากใครสายงาน Programer ต้องห้ามพลาด
  11. iMovie (ฟรี มาพร้อม macOS) - แอปตัดต่อวิดีโอสำหรับมือใหม่ มือสมัครเล่น แม้กระทั่งเด็กประถมก็สามารถใช้งานได้ คุณจะถ่ายรูปหรือวิดีโอจาก iPhone แล้วนำมาตัดต่อเพิ่มเติม ใส่เพลง ใส่ตัวหนังสือหรือจะสร้างหนังตัวอย่างง่ายๆ ก็ทำได้เช่นกัน แอปนี้ของดีที่บอกเลยว่าผู้ใช้ Mac มือใหม่ไม่ต้องไปหาแอปอื่นมาแทนที่ ถ้าใช้แอปนี้เป็นรับรองเลยว่า "งานดี"
  12. Final Cut Pro X (10,500 บาท) - แอปตัดต่อไฟล์วิดีโอขั้นสูงกว่า iMovie เวอร์ชันนี้หากใครต้องการตัดต่อวิดีโอเชิงลึกและใช้งานแสนงานพร้อมด้วย Plugin ต่างๆ ให้ใช้งานกันเยอะแยะแนะนำเลยว่าคุ้มใช้งานง่ายมาก
  13. mInstaller (ฟรี) - ปลั๊กอินเสริมสำหรับแอป Final Cut Pro X มีเทลมเพลตต่างๆ ในการตัดต่อวิดีโอให้เลือกมากมายไม่ว่าจะใส่ Text, ใส่ Effect หรือแม้กระทั่ง LUT สำหรับปรับโทนสีให้กับวิดีโอก็ทำได้อย่างง่ายและประหยัดเวลาได้อย่างเยอะ ส่วนเสริมใน mInstaller มีทั้งโหลดฟรีและต้องเสียเงินซื้อ แต่เชื่อเถอะว่าคุ้ม
  14. Affinity Photo (1,750 บาท) - ถ้าคุณคุ้นเคยกับ Photoshop แล้วหละก็แอปนี้ก็เหมือนกัน มันคือเครื่องมือตัดแต่งภาพขั้นเทพอีกหนึ่งตัว สาเหตุที่ผมเลือกมาใช้งานก็เพราะว่าแอปนี้ออกแบบมาเพื่อ Mac โดยเฉพาะ ประมวลผลเร็วมาก ใช้งานได้ง่ายและที่สำคัญจ่ายครั้งเดียวซื้อแอปและสามารถอัปเดตได้ตลอด อีกทั้งใช้งานร่วมกับ Affinity Photo เวอร์ชัน iPad ได้อีกด้วย
  15. Affinity Designer แอปสายงานด้านเวกเตอร์คล้าย ๆ กับ Adobe Illustrator ซื้อครั้งเดียวจบไม่ต้องจ่ายรายเดือน
  16. Adobe Lightroom (เช่ารายเดือนเริ่มต้น 350 บาท) - แอปสำหรับการปรับแสงให้กับรูปภาพ ช่างภาพที่เล่นกล้องส่วนใหญ่ใช้แอปนี้กันหมดเลย ฟีเจอร์เยอะมากจนผมยังใช้งานไม่หมด ส่วนมากเอาไว้แต่งภาพที่ถ่ายมาเยอะๆ ปรับแสง ใส่ฟิลเตอร์และ export รูปพร้อมใส่ลายน้ำทีหละหลายๆ รูป ที่ยอมสมัคร Adobe Creative Cloud ก็เพราะแอปนี้แหละ
  17. mimoLive (ฟรี) - สำหรับการทำ Live ลง Facebook + YouTube แอปโหลดฟรีแต่ว่าต้องสมัครบริการรายเดือนหรือรายปี สิ่งที่ชอบคือแอปนี้ลูกเล่นเยอะมาก ทำ Live ลง YouTube + Facebook ได้พร้อมกันเลย, ใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ ได้เยอะแยะ, เชิญคนอื่นมาออกรายการสดพร้อมกับเราได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน ตอบโจทย์มากๆ
  18. EcammLive สำหรับทำ Live Streaming ลง Facebook, Youtube ตัวนี้ต้องจ่ายเงินรายเดือน ข้อดีคือใช้งานง่าย
  19. StreamYard สำหรับทำ Live Streaming ลง Facebook, Youtube ตัวนี้ต้องจ่ายเงินรายเดือน ข้อดีคือ กินทรัพยากรไม่เยอะ ทำ Conference Call เพื่อ Live ได้ง่าย
  20. OBS สำหรับทำ Live Streaming ลง Facebook, Youtube ตัวนี้ใช้ฟรี
  21. Napkin (1,400 บาท) - แอปนี้สำหรับตัดแปะภาพหรือจะเลือก capture รูปจากหน้าจอมาลงแล้วเพิ่มลูกศร ตัวหนังสือ หรือลูกเล่นอื่นๆ ก็สะดวกไปอีก
  22. Downie ($19.99) - ถ้าหากคุณเป็นสายดาวน์โหลดจาก YouTube, Facebook หรือเว็บอื่นๆ จากอินเทอร์เน็ต แอปนี้ช่วยได้ดีมากๆ ดาวน์โหลดเร็วและง่ายดายมากๆ แอปอัปเดตเรื่อยๆ ตามการอัปเดตของ YouTube สะดวกสำหรับใครต้องการโหลดคลิปมาตัดต่อ (อย่าลืมเช็คเรื่องลิขสิทธิ์ของคลิปนั้นๆ ด้วยนะ)
  23. Folx แอปช่วยดาวน์โหลดและโหลด Torrent ได้
  24. Google+ Featured Photo Screensaver (ฟรี) - หากใครที่ใช้งาน Mac อยู่และกำลังมองหา Screensaver สวยๆ ไว้เปิดเมื่อตอนที่เราไม่ได้ใช้เครื่อง มีแอป Google+ Featured Photo Screensaver ดาวน์โหลดติดเครื่องไว้รับรองสวยแน่นอน ชมการใช้งานที่นี่
  25. Spotify (ฟรี) - แอปสำหรับฟังเพลงจาก Spotify ถ้าหากคุณใช้งานบน iPhone, iPad และอยากฟังบน Mac ก็โหลดแอปนี้มาลงได้เลย ชอบที่มีเพลงฟรีให้ฟังและ Playlist จัดได้โดนใจมากๆ เอาไว้ฟังชิวๆ หากต้องการฟังแบบคุณภาพเสียงที่สูงก็สมัครรายเดือนใช้งานได้เช่นกัน
  26. iTunes (ฟรี มาพร้อม macOS) - เทียบกับแอปฝั่ง Windows ก็คือ Windows Media Player นั่นเอง สำหรับ iTunes นั่นหลักๆ ก็เอาไว้เปิดไฟล์เพลงต่างๆ นอกจากนี้ก็เอาไว้ซิงก์ข้อมูลจัดการกับ iPhone, iPad พร้อมด้วยการเลือกซื้อหรือเช่าเพลง, ภาพยนต์, หนังสือ ฯลฯ จาก iTunes Store
  27. FileZilla (ฟรี) - แอป FTP Client สำหรับสายพัฒนาเว็บที่ต้องการอัปโหลดหรือดาวน์โหลดไฟล์จากคอมพิวเตอร์ของเราขึ้นไปที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ แอปนี้ใช้งานง่าย ความเร็วดี ฟรีและอัปเดตบ่อย
  28. Mockuuups Studio - แอปสำหรับการทำ Mockup ภาพตัวอย่าง เช่น การนำภาพ screenshot ของ Mac, iPhone มาลงแอปนี้จะได้ภาพกราฟฟิกที่สวยๆ พร้อมนำไปใช้ในการนำเสนอผลงานต่อไป แอปโหลดฟรีแต่ต้องสมัครใช้งานรายเดือนอีกที เดือนละประมาณ $10 USD
  29. Vernissage Pro (489 บาท) - แอปนี้จะคล้ายคลึงกับ Mockuuups Studio แต่ว่าจะเน้นที่ภาพ screenshot นำมาต่อๆ กัน สามารถไปประยุกต์แต่งต่อในแอปอื่นๆ ได้ เหมาะกับการนำเสนอซอฟต์แวร์ที่พัฒนามาใช้กับสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ
  30. HandBrake (ฟรี) - แอปเพลงไฟล์วิดีโอแต่เดิมเอาไว้แปลไฟล์หนังแล้วโอนลง iPhone ข้อดีคือไฟล์ใหญ่ๆ จะเล็กลงเยอะมาก ปัจจุบันความสามารถนั้นก็ทำได้อยู่นะ แต่หลักๆ ผมจะใช้ย่อขนาดไฟล์คลิปที่ตัดต่อจาก Final Cut Pro X ย่อลงให้เล็กก่อนที่จะอัปโหลดขึ้น YouTube หรือ Facebook แอปนี้ดีมาก ฟรีด้วยแถมมี preset การแปลงไฟล์ให้เลือกได้ด้วย
  31. The Unarchiver (ฟรี) - ใช้สำหรับการแตกไฟล์พวก .zip, .rar
  32. Dropbox (ฟรี) - แอปของบริการ Cloud จาก Dropbox เอาไว้ซิงก์ไฟล์ที่อยู่บน Cloud กับเครื่อง Mac ได้ง่ายประหยัดเวลา
  33. Image Bucket Pro (249 บาท) - ใช้สำหรับย่อไฟล์รูปภาพพร้อมกันหลายๆ ไฟล์, ใส่ลายน้ำลงบนภาพถ่ายของเราพร้อมกันได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งแอปอย่าง Lightroom นั่นคือความสามารถของแอปนี้ ใช้งานง่ายและเสร็จรวดเร็วได้ผลตามที่ต้องการ
  34. ImageOptim (ฟรี) - แอปสำหรับลดขนาดไฟล์รูปภาพโดยที่ยังคงคุณภาพของรูปดเหล่านั้นเอาไว้ไม่ให้เสีย สิ่งที่ได้คือภาพความละเอียดเกือบเท่าเดิม ดูชัดเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือไฟล์เล็กลงกว่าเดิมมาก เหมาะสำหรับคนทำเว็บไซต์ที่ต้องอัปโหลดรูปขึ้นเว็บเพื่อให้รูปเหล่านั้นถูกโหลดมาแสดงผลได้เร็วมากยิ่งขึ้น
  35. MenuBar Stats (179 บาท)- แอปสำหรับแสดงสถิติต่างๆ ของระบบ macOS บน Status Bar เพื่อดูว่าระบบนั้นเป็นเช่นไร ปกติเอาไว้ดูความเร็วของการดาวน์โหลดอัปโหลดของอินเทอร์เน็ต, ดูการทำงานของ CPU, ดูพื้นที่ที่เหลือของความจำในตัวเครื่อง ฯลฯ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มือประโยชน์อีกระดับสำหรับ Geek ทั้งหลาย
  36. Microsoft NFFS for Mac - ชื่อเดิม Paragon NTFS เป็นแอปที่ช่วยให้ macOS สามารถเขียนไฟล์ลงบน External Hard Drive ที่ File System เป็น NTFS ถ้าไม่ลงแอปนี้(หรือแอปทำนองเดียวกัน) จะทำได้แค่อ่านไฟล์ได้เท่านั้นแต่ไม่สามารถเขียนกลับไปได้
  37. VLC (ฟรี) - สำหรับเปิดไฟล์วิดีโอแทบจะรองรับทุกนามสกุลมีไว้แอปเดียวดูได้ครอบจักรวาล
  38. uTorrent - แอปสำหรับดาวน์โหลดไฟล์ .torrent จากอินเทอร์เน็ต
  39. Pixelmator Pro (1,400 บาท) - แอปแต่งรูปสำหรับ Mac โดยเฉพาะ คล้ายกับ Adobe Photoshop ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์การปรับแต่งภาพที่จำเป็นครบถ้วน มีฟิลเตอร์การปรับแต่งรูปภาพหลากหลาย รองรับ Dark Mode ด้วย
  40. Slack (ฟรี) - สำหรับการติดต่อสื่อสารงานภายในองค์กร ให้ผู้ร่วมงานสามารถพูดคุยกัน ส่งไฟล์ รูปภาพ วิดีโอ ลิงค์ และโค้ดต่างๆ ได้ง่าย เหมือนรูปแบบห้องแชทสื่อสารได้รวดเร็วและทันสมัย
  41. Trello (ฟรี) - แอปนี้มีลักษณะคล้ายกับกระดานแปะ Post it ที่ให้คนทำงานสามารถรับรู้สถานะงาน และย้าย Post it เพื่ออัปเดตสถานะงานได้ ใช้ทำงานร่วมกันภายในทีมงาน
  42. LastPass Password Manager (ฟรี) - แอปบันทึกรหัสผ่านยอดนิยม สำหรับใครที่ชอบลืมรหัสผ่านในการเข้าถึงแอปหรือเว็บไซต์ สามารถบันทึกข้อมูลล็อกอินทั้งบัญชีและรหัสผ่านในแอปนี้ได้เลย ถ้าหากใช้ Chrome ก็สามารถติดตั้งเป็นส่วนขยายได้เลย การล็อกอินในเว็บก็จะง่ายขึ้น
  43. Microsoft 365 - คนที่ใช้งานโปรแกรมเอกสารทั้ง macOS และ Windows อาจจะยังคงคุ้นเคยกับ Microsoft Office อยู่ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปเหล่านี้มาใช้งานได้เช่นกัน (มีค่าใช้จ่ายภายในแอป) ได้แก่
    • Microsoft Word
    • Microsoft PowerPoint
    • Microsoft Excel
    • Microsoft Outlook
  44. Agenda. - สำหรับคนที่ต้องติดตามงานอย่างเป็นจริงเป็นจัง รวมถึงต้องการให้แจ้งเตือนในเหตุการณ์ที่สำคัญ Agenda. ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะให้คุณสามารถจัดการงานและเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น และยังทำงานร่วมกับแอปเตือนความจำของ Apple ได้ด้วย (มีค่าใช้จ่ายภายในแอป)
  45. Gemini 2 - เครื่องมือจัดการไฟล์ที่ซ้ำซ้อนกันภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ เพลง หรือเอกสาร แอปก็จะค้นหาแสดงให้เห็นว่ามีไฟล์ที่ซ้ำซ้อน และในส่วนของรูปภาพยังสแกนได้อีกว่าภาพไหนที่เหมือนกัน (มีค่าใช้จ่ายภายในแอป)
  46. WARP 1.1.1.1 (VPN) เพื่อความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ตบน
  47. Jump Desktop และ Jump Desktop Content สำหรับการทำ Remote Desktop บนเครื่อง Mac และลิงก์ไปยัง Mac หรือ Windows ก็ได้ ใช้งานได้ไหลลื่นมาก
  48. Anydesk แอปสำหรับ Remote Desktop อีกหนึ่งตัว
  49. Brightness Slider แอปสำหรับปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อเชื่อมต่อไปยังจอแยก
  50. Dynamo ส่วนขยาย (Extension) ของ Safari บน Mac เพื่อใช้ในการเร่งสปีดในการรับชมวิดีโอบน YouTube, Facebook, Netflix ฯลฯ เหมาะสำหรับการรับชมวิดีโอที่ยาว ๆ หรือการสแกนวิดีโอนั้น ๆ อย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดนี้เป็นแอปที่ติดตั้งลงเครื่อง Mac ที่แนะนำว่าให้เลือกโหลดตามความจำเป็นและเหมาะการใช้งานของตนเอง ซึ่งใน Mac App Store ยังมีแอปในสายอาชีพอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกดาวน์โหลด สามารถค้นหาตามหมวดหมู่ของแอปได้เลย

Mac User Thailand

เรามีกลุ่มผู้ใช้งาน Mac ใน Facebook ที่คอยพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เชิญทุกท่านเข้าร่วมได้ที่ //goo.gl/vhGZRG ไม่มีค่าใช้จ่าย

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง