6.74นิ้วจอ IPS-LCD 24-bit1080 x 2400 พิกเซล
Unisoc Tiger T612 Octa Core ความเร็ว 1.8 GHz
realme UI realme UI 4.0 based on Android 13
หน่วยความจำ
RAM 6 GB
ROM 128 GB
แบตเตอรี่
5,000 mAhLi-Polชาร์จไว 33W
ข้อมูลมือถือ realme C53 - เรียวมี
- เปิดตัวครั้งแรก 31 พฤษภาคม 2023 (สยามโฟนฯ)
- สถานะ มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
- วางจำหน่าย ไตรมาสที่ 2 ปี 2023 (มิถุนายน 66) - ราคาเปิดตัว 4,999 บาท (มิถุนายน 66)
จอแสดงผล (Display)
- สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ)
- จอแสดงผล IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี) - หน้าจอหยดน้ำ (Waterdrop Display) - กว้าง 6.74 นิ้ว (แนวทะแยง) - ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล (390 ppi)
- - อัตราการสัมผัสหน้าจอ 90 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 90Hz) - ระบบสัมผัส : 180Hz touch-sensing
วัสดุตัวเครื่อง (Body)
- หน้าจอกระจก
- กรอบพลาสติก
- มีสีให้เลือก (Colors) : black, gold
เครือข่าย (Network)
- ใช้งาน Nano-SIM
- รองรับ 2 ซิมการ์ด
- เทคโนโลยีรับ/ส่งข้อมูล 3G , 4G
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU, GPU)
- realme UI 4.0 based on Android 13
- Unisoc Tiger T612 Octa Core
- ความเร็ว : 1.8 GHz
- GPU : Mali-G57
- RAM 6GB, ROM 128GB , microSD สูงสุด 2 TB
กล้องหลัง (Rear Camera)
- กล้องดิจิตอล 50 + AI ล้านพิกเซล (Dual Camera)
- - รูรับแสงขนาด ƒ/1.8
- - ไฟแฟลช LED
- - ขนาดภาพสูงสุด 4,000 x 3,000 พิกเซล (Image Size)
กล้องหน้า (Front Camera)
- ความละเอียด 8MP
- - รูรับแสงขนาด ƒ/2.0
บันทึกวิดีโอ (Video Recording)
- บันทึกวิดีโอกล้องหลัง
- - บันทึกวีดีโอระดับ FULL HD (1080p), 30 เฟรมต่อวินาที
- - ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
- บันทึกวิดีโอกล้องหน้า
- - บันทึกวีดีโอระดับ HD (720p), 30 เฟรมต่อวินาที
เซ็นเซอร์ (Sensor)
- ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint)
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
เชื่อมต่อ
- การหาตำแหน่ง: Assisted GPS
- WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
- - เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct)
แบตเตอรี่ - ระบบชาร์จ
- แบตเตอรี่ Li-Pol 5,000 mAh (Standard Battery)
- - รองรับชาร์จไว 33W (Fast Charging)
Financial Times รายงานว่า วาณิชธนกิจ (Investment Bank) ต่างชาติวิจารณ์การตัดสินใจแบนการทำธุรกรรมขายชอร์ต (Short Selling) ทุกรูปแบบที่ประกาศโดยฝ่ายกำกับของเกาหลีใต้ เป็นการพยายามดึงคะแนนเสียงจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเดือนเมษายน 2024
การตัดสินใจแบน Short Selling ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า โดยเกาหลีใต้ระบุว่าเป็นการตอบสนองต่อการทำ Naked Short Selling ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ฝ่ายกำกับของเกาหลีใต้ได้ตั้งหน่วยงานในการสอบสวนแบงก์ต่างชาติราว 10 แห่งเกี่ยวกับการทำ Short Selling ที่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของแบงก์ต่างชาติ 2 แห่งที่ดำเนินการอยู่ในเกาหลีใต้ระบุว่า ฝ่ายกำกับดูแลใช้ประเด็นการทำผิดกฎหมายจาก Short Selling มาเพื่อช่วยดึงคะแนนเสียงจากประชาชน
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ฝ่ายกำกับได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า Bogeyman และ Phantom Farce หรือเรื่องที่ฟังดูน่ากลัวและประเด็นที่เบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริง ซึ่งการแบน Short Selling จะทำให้มูลค่าของหุ้นเข้าหาจุดที่เหมาะสมได้ยากขึ้น และเป็นการกีดกันนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ นักลงทุนรายย่อยในเกาหลีใต้คิดเป็นประมาณ 2 ใน 3 ของมูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ต่างจากตลาดใกล้เคียงอย่างญี่ปุ่นและฮ่องกงที่คิดเป็นเพียงประมาณ 10%
Changhwan Lee ผู้ก่อตั้ง Align Partners Capital Management กองทุนเฮดจ์ฟันด์ในเกาหลีใต้ ระบุว่า MSCI เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า กฎเกณฑ์ที่เกาหลีใต้ใช้ในการจำกัดการทำ Short Selling เป็นอุปสรรคต่อการที่ดัชนีหุ้นของเกาหลีใต้จะถูกรวมเข้าสู่ดัชนีของตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (Developed Market)
“Short Selling เป็นสิ่งที่ควรจะทำได้ เพราะช่วยป้องกันฟองสบู่ของราคาหุ้นในตลาด มันเป็นมาตรฐานสากล แต่นักลงทุนรายย่อยคือผู้ลงคะแนนเสียงที่สำคัญ ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่สามารถที่จะเพิกเฉยต่อความต้องการของพวกเขาได้”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานออกมาว่า ฝ่ายกำกับของเกาหลีใต้เตรียมจะสั่งปรับวาณิชธนกิจระดับโลก 2 ราย คือ HSBC และ BNP Paribas จากการตรวจพบการทำ Naked Short Selling
ด้าน Chan Lee หุ้นส่วนผู้จัดการ Petra Capital Management กล่าวว่า ผลบวกจากการแบน Short Selling ต่อตลาดหุ้นเกาหลีใต้เป็นแค่เรื่องชั่วคราว หลังจากดัชนี KOSPI พุ่งขึ้น 6% หลังการประกาศแบน แต่สุดท้ายก็ร่วงกลับลงมา 4% จากจุดสูงสุด
“นักลงทุนที่ทำ Naked Short Selling ต้องถูกลงโทษ แต่มันไม่สมเหตุสมผลที่จะแบน Short Selling ทั้งหมดเพราะเหตุผลนี้” Lee กล่าว