ในกรณีที่อาคารอยู่อาศัยไม่เกินสองชั้นและมีพื้นที่อาคารไม่เกิน 150 ตารางเมตร หากจะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ภายในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลและ
ไม่เป็นพื้นที่ที่มีกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามก่อสร้างอาคารบางชนิดหรือบางประเภท ไม่ต้องยื่นแบบแปลน รายการประกอบแบบแปลนและรายการคำนวณในการขออนุญาต เพียงแต่ยื่น
แผนผังบริเวณแสดงที่ตั้งอาคารโดยสังเขป และเอกสารแสดงสิทธิในที่ดิน พร้อมกับคำขอ
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
"กฎกระทรวงฉบับที่ 56 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522" ได้ที่ลิงค์นี้
//office.dpt.go.th/bcb/index.php…
บ้านแบบไหนไม่เข้าข่ายกฎหมายควบคุมอาคาร . เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันบ่อยครั้งเกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างบ้านในเขตพื้นที่ที่...
Posted by Abhisit Suthapradit on Sunday, July 16, 2017เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขออนุญาตปลูกสร้างประกอบด้วย
1. คำขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือ รื้อถอนอาคาร (ข.1)
2. แบบแปลนแผนผัง จำนวน 5 ชุด
3. หนังสือรับรองของผู้ออกแบบ ทั้งสถาปนิก และ วิศวกร พร้อมสำเนาใบอนุญาต
ไม่จำเป็นต้องมีวิศวกร และสถาปนิกเซ็นรับรอง กรณี
บ้าน 1-2 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า 150 ตารางเมตร และ
คานทุกจุดยาวไม่เกิน 5 เมตร (หรือระยะกึ่งกลางเสาถึงกึ่งกลางเสาไม่กิน 5 เมตร) และ
ความสูงแต่ละชั้นไม่เกิน 4 เมตร
4. สำเนาโฉนดที่ดินที่จะก่อสร้าง
5. สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านเจ้าของอาคาร ในกรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียน
6. เอกสารของผู้ควบคุมงานก่อสร้าง
จากนั้นนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นต่อเทศบาล หรือสำนักงานเขต ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ ภายใน 45 วัน หากยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้า ท่านสามารถติดตาม ผลได้ว่าเป็นอย่างไร ได้รับอนุญาตหรือไม่ ถ้ายังไม่ได้รับใบอนุญาตแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งกลับมาว่าต้องแก้ไขอะไรบ้าง เมื่อแก้ไขถูกต้องแล้ว จะได้รับใบอนุญาตปลูกสร้าง และเสียค่าธรรมเนียมตามจำนวนตารางเมตร การขออนุญาตก่อสร้าง แบบไหนจำเป็นต้องได้รับการเซ็นแบบจากสถาปนิก หรือวิศวกร และแบบไหนที่พรบ.ควบคุมอาคารไม่ได้บังคับให้มีการเซ็นแบบ วันนี้ rabbit finance มีคำตอบนั้นมาให้แล้วค่ะ
แบบบ้านที่ขออนุญาตก่อสร้างได้ โดยไม่ต้องมีวิศวกร และสถาปนิกเซ็นแบบ
- บ้าน 1-2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 150 ตร.ม. วิศวกร และสถาปนิกไม่ต้องเซ็นแบบ
อ้างอิงจาก กฎกระทรวงฉบับที่ 56 (พ.ศ.2543)
การขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร รื้อถอนอาคาร หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ที่อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด เฉพาะในเขตสภาตำบล หรือเขตองค์การบริหารส่วนตำบล แต่มิได้อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีกฎกระทรวง หรือข้อบัญญัติท้องถิ่น กำหนดการตามมาตรา 8 (10) หรือประกาศกระทรวงมหาดไทยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกตาม มาตรา 13 ใช้บังคับ ถ้าเป็นอาคารดังต่อไปนี้ ให้แนบเฉพาะแผนผังบริเวณแสดงที่ตั้งอาคารโดยสังเขป และสำเนาเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินพร้อมกับคำขอ
“อาคารอยู่อาศัยไม่เกินสองชั้น และมีพื้นที่ทุกชั้นในหลังเดียวกัน รวมกันไม่เกิน 150 ตารางเมตร นั่นหมายถึงบ้านพักอาศัย มีพื้นที่ไม่เกิน 2 ชั้น และพื้นที่ใช้สอยรวมกันไม่เกิน 150 ตารางเมตร เป็นลักษณะที่ทางกฎหมายอนุญาต ไม่จำเป็นต้องมีสถาปนิก และวิศวกรเซ็นรองรับ ส่วนการคุมงานก่อสร้างนั้น เจ้าของบ้านสามารถเซ็นควบคุมงานได้เอง”
และนอกจากพื้นที่ใช้สอยแล้ว การออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมยังมีผลต่อการขออนุญาตเช่นกัน โดยกฎหมายได้ระบุไว้ว่า บ้านหรืออาคารดังกล่าวนี้ต้องเข้าข่ายให้มีวิศวกรออกแบบ และควบคุมงาน
“อาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป หรือโครงสร้างของอาคารชั้นใดชั้นหนึ่งสูงตั้งแต่ 4 เมตร หรือมีช่วงคานตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป”
- ช่วงคานไม่ถึง 5 เมตร วิศวกร และสถาปนิกไม่ต้องเซ็นแบบ
โดยปกติแล้ว บ้านเรือนทั่วไปจะนิยมออกแบบช่วงคานประมาณ 4 เมตร ซึ่งหากช่วงคานยาวมากกว่านี้ ก็อาจส่งผลให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น กฎหมายจึงได้ระบุไว้ว่า หากช่วงคานยาว 5 เมตรขึ้นไป ต้องมีวิศวกรออกแบบ และคุมงาน
- ช่วงความสูงชั้นใดชั้นหนึ่งไม่ถึง 4 เมตร วิศวกร และสถาปนิกไม่ต้องเซ็นแบบ
โดยปกติแล้ว บ้านเรือนทั่วไปจะนิยมออกแบบให้พื้นจรดฝ้าเพดาน มีความสูงประมาณ 2.6-3 เมตร แต่อาจมีบ้านลักษณะพิเศษ เช่น บ้านชั้นครึ่ง หรือบ้านที่มีความสูงโปร่ง ที่อาจมีความสูงเกินกว่า 4 เมตร ซึ่งหากพื้นที่ใดมีความสูงตั้งแต่ 4 เมตรเป็นต้นไป จะต้องมีลายเซ็นรับรองจากวิศวกรออกแบบ และควบคุมงาน
ปล. ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากเขตการปกครองบางแห่งจะมีกฎหมายเฉพาะที่ที่ใช้เฉพาะพื้นที่นั้นๆ รวมทั้งเทศบาลบางแห่งอาจแตกต่างไปจากเทศบาลอื่นๆ