วันที่ 24 เม.ย.2562 นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานคืนสิทธิผู้ประกันตนมาตรา 39 ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2561 จนถึงวันที่ 19 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของคืนสิทธิ ผลปรากฎว่า ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพจากระบบประกันสังคมได้กลับเข้าสู่ระบบแล้วจำนวน 384,086 คน จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ให้ความสำคัญกับระบบประกันสังคมที่ช่วยดูแลและสร้างหลักประกันคุณภาพชีวิตที่ดีให้ ซึ่งเมื่อกลับเข้าสู่การเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ยังคงให้ความคุ้มครอง 6 กรณีเช่นเดิม คือ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร และชราภาพ เพียงจ่ายเงินสมทบจำนวน 432 บาทต่อเดือน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำว่า ขอให้ผู้ประกันตนที่กลับเข้าสู่ระบบแล้วคำนึงถึงสิทธิของตนเอง โดยให้ความสำคัญในการตรวจสอบการนำส่งเงินสมทบกับสำนักงานประกันสังคมอย่างสม่ำเสมอ และควรนำส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง หากขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน หรือภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือน จะสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนทันที ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา/ ที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th
สำหรับมาตรา 39 ตาม พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ระบุว่า
“ผู้ใดเคยเป็นผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 โดยจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน และต่อมาความเป็นผู้ประกันตนได้สิ้นสุดลงตาม มาตรา 38 (2) ถ้าผู้นั้น ประสงค์จะเป็นผู้ประกันตนต่อไป ให้แสดงความจำนงต่อสำนักงานตามระเบียบที่เลขาธิการ กำหนดภายในหกเดือนนับแต่วันสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
จำนวนเงินที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบที่ผู้ประกันตนตามวรรคหนึ่ง ต้องส่งเข้ากองทุนตาม มาตรา 46 วรรคสอง ให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจในขณะนั้นด้วย ให้ผู้ประกันตนตามวรรคหนึ่งนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละครั้ง ภายในวันที่ สิบห้าของเดือนถัดไป
ผู้ประกันตนตามวรรคหนึ่งซึ่งไม่ส่งเงินสมทบหรือส่งไม่ครบจำนวนภายในเวลา ที่กำหนดตามวรรคสาม ต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละสองต่อเดือนของจำนวนเงินสมทบที่ยังมิได้นำส่งหรือของจำนวนเงินสมทบที่ยังขาดอยู่นับแต่วันถัดจากวันที่ต้องนำส่งเงินสมทบ สำหรับเศษ ของเดือนถ้าถึงสิบห้าวัน หรือกว่านั้นให้นับเป็นหนึ่งเดือน ถ้าน้อยกว่านั้นให้ปัดทิ้ง”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมเท่ากับบุคคลที่เคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาก่อน เมื่อได้สิ้นสุดความเป็นลูกจ้างของบริษัทที่เราเป็นลูกจ้าง ก็ทำให้ความเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สิ้นสุดตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ หากเรายังมีความประสงค์จะรักษาสถานภาพการเป็นผู้ประกันตนต่อก็สามารถทำได้ ด้วยการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเอง เพราะทางประกันสังคมต้องการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกับ ตามนโยบายพื้นฐานที่ว่าด้วยการเฉลี่ยความสุขและทุกข์
ผู้ประกันตนมาตรา 33 อย่าลืมรักษาสิทธิ แม้จะตัดสินใจลาออกจากงาน หรือถูกเลิกจ้าง เพราะใช่ว่าสิทธิประกันสังคมนั้น จะสิ้นสุดลงทันที ยังสามารถใช้สิทธิได้ ดังนี้
1.) ใช้สิทธิประกันสังคมต่อได้อีก 6 เดือน
ผู้ประกันมาตรา 33 ที่ลาออกจากงาน หรือถูกเลิกจ้าง จะยังใช้สิทธิประกันสังครบทั้ง 7 กรณีเหมือนเดิม ได้แก่ การได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต, คลอดบุตร, สงเคราะห์บุตร, ชราภาพ และว่างงาน ภายใน 6 เดือนหลังจากลาออกจากงานได้
ผู้ประกันตนม. 33 เกษียณ 55 ปี เช็กสิทธิประโยชน์รับเงินชราภาพ
รู้ไว้! ทำงานอย่างไร ไม่ให้ถูกนายจ้างเอาเปรียบ "แรงงาน" เปิดวิธีคำนวณเงินโอที แลกค่าล่วงเวลาเป็นวันห...
เมื่อโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น วิถีชีวิตเราจะเปลี่ยนไปอย่างไร
2.) รับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ตามกรณีต่าง ๆ ดังนี้
- กรณีถูกเลิกจ้าง : รับเงินทดแทน 50 % ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน
- กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญา : รับเงินทดแทน 30 % ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน
- กรณีไม่ได้ทำงานจากเหตุสุดวิสัย : รับเงินทดแทน 50 % ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน
ทั้งนี้ หากใน 1 ปี ปฏิทินมีการขอยื่นรับเงินทดแทน กรณีถูกเลิกจ้างและกรณีลาออก/สิ้นสุดสัญญา ให้นับระยะเวลารับเงินทดแทนไม่เกิน 180 วัน
อย่างไรก็ตาม จะต้องลงทะเบียนว่างงาน ผ่านระบบ //e-service.doe.go.th ของกรมการจัดหางานด้วย โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ลงทะเบียนว่างงาน
- สำหรับคนไทย
- ลงทะเบียนขอใช้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล / Digtal ID ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร.
- ผู้ประกันตนสามารถเข้าสู่ระบบ (Login) โดยใช้ User / Password ที่ลงทะเบียน Digital ID ในการขึ้นทะเบียนว่างงาน
- กรอกข้อมูลรายละเอียดตามระบบ และแนบไฟล์บัญชีธนาคารที่จะให้โอนเงินเข้าบัญชีในระบบ โดยผู้ประกันตนไม่ต้องยื่นเอกสารใดๆ กับสำนักงานประกันสังคมอีก
- ภาพถ่ายสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึงมีชื่อและเลขที่บัญชีของตนเองที่จะยื่นในระบบ
- รายงานตัวตามกำหนด
- สำหรับต่างชาติ/ต่างด้าว ไม่สามารถยื่นผ่านระบบออนไลน์ได้
- ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) ดาวน์โหลดเอกสาร >>> คลิกที่นี่ <<<
- หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส.6-09) (ถ้ามี) ดาวน์โหลดเอกสาร >>> คลิกที่นี่ <<<
- หนังสือ หรือคำสั่งของนายจ้างที่ให้ออกจากงาน (ถ้ามี)
- กรณีว่างงานจากสาเหตุสุดวิสัยแนบหนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากสาเหตุสุดวิสัย
- สำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อ-สกุล
- สำเนาบัตรประกันสังคม และสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราวหรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้
- หากเอกสารสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทย และรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน
- รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 1 รูป
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี
- รายงานตัวตามกำหนดนัด ณ สำนักงานจัดหางานพื้นที่ที่สะดวก
ทั้งนี้ ผู้ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากสาเหตุ ไล่ออก ปลดออก ให้ออกเนื่องจากกระทำความผิด ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีการติดต่อนายจ้างภายใน 7 วันทำงานติดต่อกัน จึงจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีว่างงาน
สภาพอากาศวันนี้!ไทยร้อนจัดสูงสุด 42 องศา เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม 28 เม.ย.
กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนฉบับ1 ไทยจ่อเจอพายุฤดูร้อนถล่ม 5 วัน
3.) เปลี่ยนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39
หลังจากใช้สิทธิประกันสังคมเดิมครบ 6 เดือน หลังจากออกจากงาน หรือ ถูกเลิกจ้าง/สิ้นสุดสัญญาแล้ว ยังสามารถรักษาสิทธิต่อไปได้ด้วยการสมัครเข้าเป็น “ผู้ประกันตนมาตรา 39” แต่จะได้รับความคุ้มครองเหมือนเดิมหรือไม่ และต้องสมัครอย่างไร มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
มาตรา 39 คุ้มครอง 6 กรณี
หากได้สมัครเข้ามาเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครองใน 6 กรณี ได้แก่
- ได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วย
- ทุพพลภาพ
- ตาย
- คลอดบุตร
- สงเคราะห์บุตร
- ชราภาพ
มาตรา 39 สมัครอย่างไร
- ต้องเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และนำส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน
- สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน
- ยื่นใบสมัครด้วยตนเอง : ต้องใช้ แบบคำขอเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 (แบบ สปส. 1-20) พร้อมบัตรประชาชน/บัตรอื่นที่มีรูปถ่ายซึ่งราชการออกให้พร้อมสำเนา จากนั้นให้ยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ
- ยื่นใบสมัครออนไลน์ : ดาวน์โหลด แบบคำขอเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 (แบบ สปส. 1-20) ออนไลน์ จากนั้นกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย พร้อมแนบหลักฐานบัตรประชาชน/บัตรอื่นที่มีรูปถ่ายซึ่งราชการออกให้ แล้วสมัครออนไลน์ผ่านอีเมล/ไลน์ เก็บหลักฐานการส่งเพื่อตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้แนะนำว่าให้ติดตามผลการสมัครมาตรา 39 จนกว่าจะสำเร็จด้วย
- ส่งเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน
ส่งเงินสมทบได้ 6 วิธี
- จ่ายที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวก
- จ่ายเงินทางธนาณัติหรือจ่ายผ่านไปรษณีย์ทั่วประเทศ
- ส่งผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารธนชาติ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย
- ส่งผ่าน CenPay
- ส่งผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
- เปิดบัญชีออมทรัพย์และให้ทางธนาคารหักจากบัญชีธนาคารข้างต้น (มีค่าธรรมเนียมในการหักบัญชี)
ทั้งนี้ หากไม่ส่งเงินสมทบตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ จะสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้ ดังนั้นแนะนำว่า ไม่ควรขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน เพราะจะสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนตั้งแต่เดือนแรกที่ไม่ส่งเงินสมทบ และหากส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือนภายในระยะเวลา 12 เดือน จะสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนตั้งแต่เดือนที่ส่งเงินสมทบไม่ครบเก้าเดือน
นอกจากการไม่ส่งเงินสมทบตามกำหนดแล้ว การเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ยังสามารถสิ้นสุดลงได้เนื่องจากสาเหตุอื่นด้วย คือ ผู้ประกันตนเสียชีวิต หรือกลับไปเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือลาออกจากมาตรา 39