โดยมีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้รวมถึงพัฒนากำลังคนของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน
“ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ” จึงเป็นกระบวนการรับรองเพื่อให้บุคคลได้รับการยอมรับในความรู้ทักษะตลอดจนความสามารถที่สอดคล้องกับสมรรถนะประสบการณ์และความรู้ในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าในสายอาชีพของตนในอนาคต
ว่ากันว่าในหลายประเทศให้ความสำคัญกับใบประกาศนียบัตร ‘คุณวุฒิวิชาชีพ’ มากกว่า ‘ใบปริญญา’
แม้กระทั่งหลายบริษัทในเมืองไทยก็เริ่มพิจารณาคุณวุฒิของใบปริญญาควบคู่กับใบประกาศนียบัตร ‘คุณวุฒิวิชาชีพ’
และที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับคนที่เคยขาดโอกาสทางการศึกษาและไร้ใบปริญญา ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพอาจทำให้คุณลืมใบปริญญาไปเลย!
คนตรงงาน…งานตรงคน
ที่ผ่านมาหนึ่งในปัญหาขององค์กรเกือบทุกแห่งคือได้คนไม่ตรงกับงาน ทำให้งานที่มอบหมายไม่สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย หลายคนรับพนักงานไปทดลองงาน 3 เดือน 6 เดือน ไม่ผ่านเกณฑ์ต้องเปลี่ยนคน เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย หรือบางองค์กรยอมจ่ายงบประมาณส่งบุคลากรไปอบรมเพิ่มความรู้ แต่พอทำงานไปสักระยะขอลาออก เท่ากับว่าต้องมาเริ่มสร้างคนใหม่ เสียค่าใช้จ่ายใหม่ กลายเป็นภาระไม่สิ้นสุด นั่นคือวัตถุประสงค์หนึ่งในการจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้ใครก็ตามเข้ามาสมัครสอบมาตรฐานวิชาชีพที่อยู่ในสายงาน มีตั้งแต่ระดับ 1 จนถึงระดับ 8 เมื่อผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับใบประกาศตามระดับที่ผ่านการประเมินนำไปเป็นใบเบิกทางสมัครเข้าทำงานทำให้บริษัทที่ว่าจ้างประเมินได้ว่าผู้มาสมัครนั้นมีฝีมือระดับไหนตรงกับความต้องการขององค์กรหรือเปล่าโดยไม่ต้องเสียเวลาสัมภาษณ์หรือทดลองงาน
มาตรฐานการันตีการทำงาน
สำหรับใบประกาศคุณวุฒิวิชาชีพถือเป็นใบประกาศระดับสากลซึ่งทุกประเทศเชื่อมั่นและยอมรับ ใบประกาศนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะผู้ที่สนใจไปทำงานในต่างประเทศ เพราะบางครั้งใบปริญญาไม่ได้แสดงเนื้อแท้ของผู้สมัครว่ามีความสามารถในวิชาชีพนั้นมากน้อยแค่ไหน แต่ใบประกาศคุณวุฒิวิชาชีพจะระบุทักษะชัดเจนว่าผู้ถือใบนี้มีความสามารถระดับไหนตั้งแต่ระดับ 1 ถึง ระดับ 8 สามารถประเมินฝีมือและคำนวณค่าตอบแทนได้อย่างแม่นยำ
ประเมินทุกระดับประทับใจ
สคช.แบ่งกลุ่มวิชาชีพเป็น 10 กลุ่ม รวมกว่า 700 อาชีพ ประกอบด้วย
- กลุ่มวิชาชีพด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
- กลุ่มวิชาชีพด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
- กลุ่มวิชาชีพด้านเกษตรกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
- กลุ่มวิชาชีพด้านอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และงานสาธารณะ
- กลุ่มวิชาชีพด้านบริการและการเงิน
- กลุ่มวิชาชีพด้านสุขภาพกีฬาและการท่องเที่ยว
- กลุ่มวิชาชีพด้านสื่อสารและสื่อสารมวลชน
- กลุ่มวิชาชีพด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล
- กลุ่มวิชาชีพด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และการบันเทิง
- กลุ่มวิชาชีพด้านอุตสาหกรรมการผลิต
การประเมินเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่ต้องการทดสอบฝีมือมาเข้าคอร์สประเมินได้แม้กระทั่งคนเก็บของเก่า เก็บขยะ ก็สามารถมาเข้ารับการประเมินเพื่อรับใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อแสดงถึงความเชี่ยวชาญในการที่ทำและความรับผิดชอบต่อสังคมโดยแบ่งเป็น 8 ระดับ ได้แก่
- ระดับ 1 มัธยมต้น
- ระดับ 2 มัธยมปลาย
- ระดับ 3 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
- ระดับ 4-5 ประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) และ อนุปริญญา
- ระดับ 6 ปริญญาตรี
- ระดับ 7 ปริญญาโท
- ระดับ 8 ปริญญาเอก
มืออาชีพ สัญลักษณ์ใหม่ในวงการ
นอกจากใบประกาศคุณวุฒิวิชาชีพแล้วปัจจุบันสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้จัดทำสัญลักษณ์ ‘มืออาชีพ’ หรือ มอช. มอบให้กับสถานประกอบการต่างๆ อาทิ ร้านเสริมสวยร้านอาหารอู่ซ่อมรถ ฯลฯ หรือผู้ให้บริการกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มแท็กซี่ที่ให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นการการันตีว่าผู้ที่มีสัญลักษณ์ดังกล่าวติดอยู่หน้ารถคือผู้ที่ผ่านการประเมินคุณภาพความเป็นมืออาชีพแล้ว
การประเมินแต่ละอาชีพจะมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพนั้นๆ มาเป็นผู้ประเมินให้คะแนน อย่างเช่นร้านอาหารก็จะมีเชฟระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพมาร่วมเป็นกรรมการประเมินร้านอาหารที่ขอเข้าร่วมโครงการ เมื่อผ่านเกณฑ์การประเมินแล้วจะได้รับสัญลักษณ์มืออาชีพไปติดที่ร้าน เหมือนกับสัญลักษณ์มิชิลิน มอก. หรือ มาตรฐานเบอร 5 อย่างไรก็ตาม ภายหลังการมอบสัญลักษณ์มืออาชีพแล้วจะมีการติดตามผล ถ้ามาตรฐานของสถานประกอบการนั้นๆ ลดลง หรือมีการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการ ก็จะมีการพิจารณาเรียกคืนสัญลักษณ์ดังกล่าวได้
ถ้าสนใจก็ลองเปิดเว็บไซต์ศึกษาการประเมินได้เลย!!! www.tpqi.go.th
Post Views: 6,634
Previous articleโรคหายาก ความท้าทายใหม่ของวงการแพทย์ไทย ที่ก้าวผ่านไปได้ ด้วยการศึกษาวิจัยแบบกัดไม่ปล่อย
Next articleใครช่างคิด ประดิษฐ์ “นาโน” (ตอนที่ 2)
Jaturong Kobkaew
//www.salika.co
ด้วยความหลงใหลในกลิ่นอายน้ำหมึก หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร จึงสมัครเป็นรีไรท์เตอร์กับนิตยสารเล็กๆฉบับหนึ่งในปี 2535 ก่อนถูกชักชวนให้เขียนนวนิยายพ็อกเก็ตบุ๊คป้อนโรงพิมพ์ แต่แวะเวียนอยู่ในโลกจินตนาการไม่นานก็กลับเข้าวงการสื่อสารมวลชนกับนิตยสารและหนังสือพิมพ์ กระทั่งพลิกผันมาสู่วงการข่าวเศรษฐกิจสายการค้า-การลงทุน ตั้งแต่ปี 2539 จนปัจจุบัน