อยุธยาเมืองท่านานาชาติ สรุป

77 ข่าวเด็ด

แพลทฟอร์มชุมชนข่าวสาร 77 จังหวัด.

ติดต่อฝ่ายข่าว, ฝ่ายโฆษณา​

บริษัท อะแดป ครีเอชั่น(ไทยแลนด์) จํากัด

233/529​ ซอยนันทนนท์ 4 ถนนศรีนครินทร์

หมู่บ้านนันทวัน​ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง

จังหวัดสมุทรปราการ 10270

www.adapcreation.com

อดิศักดิ์​ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

อุดม​ จีระวิวิธพร

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ลักขณา​ สุริยงค์​

063-021-1660

บรรณาธิการข่าว

อรรถกร​ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ

บรรณาธิการ​ Social​ Media

วิฑูร​ เมฆฉ่ำ

กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ

นัสราภรณ์ พลอยนวลงาม

063-082-1660

เปรมวิทย์ จิรธานีเรืองกิจ

098-259-3855

ผู้ประสานงานและติดต่อฝ่ายโฆษณา

Email : [email protected]

เว็บไซต์ 77kaoded.com ได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิกประเภทวิสามัญสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

ข่าวทั่วไป

งาน “อยุธยา เมืองท่านานาชาติ”

11 สิงหาคม 2561

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดงานอยุธยาเมืองท่านานาชาติ ยกระดับการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มน้ำเจ้าพระยา/ป่าสัก พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวการติดต่อค้าขายทางสายน้ำระหว่างอยุธยากับนานาชาติ เย็นวันนี้ (11 ส.ค. 61) ว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดงาน อยุธยา เมืองท่านานาชาติ ซึ่งสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดจัดขึ้นระหว่าง11- 12 สิงหาคม นี้ ที่ บริเวณลานหลังวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและยกระดับกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย ด้วยวิถีชีวิตลุ่มน้ำเจ้าพระยา/ป่าสัก ว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาลตลอดทั้งปี ดังนั้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่หลายหน่วยงานบูรณาการพัฒนาและสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ซึ่งจะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดงาน “อยุธยา เมืองท่านานาชาติ” ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับนานาประเทศ พร้อมกันนี้ ภายในงานยังได้มีการให้ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม การถ่ายทอดเรื่องราวความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาจากการเป็นเมืองท่า ซึ่งได้มีการติดต่อค้าขายกับนานาชาติ การแสดงแสงเสียงบนผิวน้ำ การจัดตลาดย้อนยุค และจะมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมกันจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติอย่างพร้อมเพรียงอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจ สามารถเข้ามาท่องเที่ยว เยี่ยมชม และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอยุธยาได้ ตั้งแต่เวลา 16.30-21.30 น. ที่ บริเวณลานหลังวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ข้อมูลจาก : //www.facebook.com/prd.ayutthaya1

(ข่าวสารจาก facebook)

หน้า : 300 หน้า
ขนาด : 146 x 211 x 22 มม.
น้ำหนัก : 582 กรัม
ISBN : 9786167674100
ภาษา : ไทย

ผู้เขียน : กำพล จำปาพันธ์

กรุงศรีอยุธยาคือ ราชธานีเก่าแก่ของสยามมาอย่างยาวนาน ซึ่งในระหว่าง 417 ปีของกรุงศรีอยุธยาได้ประสบกับทั้งความรุ่งโรจน์และตกต่ำ ปัจจัยสำคัญที่เสริมส่งให้กรุงศรีอยุธยาประสบกับความรุ่งเรืองคือ การเป็นเมืองท่าการค้านานาชาติ และการเปิดกว้างรับชาวต่างชาติที่มาพร้อมกับความมั่งคั่ง และความทันสมัย ซึ่งล้วนส่งผลต่อการเมืองภายใน เศรษฐกิจ วิถีชีวิตของชาวกรุงศรีอยุธยาแทบทั้งสิ้น ขณะที่ความขัดแย้งภายในก็มีส่วนสำคัญที่ส่งผลให้กรุงศรีอยุธยาตกต่ำ

หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายความเป็นกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างรอบด้าน ทุกแง่มุม เสมือนเป็นคัมภีร์เรียนรู้กรุงศรีอยุธยาอย่างเข้าใจง่าย ทั้งด้านประวัติศาสตร์ การเมือง ศิลปกรรม วิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิศาสตร์ พร้อมด้วยภาพประกอบสีทั้งเล่ม ที่สำคัญคือ ภาพจำลองโบราณสถานสำคัญของกรุงศรีอยุธยาในสภาพที่สมบูรณ์ และศรชี้นำชมที่เข้าใจง่าย สวยงามน่าอ่าน

CEO Blog

กรุงศรีอยุธยา เมืองท่านานาชาติ

กรุงศรีอยุธยา เมืองท่านานาชาติ

ละครบุพเพสันนิวาสได้ก่อให้เกิดกระแสความสนใจในประวัติศาสตร์ไทยสูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งนอกจากความรู้ด้านการเมือง และการต่างประเทศแล้ว ยังมีมุมมองด้านเศรษฐกิจและการเงินที่คนไทยหลายคนนึกไม่ถึง

หลายคนอาจไม่ทราบว่ากรุงศรีอยุธยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้น มีฐานะเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการค้าขายนานาชาติของภูมิภาค โดยจากบันทึกของนายโยส เซาเต็น ชาวฮอลันดา ผู้จัดการบริษัทดัชท์อินเดียตะวันออก ได้บันทึกไว้ในจดหมายเหตุโยส เซาเตน เมื่อครั้งเข้ามากรุงศรีอยุธยาในพ.ศ. 2179 (ในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระราชบิดาของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ไว้ว่า

พระนครศรีอยุธยานี้จึงเป็นนครที่โอ่อ่า เต็มไปด้วยโบสถ์วิหารซึ่งมีจำนวนมากกว่า ๓๐๐ และก่อสร้างขึ้นอย่างวิจิตรพิสดารที่สุด โบสถ์วิหารเหล่านี้มีปรางค์ เจดีย์และรูปปั้นรูปหล่ออย่างมากมาย ใช้ทองฉาบอยู่ภายนอกสีเหลืองอร่ามทั่วไปหมด เป็นพระมหานครที่สร้างอยู่ข้างฝั่งแม่น้ำ โดยมีผังเมืองวางไว้อย่างเป็นระเบียบ จึงเป็นนครที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม มีประชาชนหนาแน่น และเต็มไปด้วยสินค้าสิ่งของจำเป็นแก่ชีวิตนำเข้ามาขายจากนานาประเทศ เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ยังไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใดในแถบนี้ของโลก ที่จะมีเมืองหลวงใหญ่โตมโหฬารวิจิตรพิสดารและสมบูรณ์พูนสุข เหมือนกับพระมหากษัตริย์ ณ ราชอาณาจักรนี้...” (แปลโดย ขจร สุขพานิช)

โดยหากจะให้เทียบกับเมืองในปัจจุบัน กรุงศรีอยุธยาในยุคนั้นก็น่าจะเทียบได้กับประเทศสิงคโปร์ หรือเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการเงินของภูมิภาคเอเซีย ทั้งนี้ วิทยานิพนธ์เรื่อง “ความสัมพันธ์ระหว่างคนกลุ่มต่างๆในท่าเรือนานาชาติพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. 2133 – 2231” โดยนายกรกิต ชุ่มกรานต์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ระบุว่าในปีหนี่ง พระนครศรีอยุธยาจะคลาคล่ำไปด้วยสำเภาจากต่างชาติที่ทยอยกันเข้ามาในแต่ละช่วงเวลา ดังที่คำให้การชาวกรุงเก่าได้บรรยายไว้ว่า “คราคร่ำไปด้วยสำเภาจีน แขกสลุป ฝรั่งกำปั่น แขกสุรัด แขกชวามลายู แขกเทศฝรั่งเศส ฝรั่งโลสงโปรตุเกศ วิลันดา อิศปันยอน อังกฤษ แลฝรั่งดำ ฝรั่งเมืองลังกุนีแขกเกาะ”

มีชุมชนต่างชาติรับพระราชทานที่ปลูกบ้านเรือน เช่น อังกฤษ ฮอลันดา โปรตุเกส ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จีน อินเดีย อิหร่าน แขกมลายู/ชวา/มะกะสัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ส่วนหนึ่งอาจเนื่องมาจาก สมเด็จพระนารายณ์ “ทรงอนุญาตให้ทุกคนอยู่กินตามถนัด ให้สร้างโบสถ์และปฏิบัติศาสนกิจแบบอย่างในประเทศตนได้อย่างเปิดเผย ขออย่าให้เป็นการทำลายความสงบสุขของแผ่นดินก็แล้วกัน” (นิโกลาส์ แชรแวส ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและการเมืองของอาณาจักรสยาม)

และเนื่องจากอยุธยาเป็นศูนย์กลางการค้าขายของชาวต่างชาติจึงมีการแต่งงานระหว่างคนต่างชาติด้วยกันเป็นจำนวนมาก โดยจำนวนลูกครึ่ง เฉพาะลูกครึ่งโปรตุเกสนั้นมีมากถึง 2,000 คน การผสมผสานระหว่างคนเชื้อชาติต่างๆส่งผลให้อยุธยายิ่งมีศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านภาษาเพื่อการค้าขายระหว่างประเทศมากขึ้นไปอีก

ยิ่งไปกว่านั้นในสมัยอยุธยาช่วงหนึ่ง ยังเปิดกว้างในการรับคนต่างชาติเข้ามารับใช้ในราชสำนักจำนวนมาก เช่น ยามาดะ นางามาซะ ชาวญี่ปุ่น ตำแหน่งออกญาเสนาภิมุข ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางการค้าและการเมืองในระดับสูง (ก่อนรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ประมาณ 30 ปี) เฉกอะหมัด ชาวอิหร่าน ตำแหน่งเจ้าพระยาบวรราชนายก จางวางกรมมหาดไทย ปฐมจุฬาราชมนตรีแห่งกรุงสยาม ต้นสายสกุลบุนนาคในปัจจุบัน และคอนสแตนติน ฟอลคอน ชาวกรีก ตำแหน่ง ออกญาวิไชเยนทร์ ผู้มีอิทธิพลด้านการค้าและการเมืองสูงที่สุดในช่วงปลายรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้น

จะเห็นได้ว่ากรุงศรีอยุธยา มิได้เป็นเพียงราชอาณาจักรเก่าเท่านั้น แต่ยังรุ่งเรืองและมีความทันสมัยในการดำเนินนโยบายเป็นอย่างยิ่ง และแม้ว่านโยบายหลายอย่างจะเป็นไปเพื่อถ่วงดุลอำนาจทางการเมืองภายใน และมิได้กระจายผลประโยชน์มาสู่ประชาชนทั่วไปมากนัก แต่ก็ถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญหน้าหนึ่งที่คนไทยควรจะได้รับทราบไว้

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง