วิธีปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ต้องทำอย่างไร ถึงจะถูกต้อง ได้เงินคืนครบทุกบาท ทุกสตางค์
หลายคนน่าจะเคยเปิดบัญชีธนาคารไว้มากกว่าหนึ่งเล่ม เพื่อใช้งานแตกต่างกันไป เช่น บัญชีรับเงินเดือน บัญชีสำหรับเงินออม บัญชีธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น แน่นอนการเปิดบัญชีใหม่นั้น เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่เราทราบกันอยู่แล้ว แต่การปิดบัญชีนี่สิ ยังมีคนจำนวนมากเลยที่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง
วันนี้ กระปุกดอทคอม
จึงนำวิธีการปิดบัญชีธนาคารมาแจกแจงให้ทราบกัน ว่าต้องดำเนินการอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง ติดต่อที่ไหน การปิดบัญชีธนาคารถึงจะสมบูรณ์
วิธีปิดบัญชีธนาคารที่ถูกต้อง
สำหรับวิธีการปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคาร สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอน ดังนี้
1. เจ้าของบัญชีนำ "สมุดบัญชีธนาคาร" พร้อม "บัตรประชาชน" ไปติดต่อที่สาขาของธนาคารนั้น
โดยธนาคารหลาย ๆ แห่ง เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา สามารถทำเรื่องปิดบัญชีกับสาขาไหนก็ได้
แต่มีบางธนาคาร เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารออมสิน และธนาคารธนชาต ต้องทำเรื่องปิดบัญชีกับสาขาเดิมที่เคยเปิดบัญชีไว้เท่านั้น
สำหรับธนาคารอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ สามารถสอบถามข้อมูลโดยตรงจากธนาคารนั้น ๆ เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
2. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า "ต้องการปิดบัญชี" เท่านั้น
ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสาขา และเขียนความจำนงว่าต้องการปิดบัญชี อย่าใช้วิธีถอนเงินให้เหลือ 0 บาท เพราะแม้ว่าสุดท้ายแล้วบัญชีจะโดนปิดอัตโนมัติเหมือนกัน แต่คุณจะเสียสิทธิ์ในการได้รับดอกเบี้ยเงินฝาก
เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถปิดบัญชี พร้อมได้รับเงินฝากและดอกเบี้ยแบบครบถ้วนทุกบาท ทุกสตางค์
ทำไมไม่ควรถอนเงินให้เหลือ 0 บาท
ไม่ควรใช้วิธีถอนเงินในบัญชีให้เหลือ 0 บาทเพื่อปิดบัญชีด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม
หรืออินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง เพราะโดยทั่วไปบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จะคิดดอกเบี้ยให้ผู้ฝากทุกวัน แต่จะจ่ายดอกเบี้ยเข้าบัญชีปีละ 2 ครั้ง คือ ในเดือนมิถุนายนและธันวาคม
ดังนั้น เมื่อคุณถอนเงินออกมาหมด แต่ไม่ได้แจ้งปิดบัญชี ทางธนาคารก็จะไม่ทราบว่าที่จริงแล้วคุณต้องการปิดบัญชี จึงไม่ได้คำนวณดอกเบี้ยที่คงค้างอยู่ให้ เช่น ถอนเงินทั้งหมดออกจากบัญชีในเดือนมีนาคม คุณจะเสียโอกาสได้รับดอกเบี้ยระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม
นอกจากนี้ เมื่อบัญชีไม่มีความเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ก็อาจถูกเก็บค่าธรรมเนียมรักษาบัญชีได้ แม้ในบัญชีจะไม่เหลือเงินให้หักค่าธรรมเนียมก็ตาม แต่อย่าลืมว่าอาจมีเงินคงเหลือจากดอกเบี้ยที่คงค้างอยู่ หรือถ้าบังเอิญมีคนโอนเงินเข้ามาในบัญชีนี้ ธนาคารก็จะดึงเงินจากส่วนนั้นนั่นเอง
สมุดบัญชีหาย ปิดบัญชีธนาคารได้ไหม
คำตอบคือปิดได้ แต่คุณจำเป็นต้องไปดำเนินการแจ้งความก่อน แล้วจึงนำใบแจ้งความ พร้อมบัตรประชาชน ไปติดต่อที่สาขาธนาคารเพื่อปิดบัญชีต่อไป
การปิดบัญชีธนาคารให้ถูกวิธี เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ เพียงทำให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาอะไรตามมาในอนาคต ที่สำคัญคือ ได้รับเงินฝากและดอกเบี้ยแบบครบถ้วนทุกบาท ทุกสตางค์ แน่นอน
อยากเปิดบัญชีออนไลน์ แบบไม่ต้องไปสาขา ทำอย่างไรดี?
ปัจจุบันการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์โดยไม่ต้องไปที่สาขาธนาคารสามารถทำได้แล้วในบางธนาคารที่รองรับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเปิดบัญชีธนาคารที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดโรคระบาดเช่นนี้และบางสาขาของธนาคารก็เปิด-ปิดไม่เป็นไปตามเวลาปกติ
ในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปิดบัญชีแบบออนไลน์ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร และยืนยันตัวตนด้วยวิธีไหนได้บ้าง
เปิดบัญชีออนไลน์ต้องทำอย่างไรบ้าง
การเปิดบัญชีออนไลน์มี 3 กรณีหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้
- เปิดบัญชีใหม่โดยที่เคยมีบัญชีเงินฝากของธนาคารนั้น ๆ และใช้ mobile banking อยู่แล้ว
หากท่านใช้บริการ mobile banking ของธนาคารนั้นอยู่แล้ว บางธนาคารจะสามารถเปิดบัญชีใหม่ผ่าน mobile banking ได้เลยทันที เพียงแค่กรอกรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อย - เปิดบัญชีใหม่โดยใช้ข้อมูลยืนยันตัวตนจากธนาคารอื่นที่เคยมีบัญชีไว้อยู่แล้ว
ปัจจุบัน ด้วยแพลตฟอร์ม National Digital ID (NDID) ประชาชนสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนข้ามธนาคาร ผ่านช่องทาง digital ของธนาคารที่เคยเปิดบัญชีเงินฝากไว้แล้ว โดยใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (facial recognition) ทำให้การเปิดบัญชีใหม่ไม่จำเป็นต้องไปที่สาขาธนาคารเพื่อยืนยันตัวตนอีกต่อไป ขอเพียงแค่เคยมีบัญชีกับธนาคารที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม NDID และเคยถ่ายรูปเก็บข้อมูลไว้ก็พอ ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละธนาคารได้ตามลิงก์ด้านล่าง - เปิดบัญชีใหม่โดยไม่เคยมีบัญชีธนาคารที่อื่นมาก่อน หรือมีบัญชีธนาคารอื่นแล้ว แต่ธนาคารไม่ได้อยู่ใน NDID
ในกรณีนี้ ผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีจะต้องยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชีตามวิธีที่แต่ละธนาคารกำหนด โดยแต่ละธนาคารจะมีช่องทางการยืนยันตัวตน และเอกสารที่ใช้ในการยืนยันตัวตนแตกต่างกันไป เช่น ยืนยันตัวตนที่ร้าน 7-11 ยืนยันตัวตนที่เครื่องอัตโนมัติที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ หรือยืนยันตัวตนด้วยการถ่ายรูปบัตรประชาชนและพาสปอร์ตแล้วอัพโหลดใน mobile banking เป็นต้น ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละธนาคารได้ตาม ลิงก์ด้านล่าง