เพื่อน ๆ คงได้ยินฟังคุณพ่อคุณแม่เล่านิทานอีสปให้ฟังกันบ้างตอนเด็ก ๆ วันนี้เราขอพาเพื่อน ๆ มาย้อนวัยกลับไปหานิทานอีสปอีกครั้งในโคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงร่วมแปลมาจากนิทานกรีก เนื้อเรื่องจะเหมือนหรือต่างกันยังไง เตรียมตัวไปเรียนกันได้เลย และนอกจากโคลงสุภาษิตอิศปปกรณำแล้ว ยังมีโคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ และโคลงสุภาษิตนฤทุมนาการให้เพื่อน ๆ เรียนกันด้วยนะ เนื้อหาน่าสนใจไม่แพ้กันเลย โดยโคลงสุภาษิตทั้ง ๓ เรื่องนี้คือส่วนหนึ่งในโคลงสุภาษิตพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นเอง
ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าโคลงสุภาษิตพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นบทเรียนที่ยาวมากจริง ๆ เราแนะนำให้เรียนกันในแอปพลิเคชัน StartDee กับครูไตเติ้ลน่าจะเหมาะกว่า ฟังเพลิน ๆ เข้าใจง่าย แถมละเอียดกว่าด้วยนะ ไปดาวน์โหลดกันเลย
เพื่อรวบรวมโคลงสุภาษิตที่รัชกาลที่ ๕ มีส่วนร่วมในการแต่งทั้งหมด ๑๑ เรื่องด้วยกัน ได้แก่
๑. สุภาษิตบางปะอิน
๒. โคลงกระทู้สุภาษิต
๓. สุภาษิตเบ็ดเตล็ด
๔. สุภาษิตสอนผู้เป็นข้าราชการ
๕. สุภาษิตโสฬสไตรยางค์
๖. สุภาษิตนฤทุมนาการ
๗. โคลงว่าด้วยความสุข
๘. วชิรญาณสุภาษิต
๙. พระราชปรารถความสุขทุกข์
๑๐. สุภาษิตพิพิธธรรม
๑๑. สุภาษิตอิศปปกรณำ
แต่ในบทเรียนนี้ จะยกมาให้เพื่อน ๆ ชั้นม.3 เรียนกันแค่ 3 เรื่อง คือ สุภาษิตโสฬสไตรยางค์ สุภาษิตนฤทุมนาการ และสุภาษิตอิศปปกรณำ เท่านั้น
โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์เกิดจากการนำคำว่า โสฬส ซึ่งหมายถึง ๑๖ และไตรยางค์ ซึ่งหมายถึง ๓ ส่วน มารวมเข้าด้วยกัน หมายถึง สิ่งที่ควรแสวงหาหรือควรละเว้น ซึ่งจะประกอบไปด้วยโคลง ๑๖ บท ในโคลงแต่ละบทจะมีสิ่งที่ควรแสวงหาและควรละเว้นอยู่อย่างละ ๓ สิ่ง
ฉันทลักษณ์ที่ใช้ในการแต่งคือ โคลงสี่สุภาพ ประกอบไปด้วยบทนำ ๑ บท เนื้อเรื่อง ๑๖ บท และบทสรุปอีก ๑ บท โดยแต่เดิมต้นฉบับของเนื้อเรื่องที่ใช้ในการแต่งโคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์นั้นเป็นภาษาอังกฤษ รัชกาลที่ ๕ ได้โปรดให้กวีในราชสำนักแปล ซึ่งก็คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร และพระองค์ได้ทรงตรวจแก้ รวมถึงพระราชนิพนธ์โคลงบทนำเพิ่มเติม
โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการเกิดจากการนำคำว่า นฤ หมายถึง ไม่มี ทุ หมายถึง ไม่ดี มนา (มน) หมายถึง ใจ และการ หมายถึง สภาพ มารวมกัน ซึ่งหมายถึง กิจ ๑๐ ประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ โดยใช้ฉันทลักษณ์ในการแต่งคือ โคลงสี่สุภาพ ประกอบไปด้วยบทนำ ๑ บท เนื้อเรื่อง ๑๐ บท และบทสรุปอีก ๑ บท
เช่นเดียวกับโคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ ที่แต่เดิมต้นฉบับของเนื้อเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษ แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เป็นผู้ลงมือแปลด้วยพระองค์เอง
โคลงสุภาษิตอิศปปกรณำร.๕ ได้ทรงแปลนิทานอีสปของกรีก จากต้นฉบับภาษาอังกฤษ จำนวน ๓๔ เรื่องและร่วมแต่งสุภาษิตประกอบนิทานร่วมกับกวีอีก ๓ ท่าน คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) และพระยาราชสัมภารากร
แปลโคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์
ว่าด้วยความสามอย่าง
ปราชญ์แสดงดำริด้วย | ไตรยางค์ |
โสฬสหมดหมวดปาง | ก่อนอ้าง |
เป็นมาติกาทาง | บัณฑิต แสวงเฮย |
หลังสวัสดิ์ขจัดทุกข์สร้าง | สืบสร้องศุภผล |
บทนำที่กล่าวถึงสามสิ่งสิบหกหมวด เป็นแม่บทของบัณฑิตที่ช่วยขจัดความทุกข์ สร้างความดีงาม เพื่อเป็นที่สรรเสริญสืบไป
คำศัพท์สำคัญ
ไตรยางค์ หมายถึง สามส่วน
โสฬส หมายถึง สิบหก
มาติกา หมายถึง แม่บท
สร้อง (ซ้อง) หมายถึง สรรเสริญ
ศุภผล หมายถึง ผลของความดี
บทที่ ๑ สามสิ่งที่ควรรัก
ควรกล้ากล้ากล่าวถ้อย | ทั้งหทัย แท้แฮ |
สุวภาพพจน์กายใน | จิตพร้อม |
ความรักประจักษ์ใจ | จริงแน่ นอนฤา |
สามสิ่งควรรักน้อม | จิตให้สนิทจริง |
สำหรับสามสิ่งที่ควรรักนั้น ได้แก่ ความกล้า ความสุภาพ และความรักใคร่ อันหมายถึงความกล้าที่จะพูดอย่างความจริงใจ มีความสุภาพอ่อนน้อมจากภายใน และมีความรักใคร่ปรองดองกับเพื่อน ๆ
คำศัพท์สำคัญ
สุวภาพ หมายถึง สุภาพ
บทที่ ๒ สามสิ่งที่ควรชม
ปัญญาสติล้ำ | เลิศญาณ |
อำนาจศักดิ์ศฤงคาร | มั่งขั้ง |
มารยาทเรียบเสี่ยมสาน | เสงี่ยมเงื่อน งามนอ |
สามสิ่งควรจักตั้ง | แต่ซ้องสรรเสริญ |
สำหรับสามสิ่งที่เรามีแล้ว จะเกิดการชื่นชมต่อผู้พบเห็น ได้แก่ อำนาจทางปัญญา เกียรติยศ และความมีมารยาทดี โดยการมีปัญญาที่ดีจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ เมื่อมีเกียรติยศ ย่อมสร้างความมั่งคั่งตามมา และหากมารยาทดีและสง่างาม ย่อมมีผู้สรรเสริญ
คำศัพท์สำคัญ
ศฤงคาร หมายถึง สิ่งที่ก่อให้เกิดความรัก
มั่งขั้ง (ขั้งในที่นี้เป็นคำโทโทษ) หมายถึง มั่งคั่ง
เสี่ยมสาน หมายถึง เสงี่ยมงาม
ซ้อง หมายถึง ร้องสรรเสริญ
บทที่ ๓ สามสิ่งที่ควรเกลียด
ใจบาปจิตหยาบร้าย | ทารุณ |
กำเริบเอิบเกินสกุล | หยิ่งก้อ |
อีกหนึ่งห่อนรู้คุณ | ใครปลูก ฝังแฮ |
สามสิ่งควรเกลียดท้อ | จิตแท้อย่าสมาน |
สามสิ่งที่เราควรเกลียด ได้แก่ ความดุร้าย ความยิ่งกำเริบ และความอกตัญญู เพราะสามสิ่งนี้ เป็นหนทางแห่งความเสื่อม หากพบเจอคนประเภทนี้ ก็ไม่ควรผูกสัมพันธ์ด้วย
คำศัพท์สำคัญ
ห่อน หมายถึง ไม่
สมาน หมายถึง เชื่อม, ผูกพัน
บทที่ ๔ สามสิ่งที่ควรรังเกียจติเตียน
ใจชั่วชาติต่ำช้า | ทรชน |
ทุจริตมารยาปน | ปกไว้ |
หึงจิตคิดเกลียดคน | ดีกว่า ตัวแฮ |
สามส่วนควรเกียจใกล้ | เกลียดซ้องสมาคม |
สามสิ่งที่เราควรรังเกียจติเตียนคือ ความชั่วเลวทราม มารยา และความฤษยา โดยเฉพาะคนที่มีจิตใจชั่วช้า คนที่ทุจริตและมีมารยาปกปิดไว้ รวมไปถึงคนที่อิจฉาคนที่ดีกว่าตน คนสามแบบนี้ เราไม่ควรเกี่ยวข้อ หรือคบหาด้วย
คำศัพท์สำคัญ
ทรชน หมายถึง คนชั่วร้าย
ซ้อง หมายถึง เกี่ยวข้อง
บทที่ ๕ สามสิ่งที่ควรเคารพ
ศาสนาสอนสั่งให้ | ประพฤติดี |
หนึ่งยุติธรรมไป่มี | เลือกผู้ |
ประพฤติเพื่อประโยชน์ศรี | สวัสดิ์ทั่ว กันแฮ |
สามสิ่งควรรอบรู้ | เคารพเรื้องเจริญคุณ |
สามสิ่งที่เราควรเคารพคือ ศาสนา ที่สอนให้เราประพฤติดี ความยุติธรรม ที่สอนให้เราไม่เลือกข้าง หรือฝักใฝ่ฝ่ายใด และการสละประโยชน์ตนเอง ซึ่งก็คือการประพฤติปฏิบัติเพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
คำศัพท์สำคัญ
ไป่ หมายถึง ไม่
เรื้อง (เรือง) หมายถึง โด่งดัง
บทที่ ๖ สามสิ่งที่ควรยินดี
สรรพางค์โสภาคย์พร้อม | ธัญลักษณ์ |
ภาษิตจิตประจักษ์ | ซื่อพร้อม |
เปนสุขโสดตนรัก | การชอบ ธรรมนา |
สามสิ่งควรชักน้อม | จิตให้ ยินดี |
สามสิ่งที่ควรยินดี ได้แก่ความงาม ความซื่อตรง และความเป็นไทแก่ตน เนื่องจากการมีรูปร่างที่เรียกว่ามีลักษณะที่ดี และการพูดอย่างซื่อตรงตามใจคิดถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และความมีอิสระเสรีก็ถือเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน เพราะคือความสามารถในการทำทุกอย่างได้โดยไม่ถูกบังคับ
คำศัพท์สำคัญ
สรรพางค์ หมายถึง ทั่วทั้งตัว
ธัญลักษณ์ หมายถึง ลักษณะดี
ภาษิต หมายถึง คำพูดที่ดี
โสด หมายถึง อิสระ
บทที่ ๗ สามสิ่งที่ควรปรารถนา
สุขกายวายโรคร้อน | รำคาญ |
มากเพื่อนผู้วานการ | ชีพได้ |
จิตแผ้วผ่องสำราญ | รมยสุข เกษมแฮ |
สามสิ่งควรจักให้ | รีบร้อนปรารถนา |
สามสิ่งที่เราควรปรารถนา คือ ความสุขสบาย ซึ่งในที่นี้หมายถึง การไม่เจ็บป่วย การไม่มีโรค การมีมิตรสหายที่ดี เมื่อถึงเวลาเราเดือดร้อน เราสามารถพึ่งพาได้ และการมีใจที่บริสุทธิ์แจ่มใส ก็จะสามารถทำให้ร่างกายสบาย และมีความสุขได้นั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
รมย (รมย์) หมายถึง น่าบันเทิงใจ
บทที่ ๘ สามสิ่งที่ควรปรารถนา
ศรัทธาทำจิตหมั้น | คงตรง |
สงบระงับดับประสงค์ | สิ่งเศร้า |
จิตสะอาดปราศสิ่งพะวง | วุ่นขุ่น หมองแฮ |
สามส่วนควรใฝ่เฝ้า | แต่ตั้งอธิษฐาน |
สามสิ่งที่เราควรอ้อนวอนขอหรือตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้มีอยู่ตลอดไป คือ ความเชื่อถือ ความสงบ และใจบริสุทธิ์ เพราะการมีศรัทธาหรือความเชื่อถือ จะทำให้จิตใจของเรามั่นคง ตั้งมั่น ในขณะที่ความสงบ จะทำให้เรายับยั้งความต้องการต่าง ๆ ในจิตใจ ไม่ฟุ้งซ่าน และหากเรามีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ เราก็จะไม่มีสิ่งที่ต้องพะวง และไม่เศร้าหมองนั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
จิตหมั้น (หมั้น ในที่นี้เป็นรูปโทโทษ) หมายถึง ใจมั่นคง
บทที่ ๙ สามสิ่งที่ควรนับถือ
ปัญญาตรองตริล้ำ | ลึกหลาย |
ฉลาดยิ่งสิ่งแยบคาย | คาดรู้ |
มั่นคงไม่คืนคลาย | คลอนกลับ กลายแฮ |
สามสิ่งควรกอบกู้ | กับผู้นับถือ |
สามสิ่งที่เรานับถือ หรือควรนำกลับมาให้กับผู้ที่เรานับถือ คือ ปัญญา ความฉลาด และความมั่นคง เพราะปัญญาคือความรอบรู้ เมื่อมีความรู้ ย่อมต้องเกิดความฉลาดในการนำความรู้ไปใช้ และควรมีจิตใจที่มั่นคง ไม่โคลงเคลงกลับไปกลับมานั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
คลอน หมายถึง ไหว, โคลงไปโคลงมา
บทที่ ๑๐ สามสิ่งที่ควรชอบ
สุจริตจิตโอบอ้อม | อารี |
ใจโปร่งปราศราคี | ขุ่นข้อง |
สิ่งเกษมสุขเปรมปรี- | ดาพรั่ง พร้อมแฮ |
สามสิ่งสมควรต้อง | ชอบต้องยินดี |
สามสิ่งที่เราควรชอบและยินดีคือ ความอารีด้วยใจสุจริต ความใจดี และความสนกสนาน เพราะความมีจิตใจโอบอ้อมอารีด้วยใจสุจริตที่แท้ แจ่มใส และปลอดโปร่งจากสิ่งไม่ดี จะทำให้สิ่งที่ดี ความสุขสนุกสนาน ก็จะเข้ามาพร้อมในทุก ๆ ด้านนั่นเอง
บทที่ ๑๑ สามสิ่งที่ควรสงสัย
คำยอยกย่องเพี้ยน | ทุกประการ |
พักตร์จิตผิดกันประมาณ | ยากรู้ |
เร็วรัดผลัดพลันขาน | คำกลับ พลันฤๅ |
สามส่วนควรแล้วผู้ | พะพ้องพึงแคลง |
สามสิ่งที่เราควรสงสัยอย่าได้ประมาท คือ คำยอ ที่อาจไม่ใช่ความจริงทุกประการ คนหน้าเนื้อใจเสือ ที่หน้าไม่เหมือนใจ ยากที่จะหยั่งรู้ และคลามพลันรักพลันจืด คือคนที่กลับคำเร็ว จากรักเปลี่ยนเป็นไม่รักอย่างรวดเร็ว
คำศัพท์สำคัญ
พักตร์ หมายถึง หน้า
บทที่ ๑๒ สามสิ่งควรละ
เกียจคร้านการท่านทั้ง | การตน ก็ดี |
พูดมากเปล่าเปลืองปน | ปดเหล้น |
คำแสลงเสียดแทงระคน | คำหยาบ หยอกฤๅ |
สามสิ่งควรทิ้งเว้น | ขาดสิ้นสันดาน |
สามสิ่งที่ควรละคือ ความเกียจคร้าน การพูดจาไร้สาระ และไม่ควรกล่าวว่าเสียดแทงหรือพูดคำหยาบใส่ผู้อื่น เพราะนับว่าเป็นการไร้มารยาท
คำศัพท์สำคัญ
เหล้น (ในที่นี้เป็นรูปโทโทษ) หมายถึง เล่น
บทที่ ๑๓ สามสิ่งควรจะกระทำให้มี
หนังสือสอนสั่งข้อ | วิทยา |
เว้นบาปเสาะกัลยาณ์ | มิตรไว้ |
หนึ่งขลาดปราศโทสา | คติห่อ ใจเฮย |
สามสิ่งควรมีให้ | มากยั้งยืนเจริญ |
สามสิ่งที่เราควรจะกระทำให้มีคือ หนังสือดี เพื่อนที่ดี และอารมณ์ใจเย็นดี เพราะหนังสือคือแหล่งรวมความรู้ต่าง ๆ มากมาย ส่วนเพื่อนที่ดี ก็ควรแสวงหาเอาไว้ และควรทำใจให้ปราศจากความโกรธ สามสิ่งนี้จะนำพาเราไปสู่ความเจริญนั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
วิทยา หมายถึง ความรู้
โทสาคติ หมายถึง ความลำเอียงเพราะความโกรธ
บทที่ ๑๔ สามสิ่งควรจะหวงแหนฤๅต่อสู้เพื่อรักษา
ความดีมีชื่อทั้ง | ยศถา ศักดิ์เฮย |
ประเทศเกิดกูลพงศา | อยู่ยั้ง |
คนรักร่วมอัธยา- | ศัยสุข ทุกข์แฮ |
สามสิ่งควรสงวนตั้ง | ต่อสู้ผู้เบียน |
สามสิ่งที่เราควรจะหวงแหนและต่อสู้เพื่อรักษา คือ ชื่อเสียงยศศักดิ์ บ้านเมืองของตน และมิตรสหาย เพราะเกียรติศักดิ์จะเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้วงศ์ตระกูล ส่วนบ้านเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของวงศ์ตระกุลของเรา ก็ควรที่จะรักษาไว้ และควรรักษามิตรภาพระหว่างมิตรสหายไว้ด้วยเช่นกัน
คำศัพท์สำคัญ
กูลพงศา หมายถึง วงศ์ตระกูล
บทที่ ๑๕ สามสิ่งควรจะหวงแหนฤๅต่อสู้เพื่อรักษา
อาการอันเกิดด้วย | น้ำใจ แปรฤๅ |
ใจซึ่งรีบเร็วไว | ก่อนรู้ |
วาจาจักพูดใน | กิจสบ สรรพแฮ |
สามสิ่งจำทั่วผู้ | พิทักษ์หมั้นครองระวัง |
สามสิ่งที่เราควรครองไว้หรือควบคุมให้ได้ คือกิริยาที่เป็นในใจ ความมักง่าย และวาจา กล่าวคือ เราควรเก็บสิ่งที่เกิดขึ้นในใจ ไม่ควรแสดงออกให้ใครรู้ อย่าด่วนมักง่าย ตัดสินใจโดยไม่ตริตรองให้ดี และที่สำคัญควรระวังคำพูดนั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
ครอง หมายถึง ควบคุมให้ได้
บทที่ ๑๖ สามสิ่งควรจะเตรียมเผื่อ
สิ่งใดในโลกล้วน | เปลี่ยนแปลง |
หนึ่งชราหย่อนแรง | เร่งร้น |
ความตายติดตามแสวง | ทำชีพ ประลัยเฮย |
สามส่วนควรคิดค้น | คติรู้เตรียมคอย |
สามสิ่งที่เราควรจะเตรียมเผื่อ หรือเตรียมตัวเผชิญหน้ากับมันคือ อนิจจัง ความชรา และมรณะ โดยอนิจจังคือความไม่เที่ยง เพราะทุกสิ่งบนโลกล้วนมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนความแก่เถ้าและชรา ก็เป็นสิ่งเข้ามาในชีวิตอย่างรวดเร็ว และสุดท้าย ทุกคนย้อมก้าวเข้าสู่ความตายในสักวัน ดังนั้น เราจึงควรเตรียมตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึง
คำศัพท์สำคัญ
เร่งร้น หมายถึง มาโดยเร็ว
บทสรุป
จบสามสิบหกเค้า | คะแนนนับ หมวดแฮ |
หมวดละสามคิดสรรพ | เสร็จสิ้น |
เป็นสี่สิบแปดฉบับ | บอกเยี่ยง อย่างแฮ |
ตามแบบ บ่ ขาดหวิ้น | เสร็จแล้วสมบูรณ์ |
จากโคลงสรุปบทข้างต้น สามารถถอดคำประพันธ์ได้ว่า จบกันไปแล้วสำหรับโคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ ที่มีทั้งหมดสิบหกหมวด ซึ่งแต่ละหมวดมีสามข้อ รวมเป็นสี่สิบแปดข้อ ที่มีไว้เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้คนทั้งหลาย หากใครปฏิบัติครบถ้วน ไม่ขาดสักข้อ นับว่าผู้นั้นเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมนั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
หวิ้น (ในที่นี้เป็นคำโทโทษ) หมายถึง วิ่น
แปลโคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
กิจ ๑๐ ประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ
บัณฑิตวินิจแล้ว | แถลงสาร สอนเอย |
ทศนฤทุมนาการ | ชื่อชี้ |
เหตุผู้ประพฤติปาน | ดังกล่าว นั้นนอ |
โทมนัสเพราะกิจนี้ | ห่อนได้เคยมี |
โคลงบทนำนี้กล่าวถึงบัณฑิตผู้รู้แจ้งที่ได้กล่าวถึงกิจที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ ๑๐ ประการ หากประพฤติปฎิบัตตามกิจเหล่านี้ จะไม่เกิดความทุกข์ใจแน่นอน
คำศัพท์สำคัญ
ทศ หมายถึง สิบ
ห่อน หมยถึง ไม่
กิจข้อที่ ๑ เพราะความดีทั่วไป
ทำดีไป่เลือกเว้น | ผู้ใด ใดเฮย |
แต่ผูกไมตรีไป | รอบข้าง |
ทำคุณอุดหนุนใน | การชอบ ธรรมนา |
ไร้ศัตรูปองมล้าง | กลับซ้องสรรเสริญ |
การทำความโดยไม่เลือกกระทไกับผู้ใดผู้หนึ่ง รู้จักผูกไม่ตรีกับทุกคน จะทำให้เราไม่มีศัตรู และมีแต่คนยกย่องสรรเสริญ
คำศัพท์สำคัญ
ไป่ หมายถึง ไม่
ซ้อง หมายถึง สรรเสริญ
กิจข้อที่ ๒ เพราะไม่พูดร้ายต่อใครเลย
เหินห่างโมหะร้อน | ริษยา |
สละส่อเสียดมารษา | ใส่ร้าย |
ตำหยาบจาบจ้วงอา- | ฆาตขู่ เข็ญเฮย |
ไปหมิ่นนินทาบ้าย | โทษให้ผู้ใด |
เพราะการไม่พูดร้ายกับใคร จึงทำให้อยู่ห่างไกลจากความโมโหและความอิจฉานอกจากนั้น ยังไม่ควรพูดส่อเสียดโกหก ใส่ร้าย พูดคำหยาบจาบจ้วง อาฆาตผู้อื่น และไม่นินทาเพื่อก่อโทษให้กับคนอื่นอีกด้วย
คำศัพท์สำคัญ
มารษา หมายถึง คำปด, คำเท็จ
บ้าย หมายถึง ป้าย
กิจข้อที่ ๓ เพราะถามฟังคำก่อนการตัดสิน
ยินคดีมีเรื่องน้อย | ใหญ่ไฉน ก็ดี |
ยัง บ่ ลงเห็นไป | เด็ดด้วน |
ฟังตอบขอบคำไข | คิดใคร่ ครวญนา |
ห่อนตัดสินห้วนห้วน | เหตุด้วยเบาความ |
การได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือน้อย ไม่ควรเชื่อทันที ควรฟังความและคิดให้ใคร่ครวญให้ดีก่อน ไม่คิดหรือตัดสินใจในทันที เพราะถือว่าเชื่อง่ายและขาดความรอบคอบนั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
คดี หมายถึง เรื่อง
กิจข้อที่ ๔ เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด
พาทีมีสติรั้ง | รอคิด |
รอบคอบชอบแลผิด | ก่อนพร้อง |
คำพูดพ่างลิขิต | เขียนร่าง เรียงแฮ |
ฟังเพราะเสนาะต้อง | โสตทั้งห่างภัย |
ก่อนที่จะพูดต้องมีสติและคิดก่อน เราควรจะรอบคอบ รู้จักมองสิ่งที่ผิดและถูก เพราะการพูดให้เหมือนกับการเขียนที่เรียบเรียงมาแล้ว หากฟังแล้วไพเราะถูกหู ย่อมไม่เป็นภัยต่อตัวผู้พูด
คำศัพท์สำคัญ
พาที หมายถึง คำพูด
พร้อง หมายถึง คำพูด
พ่าง หมายถึง เพียง, เช่น
ต้องโสต หมายถึง ถูกหู, น่าฟัง
กิจข้อที่ ๕ เพราะอดพูดในเวลาที่โกรธ
สามารถอาจห้ามงด | วาจา ตนเฮย |
ปางเมื่อยังโกรธา | ขุ่นแค้น |
หยุดคิดพิจารณา | แพ้ชนะ ก่อนนา |
ชอบผิดคิดเห็นแม้น | ไม่ยั้งเสียความ |
เราควรห้ามตัวเองไม่ให้พูดเมื่อยังรู้สึกว่าตัวเองโกรธอยู่ ควรหยุดคิดและพิจารณาก่อนว่า เมื่อพูดแล้วจะเป็นฝ่ายแพ้หรือฝ่ายชนะ หากไม่รู้จักยับยั้ง จะทำให้เสียหายได้นั้นเอง
กิจข้อที่ ๖ เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอัปจน
กรุณานรชาติผู้ | พ้องภัย พิบัติเฮย |
ช่วยรอดปลอดความกษัย | สว่างร้อน |
ผลจักเพิ่มพูนใน | อนาคต กาลแฮ |
ชนจักชูชื่อช้อน | ป่างเบื้องปัจจุบัน |
การมีเมตตากรุณาต่อผู้ที่ประสบภัยให้รอดจากความเสื่อม สิ้นความทุกข์ร้อน ผลที่ได้รับจะเพิ่มพูนขึ้น ผู้คนจะเชิดชู ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
คำศัพท์สำคัญ
นรชาติ หมายถึง คน
ความกษัย หมายถึง ความเสื่อม
สว่างร้อน หมายถึง สิ้นความทุกข์ร้อน
ป่าง หมายถึง ปาง, เมื่อ
กิจข้อที่ ๗ เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด
ใดกิจผิดพลาดแล้ว | ไป่ละ ลืมเลย |
หย่อนทิฐิมานะ | อ่อนน้อม |
ขอโทษเพื่อคารวะ | วายบาด หมางแฮ |
ดีกว่าปดอ้อมค้อม | คิดแก้โดยโกง |
เมื่อกระทำการสิ่งใดพลาดแล้ว ไม่ควรที่จะลืมหรือละเลย ควรที่จะหย่อนทิฐิมานะ มีความอ่อนน้อม ควรรู้จักขอโทษเพื่อลดความบาดหมางลง ดีกว่าคิดแก้ปัญหาด้วยการพูดปดและโกหก
กิจข้อที่ ๘ เพราะอดกลั้นต่อผู้อื่น
ขันตีมีมากหมั้น | สันดาน |
ใครเกะกะระราน | อดกลั้น |
ไป่ฉุนเฉียวเฉกพาล | พาเดือด ร้อนพ่อ |
ผู้ประพฤติดั่งนั้น | จักได้ใจเย็น |
การมีความอดทนอดกลั้นเป็นนิสัยต่อผู้ที่มารุกราน ไม่ฉุนเฉียวเหมือนคนพาล ผู้คนที่ประพฤติปฏิบัติดังนี้ เรียกได้ว่าเป็นคนใจเย็นนั่นเอง
คำศัพท์สำคัญ
ขันตี หมายถึง ความอดทนอดกลั้น
หมั้น (ในที่นี้เป็นรูปโทโทษ) หมายถึง มั่น
สันดาน หมายถึง นิสัยที่มีมาตั้งแต่กำเนิด
กิจข้อที่ ๙ เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนินทา
ไป่ฟังคนพูดฟุ้ง | ฟั่นเฝือ |
เท็จและจริงจานเจือ | คละเคล้า |
คือมีดเที่ยวกรีดเถือ | ท่านทั่ว ไปนา |
ฟังจะพาพลอยเข้า | พวกเพ้อรังควาน |
ไม่ควรฟังคนที่พูดเพ้อเจ้อ พูดจริงบ้าง เท็จบ้าง ปะปนกันไป เปรียบเสมือนมีดที่กรีดระรานคนอื่นไปทั่ว แล้วยังพาลพาให้เราเข้าไปเป็นพวกเพื่อพูดเหลวไหลไปด้วย
คำศัพท์สำคัญ
เพศ หมายถึง การประพฤติปฏิบัติ
เพศนินทา หมายถึง ผู้ที่ชอบนินทา
ฟั่นเฝือ หมายถึง คลุมเครือ ไม่แน่ชัด
กิจข้อที่ ๑๐ เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนินทา
อีกหนึ่งไป่เชื่อถ้อย | คำคน ลือแฮ |
บอกเล่าข่าวเหตุผล | เรื่องร้าย |
สืบสอบประกอบจน | แจ่มเท็จ จริงนา |
ยังบ่ด่วนยักย้าย | ตื่นเต้นก่อนกาล |
การไม่หลงเชื่อถ้อยคำคน หรือข่าวร้ายที่มีคนมาบอก ควรที่จะสืบเสาะเรื่องราวให้ชัดเจนก่อนที่จะตื่นเต้นไปเสียก่อน
บทสรุป
ข้อความตามข่าวแก้ | สิบประการ นี้นอ |
ควรแก่ความพิจารณ์ | ทั่วผู้ |
แม้ละไป่ขาดปาน | โคลงกล่าว ก็ดี |
ควรระงับดับสู้ | สงบบ้างยังดี |
ข้อความที่กล่าวมาทั้ง ๑๐ ประการนี้ ควรที่จะให้ทุกคนพิจารณาและปฏิบัติตาม แม้จะขาดไปบ้างบางข้อ แต่ก็ควรที่จะรู้จักระงับจิตใจ แม้ทำเพียงบางช้อ ก็ถือว่ายังดี
แปลโคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ
ราชสีห์กับหนู
อย่าควรประมาทผู้ | ทุรพล |
สบเคราะห์คราวขัดสน | สุดรู้ |
เกลือกเขาสบร้ายดล | ใดเหตุ มีแฮ |
มากพวกคงมีผู้ | ระลึกเค้าคุณสนอง |
ข้อคิดจากเรื่องราชสีห์กับหนู คือ อย่าประมาทผู้ที่มีกำลังน้อย เพราะอาจพบกันคราวเดือดร้อนอย่างคาดไม่ถึง เขาเหล่านั้นอาจผ่านเข้ามาพบเห็นพอดีและช่วยเหลือเราได้ ดังนั้น การมีพวกมาก ก็อาจช่วยให้มีผู้ระลึกคุณมาตอบแทนเราในตอนที่ลำบากได้
คำศัพท์สำคัญ
ทุรพล หมายถึง ผู้มีกำลังน้อย
สบ หมายถึง พบ
เกลือก หมายถึง เผื่อ
บิดากับบุตรทั้งหลาย
เชื้อวงศ์วายรักร้อย | ริษยา กันเฮย |
ปรปักษ์เบียนบีฑา | ง่ายแท้ |
ร่วมสู้ร่วมรักษา | จิตร่วม รวมแฮ |
หมื่นอมิตร บ มิแพ้ | เพราะพร้อมเพรียงผจญ |
ญาติพี่น้องที่ไม่รักและคอยอิจฉากันนั้น ศัตรูสามารถเบียดเบียนได้โดยง่าย แต่หากร่วมสู้ร่วมรักษาพร้อมใจกัน ศัตรูมาพร้อมกันเป็นหมื่นเป็นแสนก็ย่อมไม่แพ้
คำศัพท์สำคัญ
ปรปักษ์ หมายถึง ศัตรู
เบียนบีฑา หมายถึง เบียดเบียน
อมิตร หมายถึง ศัตรู
สุนัขป่ากับแกะ
ชาติกักขฬะดุร้าย | สันดาน |
คงจะหาสิ่งพาล | โทษให้ |
ถึงจะกล่าวคำหวาน | คำชอบ ก็ดี |
หาญหักเอาจนได้ | ดั่งข้อเข้าประสงค์ |
คนที่มีความดุร้าย หยาบคายเป็นสันดาน มักจะพาลว่ากล่าวโทษทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ถึงแม้จะพูดดีกับเขาอย่างไรก็ตาม เขาก็จะใช้อำนาจจนได้ในสิ่งที่เขาต้องการ
คำศัพท์สำคัญ
กักขฬะ หมายถึง หยาบคายมาก
กระต่ายกับเต่า
เชื่อเร็วแรงเรี่ยวทั้ง | เชาวน์ชาญ เชี่ยวแฮ |
แม้นประมาทมละการ | ก็ล้า |
โฉดช้าอุตส่าห์หาญ | ห่อนหยุด ยั้งเฮย |
ดังเต่ากระต่ายท้า | แข่งช้าชนะเร็ว |
คนที่เชื่อมั่นในเรี่ยวแรงและมีความฉลาดนั้น หากประมาทละเลย ก็ล้มเหลวได้ แต่คนช้าและโง่ที่มีความพยายามไม่หยุดยั้ง มักจะทำงานสำเร็จ ดังเช่นเต่าที่วิ่งแข่งชนะกระต่าย
คำศัพท์สำคัญ
เชาวน์ชาญ หมายถึง ปัญญา, ความคิด
มละ หมายถึง ล้า
โฉด หมายถึง โง่
เนื้อหายาวก็จริง แต่ก็อ่านสนุกไม่น้อยเลยนะ แถมโคลงสุภาษิตแต่ละบทก็ให้ข้อคิดที่ดีและแตกต่างกัน ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลยล่ะ
หากเพื่อน ๆ ในระดับชั้น ม.๓ อยากสนุกกับบทเรียนวิชาภาษาไทยต่อ เราขอแนะนำ พระบรมราโชวาท บทละครเรื่องเห็นแก่ลูก บทพากย์เอราวัณ พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร และอิศรญาณภาษิต อ่านจุใจแน่นอน
ขอบคุณบทเรียนจาก : สันติพงศ์ เร่งประเสริฐ (ครูไตเติ้ล)