2. ต้องรู้จักตัวเองสมาชิกต้องรู้ความต้องการของตัวเอง มีแรงจูงใจ เข้าใจสภาพแวดล้อมทั้งงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
3. มีความทะเยอะทะยานอย่างมีเหตุผล
4. สร้างและบริหารเสน์หของตัวเองได้
5. ทำงานเป็น รักงานที่ทำ รับผิดชอบงานเต็มที่
6. รู้จักให้ข่าวสารและข้อเท็จจริง
7. รู้จักเกรงใจ ความเกรงใจเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของคนดี
8. ต้องเป็นคนที่รักตัวเองแต่ไม่หลงตัวเอง
9. ต้องเป็นคนที่มีอารมณ์ดีอยู่เสมอ
มนุษยสัมพันธ์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างบุคคลกับบุคคลบุคคลกับหมู่คณะ หรือระหว่างคณะกับคณะ เพื่อก่อให้เกิดความเคารพนับถือความจงรักภักดี ความสามัคคี ความสำเร็จในหน้าที่การงานและความสุข (เริงชัยหมื่นชนะ)
มนุษยสัมพันธ์เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลกับบุคคลหรือบุคคลกับกลุ่มหรือกลุ่มกับกลุ่ม รวมตลอดถึงพฤติกรรมในการแสดงออกทั้งกาย วาจา ใจต่อคนอื่นใน รูปแบบของการทำงานร่วมกันและในบางกรณี ก็เป็นไปในทางส่วนตัว(สร้อยตระกูล (ติวยานนท์) อรรถมานะ)
มนุษยสัมพันธ์หมายถึงการติดต่อเกี่ยวข้องระหว่างบุคคลกับบุคคล บุคคลต่อกลุ่มหรือกลุ่มต่อกลุ่มทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัวและเกี่ยวข้องกับการทำงานทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อให้เกิดความรัก ความศรัทธาช่วยเหลือและร่วมมือร่วมใจกันทำงานให้บรรลุเป้าหมาย(ผุสดี พฤกษะวัน)
มนุษย์ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันและทำงานกับผู้อื่นดังนั้นจึงต้องให้ความสนใจแก่มนุษย์ผู้ปฏิบัติงานในฐานะที่เป็นแกนสำคัญของการทำงาน คนเป็นสิ่งที่มีชีวิตจิตใจมีความต้องการ มีความรู้ มีอารมณ์ มิใช่เป็นเครื่องจักรเครื่องยนต์ หากได้รับการดูแลจากฝ่ายบริหารเป็นอย่างดีอาจจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นมากกว่าเดิม
แนวคิดพื้นฐานและหลักทั่วไป
– ต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมตนเองและต้องเปิดโอกาสที่จะให้บุคคลแต่ละคนได้ใช้
พรสวรรค์ทักษะ ความเฉลียวฉลาดของเขาให้มากที่สุด เหมาะสมกับบุคลิกภาพ
ของเขาซึ่งเป็นการพัฒนาบุคคล
– ต้องรู้แนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติมนุษย์ ซึ่งได้แก่ การตระหนักในความแตกต่าง
ของบุคคลความต้องการของบุคคลอันเป็นสาเหตุแห่งพฤติกรรมและศักดิ์ศรีของ
ความเป็นมนุษย์
– ต้องตระหนักถึงลักษณะธรรมชาติองค์กรว่าองค์กรนั้นเป็นระบบสังคมที่มีชีวิต
เคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงได้
– องค์การเป็นระบบเปิดที่ต้องสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร
หลักทั่วไปในการสร้างมนุษยสัมพันธ์
– การมีความจริงใจ
– การมีความรักและความปรารถนาดีต่อบุคคลอื่น
– การรู้จักจิตใจผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
– การมีมารยาททางสังคมรู้ว่า สิ่งใดควรทำ สิ่งใดควรละเว้น
ความสำคัญของมนุษยสัมพันธ์
แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่
1. ด้านการดำเนินชีวิตในสังคม ได้แก่ ความสำคัญในการดำรงชีวิตความสำคัญที่มี
ต่อคุณภาพชีวิต
2. ด้านการบริหาร
– ผู้บริหารต้องรู้หลักการครองใจพนักงานและสนองความต้องการของพนักงาน
– ผู้บริหารต้องใช้แรงจูงใจและศิลปะในการสนองความต้องการของพนักงาน
– บุคลากรต้องมีความรู้สูงขึ้น
– ผู้บริหารต้องใช้กลวิธีในการสร้างมนุษยสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการทำ
งานให้สำเร็จตามเป้าหมาย
3. ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและธุรกิจสังคมในปัจจุบันเป็นสังคมอุตสาหกรรม
และพาณิชยกรรมมีการแข่งขันเกิดขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีความพอใจในการเลือก
ซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและการบริการดังนั้นการจะโน้มน้าวให้ผู้บริโภคมาใช้สินค้า
ต้องรู้จักการใช้หลักมนุษยสัมพันธ์
4. ด้านการเมืองถ้าผู้นำทางการเมืองมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจะทำให้การบริหารมี
ประสิทธิภาพประเทศชาติมีความมั่นคง
ปรัชญาพื้นฐานของมนุษยสัมพันธ์
ปรัชญาพื้นฐานของมนุษยสัมพันธ์ที่ควรคำนึงถึงได้แก่
1. เป็นการสร้างสรรค์ความสามัคคีให้เกิดขึ้นใน หน่วยงานนั้น ๆ
2. เป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติและฝ่ายปฏิบัติ
กับฝ่ายปฏิบัติ
3. ในการติดต่อสัมพันธ์กับมนุษย์นั้นต้องยอมรับว่าทุกคนมีคุณค่าความเป็นคนเท่า
เทียมกันทุกคนต้องการการยอมรับนับถือ การยกย่องสรรเสริญและการให้เกียรติ
ซึ่งกันและกัน
4. มนุษย์ต้องการการจูงใจ ได้แก่ ความต้องการทางกาย ความมั่นคง ปลอดภัย
ความรัก เกียรติยศชื่อเสียง และความตระหนักในตนความต้องการที่ได้รับการ
ตอบสนองย่อมก่อให้เกิดมนุษยสัมพันธ์ที่ดีและนำไปสู่การทำงานที่มี
ประสิทธิภาพ
5. มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ประโยชน์ของมนุษยสัมพันธ์
1. ทำให้เข้าใจความต้องการความแตกต่างพื้นฐานของมนุษย์
2. ทำให้เกิดความราบรื่นในการคบหาสมาคมกับผู้อื่น
3. ทำให้ผู้บริหารเข้าถึงประชาชน
4. สร้างทักษะให้ผู้บริหารในการทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาและติดต่อกับกลุ่ม
ชนรวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานอื่นได้ดี
5. ทำให้ได้รับความรักใคร่เชื่อถือศรัทธา จากบุคคลในครอบครัว องค์กร และ
สังคมได้
6. ทำให้เกิดความร่วมมือในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้
7. ลดปัญหาความขัดแย้งในการทำงานและอยู่ร่วมกัน
8. ทำให้เกิดแรงจูงใจในการทำงาน มีความสามัคคีมีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน
9. เป็นปัจจัยสำคัญในการประสานประโยชน์ของสังคม
10. ทำให้ตนเองและสังคมมีความสุข
ความหมายขององค์กร
องค์กรหมายถึงหน่วยงานทางสังคมที่มีกลุ่มคนมาทำงานร่วมกัน ร่วมกันคิด พิจารณา ตัดสินใจแก้ปัญหาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน (ผุสดีพฤกษะวัน)
องค์ประกอบขององค์กร
องค์ประกอบขององค์กรมี 4 ประการ ดังนี้
1. Purpose
2. People
3. Process
4. Place other resource
ประเภทขององค์กร
ประเภทขององค์กรแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.องค์กรรูปนัย (Formal Organization)
2.องค์กรอรูปนัย (Informal Organization)
มนุษยสัมพันธ์ในองค์กร
มนุษยสัมพันธ์ในองค์กรหมายถึงความสัมพันธ์ของบุคลากรที่อยู่ในแวดล้อมขององค์กรรูปนัยซึ่งมีสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในแนวตั้งคือ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชาตามลำดับสายงานการบังคับบัญชาและสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในแนวนอนคือสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในระดับเดียวกัน และรวมถึงสัมพันธภาพระหว่างบุคคลต่อบุคคลกลุ่มบุคคลต่อกลุ่มบุคคลด้วย