อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เข้าข่ายโดนแบนรอบนี้มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ หรือ สมาร์ทโฟนขนาดปกติ หรือ ขนาดยาวไม่เกิน16 ซม.กว้างไม่เกิน 9.3 ซม. และลึกไม่เกิน1.5 ซม.(อะไรที่ใหญ่กว่าไอโฟน 7 พลัส ห้ามพกขึ้นเครื่อง!!)
เตรียมหาเคสกันกระแทก กับกุญแจล็อคกระเป๋าแบบ tsa Lock ไว้ หรือจะซื้อประกันคุ้มครองกรณีของในกระเป๋าหายไป
สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note7 เค้าก็ห้ามพกติดตัวขึ้นเครื่องบินหรือใส่ในกระเป๋าสัมภาระเด็ดขาด เพราะกลัวจะไปไหม้บนเครื่องบิน
2. แบตเตอรี่สำรอง และแบตเตอรี่ลิเธียม
ทุกสายการบินเค้าออกกฏ ห้ามโหลด Power Bank ไว้ใต้ท้องเครื่องมาแล้ว ตามกฏแบตเตอรี่สำรองจะต้องมีความจุไฟฟ้าไม่เกิน 20,000 mAh
ถ้ากลัวที่พกไปจะไม่พอ เค้าก็ให้พกใส่กระเป๋าถือ ขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ต่อ 1 คน
ถ้าความจุเกิน 20,000 mAh แต่ไม่เกิน 32,000 mAh สามารถพกใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้นต่อ 1 คน ส่วนอันที่ห้ามไม่ให้เอาขึ้นเครื่องเด็ดขาดคือแบตเตอรี่ ที่ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh
แบตเตอรี่ลิเธียม ต้องมีกำลังไฟไม่เกิน160 Wh เพราะ อาจเกิดความร้อน และลัดวงจรจนลุกไหม้ได้
หากจะพกแบตเตอรี่ลิเธียมเดินทางไปด้วย ก็ดูให้ดีลองมองหาสัญลักษณ์ Ce Fc และ RoHs บนตัวแบต ที่จะช่วยยืนยันได้ว่าแบตเตอร์รี่ของเราได้มาตรฐาน
3. ของเหลวในกระเป๋าถือ
ของเหลวอย่าง ครีมทาผิว น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม เจล ยาสีฟัน ยาประจำตัว อาหารเหลวเด็ก ถึงแม้จะใส่กระเป๋าถือได้แต่ต้องไม่เกิน 100 มล. (3.4 ออนซ์) ต่อชิ้น และยังต้องใส่ซีลซิปล็อค รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 1 ลิตร ได้คนละ 1 ใบเท่านั้น
“ ในหมวดความงาม ” สเปรย์แต่งผม น้ำหอม ยา ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ห้ามเกิน 0.5 กก./ลิตร ต่อชิ้น และน้ำหนักรวมทุกชิ้นไม่เกิน 2.0 กก./ลิตร
4. กระเป๋าใบใหญ่เกินหิ้วขึ้นเครื่องไม่ได้
แต่ละสายการบินนั้นเค้าจำกัดจำนวนกระเป๋า ขนาดกระเป๋าและน้ำหนักที่ต่างกัน ก่อนไปต้องเช็คให้ดี โดยเฉพาะ กระเป๋าที่จะเอาติดตัวขึ้นเครื่อง เพราะบางสายการบินอย่าง แอร์เอเชีย ให้นำกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องได้แค่ใบเดียว และต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม.x36 ซม.x23 ซม. เมื่อรวมกับด้ามจับ ล้อ และกระเป๋าด้านข้างแล้ว
ส่วนกระเป๋าสัมภาระที่จะเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือที่นั่ง ต้องมีขนาดไม่เกิน 40ซม.X 30ซม.X 10ซม. สามารถสอดไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าได้ และน้ำหนักรวมของสัมภาระ2ชิ้น ต้องมีขนาดไม่เกิน 7 กก.
ถ้าต้องการพกของที่มีความยาวขึ้นเครื่อง อย่างขาตั้งกล้อง แนะนำให้โหลดใต้เครื่อง เพราะอุปกรณ์ช่วยถ่ายรูปของเรานั้น อาจจะมีความยาวเกินไป จนเจ้าหน้าที่บางสนามบินไม่ให้นำขึ้นเครื่อง
ต้องเสียเวลากลับไปต่อแถวเพื่อโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องอีกรอบ
5. เครื่องประดับราคาแพง ของก็อป
สายการบินส่วนใหญ่เค้าไม่ให้โหลดของที่มีมูลค่ามากกว่า 2,500 ดอลลาร์
อย่างอัญมณี สร้อยเพชร เงินสดผู้ที่จะเดินทางไปประเทศในแถบยุโรป ของผิดลิขสิทธิ์นี้ตรวจกันเข้มมาก มองปราดเดียวนี่รู้เลยว่าของแท้หรือไม่แท้ DVD เถื่อน รองเท้ากระเป๋าแบรนด์เนมแบบก็อบเกรด AAA มิลเลอร์นั้น หิ้วของแท้ดีกว่าค่ะ หรือแบบ No logo ไปเลยน่าจะดีกว่า
ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่ขึ้นเครื่องนั้น ไอเท็มที่เป็นโลหะนี่ก็ควรจะหลีกเลี่ยง ทั้งเข็มขัด รองเท้าบูธ สร้อย ต่างหู เลี่ยงเลยจะดีกว่า จะได้ผ้านเข้าเครื่องเอ็กเรย์ง่ายๆ ไม่ต้องมาถอดทีละชิ้น
เราได้ตรวจสอบประสบการณ์ของนักเดินทาง และอ่านคำแนะนำจากนักบินและแพทย์ และเราพร้อมที่จะแบ่งปันความลับที่เราพบเกี่ยวกับการแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับเที่ยวบิน
เสื้อผ้าฟิตๆ
เที่ยวบินสร้างความเครียดให้ร่างกาย และทำให้หลอดเลือดของเราเกิดความเครียด เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงความดันและความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานในเก้าอี้ขนาดเล็ก สิ่งที่ทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกคือเสื้อผ้าที่คับ เนื่องจากการสวมใส่สิ่งที่แน่นเกินไปทำให้การไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพลดลง แพทย์ยังมีคำพิเศษสำหรับเรื่องนี้
โดยวิธีการที่แก้ไขซึ่งแม้แต่บินด้วยเครื่องบินส่วนตัวของคุณเองก็ควรทำ ครั้งหนึ่งเลดี้กาก้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอเพราะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินขอให้เธอเปลี่ยน เครื่องแต่งกายหรูหราของเธออาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงเมื่อเครื่องบินไปถึงจุดที่ความสูงมาก ในสถานการณ์เช่นนี้แพทย์แนะนำให้ผู้โดยสารเลือกเสื้อผ้าที่หลวมและสวมถุงเท้าสั้น
เมื่อใฝ่หาความสะดวกสบายแต่อย่าลืมว่า: สิ่งที่หลวมนั้นดีกับแพทย์ แต่ไม่ปลอดภัยเสมอไป ผู้โดยสารที่สวมกางเกงหลวมและมีฮู้ดขนาดใหญ่อาจซ่อนสิ่งไม่ปลอดภัยไว้ใต้เสื้อผ้าของพวกเขาดังนั้นการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินจึงให้ความสนใจกับเขาเป็นพิเศษ
นอกจากนี้เมื่อเลือกเสื้อผ้าคุณควรเลือกใช้ผ้าที่มาจากธรรมชาติ ผ้าใยสังเคราะห์อาจระคายเคืองผิวหนังเพราะอากาศแห้งของเครื่องบิน และผ้าสังเคราะห์ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีและติดไฟง่าย
กางเกงยีนส์
ข้อเสนอแนะอีกประการหนึ่ง คือ การไม่สวมใส่สิ่งที่มีเอวแน่น เหตุผลเดิมคือแรงกดดัน โดยถ้าจะสวมใส่ ผู้โดยสารควรเพิ่มขนาดสักสองสามนิ้ว เอาไว้ใส่เมื่อไปเที่ยวและเก็บกางเกงยีนส์ตัวโปรดของคุณไว้ในกระเป๋าเถอะ
ชุดชั้นในขนาดปกติ
ผลข้างเคียงอีกอย่างหนึ่งของการบินโดยเครื่องบินที่นักเดินทางและผู้มีประสบการณ์หลายคนรู้ คืออาการตัวบวม มีคนไม่กี่คนที่คิดถึงชุดชั้นในที่เหมาะสมสำหรับเที่ยวบิน อย่างไรก็ตามชุดชั้นในที่แน่นมากอาจทำให้ทรมานทั้งเที่ยวบิน – สายรัดจะกดที่ด้านหลังและไหล่ของคุณ รุ่นที่มีชิ้นส่วนโลหะนั้นยิ่งแย่ไปใหญ่ เครื่องสแกนโลหะสามารถเห็นมันได้ที่สนามบิน ทางเลือกที่ดีที่สุดคือชุดชั้นในสปอร์ตบรา
จั๊มสูท
จั๊มสูทแบบหลวม ๆ อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสนามบินตั้งแต่แรกเห็น แต่ตอนไปที่ห้องน้ำ มันไม่สนุกเลยที่จะเข้าไปวุ่นวายกับชุดของคุณในห้องน้ำ เช่นเดียวกันกับเสื้อผ้าอื่นๆ ที่มีซิป ถอดไม่สะดวก และอะไรทำนองนั้น
กางเกงเอวต่ำ
ผู้คนหลายพันคนเดินทางโดยสนามบินทุกวัน ผู้โดยสารหลายร้อยคนนั่งอยู่บนที่นั่งเดียวกันต่อจากคุณ แค่บนเข็มขัดนิรภัยเพียงอย่างเดียวมีก็แบคทีเรียอย่างน้อย 90 ชนิด มันมีโอกาสที่จะติดเชื้อจากโรคผิวหนัง หรือไวรัสบนเครื่องบิน เนื่องจากมีเชื้อโรคมากมายในสถานที่สาธารณะ คำแนะนำที่สำคัญที่สุด คือ การปกปิดผิวหนังของคุณให้มากที่สุด อย่าสวม เสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น และกางเกงเอวต่ำที่เปิดหลังส่วนล่าง
รองเท้าผ้าใบใหม่
จำไว้ว่ามีโอกาสที่ขาของคุณจะบวม: เลือกรองเท้าที่คุณรู้สึกว่าสบายเพราะคุณเคยใส่มาก่อน แม้แต่รองเท้าผ้าใบใหม่ที่สบายที่สุดอาจจะแน่นเกินไปเมื่อคุณอยู่บนอากาศ นอกจากนี้รองเท้าสำหรับเที่ยวบินควรเป็นรองเท้าที่ปิดนิ้วเท้า คุณจะต้องยืนร่วมกับฝูงชนและอื่น ๆ เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้ รองเท้าแตะหรือรองเท้าแบบเปิดส้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะอาจทำให้เท้าของคุณเจ็บ และรองเท้าที่ใส่และถอดยากจะทำให้คุณเสียเวลามากในการตรวจสอบความปลอดภัย นอกจากนี้อย่าลืมถุงเท้าด้วยเพราะจะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่บนเครื่องบิน
รองเท้ามีส้น
แม้ว่าคุณจะเกิดมาเพื่อเดินบนรันเวย์และคุณใส่รองเท้าส้นสูงเสมอ คุณควรยอมถอดมันในระหว่างเที่ยวบิน มันไม่เกี่ยวกับความสะดวกสบาย แต่เกี่ยวกับความปลอดภัย ในกรณีที่มีการอพยพคุณจะไม่สามารถเดินด้วยรองเท้าส้นสูง หรือถอดออกได้ทันทีหากเกิดกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ส้นเท้าอาจทำให้ลื่นล้มในกรณีฉุกเฉิน ในสนามบินต่างๆ จะมีสแกนเนอร์จะตรวจจับโลหะในปริมาณที่แตกต่างกัน สแกนเนอร์อาจเห็นซิป โลหะบนเสื้อผ้าหรือกิ๊บใหญ่ของคุณ นักเดินทางที่มีประสบการณ์กล่าวว่าอุปกรณ์เหล่านี้อาจตรวจจับในร่างกายได้
เสื้อผ้าที่มีใน stop-list ของสายการบินหนึ่ง ๆ
สายการบิน หลายแห่งมีข้อจำกัดของตนเอง ตัวอย่างเช่นบางสายการบิน ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงใส่เลกกิ้งเมื่อเข้าบอร์ด หากเสื้อผ้าของคุณเปิดเผยมากเกินไปหรือดูแย่มากๆ คุณอาจไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง ดังนั้นควรศึกษากฎของ บริษัท ที่คุณบินด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ
น้ำหอม
แน่นอนน้ำหอมไม่ใช่เสื้อผ้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ของคุณอยู่ดี ก่อนออกเดินทางพยายามหลีกเลี่ยงที่จะลองกลิ่นทุกอย่างในดิวตี้ฟรี นี่เป็นเพราะเราควรเคารพผู้โดยสารคนอื่นๆ และดูแลสุขภาพของพวกเขา น้ำหอมที่ไม่เคยใช้อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่อาจคาดเดาได้ในตัวคุณและคนอื่น ๆ โรคหืดหรืออาการแพ้ไม่ควรที่จะใช้ในระหว่างเที่ยวบิน
ปิดท้ายด้วย : มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถแก้ปัญหาได้ 3 ปัญหาในคราวเดียว
ชุดของคุณควรมีหลายชั้น อย่างแรกมันอาจจะค่อนข้างเย็นบนเครื่องบินในระหว่างการบิน ประการที่สองในกรณีที่มีควันอยู่บนเครื่องบินคุณจะมีบางสิ่งปกคลุมใบหน้าของคุณ และสุดท้ายหากกระเป๋าสัมภาระของคุณสูญหายคุณจะไม่ต้องสวมใส่เสื้อยืดในต่างประเทศที่หนาวเย็นทางออกที่ดีคือผ้าพันคอขนาดใหญ่ แต่มีเคล็ดลับคือคุณต้องสวมมันอย่างถูกต้อง อย่าผูกมันไว้รอบคอหรือห่อคอไว้ ในกรณีที่มีการอพยพมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัส เราประทับใจในประสบการณ์ของเลดี้กาก้าและตอนนี้เราจะต้องระมัดระวังมากขึ้นเมื่อจะส่งคุณหรือใครๆสู่เที่ยวบินสำหรับการเดินทางระยะไกล?