หินปูนในหูเคลื่อนหายเองได้ไหม

 

” เวียนศีรษะ บ้านหมุน ” (vertigo) ?‍♀️?‍♂️??

เป็นอาการเวียนหัวอย่างหนึ่ง  ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน  โดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะรู้สึกเหมือนสิ่งรอบตัวเอียงหมุน หรือตัวเองหมุนไปรอบ ๆ

ในบางครั้งจะมีความรู้สึกโคลงเคลงเหมือนอยู่ในเรือ มีอาการวิงเวียน เห็นพื้น หรือเพดานหมุน  ทั้งๆที่ตนเองอยู่กับที่หรือไม่มีการเคลื่อนไหว  มักเป็นเพียงชั่ววูบ เวลามีการเคลื่อนไหวศีรษะ (ก้ม-เงย หันซ้าย-ขวา) ⬇️⬆️⬅️➡️  ซึ่งอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนนี้
อาจส่งผลต่อการทรงตัว  และทำให้ผู้ที่มีอาการเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้⚠️

ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีความรู้สึกเหมือนจะเป็นลม หูอื้อ  การได้ยินลดลง หรือมีเสียงในหูร่วมด้วยได้ ?

สาเหตุของอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน 

อาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนในบางครั้ง มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของหูชั้นใน ซึ่งเป็นอวัยวะหนึ่งที่มีหน้าที่รักษาการทรงตัวของร่างกายในท่าทางต่าง ๆ เมื่อเกิดความผิดปกติกับอวัยวะดังกล่าว จะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้แก่
          ? โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน
          ? โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
          ? โรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ

ต่อไปเรามาทำความรู้จักกับโรคที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนกัน ได้แก่
          1. โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน  (Benign Paroxysmal Positioning Vertigo: BPPV)
          2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน   (Meniere’s Disease)
          3. โรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ  (Vestibular neuritis)
ซึ่งทั้ง 3 โรคนี้ มีรายละเอียดและความรุนแรงที่แตกต่างกัน  เราจึงควรทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูลให้ดี
จะได้สันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าเรามีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคใด และทำการป้องกันรักษาดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

          1. โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน  (Benign Paroxysmal Positional Vertigo : BPPV)

          โรคนี้เกิดขึ้นจากตะกอนหินปูนที่อยู่ในหูชั้นในเกิดการเคลื่อนตัวจากความเสื่อม เมื่อมีอายุมากขึ้นหรือสาเหตุอื่น ๆ เช่น ศีรษะได้รับการกระแทกรุนแรง
ทำให้หินปูนที่อยู่ในหูชั้นในหลุด แล้วเคลื่อนไปอยู่ในท่อน้ำของหูชั้นใน  เมื่อมีการเคลื่อนไหวของศีรษะจะทำให้ตะกอนหินปูนดังกล่าวเคลื่อนที่ไปมาและส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลางแล้วกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนขึ้นมาได้
โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุด  เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย  ส่วนมาก จะพบในวัยกลางคน อายุ 30-60 ปี
      ? วิธีสังเกตอาการของโรคนี้  คือ อาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ในขณะเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ เช่น ระหว่างกำลังล้มตัวลงนอน หรือลุกจากที่นอน เงยหน้า ก้มหยิบของ เป็นต้น  โดยอาการมักจะเกิดในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นเพียงช่วงวินาทีที่ขยับศีรษะและจะค่อยๆหายไป
ทั้งนี้ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน  เป็นโรคที่ส่งผลต่อการเวียนศีรษะ  ซึ่งจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบประสาทหู  ผู้ป่วยโรคนี้จึงไม่มีอาการหูอื้อ ❌  ไม่พบการสูญเสียการได้ยิน หรือเสียงผิดปกติในหู (ยกเว้นในรายที่เป็นโรคหูอยู่ก่อนแล้ว)  รวมถึงไม่มีอาการทางระบบประสาท  เช่น แขน ขาชา หรืออ่อนแรง
         วิธีการรักษาของโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน
• การรักษาตามอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำ เช่น 
หลีกเลี่ยงท่าทางและกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ  รับประทานยาบรรเทาอาการเวียนศีรษะ  โดยมากอาการจะค่อยๆ เบาลง  โดยเฉพาะหลังจาก 1 สัปดาห์ขึ้นไป  และไม่เกินหนึ่งเดือน
อย่างไรก็ดี โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน ยังไม่มียาจำเพาะสำหรับการรักษา
• การทำกายภาพบำบัด  ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมในปัจจุบัน
          1.  การทำกายภาพบำบัดเพื่อเคลื่อนตะกอนหินปูน
          2. การทำกายภาพบำบัดเพื่อให้เกิดการปรับสภาพของสมองได้เร็ว
• การผ่าตัด  ใช้ในกรณีที่ทำกายภาพบำบัดวิธีที่ 1 และ 2 ไม่ได้ผล ติดตามผู้ป่วยอย่างน้อย 4-6 เดือน พบว่ามีอาการอยู่ตลอดหรือกลับเป็นใหม่บ่อย ๆ  ผู้ป่วยกลุ่มนี้แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัดซึ่งการผ่าตัดจะได้ผลดี และไม่กลับมาเวียนศีรษะอีก

          2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease)
          เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นในโดยยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน  แต่พบว่าอาการของโรคเป็นผลมาจากความผิดปกติของน้ำที่อยู่ภายในหูชั้นใน  และอาจทำให้ประสิทธิภาพการได้ยินลดลง
          โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 30-50 ปี  โดยมักพบบ่อยขึ้นเมื่อสูงอายุสำหรับอัตราการเกิดโรคในผู้ชายและผู้หญิงจะมีจำนวนใกล้เคียงกัน
         ? วิธีสังเกตอาการของโรคนี้ คือ
          ✅ มีอาการหูอื้อ
          ✅ ได้ยินเสียงน้อยลง
          ✅ มีเสียงหึ่งๆ ในหู
          ✅ มีอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน
          ✅ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
          ✅ มีการเดินเซ ตากระตุกร่วมด้วย
          ✅ หรือมีอาการวิงเวียนมากจนลุก นั่ง  และเดินไม่ไหว สูญเสียสมดุลของร่างกาย  ทำให้เซ หรือล้มได้ง่าย  ซึ่งอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน ที่เกิดจากโรคนี้อาจเกิดขึ้นนานเป็นนาทีจนถึงหลายชั่วโมง ในระหว่างที่เกิดอาการผู้ป่วยควรอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับศีรษะเพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะเพิ่มขึ้นได้
          นอกจากนี้ โรคดังกล่าวอาการจะกำเริบเป็นระยะ ๆ หากปล่อยไว้แล้วไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลที่ถูกต้อง อาจทำให้ประสิทธิภาพการได้ยินลดลง ??
          วิธีการรักษาของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
เริ่มจากการรักษาตามอาการ ลดปัจจัยเสี่ยง
          ?การใช้ยา เป็นการรักษาโรคที่เกิดขึ้นระยะแรกโดยการให้ยาแก้เวียนศีรษะ
          ?แนะนำให้เลี่ยงอาหารรสเค็มจัด  ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้อาการกลับมาเป็นอีก
          สำหรับผู้ป่วยในระยะที่มีอาการรุนแรงมาก จะใช้วิธีการรักษาด้วย
          ?การผ่าตัด (Endolymphatic Sac Surgery) เพื่อระบายน้ำในหูชั้นใน  ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้ คือ  สามารถควบคุมอาการเวียนศีรษะได้  พร้อมกับการรักษาระดับการได้ยินได้ดีเช่นเดิม  แต่ในผู้ป่วยบางราย ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยวิธีนี้
          ? การฉีดยาเข้าหูชั้นในผ่านทางแก้วหู (Intratympanic Injections) เพื่อควบคุมแรงดันน้ำ  ซึ่งเป็นวิธีการรักษาแบบใหม่  ในปัจจุบันทำการรักษาได้ง่าย ผลการรักษาค่อนข้างดี  แต่ก็อาจทำให้การได้ยินเสื่อมลงจากเดิมบ้าง  ดังนั้น แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการต่างกันในแต่ละราย

          3. โรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ ทำให้ไวรัสลามไปติดเส้นประสาทการทรงตัว
         ?วิธีการสังเกตอาการ  มีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนอย่างรุนแรง จนไม่สามารถใช้ชีวิตหรือทำงานได้อย่างปกติ
          การดูแลรักษาตนเองเบื้องต้น
          • อย่านอนราบกับพื้น
          • หากมีอาการให้พยายามเคลื่อนไหวให้ช้าลง  เพื่อป้องกันการหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุ
          • ลดปริมาณ หรืองดการสูบบุหรี่  ดื่มสุรา  ดื่มกาแฟ
          • หลีกเลี่ยงท่าการหมุน หันศีรษะเร็ว, การเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว

โรคหินปูนในหูหลุดรักษายังไง

แนวทางการรักษาโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน การรักษาตามอาการและให้คำแนะนำ เช่น หลีกเลี่ยงท่าทางและกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ รับประทานยาบรรเทาอาการเวียนศีรษะ โดยมากอาการจะค่อยๆ ทุเลาลงโดยเฉพาะหลัง 1 เดือนขึ้นไป อย่างไรก็ดี โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนยังไม่มียาจำเพาะสำหรับการรักษา

อาการบ้านหมุนรักษาหายไหม

อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนในผู้ป่วยหลายรายสามารถหายเองได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา หากจำเป็นต้องได้รับการรักษา แพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้ Vestibular rehabilitation: กายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูระบบประสาทส่วนที่มีหน้าที่ในการควบคุมการทรงตัว

หินปูนในหูไม่เท่ากันคืออะไร

โรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้น เป็นโรคที่มีความอันตรายรุนแรงกว่าโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะที่รุนแรงกว่าแล้ว ยังรักษาหายได้ยากกว่าอีกด้วย คือใช้เวลาในการรักษานาน ต้องติดตามผลต่อเนื่อง ต่างจากโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด ที่เพียงแค่ทำให้หินปูนกลับเข้าที่ไปแล้วก็จะหายเป็นปกติ

บ้านหมุนขับรถได้ไหม

ถ้าเวียนศีรษะบ้านหมุนขณะขับรถ ให้จอดรถข้างทางเปิดไฟฉุกเฉินทันที ถ้าเวียนศีรษะบ้านหมุนมากให้นอนพบพื้นราบโดยไม่เคลื่อนไหว มองจ้องวัตถุนิ่ง จนอาการดีขึ้นจึงค่อย ๆ ลุก หากรู้สึกง่วงนอนควรนอนหลับพักผ่อนให้อาการดีขึ้น เลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น เครียด วิตกกังวล นอนน้อย สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ฯลฯ

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง