ราคาทอง 1 สลึงวันนี้ ทองครึ่งสลึง ทอง 2 สลึงหรือ 50 สตางค์ และทอง 1 บาท เป็นการแสดงราคาของน้ำหนักทองรูปพรรณ ชนิด 96.5% ที่นิยมซื้อขายกันทั่วไป โดยเป็นการแสดงราคาก่อนบวกค่ากำเหน็จและหลังจากบวกค่ากำเหน็จ ซึ่งเป็นค่ากำเหน็จเฉลี่ยจากสมาคมค้าทองคำได้ประกาศไว้
ราคาทองวันนี้
ประจำวันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566
น้ำหนักของทองราคา/บาทค่ากำเหน็จเฉลี่ยราคารวมค่ากำเหน็จ/บาททองครึ่งสลึง3,7385004,238ทอง 1 สลึง7,4757,975ทอง 2 สลึง/50 สตางค์14,95015,450ทอง 1 บาท29,90030,400** คำนวณราคา ณ. ราคาทองบาทละ 29,900 (ในกรณีที่ค้างหน้าจอไว้ กรุณากดรีเฟรชหน้าจอ หรือ F5 เพื่อดูราคาล่าสุด)
ข้อมูลราคาทองที่สัมพันธ์กัน
- ราคาทอง 1 กรัมวันนี้
- ราคาทองวันนี้
- ราคาทองเยาราชวันนี้
- ราคาทองย้อนหลัง
- กราฟราคาทอง
- สถิติราคาทองรายเดือน/ปี
หมายเหตุ
ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
@chatrumon38 มีทองครึ่งสลึง2ชิ้น จะเปลี่ยนเป็น1สลึง #ห้างทองเสริมโชค #ทองแท้965 #ทอง #ออมทองแท้
♬ #เมนูนี้ฉันอ้วน - YELLOWSKRT
ผมเคยอ่านเจอคำถามหนึ่ง ประมาณว่า “ถ้าเราเอาสร้อยข้อมือ 2 บาท (ร้าน ABC) ไปเปลี่ยนเป็น ข้อมือ 1 บาท กับ แหวน 2 สลึง 2 วง อยากทราบว่า ระหว่างเปลี่ยน กับขายทองคืนแล้วซื้อใหม่ ที่ร้านทองเดียวกันนี้ จะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างคะ ในเรื่องของส่วนต่างที่เราต้องจ่ายเพิ่ม”
และคิดว่าคงมีคนสงสัยเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
การเอาทองไปเปลี่ยนลายทอง ไปเพิ่มน้ำหนักทอง (เช่น เอาแหวนทองครึ่งสลึง ไปเปลี่ยนเป็นเป็นแหวนทอง 1 สลึง) เปลี่ยนจากสร้อยเป็นแหวน หรือแตกชิ้นเดิมเป็นชิ้นใหม่หลายๆ ชิ้น ที่จริงก็คือการ “ขายทองเก่าแล้วซื้อทองใหม่” นั่นเอง เพียงแต่จ่ายเงินส่วนต่างระหว่างเงินค่าขายทองเดิมกับราคาทองชิ้นใหม่
ดังนั้นคำถามที่คุณผู้หญิงท่านนี้ถามไว้ส่วนแรกว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
คำตอบก็คือ “ไม่ต่างกันครับ”
ไม่ว่าจะเปลี่ยนทอง แต่น้ำหนักเท่าเดิม หรือมีการเพิ่มน้ำหนัก ก็จะมีค่าใช้จ่ายทั้งคู่ ก่อนจะไปร้านทองเรามาเตรียมตัวสักนิด ว่าการเอาทองไปเปลี่ยนลาย เพิ่มน้ำหนักทอง จะต้องเตรียมเงินเท่าไหร่
ประเด็นที่มักมีการพูดถึงกันบ่อยๆ ก็คือ “ทำไมถึงต้องเพิ่มเงินเยอะจัง” คือเยอะกว่าที่คิดไว้มาก
เอาทองไปเปลี่ยนต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่?
ข้อนี้ก็ต้องทำความเข้าใจกับ “ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ” กันก่อน
1. ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ จะมีราคาต่ำกว่าราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง
2. ร้านทองส่วนมากจะเขียน(หรือมีป้าย) แจ้งราคากลางรับซื้อคืนทองรูปพรรณไว้ที่หน้าร้านเป็นราคาต่อกรัม แยกต่างหากจากราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง
3. เวลานำทองรูปพรรณไปขายคืน เราจะไม่ได้ค่ากำเหน็จ หรือค่าลาย(ที่จ่ายไปตอนซื้อ) คืน ไม่ใช่ว่าตอนซื้อมาลายสวย ค่ากำเหน็จแพง แล้วเวลาขายคืนจะได้ราคาแพงไปด้วย เพราะราคารับซื้อคืนทองก็จะคิดแต่ค่าเนื้อทองที่ชั่งได้เท่านั้น
4. เวลาร้านทองรับซื้อคืนทองจากลูกค้า ร้านทองจะคิดน้ำหนักทองตามที่ปรากฎตอนที่ชั่งบนตาชั่ง ไม่ได้ดูจากตัวเลขบนชิ้นทองหรือในใบรับประกัน หรือตามที่เราบอกว่าทองนี้เป็นขนาดกี่บาทหรือกี่สลึง เนื่องจากทองอาจน้ำหนักหายไปเล็กน้อยจากการสึกหรอจากการใช้งาน
5. ราคารับซื้อคืนทองคำแต่ละร้านทองอาจให้ราคาไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับต้นทุนการบริหารจัดการของแต่ละร้านหรือแต่ละท้องที่
6. ราคารับซื้อคืนจริงอาจแตกต่างจากราคากลางได้ เนื่องจากราคากลางประกาศโดยสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย แต่ร้านทองอาจใช้เกณฑ์ของสคบ. ซึ่งมีหลักการคำนวณต่างกัน โดยหลักเกณฑ์ตามประกาศของสมาคมค้าทองฯ จะหักจากราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง 1.8% แต่เกณฑ์ของ สคบ. คือ หัก 5% จากราคารับซื้อคืนทองคำแท่งที่สมาคมฯ ประกาศ
จากข้อ 6 จะเห็นได้ว่า ถ้าราคาทอง 1 บาท ประกาศรับซื้อคืนอยู่ที่บาทละ 20,000 บาท สมมติว่าเอาสร้อยคอทองคำ 1 บาทไปเปลี่ยนลาย เอาน้ำหนักเท่าเดิม หักตามเกณฑ์สคบ. 5% ก็อาจจะโดนหักไปประมาณ 1 พันบาทแล้ว การออกเส้นใหม่ก็คือต้องเพิ่มเงินไปประมาณพันนึง บวกกับค่ากำเหน็จเส้นใหม่อีกราวๆ 800-1,000 บาท เบ็ดเสร็จก็ประมาณ 1,800-2,000 ครับ
สรุป ค่าเปลี่ยนทอง คิดจาก (ราคาทองเส้นใหม่ + ค่ากำเหน็จเส้นใหม่) – ราคารับซื้อทองเส้นเก่า = ส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่ม
ท่านสามารถอ่านต่อเรื่อง “ราคาทองคำ รู้ไว้จะได้ไม่เจ็บ ซื้อขายทองสบายใจ” ได้ที่นี่ มีการอธิบายเรื่องราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณไว้อย่างละเอียดครับ