รู้ทันดอกเบี้ยบัตรเครดิต (ธนาคารกสิกรไทย)
เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักบัตรเครดิตว่าเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย สามารถซื้อสินค้าได้โดยยังไม่ต้องจ่ายเงินในทันที เสมือนมีคนใจดีให้ยืมเงิน ซึ่งบัตรเครดิตทุกใบจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45-55 วัน หมายความว่า ถ้าเราใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต โดยชำระเงินได้เต็มจำนวนภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะไม่เสียดอกเบี้ย แต่ถ้าเราไม่สามารถชำระเงินเมื่อครบกำหนดได้เต็มจำนวน โดยชำระเงินเพียงบางส่วน หรือจ่ายเพียงยอดขั้นต่ำ 10% ของยอดค้างชำระ แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็คือ ดอกเบี้ย
บัตรเครดิตเป็นสินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตสูงถึง 20% ต่อปี โดยดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้เต็มจำนวนตั้งแต่วันที่รูดซื้อสินค้า หรือวันที่กดเงินสด นับว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง สามารถทำให้ใครหลาย ๆ คนกลายเป็นคนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวได้ หากใช้จ่ายเกินตัว หรือใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่มีอยู่ ลองมาดูกันว่า ดอกเบี้ยบัตรเครดิตคำนวณอย่างไร
สูตรการคำนวณดอกเบี้ย =(จำนวนเงินค่าสินค้า/บริการและเบิกถอนเงินสด x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวัน) / 365
ขอยกตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตจากการชำระคืนขั้นต่ำ/ชำระคืนบางส่วน
ตัวอย่างใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิตประจำเดือนเมษายน 2557
วิธีคำนวณดอกเบี้ยสำหรับรอบบัญชีถัดไป กรณีชำระขั้นต่ำจำนวน 3,000 บาท ในวันที่ 20 เมษายน 2557
การคำนวณดอกเบี้ยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
ส่วนแรก ดอกเบี้ยคิดจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบบัญชีที่แล้ว คือ 30,000 บาท โดยจำนวนวันนับจากวันที่ใช้จ่าย จนถึงวันก่อนที่ธนาคารได้รับชำระเงิน (19 เมษายน 2557)
ส่วนที่สอง ดอกเบี้ยคิดจากยอดเงินต้นคงเหลือ คือ 30,000 – 3,000 = 27,000 บาท โดยจำนวนวันนับจากวันที่ชำระเงินบางส่วน (20 เมษายน 2557) จนถึงวันสรุปยอดรายการเดือนถัดไป (5 พฤษภาคม 2557)
กรณีของการกดถอนเงินสด การคำนวณดอกเบี้ยจะใกล้เคียงกัน คือ คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่กดเงินสด จนถึงวันที่ชำระเงิน ทั้งนี้ การกดเงินจากบัตรเครดิตยังมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินอีก 3% ของจำนวนเงินที่กดอีกด้วย
ดังนั้น เมื่อรูดบัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ แล้ว เราควรมีการกันเงินค่าสินค้าเอาไว้ก่อน เพื่อให้มั่นใจว่า มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้บัตรเครดิตเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนด และสิ่งสำคัญ ก่อนใช้บัตรเครดิต อย่าลืมประเมินความสามารถของตัวเราว่า จ่ายไหวหรือไม่ เพราะความสุขเพียงชั่วคราวจากการซื้อสินค้า ซึ่งสูงเกินรายได้หรือเงินที่มีอยู่ อาจสร้างความทุกข์ที่ต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตในระยะยาวได้
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับที่ปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ และ เว็บบอร์ด K-Expert ซึ่งจัดทำขึ้นผ่านทางเว็บไซต์ www.askKBank.com/K-Expert และติดตามข่าวสารการเงินได้ที่ Twitter@KBank_Expert
เงื่อนไขการผ่อนด้วยบัตรเครดิตกสิกรไทย
การใช้บัตรเครดิตแทนการชำระเงินสด เพื่อชำระค่าสินค้า/บริการ แบบผ่อนชำระเป็นงวดๆผู้ถือบัตรตกลงดังนี้
- ผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสินค้า/บริการได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่อนชำระ เท่านั้น ทั้งนี้ตามเงื่อนไขที่ธนาคาร และ/หรือร้านค้ากำหนด
- ผู้ถือบัตรตกลงว่าการชำระค่าสินค้า/บริการ แบบผ่อนชำระเป็นงวดๆ เป็นกรณีที่ผู้ถือบัตรชำระค่าสินค้า/บริการผ่านบัตรเครดิต โดยให้ธนาคารชำระค่าสินค้า/บริการให้แก่ร้านค้าแทนผู้ถือบัตรไปก่อน และผู้ถือบัตรตกลงผ่อนชำระค่าสินค้า/บริการคืนให้แก่ธนาคารเป็นงวดๆ โดยธนาคารจะเรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตรตามจำนวนที่ต้องผ่อนชำระเป็นรายเดือนตามที่กำหนดไว้ในใบบันทึกรายการ (Sales Slip) โดยใน Sale Slip จะระบุราคาค่าสินค้า/บริการ, จำนวนงวดการผ่อนชำระ (Payment Term), ดอกเบี้ยการซื้อสินค้าผ่อนชำระ (Installment Interest) (ถ้ามี), ค่าธรรมเนียมการใช้บริการ (Management Fee) (ถ้ามี), จำนวนเงินรวม (Total Amount) และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละงวด (Monthly Amount)
- ผู้ถือบัตรต้องแสดงบัตรเครดิตต่อผู้ขายสินค้า/ผู้ให้บริการ เพื่อ ให้ผู้ขายสินค้า/ผู้ให้บริการ ออกใบบันทึกรายการ (Sales Slip) เป็นหลักฐานการซื้อขายสินค้า/บริการครั้งนั้น
- จำนวนเงินที่จะต้องผ่อนชำระเป็นรายเดือน จะคำนวณจากราคาค่าสินค้า/บริการบวกด้วยดอกเบี้ย (ถ้ามี) หารด้วยจำนวนเดือนสำหรับการผ่อนชำระค่าสินค้า/บริการที่ซื้อ ตามที่ผู้ถือบัตรได้เลือกไว้ ทั้งนี้ จำนวนเงินที่จะต้องผ่อนชำระเป็นรายเดือนนี้ ผู้ถือบัตรจะต้องชำระเต็มจำนวน โดยธนาคารจะนำไปรวมเป็นภาระ และ/หรือหนี้ สินของผู้ถือบัตรที่จะต้องชำระในแต่ละเดือน โดยแสดงไว้ในใบแจ้งรายการใช้บัตรเครดิตรายเดือนด้วย
- ธนาคารจะเริ่มเรียกเก็บเงินตั้งแต่วันที่กำหนดในใบแจ้งรายการใช้บัตรเครดิตในครั้งถัดไป และทุกๆ เดือนภายหลังจากนั้นจนกว่าจะได้มีการชำระจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมดเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการผ่อนชำระตามที่ได้เลือกไว้แล้ว
- ในกรณีที่ผู้ถือบัตรชำระยอดค้างชำระทั้งหมดที่เกิดจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือนที่ถึงกำหนดชำระเต็มจำนวน ผู้ถือบัตรจะไม่เสียดอกเบี้ย และ/หรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าหากผู้ถือบัตรชำระเงินเป็นจำนวนน้อยกว่าจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละงวด ผู้ถือบัตรจะต้องชำระดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระไม่ครบถ้วนในอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ธนาคารประกาศกำหนดไว้ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสามารถดูอัตราดอกเบี้ยได้จากประกาศของธนาคาร
- หากมีการยกเลิกการใช้บริการบัตรเครดิตก่อนการผ่อนชำระเสร็จสิ้นไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้ถือบัตรจะต้องชำระยอดผ่อนชำระที่เหลืออยู่ทั้งหมด