คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ เฉลยบทที่8

5. จัดขอ้ มลู ให้อยกู่ ึ่งกลาง ชดิ ซ้าย ชิดขวาในแตล่ ะ 5. จดั ข้อมลู ให้อยู่กง่ึ กลาง ชดิ ซ้าย ชดิ ขวา

เซลล์ เซลล์ได้

รรมกับหวั ข้อการเรียนรแู้ ละระดบั พฤตกิ รรมท่ตี อ้ งการ

ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกติ

พทุ ธพิ ิสยั ด้านทักษะพิสัย ดา้ นจิตพิสัย

ความจา
ความเข้าใจ
นาไปใช้
วิเคราะห์
ัสงเคราะห์
ประเ ิมนค่า
การเลียนแบบ
การทาตามแบบ
การทาถูก ้ตองแ ่มนยา
การทาอ ่ยางผสมผสาน
การทาอ ่ยางอัตโนมั ิต
การรับรู้
การตอบสนอง
การเ ็หนคุณ ่คา
การจัดกระบวนการคิด
การ ีมลักษณะเฉพาะตน

ามร)ู้ √
ft Office √
√√
กษะ) √√
ลได้ √√
ลได้
ด้ √√
อนไขได้ √√
าในแต่ละ

ตารางที่ 4 (ต่อ) การวเิ คราะห์จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกร

รหสั วชิ า 20001 – 2001 ชอ่ื วชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี ท

หน่วยท่ี 5 การใชส้ ูตรคานวณ

หวั ขอ้ การเรียนรู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม (ด้านควา

รายการทักษะ (Skill) จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ด้านทกั
1. การใช้สูตรคานวณ 1. ใช้สูตรคานวณได้
2.การแก้ไขสตู รคานวณ 2. แกไ้ ขสูตรคานวณได้
3. การย้ายและคัดลอกสูตร 3. ย้ายและคัดลอกสูตรได้
4. การอา้ งอิงเซลลโ์ ดยใชช้ ื่อหัวคอลัมน์ 4. อา้ งองิ เซลลโ์ ดยใช้ช่ือหัวคอลมั น์ได้
5. คัดลอกสตู รด้วย Autofill 5. คัดลอกสูตรด้วย Autofill ได้
6. ใชส้ ูตรกับขอ้ มลู ท่ีอยู่ตา่ ง Worksheet และ 6. ใช้สตู รกบั ข้อมูลที่อยูต่ ่าง Worksheet
Workbook Workbook ได้

ามรู้) ความจา พทุ ธิพิสยั รรมกบั หวั ขอ้ การเรียนรแู้ ละระดบั พฤตกิ รรมท่ตี อ้ งการ
ความเข้าใจๆ
กษะ) นาไปใช้ ด้านทกั ษะพสิ ยั ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ปฏบิ ตั ิ 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกติ
√ วเิ คราะห์
√ สังเคราะห์
√ ประเมนิ คา่
√ การเลียนแบบ
√ การทาตามแบบ
การทาถกู ตอ้ งแมน่ ยา
และ √
การทาอย่างผสมผสาน
การทาอยา่ งอตั โนมตั ิ ดา้ นจิตพิสัย ฏ
การรับรู้

การตอบสนอง
การเห็นคุณคา่

การจัดกระบวนการคดิ
การมลี กั ษณะเฉพาะ
ตน

ตารางท่ี 4 (ตอ่ ) การวเิ คราะหจ์ ุดประสงค์เชิงพฤติกร

รหัสวชิ า 20001 – 2001 ชอ่ื วชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี ท

หน่วยที่ 6 การใช้โปรแกรมนาเสนอผลงาน

หัวข้อการเรียนรู้ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ด้านควา
1. คณุ สมบัตขิ องโปรแกรมนาเสนอ 1. บอกคุณสมบัตขิ องโปรแกรมนาเสนอได
2. รปู แบบของการตกแตง่ หน้าสไลด์ 2. อธิบายรูปแบบการตกแตง่ หน้าสไลดไ์ ด

รายการทกั ษะ (Skill) จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ด้านทัก
1. ตกแตง่ สไลดด์ ว้ ยรูปแบบพ้ืนหลัง 1. ตกแตง่ สไลด์ดว้ ยรูปแบบพ้ืนหลังได้
2. กราฟกับการนาเสนอ 2. ใช้งานกราฟกบั งานนาเสนอได้

ามรู้) ความจา รรมกบั หวั ขอ้ การเรียนรู้และระดบั พฤตกิ รรมทตี่ อ้ งการ
ด้ √ ความเข้าใจๆ
ด้ √ นาไปใช้ ทฤษฎี 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ปฏบิ ตั ิ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกติ
วเิ คราะห์
กษะ) สังเคราะห์
ประเมนิ คา่
การเลยี นแบบ พุทธิพสิ ยั
การทาตามแบบ
√ การทาถกู ตอ้ งแมน่ ยา ดา้ นทกั ษะพสิ ยั
√ การทาอย่างผสมผสาน
การทาอย่างอัตโนมัติ
√√ การรบั รู้ ดา้ นจติ พสิ ยั ฐ

การตอบสนอง
การเห็นคณุ คา่

การจดั กระบวนการคิด
การมลี กั ษณะเฉพาะตน

ตารางที่ 4 (ต่อ) การวเิ คราะห์จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกร

รหสั วชิ า 20001 – 2001 ชอื่ วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ท

หนว่ ยท่ี 7 การประยกุ ตโ์ ปรแกรมนาเสนอดว้ ยเอฟเฟกต์

หัวข้อการเรียนรู้ จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม (ด้านควา

รายการทักษะ (Skill) จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (ด้านทัก
1. รูปแบบการใส่เอฟเฟ็กต์ในงานนาเสนอ 1. ใส่เอฟเฟก็ ต์ในงานนาเสนอได้
2. เอฟเฟก็ ตเ์ คล่อื นทภ่ี าพไปตามเส้นไกด์ 2. ใส่เอฟเฟก็ ตเ์ คลอ่ื นทีภ่ าพไปตามเส้นไก

ามรู)้ ความจา พุทธพิ สิ ัย รรมกับหัวข้อการเรยี นรู้และระดบั พฤตกิ รรมท่ีต้องการ
ความเข้าใจๆ
กษะ) นาไปใช้ ด้านทักษะพสิ ยั ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ปฏบิ ตั ิ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกติ
√√ วเิ คราะห์
สังเคราะห์ ดา้ นจติ พสิ ยั
กดไ์ ด้ √ √ ประเมนิ คา่
การเลยี นแบบ
การทาตามแบบ ฑ
การทาถกู ตอ้ งแมน่ ยา
การทาอย่างผสมผสาน
การทาอย่างอัตโนมัติ
การรบั รู้

การตอบสนอง
การเห็นคณุ คา่

การจดั กระบวนการคิด
การมลี กั ษณะเฉพาะตน

ตารางที่ 4 (ตอ่ ) การวิเคราะหจ์ ดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกร

รหสั วิชา 20001 – 2001 ชอื่ วชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี ท

หนว่ ยท่ี 8 การใชอ้ ินเทอร์เน็ตเพอ่ื สืบคน้ ขอ้ มูล

หวั ขอ้ การเรยี นรู้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ด้านควา
1. ความเปน็ มาของอนิ เตอร์เนต็ 1. บอกความเป็นมาของอินเตอรเ์ นต็
2. ความหมายของ Search Engine 2. บอกความหมายของ Search Engine

รายการทักษะ (Skill) จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม (ด้านทกั
1. ค้นหาข้อมลู ดว้ ย Google 1. สามารถคน้ หาข้อมูลดว้ ย Google ได้
2. คน้ ควา้ ความรู้ด้วย Wikipedia 2. สามารถค้นควา้ ความรดู้ ว้ ย Wikipedia

ามร)ู้ ความจา รรมกับหัวข้อการเรยี นรแู้ ละระดบั พฤติกรรมที่ตอ้ งการ
√ ความเข้าใจๆ
√ นาไปใช้ ทฤษฎี 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ปฏบิ ตั ิ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกติ
วเิ คราะห์
กษะ) สังเคราะห์
ประเมนิ คา่
a ได้ การเลยี นแบบ
การทาตามแบบ
การทาถกู ตอ้ งแมน่ ยา พทุ ธิพิสัย
การทาอย่างผสมผสาน
√√ การทาอย่างอัตโนมัติ ดา้ นทกั ษะพสิ ยั
√√ การรบั รู้
ดา้ นจติ พสิ ยั
การตอบสนอง ฒ
การเห็นคณุ คา่

การจดั กระบวนการคิด
การมลี กั ษณะเฉพาะตน

ตารางท่ี 4 (ต่อ) การวเิ คราะหจ์ ดุ ประสงค์เชงิ พฤติกร

รหัสวิชา 20001 – 2001 ชอ่ื วชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี ท

หนว่ ยที่ 9 การสือ่ สารขอ้ มลู สารสนเทศ

หวั ข้อการเรียนรู้ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ด้านควา

รายการทักษะ (Skill) จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (ด้านทัก
1. การเปิดอ่าน เปิดไฟล์ท่แี นบมากับอเี มล 1. สามรถเปิดอา่ น เปิดไฟล์ที่แนบมากับอ
2. การตอบกลับอีเมล 2. สามารถตอบกลบั อีเมลได้
3. การสง่ ตอ่ อเี มล 3. การส่งต่ออีเมลได้
4. การสรา้ งจดหมาย 4. สามารถสรา้ งจดหมายได้

ามรู้) รรมกับหวั ข้อการเรียนรแู้ ละระดบั พฤตกิ รรมท่ีต้องการ

กษะ) ทฤษฎี 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกิต
อเี มลได้

ความจา พทุ ธพิ ิสัย
ความเข้าใจๆ
√ นาไปใช้ ด้านทกั ษะพิสยั
√ วเิ คราะห์
√ สังเคราะห์
√ ประเมนิ คา่
การเลยี นแบบ
การทาตามแบบ ดา้ นจิตพิสัย ณ
การทาถกู ตอ้ งแมน่ ยา
การทาอย่างผสมผสาน
การทาอย่างอัตโนมัติ
การรบั รู้

การตอบสนอง
การเห็นคณุ คา่

การจดั กระบวนการคิด
การมลี กั ษณะเฉพาะตน

ตารางท่ี 4 (ต่อ) การวิเคราะหจ์ ดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกร

รหสั วชิ า 20001 – 2001 ชอื่ วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี ท

หน่วยท่ี 10 ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ

หวั ข้อการเรียนรู้ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ด้านควา

1. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศทางบวก 1. อธิบายผลกระทบของเทคโนโลยีสารสน

ทางบวกได้

2. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศทางลบ 2. อธบิ ายผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสน

ลบได้

3. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศดา้ นตา่ ง ๆ 3. อธบิ ายผลกระทบของเทคโนโลยีสารสน

ตา่ ง ๆ ได้

รายการทักษะ (Skill) จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (ด้านทัก

ามรู)้ รรมกับหัวข้อการเรยี นรแู้ ละระดับพฤติกรรมทีต่ อ้ งการ
นเทศ
ทฤษฎี 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกิต
นเทศทาง

นเทศดา้ น

กษะ)

√ ความจา
√ ความเข้าใจๆ
√ นาไปใช้
วเิ คราะห์
สังเคราะห์ พทุ ธพิ สิ ัย
ประเมนิ คา่
การเลยี นแบบ ด้านทักษะพสิ ัย
การทาตามแบบ
√ การทาถกู ตอ้ งแมน่ ยา ด้านจิตพิสยั ด
√ การทาอย่างผสมผสาน
√ การทาอย่างอัตโนมัติ
การรบั รู้

การตอบสนอง
การเห็นคณุ คา่

การจดั กระบวนการคิด
การมลี กั ษณะเฉพาะตน

ตารางที่ 4 (ตอ่ ) การวเิ คราะห์จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกร

รหสั วชิ า 20001 – 2001 ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ท

หน่วยที่ 11 การใชค้ อมพิวเตอร์อย่างมีจรยิ ธรรมและความรบั ผิดชอบ

หัวข้อการเรยี นรู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ด้านควา
1. ความหมายและขอบเขตจริยธรรมสารสนเทศ 1. บอกความหมายและขอเขตจริยธรรมส
ได้
2. การค้มุ ครองสทิ ธสิ ว่ นบคุ คล 2. อธบิ ายเกี่ยวกบั การคมุ้ ครองสทิ ธิสว่ นบ
3. จรยิ ธรรมในการผลิตและจัดเกบ็ เอกสาร 3. มีจริยธรรมในการผลติ และจัดเก็บเอกส
4. จริยธรรมในการเผยแพรแ่ ละนาสารสนเทศไป 4. มจี รยิ ธรรมในการเผยแพร่และนาสารส
ใช้ ใช้
5. จรยิ ธรรมกบั ความมั่นคงปลอดภัยของระบบ 5. มจี รยิ ธรรมกับความม่นั คงปลอดภยั ของ
คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์

งระบบ √ บุคคลได้ ามร)ู้ รรมกบั หวั ข้อการเรียนร้แู ละระดับพฤติกรรมทต่ี อ้ งการ
สาร สารสนเทศ √
สนเทศไป ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ปฏบิ ตั ิ 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จานวน 2 หน่วยกติ

√ ความจา
√ ความเข้าใจๆ
√ นาไปใช้
วเิ คราะห์
สังเคราะห์ พุทธิพสิ ยั
ประเมนิ คา่
การเลยี นแบบ ด้านทกั ษะพิสัย
การทาตามแบบ
√ การทาถกู ตอ้ งแมน่ ยา ดา้ นจติ พสิ ยั
√ การทาอย่างผสมผสาน
การทาอย่างอัตโนมัติ
√ การรบั รู้

การตอบสนอง ต
การเห็นคณุ คา่

การจดั กระบวนการคิด
การมลี กั ษณะเฉพาะตน

1

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1

รหสั วิชา 20001 - 2001 ช่อื วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี

ช่ือหน่วย การใชค้ อมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ จานวน 3 ช่ัวโมง

รายการหวั ข้อการเรียนรู้

1. ความหมายของคอมพวิ เตอร์

2. องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

3. หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์

4. คอมพวิ เตอรย์ ุคใหม่

5. ความหมายของระบบสารสนเทศ

6. องคป์ ระกอบของสารสนเทศ

7. ลักษณะสารสนเทศท่ดี ี

หัวข้อการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารสอนหรอื จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม

1. ความหมายของคอมพวิ เตอร์ 1. บอกความหมายของคอมพิวเตอรไ์ ด้

2. องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ 2. อธบิ ายองค์ประกอบของคอมพวิ เตอรไ์ ด้

3. หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ 3. อธบิ ายหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ได้

4. คอมพิวเตอร์ยคุ ใหม่ 4. บอกลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์ยุคใหม่ได้

5. ความหมายของระบบสารสนเทศ 5. บอกความหมายของระบบสารสนเทศได้

6. องค์ประกอบของสารสนเทศ 6. อธบิ ายองคป์ ระกอบของสารสนเทศได้

7. ลกั ษณะสารสนเทศที่ดี 7. บอกลกั ษณะของสารสนเทศท่ีดไี ด้

วธิ กี ารสอน : วิธีสอนแบบบรรยายและสาธิต

ส่ือการสอน :

1. หนงั สอื เรียนวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ (20001-2001) ของบรษิ ัท ซัค

เซส มีเดีย จากัด

2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ กอ่ นเรยี น / หลงั เรียน พร้อมเฉลย

3. Google Classroom

การประเมนิ :

1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบุคคล ต้องไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง

2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ก่อนเรยี นไมม่ เี กณฑ์ผ่าน เก็บคะแนนไว้เปรียบเทยี บกับคะแนนที่

ไดจ้ ากการทดสอบหลังเรยี น

3. แบบสังเกตคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจริง

2

แผนการจัดการเรียนรู้

ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ รหัสวิชา 20001-2001 สอนครง้ั ท่ี 1

หน่วยท่ี 1 ชื่อหน่วย การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ จานวน 3 ชม.

1. หัวข้อการเรยี นรู้
1. ความหมายของคอมพิวเตอร์
2. องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์
3. หลักการทางานของคอมพิวเตอร์
4. คอมพวิ เตอร์ยคุ ใหม่
5. ความหมายของระบบสารสนเทศ
6. องคป์ ระกอบของสารสนเทศ
7. ลักษณะสารสนเทศทด่ี ี

2. สาระสาคญั
ระบบสารสนเทศทดี่ มี สี ่วนช่วยในการทางานของผู้ปฏบิ ตั ิงานอยา่ งมาก ดังนน้ั ปัจจุบันจึงเห็น

ระบบสารสนเทศเกดิ ขน้ึ มากมายในหน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชนโดยอาศยั เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์
เข้ามาจดั การกับข้อมลู ในองค์กร เพ่อื ให้บรรลเุ ป้าหมายท่ีต้องการอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

3. สมรรถนะประจาหนว่ ย
แสดงความรู้เกยี่ วกบั องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ หลักการทางานของคอมพิวเตอร์

ลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์ องค์ประกอบของสารสนเทศ และลกั ษณะของสารสนเทศท่ีดีได้

4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 จดุ ประสงค์ทว่ั ไป
1. รู้ความหมายของคอมพิวเตอร์
2. เขา้ ใจองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3. เข้าใจหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์
4. รูล้ กั ษณะของคอมพิวเตอร์ยคุ ใหม่
5. รู้ความหมายของระบบสารสนเทศ
6. เขา้ ใจองคป์ ระกอบของสารสนเทศ
7. รู้ลักษณะสารสนเทศทีด่ ี

3

4.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. บอกความหมายของคอมพวิ เตอร์
2. อธิบายองค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์
3. อธบิ ายหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์
4. บอกลักษณะของคอมพวิ เตอรย์ ุคใหม่
5. บอกความหมายของระบบสารสนเทศ
6. อธบิ ายองคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์
7. บอกลักษณะสารสนเทศที่ดี

5. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
ในการเรียนการสอนของหน่วยที่ 1 คร้ังท่ี 1 (จานวน 3 ช่ัวโมง)
1. นกั เรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ก่อนเรยี น
2. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-6 คน
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาเนอื้ หาจากในหนังสอื เรียน เรือ่ ง คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยี

สารสนเทศ
4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี นในหัวข้อในหัวขอ้ ต่อไปน้ี
• ความหมายของคอมพวิ เตอร์
• ความหมายของคอมพวิ เตอร์
• องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์
• หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์
• คอมพิวเตอรย์ คุ ใหม่
• ความหมายของระบบสารสนเทศ
• องค์ประกอบของสารสนเทศ
• ลักษณะสารสนเทศที่ดี
5. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มค้นคว้าและร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเรือ่ ง การใช้คอมพวิ เตอรก์ บั

ระบบสารสนเทศ โดยสรปุ มาเป็นข้อๆ แล้วสง่ ตวั แทนนาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น
6. นักเรยี นซกั ถามปญั หาข้อสงสัยวิเคราะหเ์ นือ้ หาการเรียนการสอนและหาข้อสรุปเป็น

ความคิด
รวบยอดเพื่อนาไปประยุกตใ์ ช้ตอ่ ไป

7. นักเรียนตรวจการประเมินผล บันทกึ คะแนนท่ไี ด้ ส่งให้ครูตรวจสอบผลการประเมนิ
8. ครูตรวจสอบความถูกต้องและเกบ็ คะแนนไว้เปรยี บเทยี บผลการประเมินหลงั เรียน
9. นักเรยี นทาแบบประเมินการเรยี นร้หู ลังเรียน

4

6. สื่อการจดั การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นวิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี (20001-2001) ของบริษัท

ซัคเซส มีเดีย จากัด
2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ก่อนเรยี น / หลังเรยี น พร้อมเฉลย

7. การวดั ผลและประเมินผล
วิธวี ัดผล
1. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานกลมุ่
2. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรกู้ ่อนเรียน
3. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอัน

พึงประสงค์
เคร่ืองมือวัดผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านกลุ่ม
2. แบบประเมินผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี น/หลงั เรยี น 10 ข้อ
3. แบบสงั เกตคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและ

นักเรียนรว่ มกนั ประเมนิ
8. แหล่งการเรียนร้เู พ่มิ เติม

1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลัยการอาชพี สวา่ งแดนดนิ
2. อินเทอร์เนต็

5

สัปดาหท์ ี.่ ................

บันทกึ หลงั การสอน

รหสั วิชา..............................วชิ า.............................................................ระดบั ................. ช้นั ปที ่.ี ..........
แผนกวิชา.......................................................จานวนนกั เรียน.................คน มาเรยี น......................คน
ขาดเรยี น.............คน มาสาย...........คน ลา............คน สอนเม่ือวันที่..........เดือน....................พ.ศ.........
หนว่ ยที่................... ช่อื หน่วย................................................................................จานวน...........ช่ัวโมง

 เนอื้ หาวัตถปุ ระสงค์และส่อื การสอน
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................. ...............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 ปัญหาทเี่ กิดขนึ้ ในระหว่างการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 แนวทางการแกไ้ ขปัญหาของครผู ู้สอน และผลท่ีได้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครผู ูส้ อน ลงช่ือ................................................หวั หนา้ แผนก
(นางสวุ ิมล อักษรกลาง) (นางสุกญั ญา ดนัยสวัสด)์ิ

วนั ที.่ ..................................................... วนั ท่.ี ...............................................................

6

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
รหัส 20001-2001 วชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ ภาคเรียนที่ 2/2563
ชอื่ ...............................................................................แผนก...............................ห้อง....................

คาส่งั / คาชแ้ี จง ใหเ้ ลือกคาตอบท่ถี ูกต้องที่สุดเพยี งข้อเดยี ว

1. ขอ้ ใดบอกความหมายของคอมพิวเตอร์ไดถ้ ูกต้อง
ก. เครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ใี่ ชง้ านตามความต้องของเราผู้ใช้งาน
ข. เครอ่ื งมืออเิ ล็กทรอนิกส์ชนิดหนงึ่ ทส่ี ามารถรับข้อมูล สามารถประมวลผลขอ้ มลู สามารถ

จดั เกบ็ ข้อมูล และแสดงผลข้อมูลออกมาใหเ้ ห็น
ค. เคร่ืองมือที่สานักงานใช้ทางานในองคก์ รใดองค์กรหนึง่
ง. เครือ่ งทีน่ าอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกสต์ า่ งๆ นามาประกอบเข้ากันแลว้ เกิดเปน็ เคร่ือง

คอมพิวเตอร์ขึ้นมา

2. “รูปรา่ งเหมอื นโน้ตบ๊คุ ไม่มีแบตเตอรี่ภายในตัวเคร่ือง ใชไ้ ฟฟ้า” เปน็ ลกั ษณะของคอมพิวเตอร์

ประเภทใด

ก. เน็ตบคุ๊ ข. แทบ็ เลต็

ค. เดสกท์ อ็ ป ง. เดสกโ์ นต้

3. ขอ้ ใดไม่ใชอ่ งคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์

ก. หน่วยรับเข้า ข. หนว่ ยความจา

ค. หนว่ ยสนับสนนุ ง. หน่วยประมวลผล

4. ขั้นตอนใดในการทางานของคอมพิวเตอร์ ท่ีทางานคู่ขนานกัน

ก. ประมวลผลและแสดงผล ข. รบั ข้อมลู และประมวลผล

ค. รบั ขอ้ มูลและแสดงผลข้อมูล ง.ประมวลและหน่วยความจา

5. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ยี วกบั การทางานของคอมพิวเตอร์
ก. รับข้อมลู หรือคาสัง่ ผ่านอปุ กรณ์นาเข้าข้อมลู นาไปเก็บไว้ท่ีหนว่ ยความจารอง จากนนั้ นาไป

ประมวลผลแล้วนาผลทไี่ ด้ไปเกบ็ ไว้ในหนว่ ยความจาหลัก พรอ้ มแสดงออกทางอุปกรณแ์ สดงผล
ข. รบั ข้อมูลหรือคาสัง่ ผ่านอุปกรณน์ าเข้าข้อมูล นาไปเก็บไว้ท่หี นว่ ยความจาหลกั จากนั้นนาไป

ประมวลผลแลว้ นาผลทไ่ี ด้ไปเก็บไวใ้ นหน่วยความจารอง พรอ้ มแสดงออกทางอุปกรณ์แสดงผล
ค. รับข้อมลู หรือคาสงั่ ผา่ นอปุ กรณน์ าเข้าข้อมลู นาไปเก็บไว้ท่ีหนว่ ยความจาหลกั จากน้นั นาไป

ประมวลผลแลว้ นาผลท่ไี ด้ไปเกบ็ ไวใ้ นหน่วยความจาแฟลช พรอ้ มแสดงออกทางอปุ กรณ์แสดงผล

7

ง. รับข้อมูลหรอื คาสัง่ ผา่ นอปุ กรณน์ าเข้าข้อมลู นาไปเกบ็ ไว้ทฮี่ ารด์ ดสิ ก์ จากนั้นนาไปประมวลผล
แล้วนาผลท่ีได้ไปเก็บไว้ในหน่วยความจาหลกั พร้อมแสดงออกทางอุปกรณ์แสดงผล

6. “หนว่ ยเก็บสถานะข้อมูลที่มคี วามเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสงู ” เปน็ องค์ประกอบส่วนใดของ

คอมพวิ เตอร์

ก. หน่วยรบั เขา้ ข. หนว่ ยความจารอง

ค. หนว่ ยประมวลผล ง. หนว่ ยความจาหลกั

7. ข้อใดคือความหมายของระบบสารสนเทศ

ก. ระบบท่ีนาเทคโนโลยีมาจดั การกบั ข้อมูลเพอื่ ให้บรรลุเปา้ หมายทีต่ ้องการอยา่ งมีประสิทธิภาพ

ข. ระบบท่สี ามารถวเิ คราะห์ สังเคราะห์และประเมนิ ผล

ค. ระบบของคอมพิวเตอร์

ง. ถกู ทกุ ขอ้

8. “ชดุ คาส่งั หรือโปรแกรมสง่ั การให้คอมพวิ เตอร์ทางาน” เปน็ องคป์ ระกอบส่วนใดของระบบ

สารสนเทศ

ก. ฮารด์ แวร์ ข. ข้อมลู

ค. ซอฟต์แวร์ ง. กระบวนการ

9. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ ักษณะสารสนเทศที่ดี

ก. เขา้ ถงึ งา่ ย ข. ตรงประเด็น

ค. มีความรวดเรว็ ง. ตรวจสอบได้

10. ขอ้ มูลสารสนเทศ คอื อะไร

ก. ผลลัพธ์ของการทางาน

ข. ขอ้ มูลท่ีมกี ารประมวลผลแลว้

ค. ขอ้ มลู ท่ีไดร้ บั การกรองและเรียบเรียงทีส่ ามารถนาไปใชง้ านได้

ง. ความเปน็ จรงิ ท่ียงั เปน็ ข้อมูลดบิ ซ่ึงไม่ไดผ้ า่ นการประมวลผลใด ๆ

8

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
รหสั 20001-2001 วชิ าคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ภาคเรียนท่ี 2/2563
ชื่อ...............................................................................แผนก...............................ห้อง....................

คาสงั่ / คาชีแ้ จง ให้เลือกคาตอบท่ถี กู ต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดบอกความหมายของคอมพวิ เตอร์ได้ถูกต้อง
ข. เครื่องมืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ชนิดหน่งึ ท่สี ามารถรับข้อมลู สามารถประมวลผลข้อมลู สามารถ

จัดเก็บข้อมลู และแสดงผลขอ้ มลู ออกมาใหเ้ หน็
2. “รูปรา่ งเหมอื นโน้ตบุ๊ค ไม่มีแบตเตอรี่ภายในตัวเคร่อื ง ใชไ้ ฟฟ้า” เปน็ ลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์
ประเภทใด

ง. เดสก์โน้ต
3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

ค. หน่วยสนับสนุน
4. ขั้นตอนใดในการทางานของคอมพวิ เตอร์ ทที่ างานคู่ขนานกัน

ง.ประมวลและหนว่ ยความจา
5. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกีย่ วกบั การทางานของคอมพิวเตอร์

ข. รบั ข้อมูลหรือคาสั่งผา่ นอุปกรณ์นาเข้าข้อมูล นาไปเก็บไว้ที่หนว่ ยความจาหลกั จากน้ันนาไป
ประมวลผลแล้วนาผลท่ไี ดไ้ ปเกบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจารอง พรอ้ มแสดงออกทางอุปกรณแ์ สดงผล
6. “หนว่ ยเก็บสถานะข้อมูลที่มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมลู สงู ” เป็นองค์ประกอบส่วนใดของ
คอมพิวเตอร์

ง. หนว่ ยความจาหลกั
7. ข้อใดคือความหมายของระบบสารสนเทศ

ก. ระบบทน่ี าเทคโนโลยมี าจัดการกบั ข้อมลู เพอื่ ให้บรรลุเป้าหมายท่ตี อ้ งการอยา่ งมีประสิทธิภาพ
8. “ชดุ คาสัง่ หรือโปรแกรมสั่งการใหค้ อมพิวเตอรท์ างาน” เปน็ องคป์ ระกอบส่วนใดของระบบ
สารสนเทศ

ค. ซอฟต์แวร์
9. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ ักษณะสารสนเทศทดี่ ี

ข. ตรงประเด็น
10. ข้อมลู สารสนเทศ คอื อะไร

ค. ขอ้ มูลที่ได้รบั การกรองและเรยี บเรยี งท่สี ามารถนาไปใชง้ านได้

9

ใบความรู้ / ใบเนอื้ หา
หนว่ ยที่ 1 เร่ือง การใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละระบบสารสนเทศ

ในสังคมปัจจุบัน ข้อมูล ข่าวสาร และสารสนเทศ ถือว่าเป็นส่ิงท่ีมีค่ามากในการดาเนินชีวิต
และเน่ืองจากเทคโนโลยีได้พัฒนาไปมากและราคาไม่แพง ทาใหก้ ารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นไปได้
งา่ ยข้นึ และทุกคนสามารถหานามาใชไ้ ด้ ระบบสารสนเทศนั้นอาจมองง่ายๆ ว่าเป็นการนาข้อมูลต่างๆ
มาประมวลผลให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ และเทคโนโลยีท่ีช่วยในการประมวลผลข้อมูลก็หนีไม่พ้น
คอมพวิ เตอร์ เมือ่ คอมพิวเตอรพ์ ฒั นาไปมากขน้ึ ก็ทาให้ระบบสารสนเทศต่างๆ พฒั นามากขนึ้ ไปดว้ ย
1.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ (Computer) คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินมาจากคาว่า Computare ซึ่ง
หมายถึง การนับ หรือ การคานวณ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมาย
ของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทาหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สาหรับ
แก้ปัญหาต่างๆ ท่ีง่ายและขับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์" หรือ "เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่
สามารถรับข้อมูลหรอื คาสั่ง เพ่ือนาไปประมวลผล จัดเกบ็ ขอ้ มูล และแสดงผลตามชดุ คาสง่ั นัน้ ๆ"
1.2 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่ใชใ้ นปจั จุบนั ประกอบด้วยวงจรไฟฟ้าอเิ ล็กทรอนิกส์ท่ีเรียกว่า ฮาร์ดแวร์
(Hardware) ผลิตออกมาหลายร่นุ แตล่ ะรุ่นจะมคี วามสามารถต่างกัน บางรุ่นเหมาะสาหรบั ทางานใน
บ้าน บางรุ่นเหมาะสาหรับการใช้งานทางด้านกราฟฟิกระดับสูง แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นมี
องค์ประกอบหลกั เหมือนกัน 5 ส่วน ดงั นี้

1.2.1 หน่วยรบั เข้า (Input Unit)
เป็นส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ท่ีทาหน้าท่ีรับข้อมูลจากผู้ใช้และส่งต่อข้อมูลไป

ยัง หนว่ ยประมวลผล (Process Unit) เพ่ือทาการประมวลผลต่อไป รปู แบบการสง่ ข้อมลู จากอปุ กรณ์
รับข้อมูลจะอยใู่ นรูปของการส่งสญั ญาณเปน็ รหสั ดจิ ิตอล (หรอื เป็นเลข 0 กับ 1) อุปกรณ์สว่ นรับข้อมูล
ได้แก่ คยี ์บอร์ด เมาส์ สแกนเนอร์ เปน็ ต้น

1.2.2 หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit)
เป็นส่วนที่ทาหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่รับมาจาก หน่วยรับเข้า(Input Unit)

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังทาหน้าท่ีในการควบคุมการทางานต่างๆ ภายในเคร่ือง
คอมพิวเตอร์

1.2.3 หนว่ ยความจาหลัก (Memory Unit)
เป็นหนว่ ยเกบ็ สถานะขอ้ มูลท่ีมีความเรว็ ในการเขา้ ถึงข้อมลู สูงและจาเป็นต้องมีใน

เครื่องคอมพิวเตอรท์ กุ เครื่อง เพราะเปน็ องคป์ ระกอบทที่ าให้เครอ่ื งคอมพิวเตอรส์ ามารถทางานได้ จึง

10

เรียกหนว่ ยความจาประเภทนี้วา่ หนว่ ยความจาหลกั หน้าทีข่ องหน่วยความจาหลักในระบบ
คอมพิวเตอร์ ไดแ้ ก่ เป็นท่ีเก็บข้อมูลกอ่ นนาไปประมวลผล เกบ็ คาส่งั ของโปรแกรมขณะใช้งาน และ
เกบ็ ผลลพั ธท์ ี่ได้จากการประมวลผลก่อนนาไปแสดงผล

1.2.4 หนว่ ยความจารอง
เปน็ หน่วยความจาทีส่ ามารถรักษาข้อมูลไดต้ ลอดหลังจากปิดเครอื่ งคอมพวิ เตอร์

ตวั อย่างของหนว่ ยความจาประเภทนี้ ไดแ้ ก่ การ์ดหน่วยความจา (Memory Cards) แผ่นซดี ีหรือดวี ีดี
(CD / DVD) หน่วยความจาแบบ USB Flash Drive เปน็ ต้น

1.2.5 หนว่ ยส่งออก (Output Unit)
เป็นหนว่ ยทแี่ สดงผลลพั ธ์ท่มี าจากการประมวลผลขอ้ มลู ของส่วนประมวลผลขอ้ มูล

โดยปกติรูปแบบของการแสดงผล มีอยู่ 2 แบบ ดว้ ยกนั คือ
1.2.5.1 แบบทส่ี ามารถเก็บไวด้ ภู ายหลังได้ เช่น เคร่อื งพมิ พ์ เป็นตน้
1.2.5.2 แบบทไ่ี ม่มสี าเนาเกบ็ ไว้ เชน่ จอภาพ ลาโพง เปน็ ตน้

1.3 หลักการทางานของคอมพวิ เตอร์
หลักการทางานของคอมพวิ เตอร์ เร่ิมจากผู้ใช้กรอกข้อมลู หรือคาส่งั ผา่ นอปุ กรณน์ าเขา้ ข้อมลู

ซึ่งข้อมลู หรือคาส่งั ทร่ี ับเข้ามาจะถูกนาไปเก็บไว้ที่หน่วยความจาหลกั จากน้ันกจ็ ะถูกนาไปประมวลผล
โดยหนว่ ยประมวลผลกลางแลว้ นาผลท่ีได้จากการประมวลไปเกบ็ ไว้ในหนว่ ยความจารอง พร้อมท้ัง
แสดงออกทางอปุ กรณ์แสดงผล

หนว่ ยความจาหลกั

หนว่ ยนาเขา้ ข้อมลู หน่วยประมวลผล หนว่ ยสง่ ออกขอ้ มูล
กลาง

หน่วยความจารอง

รปู ที่ 1 หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์

11

1.4 คอมพิวเตอร์ยุคใหม่

ยคุ ของคอมพิวเตอร์ สารมรถแบง่ ตามหน่วยประมวลผลกลางไดด้ งั น้ี

1.4.1 คอมพิวเตอร์ยุคที่หน่ึง (พ.ศ.2488 - พ.ศ.2501) เป็นคอมพวิ เตอร์ท่ีใช้หลอดสุญญากาศ

(vacuum tube) ใช้บัตรเจาะรูในการเก็บข้อมูลและคาส่ังท่ีจะให้คอมพิวเตอร์ทางาน ใช้ดรัมแม่เหล็ก

(Magnetic) เป็นหน่วยความจาหลัก หน่วยความจาหลักน้ีจะเก็บข้อมูลในขณะที่มีการประมวลผล

เท่านั้น การส่ังงานใช้ภาษาเคร่ืองในระยะแรกซ่ึงเป็นรหัสตัวเลขที่ยุง่ ยากซับซ้อน ต่อมาได้มีการคิดค้น

ภาษาสัญลักษณ์ (Symbolic language) ขึ้นมาชว่ ยงาน โดยใช้ภาษาชนิดเขียนคาสั่งเปน็ ภาษาอังกฤษ

ก่อนแลว้ จึงใช้ตัวแปลภาษาแปลงเปน็ ภาษาเครือ่ งอีกคร้ังหนึง่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ของยุคน้ีมีขนาดใหญ่

เช่น มาร์ค วัน (MARK I) , อนี ิแอค (ENIAC), ยูนแิ วค (UNIVAC)

1.4.2 คอมพิวเตอร์ยุคท่ีสอง (พ.ศ.2502 - พ.ศ.2506) จะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์

โดยทรานซสิ เตอรท์ ่พี ัฒนาขึ้นคร้งั แรกมขี นาด 1 ใน 100 ของหลอดสญุ ญากาศเทา่ น้ัน นอกจากมีขนาด

เล็กแล้วยังมีคณุ สมบัตทิ ่ีดีอีกหลายประการ คอื ไม่เปลืองกระแสไฟฟา้ ไมต่ ้องใชเ้ วลาอุน่ เคร่ืองเม่ือเปิด

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง