คำนึงถึงความปลอดภัยในการรีดผ้า


ดูแลรักษาเตารีดให้ใช้ได้นาน (Happy time & Happy family) ของทุกชิ้นมีอายุการใช้งานค่ะ แต่ที่สำคัญคือเราต้องรู้จักวิธีการดูแลรักษา เพื่อให้ของที่ซื้อมานั้นใช้ไปได้อย่างคุ้มค่า และถนอมอายุการใช้งานได้นานขึ้น ถ้าเราดูแลรักษาอย่างถูกวิธี

         

1. ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จ

         

2. รอจนเตารีดเย็นแล้วจึงพันสายเข้ากับฐานเตารีด

         

3. ถ้าเป็นเตารีดไอน้ำ อย่าลืมเทน้ำออกจากแท็งก์จนหมดด้วย

         

4. วางเตารีดบนฐานของเตารีดเสมอ ทั้งนี้การทำความสะอาดนั้นเมื่อหน้าเตาอุ่น ให้เช็ดด้วยฟองน้ำ หรือผ้านุ่ม ๆ ก่อน

ข้อควรระมัดระวังในการใช้

          เพราะเตารีดเป็นอุปกรณ์ที่มีความร้อน ถ้าหากขาดความระมัดระวังในการใช้ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านไหนที่มีลูกเล็กยิ่งต้องระวัง เพราะเด็ก ๆ จะยังไม่รู้จักอันตรายของเตารีด อาจเผลอคว้าจับในขณะที่กำลังร้อนอยู่ และทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้

การใช้เตารีดควรใช้อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย และควรปฏิบัติดังนี้

         

1. ก่อนเสียบปลั๊กหรือถอดควรปิดสวิชต์เตารีดเสียก่อน แล้วจึงปลดปลั๊กเตารีดออก และควรจับที่หัวปลั๊กเวลาดึงออก อย่าใช้วิธีดึงที่สายเตารีด

         

2. ควรปลดปลั๊กเตารีดออกทุกครั้งเมื่อเลิกใช้หรือขณะที่ไปทำธุระอื่น และอย่าเสียบปลั๊กเตารีดทิ้งไว้โดยเด็ดขาด

         

3. เมื่อสายไฟฟ้าหรือชิ้นส่วนอื่น ๆ ชำรุด ควรนำเตารีดไปให้ช่างตรวจเช็คและซ่อมแซมเสียก่อนตามวิธีที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายอันเกิดจากไฟฟ้าช็อต

         

4. ขณะที่ใช้เตารีดควรระมัดระวัง อย่าให้เด็กอยู่ใกล้บริเวณที่กำลังใช้เตารีดอยู่

         

5. ในกรณีที่จะต้องรีดผ้าใยสังเคราะห์ ควรทดลองรีดบริเวณที่ไม่สำคัญเสียก่อนเพื่อป้องกันการเสียหายที่จะเกิดขึ้น

         

6. อย่าสัมผัสผิวเตารีดในขณะที่เตารีดยังร้อนอยู่เพราะจะทำให้ผิวหนังเกิดการพองไหม้ได้

          เห็นมั้ยล่ะคะ ว่าการรีดผ้าไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเรารู้วิธีและมีผู้ช่วยที่ดีไม่ว่าจะเป็นเตารีด หรือแรงงานชั้นดีอย่างคุณพ่อบ้าน และกำลังใจที่น่ารักจากลูก ๆ ก็จะทำให้การรีดผ้าเป็นงานบ้านเบา ๆ ที่คุณก็ทำเองได้สบายมาก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ Happy time & Happy family by Tefal

            การซักผ้า คือ การทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากเสื้อผ้า โดยใช้สารทำความสะอาด สามารถทำได้ 2 วิธี คอการซักผ้าด้วยมือ และการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า


 การซักผ้าด้วยมือตามกระบวนการทำงาน

        1. การวิเคราะห์งาน  เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการซักผ้าด้วยมือ ศึกษาคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการซักผ้าด้วยมือ
        2. การวางแผนการทำงาน  เป็นการกำหนดกรอบการซักผ้าด้วยมือ โดยสร้างแผนที่ความคิด เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงาน
        3. การปฏิบัติงานตามลำดับขั้นตอน เป็นการซักผ้าด้วยมือตามขั้นตอนที่กำหนด
        4. การประเมินผลการทำงาน  เป็นการตรวจสอบความสะอาดของการซักผ้าด้วยมือว่าสะอาดตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ถ้าไม่ควรนำไปซักใหม่อีกครั้ง


ตัวอย่างการซักผ้าด้วยมือตามกระบวนการทำงาน

        1. การวิเคราะห์งาน 
            ลักษณะงาน การซักผ้าด้วยมือเหมาะกับผ้าเนื้อบาง ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ หรือเสื้อผ้าที่สกปรกมาก การซักผ้าด้วยมือจะช่วยทำความสะอาดเฉพาะจุดได้ดี ซึ่งจะใช้เวลาในการปฏิบัติงานประมาณ 45 นาที


            คุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน เป็นผู้ที่รักความสะอาด มีความประณีต พิถีพิถัน ละเอียดรอบคอบ มีทักษะการวางแผน ทักษะการจัดการ และทักษะการแก้ปัญหา
    
        2. การวางแผนในการทำงาน
            วัตถุประสงค์  
                - ทำความสะอาดเสื้อผ้า
                - เพื่อฝึกทักษะการทำงาน
            สิ่งที่จัดเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ
                - กะละมัง
                - ผงซักฟอก

                - สารขจัดรอบเปื้อน
                - น้ำยาปรับผ้านุ่ม
               - แปรงถูผ้า
                - ไม้กระดานแปรงผ้า
                - ตะกร้าใส่ผ้า
            ศึกษาวิธีการ วิธีการซักผ้าด้วยมือ
                - ขั้นตอนการซักผ้าด้วยมือ
                - การตรวจสอบผลงาน
                - การปรับปรุงแก้ไข
   
        3. ปฏิบัติตามขั้นตอน
            1. สำรวจเสื้อผ้าก่อนนำไปซัก โดยตรวจดูสิ่งของที่อาจตกค้างอยู่ในกระเป๋าเสื้อ กระโปรง หรือกางเกง ถ้าเสื้อผ้าชำรุดควรนำไปซ่อมแซมให้เรียบร้อย
            2. แยกผ้าขาและผ้าสีออกจากกัน โดยแช่ผ้าขาวและผ้าสีในน้ำสะอาดคนละกะละมัง
            3. ผสมผงซักฟอกกับน้ำในกะละมัง ดีให้เป็นฟอง แล้วหยิบผ้าขึ้นจากน้ำที่แช่ บีบน้ำออกแล้วใส่ลงในกะละมังที่ละลายผงซักฟอกไว้
            4. ขยี่หรือแปรงผ้าส่วนที่สกปรกให้ทั่ว เช่น ปกเสื้อ ปลายแขนเสื้อ ขอบกางเกง ปากกระเป๋ากางเกง ถ้าสกปรกมากควรใช้สารขจัดรอยเปื้อนทำความสะอาดก่อน
            5. บีบหรือบิดผ้าเพื่อให้น้ำผงซักฟอกออกจากผ้า แล้วนำไปซักด้วยน้ำเปล่า 3 ครั้งให้น้ำผงซักฟอกออกหมด โดยอาจใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้ายที่ใช้ซักผ้าก็ได้
            6. บีบหรือบิดผ้าใส่ตะกร้า แล้วนำไปตาก
        
        4. การประเมินผลการทำงาน เป็นการตรวจสอบความสะอาดของการซักผ้าด้วยมือว่าผ้าที่ซักมีคราบสกปรกหรือไม่ ถ้าพบคราบสกปรกควนนำไปซักใหม่อีกครั้งพร้อมกับใช้สารขจัดรอยเปื้อนทำความสะอาด




การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า
1. การวิเคราะห์งาน  เป็นการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า และศึกษาคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า
2. การวางแผนในการทำงาน  เป็นการกำหนดกรอบการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า
3. การปฏิบัติงานตามขั้นตอน
4. การประเมินผลการทำงาน


ตัวอย่าง 
การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าตามกระบวนการทำงาน
1. การวิเคราะห์งาน
    ลักษณะงาน การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าจะช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และอำนวยความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต ควรศึกษาเรื่องการจัดเตรียมวััสุด อปรกรณ์ และเครื่องมือในการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ซึ่งจะใช้เวลาปฏิบัตงานประมาณ 1 ชั่วโมง
    คุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน ควรเป็นผู้ที่รักความสะอาด มีความประณีต พิถีพิถัน ละเอียดรอบคอบ มีทักษะในการวางแผน ทักษะการจัดการ และทักษะการแก้ปัญหา

2. การวางแผนการทำงาน เป็นการกำหนดกรอบการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า 
    วัตถุประสงค์

  • เพื่อทำความสะอาดเสื้อผ้า
  • เพื่อฝึกทักษะการทำงาน

สิ่งที่จัดเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ

  • เครื่องซักผ้า
  • ผงซักฟอก
  • สารขจัดรอยเปื้อน
  • น้ำยาปรับผ้านุ่ม
  • ตะกร้าใส่ผ้า
  • ถุงซักสำหรับเครื่องซักผ้า

ศึกษาวิธีการ  วิธีการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า

  • ขั้นตอนการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า
  • การตรวจสอบผลงาน
  • การปรับปรุงแก้ไข

3. การปฏิบัติตามขั้นตอน

    1. สำรวจเสื้อผ้าก่อนนำไปซักในเครื่องซักผ้า โดยตรวจดูสิ่งของที่อาจตกค้าอยู่ในกระเป๋าเสื้อ กระโปรง หรือกางเกง ถ้าเสื้อผ้าชำรุดควรนำไปซ่อมแซมให้เรียบร้อย

    2. แยกผ้าขาวและผ้าสีออกจากกัน ถ้าเป็นผ้าเนื้อบางควรใส่ถุงซักสำหรับเครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันผ้าขาด

    3. ขจัดคราบสกปรกหรือรอยเปื้อนด้วยสารขจัดรอยเปื้อนก่อนนำผ้าลงในเครื่องซักผ้าตามขนาดบรรจุหรือน้ำหนักที่บอกไว้ในคู่มือ

    4. ใส่ผลซักฟอกลงในเครื่องซักผ้าตามคำแนะนำของเครื่องซักผ้าแต่ละชนิด

    5. ตั้งรายการซักผ้าตามคำแนะนำของเครื่องซักผ้าก่อนเปิดสวิตช์ ถ้าต้องการใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มให้ใส่ในน้ำสุดท้ายของการซัก

    6. เมื่อเครื่องซักผ้าปั่นผ้าจนผ้าแห้งพอหมาดๆ หยิบผ้าใส่ตะกร้าผ้า แล้วนำไปตาก

4. การประเมินผลการทำงาน 

    เป็นการตรวจสอบความสะอาดของการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าว่าผ้าที่ซักมีคราบสกปรกหรือไป ถ้าพบคราบสกปรกควรนำไปซักใหม่อีกครั้งพร้อมกับใช้สารขจัดรอยเปื้อนทำความสะอาด

วิธีการซักผ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการซักผ้าที่มีการจัดการแบบประหยัด

    1. ประหยัดเวลา ก่อนซักผ้าควรแผนการทำงานให้พร้อม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น  เช่น การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าจะช่วยลดเวลาในการทำงาน การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมก่อนการทำงานจะช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากขึ้น

    2. ประหยัดแรงงาน เป็นการเลือกใช้เครื่องมือที่เป็นเครื่องทุ่นแรงมาช่วยในการซักผ้ เช่น การแช่ผ้าก่อนซักประมาณ 30 นาที ช่วยประหยัดพลังงานในการซักผ้า การนำเครื่องซักผ้ามาใช้ในการซักผ้าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานและช่วยทำงานแทนแรงงานคน

    3. ประหยัดทรัพยากร เช่น ใช้เครื่องซักผ้าที่มีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ หรือซักผ้าสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง เพื่อประหยัดน้ำและค่าไฟฟ้า

    4. ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ใช้สารซักฟอกที่เหมาะสำหรับการซักผ้าด้วยเครื่อง หรือการซักผ้าด้วยมือ ในปริมาณที่พอเหมาะสม จะช่วยรักษาเครื่องซักผ้าให้สามารถใช้ได้นานขึ้น หรือการใช้สารสมุนไพรทำความสะอาดเสื้อผ้าแทนสารเคมี จะไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

    5. คำนึงถึงความปลอดภัย ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการซักผ้า เช่น ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานเครื่องซักผ้าอย่างเคร่งครัด ตั้งเวลา ความเร็วหรืออุณหภูมิที่พอเหมาะ จะช่วยถนอมเสื้อผ้าและเครื่องซักผ้าไม่ชำรุดเสียหาย




การตากผ้า

    1. ก่อนตากผ้าควรกลับผ้าด้านในออกทุกชิ้น เพื่อป้องกันผ้าสีซีดเมือถูกแสงแดด
    2. ควรใช้วิธีการบีบน้ำออกจากผ้าแทนการบิด เพื่อไม่ให้ผ้ายับมาก เส้นใยผ้าไม่ขาดง่ายและทำให้ใช้งานได้นาน
    3. เสื้อหรือกางเกงควรตากด้วยวิธีการแขวนด้วยไม้แขวนเสื้อ ขณะตากผ้าควรจัดผ้าให้เรียบหรือมีรอยยับน้อยที่สุด เพื่อประหยัดเวลาในการรีดผ้า
    4. เสื้อผ้าที่เป็นผ้าสีควรตากในร่มที่มีลมโกรกไม่ควรตากกลางแจ้ง เพราะจะทำให้สีของผ้าซีดเร็ว
    5. ผ้าเนื้อหนา เช่น ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ควรตากกลางแจ้งเพื่อจะได้แห้งเร็วและไม่มีกลิ่นอับ
    6. ควรใช้ไม้หนีบฟ้าหนีบตรงบริเวณที่แข็งแรงที่สุดของผ้า เช่น ขอบกางเกง เพื่อช่วยไม่ให้เสื้อผ้าเสียรูปทรง
    7. ราวตากผ้าควรมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม สีไม่ตก ไม่มีคราบสกปรก ถ่าไม่มีราวตากผ้าอาจนำเชือกไนลอนสีขาวมาขึงเป็นราวตากผ้าได้
    8. ไม่ควรตากผ้าในบริเวณที่มีกลิ่นและควันไฟ เพราะจะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่น

    นอกจากนี้อาจใช้เครื่องอบแห้งหรือเครื่องอบไฟฟ้า มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่เหมาะกับร้านซักรีดเสื้อผ้า โรงพยาบาล หรือโรงแรม

วิธีการตากผ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
    1. ประหยัดเวลา เป็นการวางแผนการตากผ้าตามลำดับขั้นตอน เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน เช่น การตากผ้าด้วยไม้แขวนเสื้อ การนำเสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้วไปตากในขณะที่ซักเสื้อผ้าอีกส่วนหนึ่งในเครื่องซักผ้า
    2. ประหยัดแรงงาน อาจใช้เครื่องทุนแรงมาช่วยในการตากผ้า  เช่น การใช้ราวตากผ้าที่ทำจากอะลูมิเนียมซึ่งมีน้ำหนักเบาและมีล้อลากเพื่อให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
    3. ประหยัดทรัพยากร เป็นการเลือกใช้วิธีการแบบประหยัดมาใช้ในการตากผ้า เช่น ถ้ามีลมแรงขณะตากผ้าควรใช้ไม้หนีบผ้า เพื่อป้องกันผ้าหล่น ซึ่งอาจทำให้ต้องซักผ้าใหม่ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากร
    4. ประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นการเลือกใช้วิธีการตากผ้าแบบประหยัด เช่น ตากผ้าโดยใช้แสงธรรมชาติแทนเครื่องอบผ้า หรือการใช้ไม้หนีบผ้าพลาสติกแทนไม้หนีบผ้าที่ทำจากไม้ เพราะกันน้ำได้ดีี ทนทาน ราคาถูก
    5. คำนึงถึงความปลอดภัย ควรเลือกตากผ้าในบริเวณที่แห้ง สะอาด ไม่มีคนเดินผ้าไปมา ได้รับแสงแดดตลอดวัน ราวตากผ้าไม่เป็นสนิม การตากผ้าในที่สูงควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก



กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง