กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เรื่องเล็กแต่อาการไม่เล็ก
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย จึงทำให้เชื้อโรคเข้าไปในร่างกายได้ง่ายกว่า แต่ในบางรายอาจเกิดจากการกลั้นปัสสาวะบ่อย ระบบโครงสร้างของระบบปัสสาวะผิดปกติ การติดเชื้อทางท่อปัสสาวะและมีการอักเสบขึ้น การติดเชื้อทางกระแสเลือด หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เป็นต้น
อาการและความรุนแรงของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- มีอาการปวดแสบขัด
- ปวดปัสสาวะบ่อยออกไม่สุด
- ปวดหน่วงท้องน้อยเวลาปัสสาวะ
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- อาการรุนแรงถึงขั้นปัสสาวะเป็นเลือด ทำให้กรวยไตอักเสบได้
การป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะนาน ๆ
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ เพื่อขับเชื้อโรคออกจากร่างกาย
- ทำความสะอาดหลังจากปัสสาวะหรืออุจจาระอย่างถูกต้อง
- ทำความสะอาดร่างกายหลังมีเพศสัมพันธ์
การรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นโรคที่ไม่รุนแรง สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้ามีอาการมากและไม่ไปพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากเชื้อโรคในกระเพาะปัสสาวะไต่เข้าสู่กรวยไต
ข้อมูลโดย
รศ. นพ.วิสูตร คงเจริญสมบัติ
สาขาวิชาศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อแบคทีเรีย จากสถิติพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพบมากในช่วงอายุ 20-50 ปี โดยเฉพาะสาวๆ ออฟฟิศที่นั่งติดอยู่กับที่โต๊ะทำงาน แบบไม่อยากขยับเขยื้อนตัว
ลุกไปไหน
สาเหตุที่พบโรคนี้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายมาจากสรีระทางร่างกายผู้หญิงซึ่งมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย
ดังนั้นเชื้อโรคบริเวณปากท่อปัสสาวะจึงเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ท่อปัสสาวะของผู้หญิงยังเปิดออกสู่ภายนอกในบริเวณใกล้กับช่องคลอด และทวารหนัก จึงมีโอกาสติดเชื้อทั้งจากช่องคลอด และจากทวารหนักโดยเฉพาะเจ้าเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายเข้าไปอีก
เชื้อแบคทีเรีย ตัวการทำกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
สาเหตุ ของกระเพาะปัสสาวะอักเสบมาจากเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ซึ่ง 75-95% โดยประมาณเกิดจากเชื้ออีโคไล
ส่งผลให้เกิดภาวะอักเสบเฉียบพลัน (รักษาหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์) และแบบอักเสบเรื้อรัง ซึ่งลักษณะนี้มักมีอาการอักเสบเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง แต่มีอาการรุนแรงน้อยกว่าการอักเสบเฉียบพลัน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- กลั้นปัสสาวะนาน ส่งผลให้ปัสสาวะแช่ค้าง เชื้อโรคในปัสสาวะจึงเจริญเติบโตได้ดี
- ผู้สูงอายุ เพราะสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี
- ไม่ค่อยเคลื่อนไหวมักนั่งๆ นอนๆ
- ดื่มน้ำน้อย
อาการส่อแววเสี่ยงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ปัสสาวะบ่อยครั้ง ครั้งละน้อยๆ ปวด เบ่ง แสบ โดยเฉพาะตอนปัสสาวะสุด
- ปัสสาวะเป็นเลือด อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า คือปัสสาวะสีชมพู หรือเป็นเลือด
- ปัสสาวะขุ่น หรืออาจเป็นหนองขึ้นกับความรุนแรงของโรค
- มีกลิ่นผิดปกติ
- ปวดท้องน้อย
- มีไข้ ทั้งไข้สูง และไข้ต่ำ
- บางครั้งอาจมีสารคัดหลั่งบริเวณอวัยวะเพศร่วมด้วย
- อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยเมื่อเป็นการติดเชื้อเฉียบพลัน อาจมีนิ่วปนออกมาในปัสสาวะ เมื่อเกิดร่วมกับนิ่วในไต หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
วิธีป้องกันกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ไม่กลั้นปัสสาวะนาน พยายามเคลื่อนไหวร่างกายเสมอ รักษาความสะอาดในการขับถ่าย ไม่ควรใช้สเปรย์ หรือยาดับกลิ่นตัวบริเวณอวัยวะเพศ
เพราะอาจก่อการระคายเคืองเลี่ยงการอาบน้ำในอ่าง เพราะอาจติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 1772 ต่อ โรคระบบทางเดินปัสสาวะ