การคายน้ำของพืชเป็นกระบวนการรักษาดุลยภาพเพื่อการปรับตัวให้มีชีวิตรอดในสภาวะที่ไม่เหมาะสม พืชแต่ละประเภทจึงมีรูปแบบการคายน้ำต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมเป็นสำคัญ
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษารูปแบบการค่ายน้ำของพืช
2.เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการค่ายน้ำของพืช
อุปกรณ์
1.ขวดน้ำ 2 ใบ
2.ถุงพลาสติก 2 ใบ
3.มีด หรือกรรไกร
4.ยางรัด 2 เส้น
5.น้ำสะอาด
6.ต้นใบเตย 1 ต้น
7.ต้นสาบเสือ 1 ต้น
วิธีการทดลอง
1.จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
2.นำขวดเปล่าทั้ง 2 ใบ ไปใส่น้ำสะอาดให้เต็มขวด
3.นำต้นใบเตยที่เป็นใบเรียวยาวและต้นสาบเสือ 1 ต้น ซี่งเป็นใบแผ่แบนที่มีรากและจำนวนใบเท่ากันที่เตรียมไว้แล้วทั้ง 2 ต้น ไปใส่ในขวดน้ำที่เตรียมไว้ต้นละขวด
4.นำถุงพลาสติกใสมาครอบ ต้นใบเตยและต้นฝรั่งต้นเล็กทั้ง 2 ต้น แล้วนำยางเส้นมารัดถุง พลาสติกให้ติดกับปากขวดน้ำ ให้แน่นอย่าให้อากาศเข้าออกได้
5.นำทั้ง 2 ต้นที่ได้ไปตั้งไว้ที่ที่มีแสงแดดมาก วางไว้ในสถานที่เดียวกัน
6.สังเกต การเปลี่ยนแปลงและบันทึกผลการทดลอง
ผลการทดลอง
วินาทีที่ 0 พืชยังไม่มีการคายน้ำ วินาทีที่ 10 พืชมีการคายน้ำเล็กน้อย
วินาทีที่ 30 ต้นสาบเสือมีการคายน้ำเกือบเต็มถุง / ใบเตยมีการคายน้ำที่น้อยกว่า
วินาทีที 60 จะเห็นไอน้ำหยดลงมาจากขวดของต้นสาบเสือ
สรุปผลการทดลอง
จากการทดลองการเปรียบเทียบการค่ายน้ำของพืชที่มีลักษณะใบเรียวยาวและใบแผ่บาง ที่มีรากและจำนวนใบเท่ากัน วางในสถานที่เดียวกัน ที่มีแสงมากประมาณช่วงเวลา 12:00 ทำการทดลองประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฎว่า ใบแผ่บางคายน้ำมากกว่าใบเรียวยาว เพราะสังเกตจากน้ำในขวดมีปริมาณค่อยลดลง อาจจะเป็นเพราะช่วงของการทดลองเป้นช่วงที่มีแสงแดดมาก แสงเป็นตัวช่วยให้เกิดการค่ายน้ำของพืชออกไป จึงทำให้ปากใบเปิดมากและระเหยน้ำได้มาก ต้นฝรั่งต้นเล็กอาจจะมีจำนวนปากใบที่มีมาก จะทำให้มีช่องสำหรับระเหยน้ำมากขึ้น จากที่รากต้นชุมอยู่ในน้ำก็จะทำหน้าที่ดูดน้ำในขวดขึ้นลำต้น และระเหยออกทางปากใบ ทำให้น้ำที่อยู่ในขวดมีปริมาณลดลงเรื่อยยๆ