Find iphone ต องใช รห สท กคร งหรอ

  1. ถ้าบัญชี Apple ID ของคุณไม่ได้ใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยอยู่แล้ว ให้ไปที่ การตั้งค่า

     > [ชื่อของคุณ] > รหัสผ่านและความปลอดภัย

  2. แตะ เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย แล้วแตะ ดำเนินการต่อ

  3. ป้อนเบอร์โทรศัพท์ที่เชื่อถือแล้ว ซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่คุณต้องการรับรหัสการตรวจสอบยืนยันสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย (สามารถเป็นเบอร์โทรศัพท์ของ iPhone ของคุณได้)

    คุณสามารถเลือกได้ว่าจะรับรหัสด้วยข้อความตัวอักษรหรือสายโทรศัพท์อัตโนมัติ

  4. แตะ ถัดไป

  5. ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันที่ส่งมายังเบอร์โทรศัพท์ที่เชื่อถือแล้วของคุณ

    ในการส่งหรือส่งรหัสการตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง ให้แตะ “ไม่ได้รับรหัสการตรวจสอบยืนยันใช่หรือไม่”

    ระบบจะไม่ขอให้คุณป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันบน iPhone ของคุณอีก นอกเสียจากว่าคุณจะลงชื่อออกโดยสมบูรณ์ หรือลบข้อมูลทั้งหมดบน iPhone ของคุณ หรือลงชื่อเข้าหน้าบัญชี Apple ID ของคุณในเว็บเบราว์เซอร์หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนรหัสผ่าน Apple ID ของคุณเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย

หลังจากที่คุณเปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย คุณมีเวลาสองสัปดาห์ในการปิดใช้ หลังจากช่วงเวลานั้น คุณจะไม่สามารถปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยได้ ในการปิดใช้ ให้เปิดอีเมลยืนยันของคุณ แล้วคลิกลิงก์ที่จะนำคุณไปยังการตั้งค่าความปลอดภัยก่อนหน้า โปรดจำไว้ว่าการปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยจะทำให้บัญชีของคุณปลอดภัยน้อยลง และหมายความว่าคุณจะไม่สามารถใช้คุณสมบัติที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูงได้

หมายเหตุ: ถ้าคุณใช้การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนและอัปเกรดเป็น iOS 13 ขึ้นไป บัญชีของคุณอาจถูกโยกย้ายไปใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสำหรับ Apple ID

ถ้าคุณพบอุปกรณ์ของคุณและต้องการปิดเสียงก่อนที่จะหยุดโดยอัตโนมัติ ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:

  • iPhone, iPad หรือ iPod touch: กดปุ่มเปิด/ปิดหรือปุ่มระดับเสียง หรือสลับสวิตช์เปิด/ปิดเสียง ถ้าอุปกรณ์ล็อคอยู่ คุณยังสามารถปลดล็อคหรือปัดเพื่อปิดทิ้งการเตือน “ค้นหา [อุปกรณ์] ของฉัน” ได้เช่นกัน ถ้าอุปกรณ์ปลดล็อคอยู่ คุณยังสามารถแตะ ตกลง ในการเตือน “ค้นหา [อุปกรณ์] ของฉัน” ได้เช่นกัน

  • Apple Watch: แตะ ละทิ้ง ในการเตือน “ค้นหานาฬิกาของฉัน” หรือกดที่ Digital Crown หรือปุ่มด้านข้าง

  • Mac: คลิก ตกลง ในการเตือน “ค้นหา Mac ของฉัน”

  • AirPods หรือหูฟัง Beats: แตะ หยุด ใน “ค้นหาของฉัน”

ดูว่าการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและบริการหาตำแหน่งที่ตั้งจะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบน iPhone, iPad และ iPod touch ได้อย่างไร

การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iOS และ iPadOS ขึ้นไปช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าแอพใดที่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้บนอุปกรณ์ของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถอนุญาตแอพเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้ใช้กล้อง เพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดภาพไปยังแอพนั้นได้ นอกจากนี้ คุณยังอนุญาตการเข้าถึงรายชื่อของคุณเพื่อให้แอพรับส่งข้อความสามารถค้นหาเพื่อนที่ใช้แอพเดียวกันอยู่ได้อีกด้วย

ในการตั้งค่า >ความเป็นส่วนตัว คุณสามารถดูได้ว่าแอพใดที่คุณได้อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลบางอย่าง รวมถึงให้สิทธิ์หรือเพิกถอนการเข้าถึงในอนาคต ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงคุณสมบัติต่อไปนี้

  • บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง
  • รายชื่อ
  • ปฏิทิน
  • เตือนความจำ
  • รูปภาพ
  • บลูทูธ
  • ไมโครโฟน
  • การรู้จำคำพูด
  • กล้อง
  • สุขภาพ
  • HomeKit
  • สื่อและ Apple Music
  • การวิจัย
  • ไฟล์และโฟลเดอร์
  • การเคลื่อนไหวและฟิตเนส

บนอุปกรณ์ของคุณ คุณสามารถเลือกประเภทของข้อมูลจากรายการนี้เพื่อดูว่าแอพใดที่ขออนุญาตใช้ข้อมูลดังกล่าว แอพจะไม่ปรากฏบนรายการนี้จนกว่าจะขออนุญาตใช้ข้อมูลของคุณ คุณสามารถเพิ่มหรือลบสิทธิ์อนุญาตจากแอพใดก็ตามที่ได้ขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล แอพสามารถใช้ประเภทข้อมูลในการตั้งค่านั้นเฉพาะเมื่อแอพได้รับอนุญาตจากคุณเท่านั้น 

หากคุณลงชื่อเข้าใช้ iCloud แอพจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึง iCloud Drive ได้ตามค่าเริ่มต้น คุณสามารถดูและจัดการแอพที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ iCloud ภายใต้ iCloud ในการตั้งค่าได้เช่นกัน 

หากคุณอนุญาตให้แอพหรือเว็บไซต์ต่างๆ ของผู้ให้บริการรายอื่นใช้ข้อมูลหรือตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของคุณ คุณจะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด นโยบายความเป็นส่วนตัว และหลักปฏิบัติของแอพและเว็บไซต์เหล่านั้น คุณควรตรวจสอบข้อกำหนด นโยบายความเป็นส่วนตัว และหลักปฏิบัติของแอพและเว็บไซต์เหล่านั้นเพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่พวกเขาจะใช้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งและข้อมูลอื่นๆ ของคุณ ข้อมูลที่ Apple เก็บรวบรวมไว้จะได้รับการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple

วิธีการที่อุปกรณ์ใช้บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง

เมื่อคุณอนุญาต บริการหาตำแหน่งที่ตั้งจะอนุญาตให้แอพและเว็บไซต์ต่างๆ (รวมทั้งแผนที่ กล้อง สภาพอากาศ และแอพอื่นๆ) สามารถใช้ข้อมูลจากเครือข่ายเซลลูลาร์1, Wi-Fi2, เครือข่ายระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก (GPS)3 และ Bluetooth 4 เพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้งโดยประมาณของคุณ5

แอพที่สามารถแสดงตำแหน่งที่ตั้งของคุณบนหน้าจอได้ รวมถึงแอพแผนที่ จะบอกตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของคุณ (โดยประมาณ) โดยใช้เครื่องหมายสีน้ำเงิน ในแอพแผนที่ หากไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งของคุณได้อย่างชัดเจน คุณจะเห็นวงกลมสีน้ำเงินรอบๆ เครื่องหมาย ขนาดของวงกลมจะแสดงถึงความแม่นยำในการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งของคุณ ยิ่งวงกลมมีขนาดเล็ก ก็ยิ่งมีความแม่นยำสูง เมื่อบริการหาตำแหน่งที่ตั้งทำงานอยู่ ไอคอนลูกศรสีดำหรือสีขาวจะปรากฏในแถบสถานะ 

แผนที่ เส้นทาง และแอพที่ใช้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งจะขึ้นอยู่กับบริการรับส่งข้อมูล บริการรับส่งข้อมูลเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้และอาจไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ ทำให้แผนที่ เส้นทาง หรือข้อมูลที่ใช้ตำแหน่งที่ตั้งเป็นหลักอาจไม่สามารถใช้งานได้ ไม่แม่นยำ หรือไม่สมบูรณ์ โปรดเปรียบเทียบข้อมูลที่ระบุไว้ในอุปกรณ์กับสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณ และทำตามเครื่องหมายต่างๆ ที่ให้ไว้เพื่อแก้ปัญหาความคลาดเคลื่อน

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการหาตำแหน่งที่ตั้งและความเป็นส่วนตัว

ให้อนุญาตแอพในการใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณ

ครั้งแรกที่แอพพยายามเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของคุณ แอพจะต้องขออนุญาตคุณก่อน คุณจะเห็นข้อความแจ้งว่าแอพใดกำลังขออนุญาตใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณ รวมถึงบอกเหตุผลการขออนุญาตเข้าถึงของนักพัฒนาแอพ

บางแอพจะขอใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณในระหว่างที่ใช้งานแอพนั้นเท่านั้น แอพนั้นถูกพิจารณาว่า "ใช้งานอยู่" เมื่อคุณใช้งานอยู่ในเบื้องหน้าหรือเมื่อกำลังใช้ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในเบื้องหลัง ซึ่งในกรณีนี้จะมีรูปเม็ดยาสีน้ำเงินปรากฏขึ้นในแถบสถานะของคุณ

หากคุณให้สิทธิ์แอพแบบ "ในระหว่างใช้" แอพอาจขออนุญาตใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจากคุณเมื่ออยู่ในเบื้องหลัง

เมื่อคุณอนุญาตให้แอพใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณในเบื้องหลัง อุปกรณ์ของคุณจะเตือนคุณเป็นระยะๆ ว่าแอพกำลังใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณและจะแสดงตำแหน่งที่ตั้งเหล่านั้นบนแผนที่ และคุณจะถูกถามว่าคุณต้องการอนุญาตให้แอพใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณในเบื้องหลังต่อไปหรือไม่

ใน iOS 13 และ iPadOS 13 คุณสามารถแตะ "อนุญาตครั้งเดียว" เพื่อให้แอพเข้าถึงข้อมูลบริการหาตำแหน่งที่ตั้งสำหรับหนึ่งเซสชัน (ครั้งเดียว) เท่านั้น หากคุณปิดแล้วเปิดแอพขึ้นใหม่ และแอพพยายามเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของคุณอีกครั้ง แอพจะขออนุญาตจากคุณอีกครั้ง แอพจะไม่ใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจนกว่าจะขออนุญาตและคุณได้ให้อนุญาตแล้ว

คุณสามารถเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลาและสามารถอัพเดทการตั้งค่าของคุณได้ที่การตั้งค่า < ความเป็นส่วนตัว < บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง

เปิดหรือปิดบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง

คุณสามารถเปิดหรือปิดบริการหาตำแหน่งที่ตั้งได้ที่การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง คุณสามารถเปิดบริการหาตำแหน่งที่ตั้งได้ในระหว่างที่ใช้กระบวนการผู้ช่วยติดตั้ง หรือจะเปิดในภายหลังผ่านการตั้งค่าบริการหาตำแหน่งที่ตั้งก็ได้ คุณสามารถควบคุมได้ว่าจะให้แอพและบริการของระบบใดมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง เมื่อบริการตำแหน่งที่ตั้งปิดอยู่ แอพจะไม่สามารถใช้ตำแหน่งที่ตั้งในเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังได้ ซึ่งจะเป็นการจำกัดประสิทธิภาพการทำงานของแอพของ Apple และแอพของผู้ให้บริการรายอื่นหลายๆ แอพ

หากคุณต้องการจะรีเซ็ตการตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมดให้เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ให้ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > รีเซ็ต แล้วแตะรีเซ็ตตำแหน่งที่ตั้งและความเป็นส่วนตัว เมื่อรีเซ็ตการตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งและความเป็นส่วนตัวแล้ว แอพจะหยุดใช้ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจนกว่าคุณจะอนุญาต

การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง

การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง > บริการของระบบ

ปรับปรุงความแม่นยำของ GPS

ความแม่นยำของ GPS จะขึ้นอยู่กับจำนวนดาวเทียม GPS ที่สามารถมองเห็นได้ การค้นหาตำแหน่งดาวเทียมที่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมดอาจใช้เวลาหลายนาที โดยความแม่นยำจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป หากต้องการปรับปรุงความแม่นยำของ GPS ให้ทำดังนี้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ตั้งค่าวันที่ เวลา และโซนเวลาบนอุปกรณ์ถูกต้องแล้ว ในการตั้งค่า > ทั่วไป > วันที่และเวลา หากเป็นไปได้ ให้ใช้ตั้งค่าโดยอัตโนมัติ
  • รักษามุมมองในแนวต่างๆ ให้ชัดเจนอยู่เสมอ กำแพง หลังคารถ อาคารสูง ภูเขา และสิ่งกีดขวางอื่นๆ สามารถปิดกั้นเส้นทางการมองเห็นของดาวเทียม GPS ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ อุปกรณ์ของคุณจะใช้ Wi-Fi หรือเครือข่ายเซลลูลาร์เพื่อกำหนดตำแหน่งที่ตั้งของคุณ จนกว่าจะสามารถมองเห็นดาวเทียม GPS ได้อีกครั้ง

บริการหาตำแหน่งที่ตั้งโดยใช้ Wi-Fi ที่ใช้ข้อมูลสาธารณะและระบบเซลลูลาร์

หากบริการหาตำแหน่งที่ตั้งเปิดอยู่ อุปกรณ์จะส่งตำแหน่งที่ตั้งพร้อมกับจุดพิกัดทางภูมิศาสตร์ของฮอตสปอต Wi-Fi และเสาส่งสัญญาณเซลลูลาร์ที่อยู่ใกล้เคียงไปยัง Apple เป็นระยะ เพื่อเพิ่มข้อมูลตำแหน่งฮอตสปอต Wi-Fi และเสาส่งสัญญาณเซลลูลาร์ลงในฐานข้อมูลที่ได้ข้อมูลจากสาธารณะของ Apple หากคุณกำลังเดินทาง (เช่น อยู่ในรถ) และเปิดบริการหาตำแหน่งที่ตั้งไว้ อุปกรณ์ iOS ที่เปิดใช้งาน GPS จะส่งข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง GPS ความเร็วในการเดินทาง และความกดอากาศไปยัง Apple เป็นระยะ เพื่อใช้สร้างฐานข้อมูลการจราจรบนท้องถนนที่ได้ข้อมูลจากสาธารณะและข้อมูลความกดอากาศในร่มของ Apple ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งที่ได้ข้อมูลจากสาธารณะซึ่งรวบรวมโดย Apple นั้นจะถูกจัดเก็บด้วยการเข้ารหัสและไม่นำไปใช้ในการระบุตัวตนของคุณเป็นการส่วนตัว

เกี่ยวกับบลูทูธ ข้อมูล และบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง

ใน iOS 13 และ iPadOS 13 แอพต้องขออนุญาตก่อนจึงจะใช้บลูทูธได้ ยกเว้นเมื่อเล่นไฟล์เสียงไปยังอุปกรณ์บลูทูธ ซึ่งไม่ต้องขออนุญาต คุณสามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิ์อนุญาตบลูทูธของอุปกรณ์ได้ที่การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว >บลูทูธ

เกี่ยวกับข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของคุณระหว่างการโทรฉุกเฉิน

เพื่อความปลอดภัย อาจมีการใช้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง iPhone เมื่อคุณโทรฉุกเฉินเพื่อให้ความช่วยเหลือไม่ว่าคุณจะเปิดใช้งานบริการหาที่ตั้งหรือไม่ก็ตาม

ดูเพิ่มเติม

  • ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการหาตำแหน่งเพื่อติดตามตำแหน่งที่ตั้งของคุณในแผนที่และแอพอื่นๆ ได้จากคู่มือผู้ใช้ของผลิตภัณฑ์ของคุณ
  • ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Apple กับความเป็นส่วนตัว

1. iPad (รุ่น Wi-Fi + Cellular): ตรวจสอบว่าข้อมูลเซลลูลาร์เปิดอยู่ในการตั้งค่า > เซลลูลาร์ > ข้อมูลเซลลูลาร์ แม้ว่าคุณจะไม่ได้สมัครใช้แผนค่าบริการรับส่งข้อมูลเซลลูลาร์ก็ตาม วิธีนี้จะทำให้อุปกรณ์สามารถปรับเทียบเครื่องเองได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นโดยใช้ข้อมูลเวลาและตำแหน่งที่ตั้งเครือข่าย ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องปิดใช้งานรหัส PIN ของซิม 
2. อุปกรณ์ iOS และ iPadOS ที่จำหน่ายในจีนแผ่นดินใหญ่และเยอรมนีอาจใช้คำว่า Wireless LAN (WLAN) แทนคำว่า Wi-Fi
3. GPS พร้อมใช้งานบน iPhone และ iPad รุ่น Wi-Fi + Cellular
4. บลูทูธจะตอบโต้กับ iBeacons เพื่อให้วิธีการในการสร้างและติดตามพื้นที่ที่แสดงข้อมูลที่ระบุตัวตนบางอย่าง
5. อุปกรณ์ iOS และ iPadOS ที่ไม่มีการเชื่อมต่อเซลลูลาร์จะใช้เฉพาะ Wi-Fi สำหรับบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง (หากมีเครือข่าย Wi-Fi พร้อมใช้งาน) แอพของผู้ให้บริการรายอื่นบางตัวต้องใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อการติดตามในระดับภูมิภาค หากล็อคอุปกรณ์ไว้ด้วยรหัสผ่าน คุณสมบัตินี้อาจถูกจำกัดหรือทำงานได้ไม่แม่นยำ

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: 3 กุมภาพันธ์ 2565

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง