ไฟฟ้าที่เราใช้กันในบ้านถือได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ต้องไม่ลืมที่จะระมัดระวังในการเรื่องของใช้งาน ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย เรามาดูวิธีการป้องกันอันตรายจาก กระแสไฟฟ้ารั่ว กันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
4 จุดสังเกตสัญญาณเตือนว่ามีไฟฟ้ารั่ว
1. ค่าไฟสูงขึ้นผิดปกติหากท่านพบว่าบิลค่าไฟฟ้าสูงขึ้นแบบผิดปกติมาก เป็นความผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากการเพิ่มค่า FT ของการไฟฟ้า ให้ท่านลองตรวจเช็คด้วยการสังเกตการหมุนของมิเตอร์ว่ามี ความเร็วสม่ำเสมอหรือไม่ หรือไม่ก็ทำการทดสอบด้วยการ จดเลขมิเตอร์ ไว้ก่อน จากนั่นไปปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้านโดยไม่ต้องดึงคัทเอาท์ลง แล้วให้สังเกตว่าแผ่นจานในมิเตอร์หมุนหรือไม่ ถ้าหากว่าแผ่นจานในมิเตอร์ยังหมุนอยู่ให้ทิ้งไวซักพักแล้วกลับมาดู ถ้ายังหมุนอยู่แสดงว่าบ้านของคุณมีไฟรั่วเกิดขึ้น
เครื่องตัดไฟรั่ว เป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านจำเป็นจะต้องมี โดยอุปกรณ์ตัดไฟจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ
- RCCB ใช้ตัดไฟรั่วอย่างเดียวเฉพาะจุด
- RCBO ใช้ตัดไฟทั้งไฟรั่ว ไฟเกิน ไฟช็อต และไฟฟ้าลัดวงจร แบบครอบครุมทั้งบ้าน
ดังนั้นแล้วหากเบรกเกอร์ตัดไฟบ่อยให้ลองตรวจสอบที่ตัวเครื่องก่อนว่าทำงานปกติหรือไม่
โดยปกติแล้วบ้านจะมีการติดตั้งสายดินไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโอกาศเกิดไฟรั่วได้ง่าย เช่น เครื่องทำน้ำร้อน ตู้เย็น เป็นต้น ตัวสายดินทำหน้าที่นำพาไฟฟ้าที่รั่วไฟลลงดิน แทนที่จะไหลผ่านร่างกายของเรา ในกรณีที่ติดตั้งสายดินและเบรกเกอร์แล้ว แต่เมื่อ มือ ไปสัมผัสโดน เครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วรู้สึกว่าถูกไฟดูดบ่อยๆ สาเหตุมาจาก
- ไฟฟ้ารั่วในวงจรไฟฟ้า
- หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
ให้ทดสอบด้วย ไขควงวัดไฟฟ้า (Test Lamp) แตะที่ของใช้หรือบริเวณที่สงสัย หากไขควงมีไฟสว่างขึ้นแสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่วไหลจาดจุดนั้น
4. อุณหภูมิในบ้านสูงขึ้นแบบผิดปกติยกตัวอย่างข่าวดัง พบบ้านเกิดเหตุการณ์พื้นบ้านร้อนผิดเปกติ อุณหภูมิสูงมากกว่า 60 องศา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทำการตรวจสอบด้วยวิธีตัดวงจรไฟฟ้าภายในห้องพบว่า อุณหภูมิภายในบ้านลดลงเป็นปกติ จึงได้ทำการตวจสอบสายไฟฟ้าบริเวณฝ้าที่บาร์เพดานบ้าน พบว่า เกิดไฟฟ้ารั่ว 1 แห้ง เป็นสาเหตุให้ ไฟฟ้าไหลลงดินไปตามคานปูนเสริมเหล็กใต้พื้นดินทำให้บ้านร้อน ในกรณีดังกราวหากอุณหภูมิภายในบ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ อาจจะมีที่มาไฟฟ้ารั่วได้ ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
บ้านที่มีอายุการใช้งานมานาน บวกกับข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีเป็นจำนวนมากแบบนี้ ควรได้รับการตรวจเช็คสภาพเป็นระยะ เพื่อเป้องกัน ประเมินปัญหา และแก้ไขระบบสายไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย วิธีแก้ปัญหา ไฟรั่ว ตวจเช็คจุดสำคัญภายในบ้าน 6 จุด
- ตรวจเช็คมิเตอร์ไฟฟ้า
- ตรวจเช็คการเชื่อมต่อสายไฟ
- ตรวจเช็คปลั๊กทุกจุด
- ตรวจเช็คตู้ไฟประจำบ้าน
- ตรวจเช็คสายดิน
- ตรวจเช็คอุปกรณ์ควบคุม เบรคเกอร์
ดังนั้นแล้วสรุปได้ว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้าน ถือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลา ถ้าหากว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐานในการผลิตที่ดีพอ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการไฟฟ้าช็อต ไฟดูด และปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรตามมา หากท่านไดที่อ่านมาจนจบและรู้วิธีการตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีอาการไฟรั่วได้แล้ว ถ้าหากท่านเจออาการรั่วไหลของไฟฟ้า ก็ให้รีบนำอุปกรณ์เหล่านั่นไปซ่อมให้ใช้งานได้ปกติ