อาหารเด็กก่อนวัยเรียน
ช่วงเปิดเทอมใหม่ของนักเรียนตัวเล็กๆ คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงกังวลใจเกี่ยวกับลูกน้อย โดยเฉพาะน้องตัวเล็กๆ ที่เริ่มไปโรงเรียนครั้งแรก เช่น ในชั้นเตรียมอนุบาลความกังวลที่พบนอกจากจะเป็นเรื่องการร้องงอแงของลูกที่ไม่เคยอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าแล้ว ยังมีปัญหาในเรื่องอาหารการกินของลูกอีกด้วย ยังไม่สายถ้าจะเริ่มความพร้อมในเรื่องนี้กัน
เมื่อเด็กอายุเพิ่มขึ้น อาหารที่คุณม่จัดเตรียมให้จึงไม่จำเป็นต้องบดให้ละเอียด เพียงเปลี่ยนลักษณะให้เป็นอาหารที่ค่อนข้างหยาบแต่ยังนุ่ม เปื่อย ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม เกี๊ยว มะกะโรนี่น้ำ เพื่อให้ลูกรู้จักอาหารหลายชนิดมากขึ้น หรือดัดแปลงอาหารของผู้ใหญ่ให้ลูกกิน เช่น ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง แกงจืดเต้าหู้แตงกวาสอดไส้ ผัดฟักทองใส่ไข่ เมื่อเด็กอายุ 3-4 ขวบอาจจะให้ลูกกินข้าวพร้อมพ่อแม่ในบางมื้อได้ เพื่อเป็นการฝึกให้เรียนรู้มารยาทในาการกินอาหาร เด็กส่วนใหญ่ชอบอาหารท่เป็นเส้นๆ และนำมาทำเป็นอาหารง่ายๆ เช่น ผัดมะกกะโรนี บะหมี่น้ำ ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ ล้วนเป็นเมนูที่ฝึกให้เด็กกินได้
เมื่อโตขึ้นเข้าสู่วัยเรียน การกินอาหารจะเปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งเกิดจากอิทธิพลของการโฆษณา จึงพบว่าอาหารที่วัยรุ่นนิยมจะเป็นอาหารจากซีกโลกตะวันตก ซึ่งมีร้านอาหารบริการอยู่ทั่วทุกมุมเมือง อาหารไทยๆ จึงแทบจะไม่รู้จัก เมื่อทำงานพฤติกรรมการบริโภคอาหารจะเปลี่ยนไปอีก เพราะส่วนมากทำงานแข่งกับเวลา ประกอบกับปัญหาการจราจรที่ติดขัดในเมืองใหญ่ๆ ทำให้เสียเวลาอยู่บนถนนค่อนข้างมาก คนส่วนใหญ่จึงละเลยอาหารเช้าซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่จะช่วยให้มีพละกำลังทำงานได้ตลอดทั้งวัน แล้วไปชดเชยปริมาณในมื้อเย็นซึ่งเป็ฯมื้อที่ร่างกายต้องการพลังงานน้อย จึงเกิดการสะสมพลังงานเกินไว้และทำให้อ้วนได้ระยะยาว ถ้าลองเลือกตำรับอาหารที่มีการเตรียมง่ายๆ ใช้เวลาไม่มากนักหรือสามารถทำเก็บไว้ได้นาน ก้จะช่วยกันทำอาหารในวันหยุดก็น่าจะดี เพราะเท่ากับแม่บ้านได้มีโอกาสสอนลูกทำอาหาร ทำให้เกิดความสามัคคีความรักใคร่ปรองดอง และความรู้สึกอบอุ่นในครอบครัว
เมื่ออาหารเสริมได้เปลี่ยนเป็นอาหารหลักแทนนมทั้ง 3 มื้อแล้ว นมก็ยังมีความสำคัญและควรให้เป็นอาหารเสริมแทน เก็กควรได้เรีนรู้การกินอาหารต่างจากที่เคยได้กินให้มาขึ้นอาหารควรมีรสอ่อน มีลักษณะอ่อน นุ่ม ไม่ เหนียวหรือย่อยยาก ซึ่งอาจะจะดัดแปลงจากอาหารของผู้ใหญ่ เช่น แกงจืด ผัดผักต่างๆ เป็นต้น จัดอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวันและไม่ควรให้เด็กกินอาหารแปลกหลายๆ ชนิด ในมื้อเดียวกัน
เพื่อความสะดวกในการจัดอาหารให้ลูกน้อยอานนำรายการอาหารของครอบครัวมาเลือก หรือจัดรายการอาหารของลูกรวมไว้ในรายการอาหารของผู้ใหญ่ นอกจากอาหารหลัก 3 มื้อแล้ว ควรมีนมเป็นอาหารว่างด้วยเพราะแต่ละมื้ออาจจะกินอาหารว่างด้วยเพราะแต่ละมื้ออาจจะกินอาหารได้ในปริมาณไม่มากนัก อาหารอาจจะกำหนดหลากหลายดังตัวอย่าง
จันทร์ | อังคาร | พุธ | พฤหัสฯ | ศุกร์ | เสาร์ | อาทิตย์ | |
เช้า | ข้าวต้มหมู นม | ขนมปังชุบไข่ทอด | มะกะโรนีไก่น้ำหล้วยน้ำว้า | แซนวิชทูน่า นม | ข้าวต้มไก่ ส้ม | คอนแฟล็กซ์-นม กล้วยหอม | แซนด์วิชไข่ ขนมครก |
10.00 น. | ถั่วฝักยาวต้ม มะละกอ | กล้วยหอม เนยแข็ง | ชมพู่ นม | แครอตต้ม ส้ม | คุกกี้ นม | ฟักทองนิ่ง นม | มันเผา นม |
เที่ยง | เกี๊ยวหมู องุ่น | ข้าวผัดไส้กรอกซุปผัก กล้วยไข่ | ก๋วยเตี๋ยวน้ำหมู แตงโม | เกี้ยมอี๋น้ำ-หมูสับ ส้ม | ผัดมะกะโรนี องุ่น | ข้าวผัดหมู-ไข่ ชมพู่ | เส้นใหญ่ราดหน้า แตงโม |
14.00 น. | ขนมกล้วย นม | เจลลีผลไม้ | ข้าวต้มมัด นม | ขนมจีบ นม | ซาลาเปา นม | กล้วยปิ้ง นม | ขนมถ้วยฟู นม |
เย็น | ข้าวสวยนิ่มๆ ไข่ตุ๋น-ตำลึง-กุ้ง | ข้าวสวยนิ่มๆ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ | ข้าวสวย ปลานึ่ง | ข้าวสวย ฟักทองผัดไข่ | ข้าวสวย ไข่เจียวมะเขือเทศ | ข้าวสวย ปลาทอด ซุปผัก | ข้าวสวย ต้มจืดฟัก-ไก่ |
รายการอาหารนี้เป็นเพียงแนวทางให้พ่อแม่ได้เข้าใจอาหารของลูกซึ่งไม่ควรซ้ำกันมากเพราะจะทำให้เบื่อได้ง่าย ควรดัดแปลงได้ตามความเหมาะสมและความสะดวกในการจัดเตรียม เช่น ข้าวเหนียว หมูย่าง ไก่ย่าง เป็ฯต้น ถ้าเด็กปฏิเสธไม่กินอาหารชนิดใดชนิดก็ไม่ควรคะยั้นคะยอ เพราะจะทำให้เกิดความฝังใจและต่อต้านไม่ยอดกินอาหารชนิดนั้นต่อไป ควรเว้นช่วงเวลาให้ห่างพอสมควรหรือให้เด็กมีความหร้อมมากขึ้นแล้วลองใหม่ เด็กอาจจะยอมรับได้ดี เด็กไม่ชอบอาหารรสจัดหรือมีกลิ่นฉุน เช่น ต้นหอม ขึ้นฉ่าย จึงควรหลีกเลี่ยง
พ่อแม่หลายคนอาจหนักใจที่ลูกไม่กินผักในรายการอาหารจึงได้กำหนดผักบางชนิดเป็ฯของว่าง โดยมิได้มุ่งให้เด็กกินในปริมาณมากเพราะเด็กอาจจะยังไม่คุ้น เพียงแต่เป็นการเตือน ให้นำผักมาให้เด็กหัดกินบ้างเท่าที่จะยอมรับได้ลองนำมาชุบแป้งแล้วทอดให้กรอบ เป็นอาหารกินเล่น เช่น ใบตำลึงหรือผักบุ้งแป้งทอด และในอาหารแต่ละชนิดควรเติมผักโดยหั่นเป็นชิ้นเล็กเพื่อให้เด็กเริ่มคุ้นและกินได้มากขึ้น พ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยนี้จึงควรให้ความสนใจ ดูแลเรื่องอาหารการกินของลูกให้ถูกต้อง เหมาะสมให้ได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรง มีการเจริญเติบโตตามวัย มีพัฒนาการทางสมองที่สมบูรณ์และสามารถเรียรู้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงการเป็นประชาชนที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต
คุณคงจะไม่ละโอกาสอันดีนี้สำหรับลูของคุณใช่ไหม
แหล่งข้อมูล Gourmet & Cuisine
หลักการจัดอาการให้เด็กก่อนวัยเรียน หรือวัย 3-5 ปี ให้ได้รับสารอาหารและคุณประโยชน์ครบครัน พร้อมตัวอย่างอาหารที่เหมาะสมใน 1 วัน
เผยแพร่ครั้งแรก 6 เม.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 1 ก.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
เด็กก่อนวัยเรียน หรือ วัยอนุบาล (Preschool) เป็นช่วงวัยที่เด็กเริ่มจากครอบครัวไปสู่โรงเรียน มีพัฒนาการหลายด้านทั้งความคิด ภาษา การสื่อสาร โดยเฉพาะการเจริญเติบโตด้านร่างกาย
น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นปีละ 2-2.5 กิโลกรัม ส่วนสูงเพิ่มขึ้นปีละ 6-8 เซนติเมตร เด็กวัยนี้จึงดูผอมและสูงขึ้น ดังนั้นจึงควรได้รับสารอาหารในปริมาณที่เพียงพอทั้งชนิดและปริมาณ หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจะส่งผลให้เจริญเติบโตช้า ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากได้รับพลังงานและสารอาหารมากเกินไป จะทำให้มีน้ำหนักเกิน
ผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 (สุขภาพเด็ก) พบว่าเด็กไทยอายุ 1 - 5 ปี ยังคงเผชิญปัญหาภาวะทุพโภชนาการปานกลาง ทั้งภาวะเตี้ยและน้ำหนักน้อย ดังนั้นอาหารเป็นปัจจัยสำคัญต่อโครงสร้างร่างกาย สติปัญญา เพื่อให้เด็กวัยเรียนมีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย มีภาวะโภชนาการที่ดีจึงจำเป็นต้องได้รับพลังงานและสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 0 บาท ลดสูงสุด 25650 บาทจองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
กด
ความต้องการพลังงานและสารอาหารของเด็กก่อนวัยเรียน
- พลังงาน ควรได้พลังงานวันละ 1,300 กิโลแคลอรีต่อวัน ซึ่งได้จากข้าว แป้ง ธัญพืชต่างๆ น้ำตาล และไขมัน
- โปรตีน ควรได้รับวันละ 18-22 กรัม หรือประมาณ 1.2-1.4 กรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว แหล่งของอาหารโปรตีน ได้แก่ ไข่ นม เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น ปลา หมู ไก่ รวมถึงถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ นอกจากนี้ควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง ดื่มนมรสจืดทุกวัน และรับประทานอาหารที่เสริมธาตุเหล็ก เช่น ตับ เลือด โดยจัดให้รับประทานสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันโลหิตจาง
- ไขมัน ควรได้รับวันละไม่เกินร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด หรือเทียบเท่าน้ำมันพืช 6-8 ช้อนชา/วัน เนื่องจากการได้รับไขมันมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดโรคอ้วนได้ ควรหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวต่างๆ เช่น ไขมันจากสัตว์ น้ำมันหมู กะทิ มาการีน เนย เป็นต้น
อาหารสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน (1,300 กิโลแคลอรี)
ข้าว-แป้ง5 ทัพพี
ผัก2-3 ทัพพี
ผลไม้5 ส่วน
เนื้อสัตว์4 ช้อนกินข้าว
นม1 กล่อง (240 มิลลิลิตร)
น้ำมัน6 ช้อนชา
ตัวอย่างรายการอาหารใน 1 วันของเด็กก่อนวัยเรียน (1,300 กิโลแคลอรี)
มื้อเช้า
ข้าวต้มไก่
- ข้าวต้ม 1 ทัพพี
- ไก่ฉีก 1 ช้อนกินข้าว
- กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา
- ต้นหอม ผักชี
อาหารว่างเช้า
กล้วยน้ำว้า 1 ผล
นมสด 1 กล่อง (240 มิลลิลิตร)
มื้อกลางวัน
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส
- ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 9 ช้อนกินข้าว
- ลูกชิ้น 3 ลูก
- กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา
- ถั่วงอก ต้นหอม ผักชี
แอปเปิล 1 ผล
อาหารว่างบ่าย
ขนมปัง 1 แผ่น
น้ำส้มคั้น 1 แก้ว (ส้ม 2 ผล)
มื้อเย็น
ข้าวสวย 2 ทัพพี
แกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้หมูสับ
- เต้าหู้ไข่ ¼ หลอด
- หมูสับ 1 ช้อนกินข้าว
- ผักกาดขาว
- กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา
ฝรั่ง ½ ผลกลาง
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ //honestdocs.typeform.com/to/kkohc7
ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)