ใบความรู้ที่ 6 :
6.1 การเขียน “วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย”
. –> วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย
. หมายถึง แนวทางหรือทิศทางในการค้นหาคำตอบ เป็นเรื่องที่ต้องการทำ
. –
เป็นการกำหนดว่าต้องการศึกษาในประเด็นใดบ้างในเรื่องที่จะทำวิจัยหรือศึกษาค้นคว้าหรือจัดทำโครงการใดๆ โดยบ่งบอกสิ่งที่จะทำ ทั้งขอบเขต และคำตอบที่คาดว่าจะได้รับหรือผลที่ได้รับ
. – เป็นการนำเอาความคิดของประเด็นปัญหามาขยายรายละเอียด โดยใช้ภาษาที่ชัดเจน เข้าใจง่าย เขียนเป็นข้อหรือเขียนรวมเป็นข้อเดียวกัน
. – อย่านำประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับมาเขียน เพราะประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับเป็นผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากสิ้นสุดการวิจัยหรือการศึกษาค้นคว้า
. การเขียนวัตถุประสงค์ควรจะต้องคำนึงถึงลักษณะที่ดี 5 ประการ หรือจะต้องกำหนดขึ้นด้วยความฉลาด (SMART) ซึ่งได้อธิบายความหมายไว้ดังนี้
. S = Sensible (เป็นไปได้) หมายถึง วัตถุประสงค์จะต้องมีความเป็นไปได้ ในการดำเนินงานโครงการ
. M = Measurable (วัดได้) หมายถึง วัตถุประสงค์ที่ดีจะต้องสามารถวัดและประเมินผลได้
. A = Attainable (ระบุสิ่งที่ต้องการ) หมายถึง วัตถุประสงค์ที่ดีต้องระบุสิ่งที่ต้องการดำเนินงาน อย่างชัดเจนและเฉพาะเจาะจงมากที่สุด
. R = Reasonable (เป็นเหตุเป็นผล) หมายถึง วัตถุประสงค์ที่ดีต้องมีความเป็นเหตุเป็นผลในการปฏิบัติ
. T = Time (เวลา) หมายถึง วัตถุประสงค์ที่ดีจะต้องมีขอบเขตของเวลาที่แน่นอนในการปฏิบัติงาน
. –>แนวการเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัย
. 1. วัตถุประสงค์เขียนในรูปเป้าหมายไม่ใช่วิธีการ
. 2. วัตถุประสงค์สอดคล้องกับชื่อเรื่อง
.
3. วัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่กำกวม
. 4. ให้ใช้คำว่า “เพื่อ”
. –> คำที่ใช้สำหรับการเขียนวัตถุประสงค์
. เช่น เพื่อศึกษา… , เพื่อสำรวจ… , เพื่อค้นหา… , เพื่อบรรยายถึง… , เพื่ออธิบายถึง… , เพื่อพัฒนา…. , เพื่อเปรียบเทียบ…กับ… , เพื่อพิสูจน์… , เพื่อแสดงให้เห็นถึง… , เพื่อศึกษาความสัมพันธ์… , เพื่อประเมิน… , เพื่อสังเคราะห์… , เพื่อเปรียบเทียบ….กับ…….. , เพื่อศึกษาอิทธิพลของ……ที่มีต่อ… , เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มี / ส่งผล/อิทธิพล/ผลกระทบ… , เพื่อกล่าวถึง…… , เพื่อพรรณาถึง… , เพื่อเลือกสรร… , เพื่อระบุ…. , เพื่อจำแนกแยกแยะ…. , เพื่อลำดับ… หรือ เพื่อแจกแจง… , เพื่อประเมิน… , เพื่อสร้างเสริม… , เพื่อกำหนดรูปแบบ… , เพื่อแก้ปัญหา… ฯลฯ
. –> คำที่ควรหลีกเลี่ยง
. เพื่อเข้าใจถึง, เพื่อทราบถึง, เพื่อคุ้นเคยกับ, เพื่อซาบซึ้งใน, เพื่อรู้ซึ้งถึง, เพื่อสนใจใน, เพื่อเคยชินกับ, เพื่อยอมรับใน, เพื่อเชื่อถือใน, เพื่อสำนึกใน
. –> ตัวอย่างการเขียนวัตถุประสงค์ เช่น
.
1. เพื่อศึกษาสภาพสังคมของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่มีอายุระหว่าง 18 -24 ปี
. 2. เพื่อศึกษาถึงปัญหาและความต้องการของผู้ติดเชื้อเอดส์ ครอบครัวและชุมชน
. 3. เพื่อศึกษาคุณภาพของแบบทดสอบที่ใช้ในการคัดเลือกโดยพิจารณาความเที่ยงและความตรงของแบบทดสอบ
. 4. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress
เรื่อง………
. 5. เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ …..(เรื่องที่ทำ)…
. 6. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อกจาก WordPress ได้ด้วยตนเองและนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
. 7. เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป
.
8. เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่เรียน และรู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม
. 9. เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษา เสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
. 10. เพื่อให้นักเรียนรู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
. 11. เพื่อฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
. 12.
เพื่อทำให้โรงเรียนมีทัศนียภาพที่สวยงามยิ่งขึ้น
. 13. เพื่อปรับปรุง อาคาร สถานที่ของ………………….ให้ดียิ่งขึ้น
. 14. เพื่อตกแต่งบริเวณสถานที่ภายใน…………………ให้สะอาด ร่มรื่น สวยงาม
. 15. เพื่อให้มีสถานที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ
. 16. เพื่อสร้างจิตสำนึกในด้านจิตสาธารณะหรือจิตอาสาให้แก่นักเรียนและฝึกกิจกรรมจิตสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
. 17. เพื่อให้สามารถอธิบายถึงวิธีการ………………..ได้
. 18. เพื่อให้สามารถเลือกสรรวิธีการอันเหมาะสมในการ…………..
. 19. เพื่อให้สามารถระบุขั้นตอนในการเตรียม……………………ได้
. 20. เพื่อให้สามารถจำแนกแยกแยะข้อดีและข้อเสียของการ…………………………….
การเขียนเป้าหมาย
. สำหรับการเขียนเป้าหมาย ต้องเขียนให้ชัดเจนเพื่อแสดงให้เห็นผลงานหรือผลลัพธ์ที่ระบุคุณภาพ หรือปริมาณงานที่คาดว่าจะทำให้บังเกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งการกำหนดผลงานอาจกำหนดเป็น ร้อยละ
หรือจำนวนหน่วยที่แสดงปริมาณหรือคุณภาพต่างๆ เช่น
. – โครงการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
. เป้าหมาย คือ ได้ผลผลิตข้าวโพดฝักอ่อนคุณภาพชั้นที่ 1 จำนวน 10 ตัน หรือ
. – โครงการอบรมการขยายพันธุ์พืช
.
เป้าหมาย คือ เมื่อสิ้นสุดโครงการ ผู้ที่เข้ารับการอบรมร้อยละ 80 สามารถขยายพันธุ์พืชได้อย่างถูกวิธี เป็นต้น
6.2 นิยามศัพท์เฉพาะ
. นิยามศัพท์เฉพาะ
. นิยาม คือ การกำหนดหรือการจำกัดความหมายที่แน่นอน ในการศึกษาค้นคว้าจะมีศัพท์เฉพาะ ซึ่งจำเป็นต้องให้นิยาม
เพราะจะมีผู้อ่านบางคนไม่ทราบความหมายของศัพท์นั้นมาก่อน หรือทราบความหมายของศัพท์นั้น แต่อาจจะไม่ตรงกับความหมายที่ผู้ศึกษาค้นคว้ากำหนดไว้ จึงต้องมีการนิยามศัพท์เฉพาะ ซึ่งมี 2 ลักษณะดังนี้
. 1. การนิยามแบบทั่วไป เป็นการนิยามตามความหมายของคำศัพท์ปกติ อาจยกนิยามตามที่ระบุไว้ในพจนานุกรม สารานุกรม ตามตำราที่ผู้อื่นนิยามไว้ หรือตามที่ผู้ศึกษาค้นคว้านิยาม ด้วยตนเองในกรณีที่ไม่มีผู้อื่นนิยามมาก่อน
ทั้งนี้ผู้ศึกษาค้นคว้าต้องมีความรอบรู้ในเรื่องนั้นอย่างลึกซึ้ง ใช้ภาษาที่ครอบคลุม แจ่มชัด และรัดกุม
. ดังตัวอย่าง
. ความคิด หมายถึง สิ่งที่นึกรู้ขึ้นในใจ สติปัญญาที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างถูกต้อง และสมควร (ราชบัณฑิตยสถาน. 2546 : 231)
. สงกรานต์ หมายถึง
วันที่พระอาทิตย์เคลื่อนจากราศีหนึ่ง ไปสู่อีกราศีหนึ่ง เรียกว่า วันสงกรานต์ แต่วันที่พระอาทิตย์เคลื่อนจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษ เรียกว่า วันมหาสงกรานต์ ในสมัยโบราณถือเอาวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่
. 2. การนิยามปฏิบัติการ ให้ความหมายของศัพท์นั้น และบอกให้ทราบว่าผู้ศึกษาค้นคว้า จะวัด ตรวจสอบ หรือสังเกตได้อย่างไร
. ดังตัวอย่าง
.
องค์ความรู้ คือ knowledge ในภาษาอังกฤษ หมายถึง ความรู้ หรือข้อมูล หรือสาระวิชาต่าง ๆ ที่ผู้เรียนมีอยู่ วัดโดยใช้แบบทดสอบที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้น (จรัญ จันทลักขณา และกษิดิศ อื้อเชี่ยวชาญกิจ. 2551 : 2)
. อำเภอ หมายถึง พื้นที่ปกครองตามกาหนดของกระทรวงมหาดไทย ในจังหวัดนครราชสีมา จานวน 32 อำเภอ (อิสรา ตุงตระกูล. 2553 : 14)
6.3 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
. ประชากร คือ กลุ่มคน สัตว์ สิ่งของ หรือลักษณะทางจิตวิทยาที่ทำการศึกษา
. กลุ่มตัวอย่าง คือ กลุ่มคน สัตว์ สิ่งของ หรือลักษณะทางจิตวิทยาที่เป็นตัวแทน ของประชากรที่ทำการศึกษา
. ผู้ศึกษาค้นคว้าบางครั้งไม่สามารถทำการศึกษากับประชากรได้ เพราะมีจำนวนมาก หรือ มีสภาพยากแก่การเก็บรวบรวมข้อมูล จึงจำเป็นต้องศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง แล้วใช้สถิติอ้างอิงถึงประชากร มีประโยชน์ คือ ประหยัด ควบคุมความถูกต้องได้ง่าย และใช้กับข้อมูลบางอย่างที่ไม่สามารถศึกษาจากประชากรได้ เช่น เลือดทุกหยดในตัวคนไข้ นักเรียน ม. 4 ทุกคนในประเทศไทย เป็นต้น
. การเลือกกลุ่มตัวอย่าง ผู้ศึกษาต้องกำหนดประชากรให้ชัดว่า คืออะไร มีขอบเขต และคุณลักษณะอย่างไร กำหนดข้อมูลที่จะรวบรวมตามจุดมุ่งหมายที่ศึกษา กำหนดเครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล กำหนดจำนวน และวิธีเลือกกลุ่มตัวอย่าง
. การกำหนดจำนวนสมาชิกกลุ่มตัวอย่าง
. 1. ประชากรมีลักษณะคล้ายกัน เลือกกลุ่มตัวอย่างน้อย ถ้าประชากรมีลักษณะต่างกัน เลือกกลุ่มตัวอย่างมาก
. 2. การทดลอง การสัมภาษณ์ ใช้กลุ่มตัวอย่างน้อยกว่าการส่งแบบสอบถามให้ตอบ
. วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
. 1. ไม่อาศัยความน่าจะเป็น โดยไม่ใช้วิธีการสุ่ม ประชากรมีโอกาสถูกเลือก ไม่เท่ากัน ผู้ศึกษาเลือกแบบบังเอิญ แบบเจาะจงตามความสะดวกของผู้ศึกษา
.
2. อาศัยความน่าจะเป็น โดยการสุ่ม ประชากรทุกส่วนมีโอกาสถูกเลือกเท่ากัน เช่น การจับฉลาก เป็นต้น
***************************************
ใบงานที่ 6 :
- งานกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มทำการ เขียน “วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย,นิยามศัพท์เฉพาะ,ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง” ตามหลักการเขียนในใบความรู้ที่ 6 เรื่อง หลักการเขียน “วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย,นิยามศัพท์เฉพาะ,ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง”
- ให้แต่ละกลุ่ม เขียนด้วยลายมือ ลงในใบงานที่ครูแจกให้ และส่งในท้ายชั่วโมงเรียนวิชานี้
ตัวอย่างแบบฟอร์ม ใบงานที่ 6 (งานกลุ่ม)
ใบงานที่ 6 การเขียน “วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย,นิยามศัพท์เฉพาะ,ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง”
กลุ่มที่ ……… ชั้น ม.6/ ……….
ชื่อโครงการ …………………………………………………
———————————–
วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย (เขียนเป็นข้อๆ)
. 1.
………………………………………………………………..
. 2. ……………………………………………………………….
. 3. ……………………………………………………………….
. ฯลฯ
นิยามศัพท์เฉพาะ
. ……………………………………………………………………………………………………………….
. ……………………………………………………………………………………………………………….
. ……………………………………………………………………………………………………………….
. ฯลฯ
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง (ถ้ามี)
. ประชากร ……………………………………………………………………………………………………………….
. กลุ่มตัวอย่าง ………………………………………………………………………………………………………….
**งานเดี่ยวรายบุคคล** ให้ทำการจดบันทึกย่อใบความรู้ที่ 6 เรื่อง วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย,นิยามศัพท์เฉพาะ,ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ลงในสมุดจดงานของตนเอง –> ส่งก่อนถึงวันเข้าเรียนในชั่วโมงถัดไป
********************************************
Filed under: learning |