โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ อาจเกิดขึ้นได้สำหรับคุณ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนั้นเรามีวิธีการแก้ไขในกรณีที่มือถือ Android เชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ติดสักที ให้สามารถใช้งาน Wi-Fi ได้เช่นเดิม ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจาก 2 สาเหตุคือ ความผิดปกติของมือถือ Android ของเรา และปัญหาจาก Router
โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ เข้าไวไฟไม่ได้ แก้ไขยังไงดี
นำมือถือ Android มาใกล้ๆ Router แล้วลองเชื่อมต่อ Wi-Fi ดู เพราะอาจเกิดจากมือถืออยู่ห่างจากรัศมี Wi-Fi มากเกินไปและสัญญาณอื่นๆมารบกวนการเชื่อมต่อ
ให้ทำการปิดและเปิด Router ใหม่ หรือทำการ Restart Router เพื่อให้ Router ทำการเริ่มเชื่อมต่อทั้งอินเทอร์เน็ตและเชื่อมต่อ wi-fi กับมือถือ Android ของคุณใหม่อีกครั้ง
4. ให้ทำการปิดและเปิด Wi-Fi บนมือถือ Android เพื่อเริ่มเชื่อมต่อ Wi-Fi กับ Router คุณใหม่อีกครั้ง โดยเข้าที่ Setting >> เลือก Internet Network >> เลือก wi-fi ให้เป็น ON แล้วเชื่อมต่อเข้ากับชื่อ Wi-Fi ของคุณใหม่
5. หากไม่ติดให้ลอง Restart บนมือถือ Android หรือไม่ก็ทำการปิดมือถือแล้วเปิดมือถือใหม่ แล้วทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตามข้อที่ 4 อีกครั้ง
6. ทำการรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย โดยเข้าที่ Settings>> เลือก system>> เลือก Reset >> เลือก Reset network settings แล้วตอบ reset setting ทั้งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคยเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้งหมดจะถูกล้างออกทั้งหมด ให้คุณทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi ปกติใหม่ พร้อมกับใส่รหัสให้ถูกต้องด้วย ถึงจะสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้
หากแก้ไขทั้งหมด 6 ข้อข้างต้นแล้วยัง เข้าไวไฟไม่ได้ หรือ เชื่อมต่อ wifi ไม่ได้ อาจเป็นไปได้ที่มือถือคุณมีปัญหาซึ่งต้องนำมือถือ Android คุณเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็คสภาพและรอการแก้ไขต่อไป
หากคุณใช้อินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ Android ไม่ได้ ไม่ว่าจะผ่านแอปหรือเว็บไซต์ ให้ลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาเหล่านี้
สัญญาณที่บ่งบอกถึงการเชื่อมต่อที่ไม่ดี
- การดาวน์โหลดไม่เริ่มต้น หมดเวลา หรือยังคงอยู่ที่ 0%
- Google Play ค้างอยู่ที่ "กำลังโหลด..."
- โหลดหน้าเว็บในเบราว์เซอร์ไม่ได้
เคล็ดลับการแก้ปัญหาทั่วไปสำหรับอุปกรณ์ Android
- รีสตาร์ทอุปกรณ์ อาจฟังดูเป็นวิธีง่ายๆ แต่บางครั้งก็ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของการเชื่อมต่อได้
- หากการรีสตาร์ทไม่ช่วยแก้ปัญหา ให้สลับระหว่าง Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตมือถือ โดยทำดังนี้
- เปิดแอปการตั้งค่า แล้วแตะ เครือข่ายและอินเทอร์เน็ตหรือการเชื่อมต่อ ตัวเลือกเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละอุปกรณ์
- ปิด Wi-Fi และเปิดอินเทอร์เน็ตมือถือ แล้วตรวจสอบว่ามีความแตกต่างไหม
- หากไม่ ให้ปิดอินเทอร์เน็ตมือถือและเปิด Wi-Fi แล้วตรวจสอบอีกครั้ง
- ลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาต่อไปนี้
แก้ไขปัญหาอินเทอร์เน็ตมือถือ
ก่อนอื่น ให้ตรวจสอบว่าได้เปิดอินเทอร์เน็ตมือถือแล้วและมีการเชื่อมต่อ
- เปิดแอปการตั้งค่า แล้วแตะเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต หรือการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตมือถือ
- ในบางอุปกรณ์ คุณอาจต้องเลือกปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตก่อนจึงจะพบตัวเลือกดังกล่าว
- เปิดอินเทอร์เน็ตมือถือ หากเปิดอยู่แล้ว ให้ปิดแล้วเปิดอีกครั้ง
- ตรวจสอบว่ามีสัญญาณบอกสถานะอินเทอร์เน็ต เช่น 2G, 3G, 4G หรือ H แสดงถัดจากแถบความแรงของสัญญาณที่ด้านบนของหน้าจอ
- บางครั้งสัญญาณนี้อาจไม่แสดงหากคุณเชื่อมต่อ Wi-Fi อยู่ หากเป็นเช่นนี้ ให้ปิด Wi-Fi และตรวจสอบอีกครั้ง
หากคุณไม่เห็นสัญญาณบอกสถานะอินเทอร์เน็ต คุณอาจอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ หากเป็นไปได้ ให้ย้ายไปยังพื้นที่อื่นหรือออกไปข้างนอกและตรวจสอบสัญญาณอีกครั้ง
เคล็ดลับ: หากปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ให้ติดต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ
เปิดและปิดโหมดบนเครื่องบิน
- เปิดแอปการตั้งค่า แล้วแตะเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต หรือการเชื่อมต่อ โหมดบนเครื่องบิน ตัวเลือกเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละอุปกรณ์
- เปิดโหมดบนเครื่องบิน
- รอประมาณ 10 วินาที
- ปิดโหมดบนเครื่องบิน
- ตรวจสอบว่ายังมีปัญหาการเชื่อมต่ออยู่หรือไม่
หากปัญหายังมีอยู่หลังจากคุณได้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว โปรดติดต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของคุณ
แก้ไขปัญหา Wi-Fiตรวจสอบว่าได้เปิด Wi-Fi และมีการเชื่อมต่อแล้ว
- เปิดแอปการตั้งค่า แล้วแตะเครือข่ายและอินเทอร์เน็ตหรือการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตัวเลือกเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละอุปกรณ์
- เปิด Wi-Fi
- ค้นหาสัญญาณบอกสถานะการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ด้านบนของหน้าจอ
- ถ้าไม่มีสัญญาณบอกสถานะปรากฏขึ้น หรือไม่มีแถบสัญญาณ คุณอาจอยู่นอกช่วงเครือข่าย Wi-Fi
- เข้าไปใกล้เราเตอร์ ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อ Wi-Fi แรงขึ้นไหม และลองอีกครั้ง
รีสตาร์ทเราเตอร์ไร้สาย
หากคุณเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่บ้านอยู่ ให้ดูคู่มือการใช้งานของเราเตอร์เพื่อดูคำแนะนำเกี่ยวกับการรีเซ็ต โดยทั่วไปแล้วจะแนะนำให้ทำดังนี้
- ดึงปลั๊กเราเตอร์ออกจากเต้าจ่ายไฟและตรวจสอบว่าไฟบนเราเตอร์ดับหมดแล้ว
- รอประมาณ 30 วินาที
- เสียบปลั๊กเราเตอร์กลับไปในเต้าจ่ายไฟแล้วรอประมาณ 30 วินาทีเพื่อให้ไฟบนเราเตอร์ติดสว่างทุกดวง
หากคุณยังมีปัญหาในการเชื่อมต่อหลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหรือโฮสต์ของเครือข่าย Wi-Fi