.
อีกครั้งที่แวะไปเซเว่นแบบไม่รู้เรื่องอะไรว่าจะไปเอาสเมอนอฟกลับบ้านสัก 2 กระป๋อง ดันไปเห็นเบียร์หมีสีใหม่ สีชมพู อ่านดูว่ารสอะไรเห็นว่าเป็นรส Wild Rosé มันคงจะเหมือน Hoegaarden Rosee ละมั้ง ถ้าเหมือนก็คงดีเพราะราคาเบียร์หมีมันถูกกว่ามากเลย ไหนๆ มีรสใหม่ก็หยิบมาลองชิมดูดีกว่า
ลองชิมครั้งแรกรู้สึกกลิ่นหอมเหมือนราสเบอร์รี่ รสชาตินุ่มมันๆ รสหวานนิดๆ พร้อมกลิ่นราสเบอร์รี่ที่ทำให้รู้สึกอมเปรี้ยวหน่อยๆ ทั้งที่มันไม่เปรี้ยว ยังคงเป็นเบียร์ที่รสชาติ “มันๆ” เหมือนรสปกติของเบียร์หมี เพียงแต่สีชมพูจะมีกลิ่นหอมผลไม้ และรสหวานดื่มง่าย อร่อยเลยละ เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มแบบเอา “อร่อย” อย่างเดียวแบบตัวบล็อกเองนี่แหละ
.
ถ้าถามว่าเบียร์หมี Wild Rosé กับ Hoegaarden Rosee อันไหนอร่อยกว่ากัน ก็อยากบอกว่ามันคล้ายกันตัวบล็อกเองรู้แค่ว่า Hoegaarden Rosee มันนุ่มสมูท เบา แบบเบียร์นอก ส่วนเบียร์หมีมันมันก็ให้อารมณ์เดียวกันอร่อยเหมือนกัน แต่เหมือนกันไหมไม่แน่ใจเพราะลอง Hoegaarden แค่ครั้งเดียวจำได้แค่มันหอมราสเบอร์รี่หวานอมเปรี้ยวอร่อยดี ส่วนตัวชอบ เบียร์หมีมากกว่าเพราะถูกกว่าคุ้มกว่าอร่อยแนวเดียวกัน
.
มาถึงเบียร์กลิ่นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ ครั้งนี้เอารสพีชมาลอง ดูแปลกดีมันจะอร่อยเหมือนรสอื่นไหมนะ ถ้าดูข้างๆ กระป๋องจะมีเล่าถึงแรงบันดาลใจของรสชาตินี้ด้วย ประมาณว่า เป็นแรงบรรดาลใจถึงลูกพืชจากตลาดในหมู่บ้านเล็กๆ ในเบลเยี่ยม ช่วงฤดูร้อน ที่ตามประวัติแล้วพืชนั้นเป็นผลไม้ที่มาจากทางตอนใต้ของยุโรป ที่ซึ่งอบอุ่น มีความชื้นจากทะเล Mediterranean ที่เป็นสภาพอากาศอันเหมาะเจาะสำหรับปลูกพีช ซึ่งได้น้ำลูกพืช ประกอบกับการหมักบ่มเบียร์ตามแบบฉบับ Hoegaarden ทำให้ได้เบียร์ที่มอบความหวาน และสดชื่น น่าประทับใจเลยแค่อ่านคำบรราย
แค่เปิดกระป๋องก็ได้กลิ่นหอมพีชหวานๆ น่าดื่ม ชิมคำแรกก็รู้สึกไปถึงน้ำหวานโซดารสพีชซะงั้น ที่ให้ความหวานกำลังดี กลิ่นลูกพีชหอมบางๆ ไม่ฉ่ำอย่างที่คิด ตบท้ายความความหอมมันของเบียร์ทิ้งไว้ที่ลิ้น อร่อยมาก! เป็นเบียร์ที่หวานนุ่ม ใส จนไม่คิดว่าเป็นเบียร์กันเลย สมราคา 99 บาท ของเขาละ
เป็นเบียร์กลิ่นผลไม้ที่อร่อย และชอบมากเป็นการส่วนตัว ดื่มได้ดื่มดีจนลืมไปว่าเป็นเบียร์ สิ่งที่ไม่ชอบก็ราคานี่ละ ที่แพงไปหน่อย แต่ก็เหมาะกับเอาไว้ดื่มช่วงโอกาสพิเศษๆ จะได้ไม่เปลือง
สวัสดีครับแฟนๆติดดอยคอยดื่ม ต้องขออภัยที่ได้หายไปสักพัก น่าจะตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้วล่ะมั้ง
ก่อนจะกลับไปเริ่มชิมเบียร์กันตามปกติวิสัยของคอลัมน์เรา ผมขออนุญาต update เรื่องเบียร์ตัวใหม่ที่ผมไปเจอที่ Seven – Eleven กัน
จริงๆเบียร์ตัวนี้จะเรียกว่าเบียร์เก่าแก่ น่าจะถูกต้องกว่าเบียร์ใหม่
เพราะ Kaiserdom เค้ามีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1718 โน่นแน่ะ เป็นเบียร์เยอรมันที่มาจากเมือง Bamberg ในแคว้น Bavaria
ซึ่งก็แน่นอนว่าเบียร์ตัวนี้ก็อยู่ในความควบคุมของ Bavarian Purity Law ด้วยเช่นกัน
จริงๆเบียร์เยอรมันก็ไม่ได้แปลกอะไรนะครับ
แต่ที่ผมแปลกใจคือมาเจอมันใน 7-11 แถวบ้าน!!!
ตั้งใจมาดูว่ามีเบียร์อะไรเย็นๆแช่ไว้บ้าง ไม่ได้คิดว่าจะได้เจอเบียร์นำเข้าในตู้แช่ร้านสะดวกซื้อ แถมมีมาลงตั้ง 2 แบบคือ Kaiserdom Dark Lager กับ Kaiserdom Hefe Weissbier
ซึ่งผมว่าทาง merchandiser เค้าก็เข้าใจเลือก เพราะเบียร์เยอรมันสองตัวนี้ก็เป็นอะไรที่ “ไม่เบาไป และ ไม่หนักไป” แถมยังเข้ากันได้ง่ายกับอาหารไทยเกือบทุกอย่าง หรือจะเลือกของในร้าน 7-11 ไปกินแกล้มก็มีตั้งหลายอย่างที่ไปกันได้
โดยรวมผมว่าเจ้าสองกระป๋องนี่ทำให้ตู้แช่เบียร์ร้าน 7-11 ดู upgrade ขึ้นมาในทันที
ราคาที่ตั้งไว้ที่ 7-11 ก็ถือว่าเป็นราคาปกติ 195 บาทต่อกระป๋องใหญ่ (1 L.) ผมไปเช็คใน wishbeer ก็ขายที่ราคาเท่ากันนี่แหละ
เท่าที่ผมพอได้ยินมา การจะวางสินค้าในชั้นของ 7-11 ได้นี่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก ดังนั้นสินค้าตัวไหนที่ไม่หมุน (ขายไม่ดี) ก็คงจะโดนถอดออกจากชั้นวางในเวลาไม่นาน
ดังนั้น จะรออะไร ซื้อกันเลยสิครับ เผื่อจะช่วยให้ 7-11 หันมามองเบียร์อื่นๆที่ไม่ใช่เบียร์แมสๆอย่างลาเกอร์จืดๆของบ้านเราบ้าง
สุดท้ายนี่ ไม่แน่ใจว่า 7-11 วาง Kaiserdom กี่สาขากันบ้าง เพราะปกติแล้วจำนวนตู้แช่ของแต่ละสาขาก็มีขนาดไม่เท่ากันอยู่แล้ว
หากเพื่อนๆท่านใดไปดูแล้วเจอหรือไม่เจอก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
แอดมินอั้ม @ ติดดอยคอยดื่ม