ก่อนยื่นกู้กับธนาคาร แน่นอนว่าเราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม โดยเริ่มต้นที่ตัวเรานั่นคือความพร้อมของเอกสาร เช่น เอกสารประจำตัวผู้ขอสินเชื่อบ้าน เอกสารแจงรายได้ และเอกสารจำเป็นอื่น ๆ ที่ธนาคารอาจขอเพิ่มจากเรา เป็นต้น ตามมาด้วยข้อสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ เราต้องมองหาข้อมูลจากแต่ละธนาคารว่าเขามีโปรโมชั่นเกี่ยวกับสินเชื่อบ้านอย่างไรบ้าง ดอกเบี้ยธนาคารไหนถูกสุด มีเงื่อนไขดอกเบี้ยดีที่สุด มีเงื่อนไขอะไรให้เราสามารถกู้ได้มากกว่าวงเงินที่เราคิด เป็นต้น จากนั้นเปรียบเทียบหาแพ็กเกจสินเชื่อที่เหมาะสมกับเราที่สุด ในกรณีที่ซื้อบ้านจัดสรรเป็นแบบบ้านผ่อนดาวน์เราจะได้รับการติดต่อจากโครงการให้ทำเรื่องกู้ตอนที่บ้านก่อสร้างใกล้เสร็จ (คืบหน้าประมาณ 80-90%) เพื่อให้การทำเรื่องสินเชื่อบ้านเสร็จทันพร้อม ๆ กัน ส่วนคนที่ซื้อบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนสามารถทำสัญญากู้ซื้อบ้านพร้อมการซื้อบ้านได้เลย
2. มองหาธนาคารได้แล้วก็ยื่นเอกสารกู้ซื้อบ้านต่อ
จากหลายธนาคารที่เราดูมาในที่สุดเราก็เลือกธนาคารได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ การยื่นเอกสารที่จำเป็นต่อการกู้ซื้อบ้านเพื่อประกอบคำขอสินเชื่อบ้าน เช่น เอกสารประจำตัวของเรา, เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน, เอกสารแสดงรายละเอียดหลักทรัพย์, เอกสารของผู้กู้ร่วม (ถ้ามี) เป็นต้น โดยอาจมีรายละเอียดเอกสารแตกต่างกันไปบ้างตามอาชีพของผู้กู้ ซึ่งไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลย เพราะธนาคารจะแจ้งให้เราทราบก่อนอยู่แล้วว่าเราต้องใช้อะไรบ้าง แต่หากใครที่ซื้อบ้านกับทางโครงการ ทางโครงการจะแจ้งให้เราเตรียมมาก่อน รวมถึงการประสานงาน เดินเรื่อง ติดตามผลอนุมัติให้เราเสร็จสรรพ สะดวกมากเลยค่ะ
3. ประเมินราคาบ้านประกอบการพิจารณา
หลังธนาคารได้รับคำขอกู้สินเชื่อบ้านจากเราแล้ว ทางธนาคารจะเข้ามาประเมินบ้านหรือคอนโดเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาวงเงินสินเชื่อบ้านของเรา นี้คือขั้นตอนปกติที่ทุกธนาคารต้องทำ ซึ่งการประเมินราคาของแต่ละธนาคารอาจมีความแตกต่างกัน และมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ค่าธรรมเนียมสำหรับค่าประเมินหลักประกัน) ไม่เท่ากันด้วย แต่หากเป็นโครงการใหม่จะเป็นการประเมินรวมทีเดียวทั้งโครงการค่ะ คนที่ซื้อโครงการบ้านใหม่จะสะดวกไปอีกแบบ แค่เตรียมพร้อมเรื่องเอกสารและติดตามการกู้ก็พอ แต่ในขั้นตอนนี้ไม่ได้หมายความว่าธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้แล้วนะคะ เพราะมีจำนวนไม่น้อยเข้าสู่การประเมินบ้านแล้วกู้ไม่ผ่าน ทำให้ต้องเสียเงินค่าประเมินบ้านไปฟรี ๆ ก็มี
4. รอผลการอนุมัติ
หลังจากธนาคารส่งคนมาประเมินราคาบ้านแล้ว เราต้องรอประมาณ 2-3 สัปดาห์ หรือ 7 - 20 วันทำการ แต่ละธนาคารใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่ก็มีบางธนาคารที่อาจแจ้งผลอนุมัติเบื้องต้นได้ภายใน 3 วันหลังจากได้รับเอกสารและประเมินรายได้เบื้องต้น หรือบางธนาคารอาจใช้เวลาอนุมัตินาน 1 - 2 เดือนเลยก็มี หากช้ากว่านี้ควรรีบติดต่อธนาคาร เช่น ในกรณีที่มีการเรียกเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม, การเพิ่มจำนวนผู้กู้ร่วม, การกู้ไม่ผ่านต้องกลับมาเตรียมเอกสารใหม่ หรือได้วงเงินกู้น้อยกว่าที่คิด เป็นต้น
5. ทำสัญญากู้
หลังได้รับอนุมัติสินเชื่อว่าเรากู้ได้และได้วงเงินกู้ตามที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การทำสัญญากู้ซึ่งธนาคารที่อนุมัติสินเชื่อจะกำหนดให้เราทำสัญญาภายใน 45 วัน หากพ้นจากนี้อาจต้องมีการพิจารณาสินเชื่อใหม่ เราจึงควรติดตามผลการอนุมัติเสมอว่าถึงไหนบ้าง เพื่อให้ทำสัญญาทันหรือมีปัญหาติดตรงไหนก็ได้รีบแก้ปัญหาทัน ทั้งนี้การทำสัญญากู้มักจะทำก่อนวันนัดโอนกรรมสิทธิ์เล็กน้อย 1-2 วัน โดยสามารถทำนอกธนาคารคือ เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้เซ็น หรือจะทำสัญญากู้ที่สำนักงานธนาคารก็ได้
6. ทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์
การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์บ้านจะนัดพร้อมกันทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และธนาคาร ที่สำนักงานที่ดินและทำสัญญาที่ธนาคารที่ขอกู้ไว้ แต่หากเราไม่สามารถไปได้ด้วยตัวเองก็มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่โครงการมาดำเนินการแทนได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ในขั้นตอนนี้เราต้องเตรียมเงินไปชำระค่าธรรมเนียมและอากร (ค่าใช้จ่ายในวันโอน) ด้วย รวมถึงวงเงินส่วนเกินที่เราได้หากเรากู้ได้มากกว่าค่าบ้าน หรือเงินส่วนต่างที่เราต้องจ่ายให้โครงการหากกู้ได้น้อยกว่า เป็นต้น โดยก่อนวันโอนกรรมสิทธิ์เจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้เราทราบว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มบ้าง ถ้าไม่แจ้งเราต้องสอบถามก่อนเสมอ
สินเชื่อบ้าน ทำไมกู้ไม่ผ่าน ในปัจจุบันมีหลายคนที่ยื่นขอสินเชื่อบ้าน ไม่ผ่าน...
Posted by ธนาคารอาคารสงเคราะห์ on Tuesday, May 31, 2016
บ้านคือความสุขบ้านคือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันและต้องการที่จะมีบ้านหากคุณกำลังคิดจะซื้อบ้าน เรามารู้จักกับสินเชื่อบ้าน ธอส ในปี 2023 นี้ธนาคาร ธอส ปล่อยสินเชื่อบ้าน ธอสให้กับผู้กู้ในระยะยาว ซึ่งทางธนาคารธอส จะมีหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อบ้าน ธอสที่ง่ายกว่า ดังนั้นถ้าหากคุณคิดจะกู้บ้าน ธอสไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด, และสินเชื่อบ้าน ธอสยังมีให้คุณซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคารได้อีกด้วย รวมถึงสินเชื่อเพื่อการไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่นเพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร และยังให้กู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อในวงเงินหลัก ด้วยหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อบ้าน ธอสที่ทุกคนเข้าถึงง่ายมาก
หลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อบ้าน ธอส ปี 2023 อนุมัติง่ายขึ้น!
ธนาคาร ธอส ปี 2566 กับหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อที่ง่ายขึ้นให้ทุกคนที่ต้องการซื้อบ้านให้มองไปในระยะยาวอย่าดูแค่ดอกเบี้ยหรือโปรโมชั่นเท่านั้น ถ้าต้องการผ่อนบ้านกับธนาคาร ธอสพร้อมกับหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อบ้าน ธอสและขั้นตอนอนุมัติสินเชื่อบ้าน ธอส pantipที่หลาย ๆ คนต่างก็พอใจในหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อบ้าน ธอส ให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท และตารางผ่อนบ้าน ธอส 2566 ในระยะเวลาการผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 4 ปี และสูงสุดไม่เกิน 40 ปีโดยอายุรวมกับระยะเวลาของผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นกรณีข้าราชการ, ตุลาการ, อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 4 จนครบสัญญา MRR-0.75% ต่อปี เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือลูกค้าที่มีภาระหนี้เยอะอยากซื้อบ้านสามารถยื่นขอกู้เงินได้ตามหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อบ้าน ธอสกำหนดไว้