ปฏิสนธิ กี่วัน ถึงจะรู้ว่าท้อง

หลังจากมีเพศสัมพันธ์ แล้วมีอาการเข้าข่ายคนท้อง  //healthsmile.co.th/blog/what-is-early-sign-of-pregnancy/

มีเพศสัมพันธ์ช่วงไหน มีโอกาสท้องสูง?

การตั้งครรภ์นั้น อาจไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆกับผู้หญิงบางคน ดังนั้นการวางแผนการมีลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์นั่นคือ มีเพศสัมพันธ์ช่วงระยะไข่ตก 14 วัน นับจากวันแรกที่มีประจำเดือน และความแข็งแรงของอสุจิประกอบกัน

ท้องกี่สัปดาห์ตรวจเจอว่าตั้งครรภ์ ?

หลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากตั้งครรภ์ จะมีฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) เราสามารถตรวจครรภ์ได้จากฮอร์โมนนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งระดับฮอร์โมน HCG จะเพิ่มมากขึ้นตามอายุครรภ์ หากครรภ์อายุ 12 สัปดาห์ จะมีระดับฮอร์โมน HCG มากขึ้น จึงสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ไม่ยาก และมีความแม่นยำในระดับหนึ่ง แต่หากตรวจครรภ์ในช่วง 6 วัน หลังไข่กับอสุจิปฏิสนธิกัน อาจตรวจไม่พบ เพราะฮอร์โมน HCG มีระดับต่ำ

วิธีตรวจครรภ์ แบ่งได้ 2 แบบหลักๆ คือ 1. ตรวจด้วยตนเอง  2. ตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ตรวจตั้งครรภ์ สะดวก ง่าย โดยชุดทดสอบการตั้งครรภ์

วิธีที่ 1 ตรวจครรภ์เองโดยชุดทดสอบการตั้งครรภ์

หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ประจำเดือนขาด ท้อง หรือไม่ท้อง สาวๆ อย่าปล่อยให้คาใจ โดยการหาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ หรือที่ตรวจครรภ์ ตามร้านขายยาใกล้บ้าน หรือร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11, family mart ซึ่งที่ตรวจครรภ์ราคามีตั้งแต่หลัก 10 ไปจนถึงหลัก 100 และมีให้เลือกใช้ถึง 3 แบบ ดังนี้●ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม (Test Strip) : มีราคาถูก อุปกรณ์ประกอบด้วยถ้วยตวงเก็บปัสสาวะ และแถบทดสอบการตั้งครรภ์ วิธีตรวจครรภ์คือ นำแถบทดสอบการตั้งครรภ์จุ่มลงในปัสสาวะที่เตรียมไว้ในถ้วยตวง ทิ้งไว้ และนำขึ้นมาอ่านผลตามระยะเวลาในคู่มือที่ตรวจครรภ์กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อความแม่นยำ●ที่ตรวจครรภ์แบบหยด (Pregnancy Test Cassette) : ใน 1 ชุด จะมีอุปกรณ์ให้มา 3 อย่าง นั่นคือ ถ้วยตวงเก็บปัสสาวะ ตลับทดสอบ และหลอดหยด วิธีตรวจครรภ์คือ เตรียมปัสสาวะใส่ในถ้วยตวง นำหลอดหยด ดูดปัสสาวะขึ้นมา หยดลงบนตลับทดสอบ จากนั้นรออ่านผลตามระยะเวลาในคู่มือที่ตรวจครรภ์กำหนด●ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) : นิยมมาก เพราะใช้งานง่าย อุปกรณ์ไม่เยอะ และมีวิธีที่ไม่ยุ่งยาก โดยทดสอบด้วยแท่งตรวจครรภ์เพียง 1 แท่งเท่านั้น วิธีการตรวจครรภ์ก็สะดวก เพียงถอดฝาครอบออก จับแท่งให้หัวลูกศรชี้ลง แล้วปัสสาวะผ่านบริเวณต่ำกว่าหัวลูกศร จากนั้นรออ่านผลตามระยะเวลาในคู่มือที่ตรวจครรภ์กำหนด

ท้อง หรือไม่ท้อง อ่านผลตรวจให้ชัด

การอ่านผลการตรวจครรภ์เกินระยะเวลา และใช้ไม่ถูกวิธีตามที่คู่มือกำหนดไว้ ผลการตรวจครรภ์อาจคลาดเคลื่อนได้ค่ะ และจะทราบได้ว่าท้อง หรือไม่ท้อง เมื่อตรวจครรภ์ ที่ตรวจครรภ์จะแสดงผลทดสอบให้ทราบ ดังนี้●ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด หรือตรวจครรภ์ 2 ขีด  ที่ขีด C และ T แปลว่าผลเป็นบวก เกิดการตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้อาจเป็น “ผลบวกลวง” ก็ได้เช่นกัน ซึ่งแปลว่า ไม่ได้ตั้งครรภ์ เพราะอาจเกิดจากที่ตรวจครรภ์ไม่มีประสิทธิภาพ และเกิดจากฮอร์โมนที่ผิดปกติ ในกลุ่มโรคไทรอยด์ เป็นต้น●ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีด ที่ขีด C แปลว่าผลเป็นลบ แสดงว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่ก็ฟันธงไม่ได้เช่นกัน เพราะอาจเป็น “ผลลบลวง” แปลว่าอาจเกิดการตั้งครรภ์ มีสาเหตุจากการตรวจครรภ์เร็วเกินไป ซึ่งฮอร์โมน HCG อาจมีระดับที่ต่ำมาก จึงตรวจยังไม่พบ●ที่ตรวจครรภ์ ไม่ขึ้นทั้งขีด C และ T หรือมีขีดจางๆ ขึ้นที่ขีดใดขีดหนึ่ง และขีดจางๆ ทั้ง 2 ขีด อาจเป็นเพราะที่ตรวจครรภ์หมดอายุ หรือไม่ได้มาตรฐาน และฮอร์โมน HCG มีระดับที่ต่ำมาก จึงยังไม่สามารถวัดผลได้ กรณีนี้ต้องมีการตรวจซ้ำรอบ 2หมายเหตุ : C (Control Line) และ T (Test Line)

Tip & Trick! ตรวจครรภ์ เพิ่มความแม่นยำมากขึ้น

●ตรวจครรภ์ตอนไหนแม่นยำ แนะนำควรตรวจครรภ์หลังตื่นนอนตอนเช้า เพราะปัสสาวะไม่มีสารเจือปน●เมื่อประจำเดือนขาดตรวจครรภ์ได้ตอนไหน แนะนำตรวจหลังจากประจำเดือนขาดไป 10-14 วัน นับจากวันที่คาดว่าประจำเดือนมา●ควรศึกษาคู่มือ ปฎิบัติตาม และอ่านผลตรวจครรภ์ตามระยะเวลาที่กำหนดในคู่มืออย่างเคร่งครัด●ควรมีการตรวจย้ำ 2 รอบ เพราะหากตรวจครรภ์เร็วเกินไป อาจอยู่ในช่วงแรก 0-6 วันหลังเกิดการปฏิสนธิ ทำให้อาจจะยังไม่ทราบผลที่แท้จริง ให้รอตรวจซ้ำอีก 14 วัน●แนะนำซื้อที่ตรวจครรภ์ ที่มีค่า Sensitivity สูง จะสามารถตรวจฮอร์โมน HCG ที่มีระดับต่ำได้ และทราบผลได้แม่นยำเร็ว ซึ่งดูได้จากตัวเลขระบุไว้บนฉลาก เช่น 20 mIU/ml, 50 mIU/ml หรือ 100 mIU/ml ซึ่งค่าตัวเลขต่ำ จะมีค่า Sensitivity สูง

ตรวจตั้งครรภ์ ผลแม่นยำสูง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

วิธีต่อไปนี้จะเป็นการตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด โดยแยกย่อยออกเป็น 3 วิธีด้วยกันค่ะ

วิธีที่ 1  เจาะเลือดตรวจครรภ์

วิธีนี้รู้ผลชัด แม่นยำสูง ตรวจตั้งครรภ์ได้เร็วสุด เพราะตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังเกิดการปฏิสนธิ ซึ่งวิธีนี้จะทำการตรวจเลือดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจหาฮอร์โมน HCG หากค่า HCG > 25 mIU/mL แปลว่ามีการตั้งครรภ์ และข้อดีของการตรวจครรภ์ด้วยวิธีนี้คือ ช่วยป้องกันการแท้งบุตรได้ สำหรับค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราคา 800 บาท ขึ้นกับสถานพยาบาลแต่ละแห่ง

วิธีที่ 2 ตรวจ UPT (Urine Pregnancy test)

การตรวจด้วยวิธีนี้ เป็นการเก็บปัสสาวะส่งตรวจในห้องแลปของโรงพยาบาล โดยจะทำการวิเคราะห์ผลโดยนักเทคนิคการแพทย์ ซึ่งวิธีการจะมีขั้นตอนคล้ายกับที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม (Test Strip) หรือที่ตรวจครรภ์แบบหยด (Pregnancy Test Cassette) แต่จะตรวจฮอร์โมน HCG ที่มีระดับต่ำได้ เพราะที่ตรวจของโรงพบาบาลมีค่า sensitive สูง (20-25 mIU/ml) สำหรับค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราคา 300 บาท ขึ้นกับสถานพยาบาลแต่ละแห่ง

วิธีที่ 3 ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยเครื่องอัลตราซาวด์

การตรวจครรภ์ด้วยวิธีนี้ จะสามารถตรวจได้หลังจากที่ประจำเดือนไม่มา 1-2 สัปดาห์ ซึ่งจะทำการตรวจโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวช โดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ส่งคลื่นเสียงความถี่สูง ไปยังภายในช่องท้อง ซึ่งอายุครรภ์ที่ตรวจพบได้จะต้องอยู่ที่ 5-6 สัปดาห์ และข้อดีของการตรวจวิธีนี้คือ สามารถทราบอายุครรภ์ และลดอัตราการแท้งในอนาคตได้ เพราะสามารถทราบตำแหน่งการตั้งครรภ์ และภาวะผิดปกติของมดลูก แต่การตรวจด้วยวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ราคาอยู่ที่ 2,000 บาท ขึ้นกับสถานพยาบาลแต่ละแห่ง

หากมีอาการเข้าข่ายว่าเกิดการตั้งครรภ์ แนะนำให้ลองตรวจครรภ์เอง โดยที่ตรวจครรภ์ก่อนได้ค่ะ เพราะเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก หากพบว่าตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด ควรทำการพบแพทย์ต่อไป ยิ่งหากทราบผลเร็วมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีต่อทารกในครรภ์ และจะช่วยให้ดูแลทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ   

ขอบคุณข้อมูลจาก //ch9airport.com/4-วิธีตรวจการตั้งครรภ์/

//raknareeclinic.com/pregnancy-test/

//www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/pregnancy-test

//www.thairath.co.th/lifestyle/mom-and-kids/1893409

//baby.kapook.com/view208694.html

//bit.ly/39H2dhL