นาฏศิลป์ไทย จัดเป็นศิลปะการแสดงอันเต็มไปด้วยความงดงาม , อ่อนช้อย อีกทั้งยังเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งอยู่คู่กับประเทศไทยมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยการแสดงนาฏศิลป์ไทย จะต้องมีองค์ประกอบที่ช่วยให้การแสดงเต็มไปด้วยความงดงามสมบูรณ์ ได้แก่
ลีลาท่าทางร่ายรำ
การแสดงนาฏศิลป์ไทยมีเอกลักษณ์ คือ เป็นการแสดงที่มีท่าทางร่ายรำสวยงาม ด้วยการประดิษฐ์ท่ารำต่างๆ ให้เป็นระเบียบแบบแผน ใช้ในการถ่ายทอดเรื่องราว รวมทั้งสื่อความหมายในการแสดง เช่น ระบำพรหมาสตร์ คือ ท่าทางร่ายรำแบบนางฟ้า เป็นต้น
จังหวะใช้ในการแสดง
จังหวะคือการฝึกขั้นพื้นฐาน ที่ใช้แสดงนาฏศิลป์ โดยผู้แสดงนาฏศิลป์ จะต้องทำความเข้าใจกับจังหวะ , ดนตรี อย่างลึกซึ้ง เพื่อให้สามารถร่ายรำ ออกท่าทางได้ถูกต้องตามจังหวะ ถ้าคุณแสดงไม่ถูกต้องตามจังหวะ จะทำให้การแสดงไม่สวยงาม
ดนตรีใช้ประกอบการแสดง
ในการแสดงนาฏศิลป์ไทย จะใช้วงปี่พาทย์บรรเลงเพลงเพื่อประกอบการแสดง โดยบทเพลงที่ใช้บรรเลงเพลง จะต้องนำมาประกอบกับกิริยาท่าทางของแต่ล่ะตัว โดยตัวละครสามารถแบ่งออกเป็น หน้าพาทย์ธรรมดากับหน้าพาทย์ชั้นสูง ส่วนใหญ่แล้วจะบรรเลงด้วยไม่มีเนื้อร้อง นอกจากนี้การบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ จะต้องบรรเลงโดยดูจากความหมายและอารมณ์ของตัวละครในบริบทนั้นๆด้วย
คำร้องหรือเนื้อร้อง
ในการแสดงนาฏศิลป์ไทย จะประกอบด้วยชุดการแสดงที่มีทั้งบทร้องและไม่มีบทร้อง ซึ่งการแสดงแบบมีเนื้อร้องจะทำให้ผู้ชมเข้าใจการแสดงมากขึ้น โดยทางผู้ประดิษฐ์ท่ารำ ให้เหมาะสมกับคำร้องเพื่อให้ผู้ชมมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องประดิษฐ์ให้มีความเหมาะสมกับคำร้อง เพื่อให้ผู้แสดงถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างถูกต้องและมีความสวยงามอีกด้วย เช่น ระบำดาวดึงส์ ที่ต้องแสดงให้เห็นถึงความยินดีปรีดา เป็นต้น
แต่งกาย – แต่งหน้า
การแต่งกายในการแสดงนาฏศิลป์ไทย จะเป็นการแสดงที่มีความสวยงามและบ่งบอกถึงความเป็นไทย จึงทำให้การแสดงมีเอกลักษณ์ เช่น การแสดงโขนซึ่งมีการแต่งกายอันงดงาม มีโขนที่นำมาสวมศีรษะพร้อมตกแต่งลวดลายประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างวิจิตร โดยโขนก็จะมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของตัวละคร
อุปกรณ์ใช้ประกอบการแสดง
อุปกรณ์จัดเป็นองค์ประกอบนาฏศิลป์ที่มีความสำคัญอีกหนึ่งชนิดหนึ่ง ที่ทำให้การแสดงมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ แต่อย่างไรก็ตามการแสดงนาฏศิลป์ไทยในบางชุด อาจไม่มีอุปกรณ์ประกอบก็ได้ หากแต่บางชุดก็มีอุปกรณ์ประกอบการแสดงเข้ามา ทำให้การแสดงมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น รำฟ้อนเทียน มีอุปกรณ์สำคัญ คือ เทียน โดยจะนิยมแสดงในช่วงกลางคืน แสงเทียนที่สว่างไสวท่ามกลางความมืด จะทำให้การแสดงมีความงดงามมาก
7. อุปกรณ์การแสดงละคร การแสดงนาฏศิลป์ไทยบางชุดต้องมีอุปกรณ์ประกอบการแสดงละครด้วย เช่น ระบำพัด ระบำนกเขา ฟ้อนเทียน ฟ้อนเล็บ ฟ้อนร่ม เป็นต้น อุปกรณ์แต่ละชนิดที่ใช้ประกอบการแสดงจะต้องสมบูรณ์ สวยงามและสวมใส่ได้พอดี หากเป็นอุปกรณ์ ที่ต้องใช้ประกอบการแสดง เช่น ร่ม ผู้แสดงจะต้องมีทักษะในการใช้อุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ววางอยู่ในระดับที่ ถูกต้องสวยงามในการแสดงนาฏศิลป์บ้างชุดการแสดงอาจมีอุปกรณ์ประกอบการแสดง เพื่อให้การแสดงมีความสมบูรณ์สวยงามมากขึ้น ซึ่งการสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการแสดงจะมีการออกแบบ ตกแต่งให้เหมาะสมกับชุดการแสดง เช่น การแสดงระบำตารีกีปัส มีการใช้พัดประกอบการแสดง
ซึ่งมีการออกแบบพัดให้สวยงามเหมาะสมกับการแสดง
ขับรถยนต์ไม่มีใบขับขี่ ไม่พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ จะมีความผิดอย่างไรบ้าง หากถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ และต้องเสียค่าปรับเท่าไร
ใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตขับขี่ คือเอกสารที่กรมการขนส่งทางบก ออกให้กับบุคคลเพื่อแสดงว่ามีคุณสมบัติสามารถขับขี่รถสัญจรบนท้องถนนได้ เนื่องจากผ่านการอบรมและทำการทดสอบเรียบร้อยแล้ว โดยสามารถขับขี่ยานพาหนะต่าง ๆ ตามแต่ประเภทของใบขับขี่ นั้น ๆ บนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ใบขับขี่เมื่อได้มาแล้วควรพกติดตัวเสมอ เพราะหากเจ้าหน้าที่เรียกตรวจแล้วเราไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ก็จะมีความผิด เช่นเดียวกับผู้ที่ใช้งานใบขับขี่หมดอายุ หรือไม่มีใบอนุญาตขับรถ แต่จะมีโทษอะไรบ้าง ต้องเสียค่าปรับเท่าไร มาดูกัน
ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ประเภท ส่วนบุคคล (บ.) จะใช้สำหรับรถในการขนส่งส่วนบุคคล หรือรถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวเลข และตัวอักษรสีดำ
- ประเภท ทุกประเภท (ท.) จะใช้สำหรับรถสาธารณะ รถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง ซึ่งใบอนุญาตขับรถประเภททุกประเภทนั้น สามารถใช้ทดแทน ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล และใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ได้
ใบขับขี่มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ?
ใบขับขี่ หรือใบอนุญาติขับรถหากแบ่งออกตามลักษณะการใช้งาน จะมีถึง 11 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว
ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถบดถนน
ใบอนุญาตขับรถแทรกเตอร์
ใบอนุญาตขับรถชนิดอื่น
ใบอนุญาตขับรถตามความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี หรือ ใบขับขี่สากล
ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ ไม่พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ มีความผิดไหม ?
การขับรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ย่อมมีความผิดอยู่แล้ว เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับขี่แต่ไม่พกติดตัวไว้ หรือปล่อยให้ใบอนุญาตนั้นหมดอายุก็จะมีความผิดเช่นกัน โดยกฎหมายมีการกำหนดบทลงโทษกรณีไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์ หรือใบขับขี่ซึ่งมี 2 ฉบับ ได้แก่
พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งบังคับใช้กับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ทั่วไป
พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งบังคับใช้กับรถบรรทุก หรือรถขนาดใหญ่เพื่อการพาณิชย์
ภาพจาก : shutterstock.com / Awirut Somsanguan
ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ มีความผิดอย่างไร
หากขับรถโดยไม่มีใบขับขี่จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ได้กำหนดไว้ตามมาตรา 64 ความว่า ผู้ใดขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในกรณีรถยนต์สาธารณะหากผู้ประกอบการยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ จะมีความผิดตามมาตรา 56 ประกอบมาตรา 60 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ส่วนพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ได้กำหนดโทษไว้ตามมาตรา 151 ความว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 93 วรรคหนึ่งที่ว่าด้วย ห้ามมิให้ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถหรือผู้ที่มีหน้าที่ขับรถ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน หากผู้นั้นฝ่าฝืนปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่พกใบขับขี่ หรือไม่สามารถแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ได้
ขณะขับขี่รถหากไม่ได้พกใบขับขี่ไม่ว่าจะเป็นตัวจริง สำเนา หรือสิ่งที่จะแสดงหลักฐานถึงการได้รับใบอนุญาตขับขี่ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ขับรถโดยที่ใบขับขี่หมดอายุ
ผู้ใดขับรถในขณะที่ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ อยู่ระหว่างการถูกเพิกถอน หรือถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ จะต้องถูกระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ทั้งนี้ เราควรตรวจสอบวันหมดอายุของใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถว่าหมดเมื่อใด จะได้ไม่หลงลืมและรีบดำเนินการต่อใบขับขี่ นอกจากนี้ ผู้ที่ขับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ที่ยังไม่มีใบขับขี่ ควรรีบดำเนินการทำใบขับขี่ให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีความผิดหากเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ และที่สำคัญจะได้รับการอบรมเกี่ยวกับเครื่องหมายหรือกฎหมายจราจรต่าง ๆ อีกด้วย
ซึ่งสามารถลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือทางเว็บไซต์ โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2565