ลางบอกเหตุว่า เกียร์ออโตในรถคุณกำลังจะเสียนั้น มาในสองรูปแบบ ทั้งจากการมองเห็น (น้ำมันเกียร์รั่วไหลนองพื้น) หรือสัมผัส (ยัดเกียร์ D หรือ R แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นรถไม่เดินหน้าหรือถอยหลังตามต้องการ) เมื่อใส่เกียร์เพื่อขับเคลื่อนก็ต้องรอกันนานไม่กระฉับกระเฉงเหมือนตอนป้ายแดง อันนี้ก็ต้องทำใจและเข้าใจด้วยว่าเกียร์เป็นอุปกรณ์ส่งกำลังที่มีการเคลื่อนไหวรับแรงบิดจากเครื่องยนต์ตลอดการขับขี่ จะให้อยู่ยั้งยืนยงคงกระพันแบบเกียร์เหนียวๆ เหมือนสมัยก่อนคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเกียร์ต้องมีขนาดเล็กลง มีน้ำหนักเบา และมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาควบคุมการทำงานต่อเชื่อมกับสมองกลไฟฟ้าที่ควบคุมเครื่องยนต์ ความละเอียดสลับซ้บซ้อนของเกียร์ยุคใหม่ รวมถึงชิ้นส่วนนับพันๆ ชิ้นที่ประกอบขึ้นเป็นชุดส่งกำลังทำให้เกียร์อัตโนมัติสมัยใหม่เปราะบางกว่าเกียร์ออโต้ในอดีตแบบเทียบกันไม่ติด
เกียร์พังจะเริ่มจาก เกียร์มีอาการกระตุกกระชาก สตาร์ตเครื่องใส่เกียร์ต้องรอนานกว่าจะขยับ หรือใส่เกียร์ไปแล้วแต่ดันไม่ไปจอดนิ่งๆ อยู่กับที่ การตอบสนองต่อการทดกำลังเชื่องช้าอืดอาดไม่ทันใจ หรือไม่ได้อย่างใจเหมือนตอนป้ายแดง ขับมาดีๆ เกียร์ก็ไม่เปลี่ยน หรือพอยัดเกียร์ R รถก็ยังนิ่งสนิทไม่ขยับ แสดงว่าเกียร์ออโต้ในรถคุณพังหรือใกล้พังเต็มทน
อาการเริ่มแรกเมื่อเกียร์ใกล้พบจุดจบ มักจะเกิดกับเกียร์ถอยหลังก่อน เมื่อจอดจนเครื่องเย็นเข้าเกียร์ถอยหลัง หรือเกียร์ R รถไม่เคลื่อนที่ หรือเคลื่อนแต่ต้องรอนาน หรือเข้าเกียร์ถอยแล้วเกิดอาการกระตุก ขับไปสักพักพอเครื่องร้อนขึ้น อาการจะกลับมาเป็นปกติ แต่อยู่ในอาการแบบเป็นๆ หายๆ หลังจากเกิดอาการยัดเกียร์ถอยแล้วรถไม่ถอย 1 สักระยะก็จะมีอาการนี้ตามมา ช่วงจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์จะมีอาการลื่นของผ้าคลัตช์ในช่วงเปลี่ยนเกียร์ และการเปลี่ยนเกียร์จะไม่นิ่มนวล เข้าเกียร์แล้วไม่วิ่ง ออกตัวไม่ได้ ต้องรอเครื่องร้อนๆ หรือบางทีต้องเลื่อนคันเกียร์เพื่อออกตัวที่เกียร์ 2 ก่อน วิ่งไปสักพักค่อยเปลี่ยนกลับมาที่ตำแหน่ง D ได้
เมื่อเกียร์ของคุณใกล้พบกับจุดจบ อีกอาการก็คือเมื่อเหยียบคันเร่ง รอบเครื่องยนต์กวาดขึ้น แต่รถกลับเร่งความเร็วไม่ขึ้น หรือความเร็วขึ้นช้ามาก ซึ่งอันตรายมากหากอยู่ในจังหวะเร่งแซง ใต้ท้องรถมีน้ำมันสีเหลือง หรือสีแดงไหลนองใต้เกียร์
เวลาเปลี่ยนเกียร์ แล้วรถเคลื่อนตัวช้ากว่าปกติหรือต้องรอสักพักกว่าจะไป (อาการ ระยะสุดท้าย) อาการเกียร์จะกลับบ้าน เข้า N ไป D เข้า N ไป R แล้วออกตัวช้ามากต้องรอนานกว่ารถจะเริ่มไหล หรือเคลื่อนที่ เวลาเข้าก็กระชาก เครื่องเย็นเกียร์ไม่ทำงานต้องรอร้อน หรือเครื่องร้อนแล้วเกียร์ก็ดื้อไม่เปลี่ยนซะงั้น รถบางรุ่นเมื่อระบบเกียร์เกิดการผิดพลาดทำงานบกพร่อง สมองกลจะสั่งให้เกียร์เข้าสู่โหมดเกียร์พัง มันจะใช้เกียร์ 3 แค่เกียร์เดียวให้คุณขับไปศูนย์บริการ โดยไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์อื่นๆ ได้ พร้อมไฟโชว์แสดงสถานะเกียร์มีปัญหาที่แผงมาตรวัดเป็นรูปเฟือง
เมื่อเกียร์พังก็ต้องพบกัยช่างซ่อมเกียร์กันอีกแล้ว หาอู่ซ่อมเกียร์ที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญงาน เนื่องจากระบบส่งกำลังอย่างที่บอกว่ามีความสลับซับซ้อนไม่หมูเหมือนซ่อมเครื่องยนต์ หาอู่ซ่อมเกียร์ที่มีชื่อเสียงว่าทำแล้วจบ ซึ่งก็มีอยู่เยอะ ดูดีๆ ว่าเจ้าของอู่ไม่ได้ยืนถืออีโต้หรือดาบคอยดักฟันลูกค้า ด้วยราคาซ่อมมหาโหด
เกียร์ออโต้ เมื่อเจ๊งก็มีทางเลือกสามแบบ จะเปลี่ยนลูกใหม่จ่ายเป็นแสนๆ แบบเจ็บแต่จบ จะไปเดินเซียงกงหาเกียร์เอง หรือให้อู่หามาวางให้ อันนี้เข้าทำนองตาดีได้ตาร้ายซวย ไปเจอเกียร์มือสองสภาพสดใหม่เข้าก็ดีไป แต่ไปเจอเกียร์ที่ข้างนอกสุกใสข้างในเน่าสนิท เปลี่ยนไม่นานก็พังอีก หรือจะใช้วีธีที่ประหยัดสุด ใช้การซ่อมกับอู่เกียร์ที่เก่งๆ ซ่อมแล้วจบก็เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง จากสามอย่างนะครับ
1- เปลี่ยนเกียร์ใหม่ เจ็บแต่จบ (แพงมากแต่จบ)
2- เปลี่ยนเกียร์มือสองเซียงกง วัดดวง ตาดีได้ตาร้ายหนักเหมือนเดิม
3- ซ่อมแซมเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ
เมื่อเลือกการซ่อมแซมเปลี่ยนชิ้นส่วนที่พังเสียหายของเกียร์ น่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมและจบ การซ่อมแผ่นคลัตช์ที่สึกหรอเสียหายของเกียร์ออโต้แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ใช้งานไปเป็นแสนมันก็ต้องสึกเป็นเรื่องธรรมดา ซ่อมคลัตช์ทั้งที ยกชุดคลัตช์ของเกียร์ 1-2-3-4-5 ไปเลยจะดีกว่า เปลี่ยนชุดที่พังแต่คลัตช์ที่ไม่พังดันไม่เปลี่ยน เดี๋ยวตัวอื่นพังตามขึ้นมาอีก จะเข้าทำนองเสียน้อยเสียยากต้องยกกันอีกรอบ
โอริงเกียร์ที่ทำงานมานมนานก็เริ่มเสื่อมสภาพบล็อกน้ำมันไม่อยู่ต้องรอให้เครื่องร้อนก่อนถึงขยายตัว และบล็อกน้ำมันได้ตัวแสบถึงจะยอมวิ่งออกไปได้ แบบต้องร้อนรุ่มกลุ้มอุราถึงจะวิ่งออกอย่างนี้ก็ไม่ไหว ก็ควรจะเปลี่ยนโอริงไปเลย
โอริงใหม่ๆ ทุกตำแหน่งแบบจ่ายแพงหน่อย การซ่อมบำรุงก็จบไม่มาจุกจิกกวนอารมณ์ในสภาพอากาศคล้ายนรกแบบนี้ จะมาเลือกเปลี่ยนโอริงเฉพาะเกียร์ถอย ไม่ยอมเปลี่ยนโอริงในเกียร์อื่นๆ แบบคนขี้เหนียว ซ่อมเกียร์ออโต้เมื่อเสียอาจแพงกว่าเปลี่ยนเกียร์มือสองจากเซียงกง แต่ปัญหาจบใช้งานได้ต่อ ส่วนเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่แบบแกะลังแพงมาก เริ่มจากแสนไปจนถึงสามสี่แสนแล้วแต่ยี่ห้อและรุ่น ยิ่งเป็นรถยุโรปมีอัตราทดเยอะ 8-9 สปีด เห็นราคาเกียร์ใหม่แล้วจะเป็นลม
ลองหาอู่หาช่างที่ไม่ได้ลับมีดลับขวานรอดักฟันลูกค้าที่เกียร์พัง หากโชคคุณยังพอมีก็จะได้เจออู่เกียร์ที่ซ่อมแล้วจบ ช่างและอู่ที่ให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับลูกค้า คิดค่าซ่อมไม่แพง แถมยังรับประกันการทำงานหลังการซ่อม คงต้องไปสืบหากันเอาเอง แนะนำไปเกิดไม่ถูกใจพระเดชพระคุณท่านจะพานซวยโดยใช่เหตุ.