เพราะน้ำ คือเครื่องดื่มมากด้วยคุณประโยชน์ การที่เราดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ช่วยกำจัดของเสียและยังช่วยในด้านการลดน้ำหนักได้อีกด้วย วันนี้สาวๆ มาเช็คดูกันนะคะว่าสัญญาณเตือนว่าร่างกายขาดน้ำเป็นอย่างไร อย่าปล่อยให้สาย.. จนร่างกายมีสภาพย่ำแย่อย่างที่ไม่ควรจะเป็น
ภาวะขาดน้ำคืออะไร
ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) คือภาวะที่ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำกับเกลือแร่บางชนิดมากเกินกว่าที่ร่างกายได้รับ จนส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ที่อยู่ในร่างกายไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างปกติ โดยเกิดจากการที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เหงื่อไหลออกมาเป็นปริมาณมาก การออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ร้อนอย่างยาวนาน มีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง มีอาการอาเจียนและเป็นไข้ ซึ่งหากร่างกายขาดน้ำมาก ๆ และไม่ได้รับการทดแทนอย่างเพียงพอในเวลาที่เหมาะสม ก็จะก่อให้เกิดผลเสียตามมาหลายอย่าง เช่น อาจจะทำให้เกิดตะคริวหรือเป็นลมแดด และหากมีอาการรุนแรง ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
สัญญาณเตือนของภาวะร่างกายขาดน้ำ
1.อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเหนื่อยมาก
เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำก็ดูเหมือนว่าสมองจะหยุดทำงานไปด้วย ทำให้เรารู้สึกเหนื่อย เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียน้ำเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นกลไกการป้องกันตนเอง
2.ไม่อยากอาหาร
การที่ร่างกายมีภาวะขาดน้ำเพียงเล็กน้อย จะทำให้ไม่อยากอาหาร เกิดอาการคลื่นไส้วิงเวียน ให้ดื่มน้ำหนึ่งแก้วจะช่วยให้อาการดีขึ้น
3.มีอาการกระหายน้ำอย่างสุด ๆ
เมื่อร่างกายของคนเราอยู่ในภาวะขาดน้ำ จะมีการส่งสัญญาณจากไตที่ทำหน้าที่ระบายเลือดกับปัสสาวะ จากนั้นไฮโปธาลามัสในสมองจะกระตุ้นให้รู้สึกกระหายดื่ม และดื่มน้ำเพื่อแก้ปัญหาของไต
4.นาน ๆ เข้าห้องน้ำสักครั้ง
การเข้าห้องน้ำที่เหมาะสมคือการเข้าอย่างน้อยทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง แต่หากนาน ๆ ถึงจะเข้าห้องน้ำ นั่นเป็นไปได้ว่าร่างกายกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำ เพราะสมองทำการส่งสัญญาณไปยังไตให้หยุดทำงาน เพื่อจะลดความถี่ในการเข้าห้องน้ำ
5.ปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม
และมีกลิ่นฉุกมากขึ้นเล็กน้อย เพราะในช่วงที่อยู่ในภาวะขาดน้ำ ไตจะทำการกักเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด แต่ร่างกายก็ยังขับของเสียออกจากร่างกาย จึงทำให้ปัสสาวะออกมาเป็นแบบนี้
6.ผิวขาดความยืดหยุ่น
จากการที่มีน้ำน้อย จึงทำให้เรารู้สึกว่าผิวมีความหยาบกระด้าง และหากพบว่าผิวแลดูหมองคล้ำผิดปกติ อาจมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ
7.มีอาการท้องอืดและท้องผูก
นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อร่างกายขาดน้ำลำไส้ใหญ่จะทำการขับน้ำส่วนเกินอออกจากอุจจาระ และส่งไปยังส่วนอื่น ๆ
8.รู้สึกหงุดหงิด มึนงงหรือเวียนศีรษะ
เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ อาจะส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ รวมถึงมีพลังงาน ออกซิเจน และเลือดไหลเวียนไปที่สมองน้อยลง ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจ และหากดื่มน้ำเปล่า น้ำมะพร้าวหรือเครื่องดื่มเกลือแร่ แต่อาการกลับไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด
และนี่ก็คือ สัญญาณบอกว่าร่างกายขาดน้ำ อย่าปล่อยให้ร่างกายของเราอยู่ในภาวะขาดน้ำจะดีกว่า เพราะหากปล่อยไว้จนสายเนิ่นนาน ย่อมนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพต่างๆ ในระยะยาวได้อย่างแน่นอน รู้แบบนี้แล้วก็หันมาดื่มน้ำกันมากๆ ในระหว่างวันจะดีกว่า
ควรดื่มน้ำให้พอเพียงต่อร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว แต่เมื่อร่ายกายขาดน้ำ อาการที่ร่างกายจะบอกเราได้อย่างไรบ้าง
กระหายน้ำ
อาการนี้เป็นอาการพื้นฐาน เลยเราจะทราบได้จากในปากของเราไม่มีน้ำลาย แม้ขณะที่ดื่มน้ำ ร่างกายเราอาจยังรู้สึกว่าน้ำไม่เพียงพออาการเหมือนดื่มน้ำไม่อิ่ม เมื่อร่างกายรู้สึกว่าดื่มพอแล้ว ก็ต่อเมื่อระดับของเหลวในร่างกายคืนสู่สภาวะปกติ
ปากแห้ง คอแห้ง
เป็นอาการต่อเนื่องจากอาการกระหายน้ำ จะรู้สึกว่าริมฝีปากแห้ง รู้สึกคอแห้ง การดื่มน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุภายในช่องปากและลำคอ ทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไม่แห้ง
ผิวแห้ง ผิวหยาบ
สังเกตได้จากการที่ผิวตามแขนหรือขา เมื่อสัมผัสไม่รู้สึกชุ่มชื้น ผิวสากๆ หรือ แลดูผิวแห้ง ควรหาน้ำดื่มให้เพียงพอกับร่างกาย บางกรณีเมื่อร่างกายมีการขาดน้ำเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ ผิวแตก ผิวแห้งกร้าน
ตาแห้ง
เวลาร่างกายเราขาดน้ำท่อน้ำตาก็จะแห้งไปด้วย ส่งผลให้ตามีสีแดงก่ำ เนื่องจากเส้นเลือดฝอยในตาแตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ ภาวะร่างกายการขาดน้ำจะส่งผลอันตรายมากกว่าคนปกติทั่วไป
อาการเหนื่อยล้า
เมื่อร่างกายขาดน้ำ ร่างกายก็จะไปยืมน้ำจากอวัยวะส่วนอื่นภายในร่างกาย เช่น เลือดในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เกิดการขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย การขาดออกซิเจน จะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า ง่วงนอน และ ซึมตามมาได้ด้วย
มีอาการท้องผูก
หากร่างกายขาดน้ำจะทำให้เกิดปัญหาลุกลาม จนทำให้มีอาการท้องผูก ดังนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ และ รับประทานอาหารที่มีกากใย เพื่อช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีด้วย
ปัสสาวะน้อย
ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ และปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม แสดงว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ และในกรณีอาการหนักอาจเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย
ควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตรต่อวัน คำนวณอย่างไร… = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) 2.2 = (?) × 30 ÷ 2 = ปริมมาณที่ควรดื่มในแต่ละวัน (มิลิลิตร)
ยกตัวอย่าง เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม = (50 × 2.2 × 30)÷2 = 1,650 มิลลิลิตร
4,983 total views, 11 views today