วิธีแก้ฟันเหลือง แบบธรรมชาติ

ฟันเหลืองแก้ยังไงดี ปัญหาฟันเหลืองที่หลาย ๆ คนกำลังเผชิญอยู่ทำให้รอยยิ้มสวย ๆ ของเราหมดความมั่นใจเอาได้ง่าย ๆ เลย ฟันที่เหลืองขึ้นเกิดได้มาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น จากการดื่มเครื่องดื่มบางชนิด ชา กาแฟ ไวน์ จากการสูบบุหรี่ ซึ่งการเปลี่ยนสีจากปัจจัยภายนอกร่างกายสามารถรักษาได้ด้วยการแปรงฟันให้สะอาดและการเข้าไปฟอกฟันขาวกับคุณหมอที่คลินิก GoWabi ขอแนะนำวิธีแก้ฟันเหลืองทั้งแบบที่แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและวิธีทางเลือกอื่น ๆ แบบธรรมชาติ ตามมาดูกันเลยค่ะ

อะไรที่เป็นสาเหตุทำให้ฟันเหลือง

สาเหตุหลักที่ทำให้ฟันเหลืองก็คือการมีสีเปื้อนอยู่บนชั้นเคลือบฟัน (enamel) ซึ่งสีต่าง ๆ เหล่านี้มักจะได้รับมาจากการรับประทานอาหารหรือการดื่มเครื่องดื่มบางชนิด เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง เป็นต้น

อีกเหตุผลหนึ่งที่พบได้ก็คือการสึกกร่อนของชั้นเคลือบฟัน ซึ่งจะทำให้เห็นชั้นเนื้อฟัน (dentin) ซึ่งมีสีเหลืองได้ชัดเจนขึ้น สาเหตุที่ทำให้ชั้นเคลือบฟันสึกกร่อนอาจเป็นไปได้ทั้งจากอายุที่มากขึ้นและจะอาหารที่เรารับประทานเข้าไปมีกรดทำให้ชั้นเคลือบฟันสึกกร่อน อ่านเพิ่มเติม 8 สาเหตุฟันเหลืองเกิดจากอะไร จะป้องกันไม่ให้ฟันเหลืองได้อย่างไร

วิธีแก้ฟันเหลืองแบบธรรมชาติ

1.ออยล์พูลลิ่ง (oil pulling)

เป็นศาสตร์ความรู้มาจากประเทศอินเดีย หลักการคือการทำให้ช่องปากสะอาดขึ้นโดยการใช้น้ำมันกลั้วปากเพื่อกำจัดสารพิษและแบคทีเรียออกจากช่องปาก ซึ่งการลดจำนวนของแบคทีเรียลงก็จะช่วยลดโอกาสในการเกิดคราบหินปูนสะสมที่จะทำให้เกิดฟันเหลืองตามมาได้

น้ำมันมะพร้าวเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากรสชาติที่ไม่แย่จนเกินไปและประโยชน์มากมายของน้ำมันมะพร้าว ซึ่งมีส่วนประกอบของกรดลอริก (lauric) ในปริมาณมาก ส่งผลในการช่วยลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี

อ่านเพิ่มเติม ดื่มน้ำมะพร้าว หน้าใสจริงหรอ? ประโยชน์ดี ๆ จากธรรมชาติที่ต้องบอกต่อ

จากการศึกษาพบว่าการกลั้วปากด้วยน้ำมันมะพร้าวช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากที่ชื่อว่า Streptococcus mutans ซึ่งจะช่วยลดการสะสมของคราบหินปูน ช่วยลดโอกาสในการเกิดเหงือกอักเสบ และมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับน้ำยาบ้วนปากลดแบคทีเรีย เมื่อมีการกลั้วปากด้วยน้ํามะพร้าวเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 2 สัปดาห์ 

ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าการกลั้วปากด้วยน้ำมันนั้นจะช่วยทำให้ฟันขาวขึ้นได้ แต่การกลั้วปากด้วยน้ำมันจะเป็นการป้องกันไม่ให้ฟันเหลืองขึ้นในอนาคตมากกว่า เพื่อน ๆ คนไหนที่อยากลองใช้วิธีนี้สามารถลองได้เลยค่ะ เพราะเป็นวิธีการที่ไม่อันตรายไม่ทำลายชั้นเคลือบฟัน และผู้ใช้หลาย ๆ คนเคลมว่าวิธีการนี้ทำให้ฟันของพวกเขานั้นขาวขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากกลั้วปากด้วยน้ำมันเป็นประจำ

ใครที่อยากลองกลั้วปากด้วยน้ำมันมะพร้าวแนะนำให้ทำตามขั้นตอนดังนี้เลยค่ะ

  1. ใช้น้ำมันมะพร้าวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะหรือ 15 มิลลิลิตร
  2. นำไปกลั้วปากโดยให้น้ำมันมะพร้าวผ่านฟันทุกซี่ในช่องปาก
  3. ทำต่อเนื่องประมาณ 15 ถึง 20 นาที 
  4. สามารถทำซ้ำได้ทุกวัน

2.แปรงฟันด้วยเบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดาหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต นอกจากนิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการอบขนมแล้ว เบกกิ้งโซดายังเป็นสารฟอกฟันขาวจากธรรมชาติ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบเบกกิ้งโซดาเป็นส่วนประกอบของยาสีฟันหลาย ๆ ชนิด

เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดามีความสามารถในการกัดกร่อนเล็กน้อย การแปรงฟันด้วยเบกกิ้งโซดาจึงช่วยสครับพื้นผิวของฟันที่มีคราบหินปูนและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นเบกกิ้งโซดายังทำให้ช่องปากมีสภาวะความเป็นด่างซึ่งช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเบกกิ้งโซดาอาจจะไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถแก้ปัญหาฟันเหลืองได้ข้ามคืน แต่งานวิจัยมีหลักฐานว่ายาสีฟันที่มีส่วนประกอบของเบกกิ้งโซดาจะทำให้สุขภาพโดยรวมของช่องปากดีขึ้นและฟันดูขาวขึ้นเล็กน้อย 

ใครที่อยากลองใช้สูตรเบกกิ้งโซดาแนะนำให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาหรือ 6 กรัม เข้ากับน้ำเปล่า 2 ช้อนชาหรือ 5 มิลลิลิตร
  2. ผสมจนให้ได้ส่วนผสมคล้ายครีมและนำส่วนผสมนั้นไปแปรงฟัน
  3. สามารถทำได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

3.ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นน้ำยาล้างแผลที่เราใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกันมาอย่างยาวนานและได้ผลดีมาก ๆ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ยังเป็นสารฟอกฟันขาวตามธรรมชาติอีกด้วย จะสังเกตเห็นได้ว่ายาสีฟันที่เคลมว่าสามารถทำให้ฟันขาวได้มักจะมีส่วนประกอบของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าไปด้วย

แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีงานวิจัยที่ช่วยยืนยันถึงผลของการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพียว ๆ ในการทำความสะอาดช่องปากว่าสามารถได้ผลเช่นเดียวกันกับเมื่อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ถูกใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟันหรือไม่

แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากลองใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในการเป็นน้ำยาบ้วนปาก แนะนำว่าให้เจือจางไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% ให้กลายเป็น 1.5% ก่อน โดยทั่วไปแล้วไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ขายอยู่ในท้องตลาดจะมีความเข้มข้นที่ 3% ให้นำมาผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่ากันก็ทำให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เจือจางลงเหลือ 1.5%

ส่วนอีกวิธีการหนึ่งในการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อนำมาทำให้ฟันขาวขึ้น สามารถทำได้โดย

  1. ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ช้อนชาหรือ 6 กรัม เข้ากับเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชาหรือ 10 มิลลิลิตร
  2. นำส่วนผสมที่ได้ไปแปรงฟัน
  3. ไม่ควรทำเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ การทำบ่อยเกินไปอาจกัดกร่อนชั้นเคลือบฟันให้สึกหรอได้ 

4.รับประทานผักและผลไม้

การรับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารอยู่ในปริมาณสูงสามารถช่วยขัดคราบหินปูนออกไปได้ในระหว่างที่เราเคี้ยว แล้วผักและผลไม้ชนิดไหนที่จะสามารถช่วยขัดคราบหินปูนได้บ้างล่ะ

สตอเบอรี่

สตอเบอรี่ช่วยขจัดคราบสกปรกที่อยู่บริเวณผิวฟันออกได้โดยไม่ทำร้ายชั้นเคลือบฟัน ในสตอเบอรี่มีกรดมาลิก (malic acid) ซึ่งจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสีออกไปได้

ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารับรอง แต่ก็มีสูตรของเซเลบต่างประเทศที่นำสตอเบอรี่มาใช้ขัดฟัน โดยการนำสตอเบอรี่มาผสมกับเบกกิ้งโซดาจนได้ส่วนผสมคล้ายครีมและนำไปแปรงฟัน สามารถใช้ได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป

สับปะรด 

มีหลักฐานว่าสารโบรมิเลน (bromelain) และเอนไซม์ที่พบในสับปะรดช่วยขจัดคราบสกปรกที่อยู่บนผิวฟันได้ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการรับประทานสับปะรดสด ๆ สามารถให้ผลเช่นเดียวกัน 

5.เน้นการป้องกันไม่ให้ฟันเหลือง 

เมื่ออายุมากขึ้นฟันของเราจะมีสีเหลืองมากขึ้นอันเนื่องมาจากการสึกกร่อนของชั้นเคลือบฟันทำให้เห็นชั้นเนื้อฟันซึ่งมีสีเหลืองได้ชัดเจนขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ แต่เราสามารถทำให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นช้าลงได้จากการพิถีพิถันในการเลือกอาหารที่เรารับประทานเข้าไป 

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม

อย่าเพิ่งตกใจไม่ได้หมายความว่าให้งดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มจำพวกนี้ แต่ให้จำกัดปริมาณและความถี่ในการบริโภคสิ่งเหล่านี้ ถ้าหากเป็นไปได้ให้ใช้หลอดดูดเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสของสารที่ทำให้ฟันเหลืองกับฟันหน้าของเรา อาหารและเครื่องดื่มที่ทําให้ฟันเหลืองได้แก่

  • กาแฟ
  • ไวน์แดง
  • โซดา
  • บลูเบอรี่ 

หากเป็นไปได้หลังจากรับประทานอาหารที่ทำให้ฟันเหลืองควรแปรงฟันซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดฟันเหลืองขึ้นได้ในอนาคต 

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง 

อาหารที่มีน้ำตาลสูงช่วยให้แบคทีเรียที่ชื่อว่า Streptococcus mutans เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้พบมากในช่องปากและเป็นสาเหตุในการเกิดคราบหินปูนและเหงือกอักเสบ เมื่อไหร่ที่เราทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงอย่าลืมแปรงฟันหลังมื้ออาหารนั้นด้วยนะ

เสริมแคลเซียม 

เหตุผลที่ทำให้ฟันเหลืองบางประการนั้น เกิดขึ้นมาจากการสึกกร่อนของชั้นเคลือบฟันทำให้เห็นชั้นเนื้อฟันที่อยู่ข้างใต้ซึ่งเป็นสีเหลือง การรับประทานแคลเซียมจะช่วยทำให้ชั้นเคลือบฟันของเรานั้นแข็งแรงไม่สึกกร่อนไปง่าย ๆ จึงทำให้ฟันมีโอกาสขาวมากยิ่งขึ้น อาหารที่มีแคลเซียมอยู่ในปริมาณสูงได้แก่ นม ชีส บล็อกโคลี่ 

6.อย่ามองข้ามความสำคัญของการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน 

นอกจากอายุที่มากขึ้นแล้ว เหตุผลหลักที่ทำให้ฟันเหลืองเลยก็คือการมีคราบหินปูนเกิดขึ้นบนผิวฟัน เมื่อมีคราบหินปูนเกิดขึ้นทำให้การติดสีจากอาหารที่ผิวฟันเมื่อรับประทานอาหารได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

การแปรงฟันจะช่วยนำคราบสีและคราบสกปรกออกจากผิวฟันได้ และการใช้ไหมขัดฟันช่วยขจัดแบคทีเรียที่อาจนำไปสู่การเกิดหินปูนในอนาคต แต่ทั้งนี้เราก็ควรจะต้องแปรงฟันให้ถูกวิธีด้วยนะคะ โดยใช้เวลาแปรงฟันมากกว่า 2 นาที จำนวนอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน 

วิธีแก้ฟันเหลืองโดยคุณหมอ

1.การฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันให้ขาวขึ้นมีทั้งแบบทำเองได้ที่บ้านและทำที่คลินิก วิธีการฟอกสีฟันที่สามารถทำด้วยตัวเองที่บ้านได้ จะใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำ  เน้นความสม่ำเสมอในการฟอกสีฟันในแต่ละวัน โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้จัดชุดฟอกสีฟันที่บ้านให้กลับไปทำเองที่บ้านในช่วงเวลาหนึ่ง และทันตแพทย์จะนัดมาประเมินผลอีกครั้ง

การฟอกสีฟันที่คลินิกมีหลายวิธี แต่วิธีที่กำลังได้รับความนิยมนั้นคือ การฟอกสีฟันที่คลินิกด้วยระบบแสงเย็น Cool Light เป็นการใช้แสง Cool Light หรือแสงเย็น ซึ่งเป็นแสง LED มากระตุ้นประสิทธิภาพของน้ำยาฟอกสีฟันที่มีส่วนผสมของสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ให้สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวฟัน และทำปฏิกิริยาให้เม็ดสีบนเนื้อฟันให้เกิดการแตกตัวได้ดีขึ้นทำให้ฟันขาวและใสขึ้น  ใช้เวลาในฟอกสีฟันประมาณ 45 นาที สามารถได้ฟันที่ขาวขึ้น 4-5 เฉดสีเลยทีเดียว

2.วีเนียร์ (Veneers)

วีเนียร์ (Veneer) คือ การเคลือบผิวฟันโดยใช้วัสดุที่มีลักษณะคล้ายเคลือบฟันธรรมชาติ มีความบางและสีใกล้เคียงกับฟันมาติดบริเวณด้านหน้าฟัน ซึ่งไม่เพียงช่วยในเรื่องของความสวยงามน่ามอง แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาการทำร้ายผิวฟัน ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอายุการใช้งานของวีเนียร์นั้นสามารถอยู่ได้นาน 10-15 ปี

 3.แอร์โฟลว์ (Airflow)

แอร์โฟลว์คือการทำความสะอาดฟันอย่างล้ำลึกโดยใช้พลังงานจากน้ำ ลม และเบกกิ้งโซดา ซึ่งสามารถเข้าถึงในจุดที่เข้าถึงได้ยาก ทำให้ฟันขาวขึ้นและให้ความรู้สึกที่สะอาดสดชื่นหลังจากทำ

จะเห็นว่ามีวิธีการหลากหลายวิธีมาก ๆ ในการแก้ปัญหาฟันเหลือง ซึ่งเพื่อน ๆ คงจะได้ไอเดียกันไปบ้างนะคะ ฟันเหลืองแก้ยังไงดี โดยส่วนตัวแล้วเคยใช้วิธีออยล์พูลลิ่งโดยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น รู้สึกว่าฟันสะอาดขึ้นและขาวขึ้นเล็กน้อยค่ะ แต่ไม่ได้ทำต่อเนื่องยาวนานนักเพราะว่าน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นราคาค่อนข้างสูง จึงหันมาพึ่งคุณหมอฟันได้ผลทันตาเห็นมากกว่าค่ะ แล้วเพื่อน ๆ ชอบวิธีไหนกันบ้างคะ วิธีไหนใช้แล้วเวิร์คสามารถแชร์ได้ในคอมเม้นนี้เลยค่ะ 

อ้างอิง 

//www.healthline.com/nutrition/whiten-teeth-naturally

//www.mintdentalhygiene.co.uk/information/what-is-airflow/

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง