วัสดุและอุปกรณ์
- แผ่นเฟรม
- เข็ม
- ไหมพรมสีต่างๆ
- กรรไกร
วิธีการจัดทำโครงงาน
- ออกแบบการทำแพทเทิร์นของรูปที่ต้องการ โดยใช้โปรแกรม Microsoft Word
- นับช่องของแผ่นเฟรมให้ตรงกับรูปแบบที่วางไว้
- แล้วนำไหมพรมสีที่ต้องการสอดใส่เข็ม แล้วนำไปปักที่ช่องของแผ่นเฟรม
- เมื่อต้องการเปลี่ยนสีอื่นของไหมพรม ให้นำกรรไกรตัดแล้วมัดต่อให้เรียบร้อย
(มัดด้านหลังที่ไม่ใช้)
- จากนั้นก็ทำไปเรื่อยๆ ตามแพทเทิร์นหรือรูปแบบที่วางไว้
ลายนี้บีจะปักจากทิศขวาไปทิศซ้าย และ ปักจากช่องล่างซ้ายไปช่องบนขวาค่ะ
2.ลายอลิเซีย (Alicia Lace Stitch)
ลายอลิเซียเป็นลายปักผสมระหว่างลายเต้นท์ และลายเต้นท์กลับด้าน ออกมาเป็นลายรูปกากบาทคล้ายดอกไม้เล็ก ๆ
ลายนี้บีจะปักในทิศซ้ายไปขวา โดยจะปักเส้นเฉียงซ้ายและขวาตลอดทั้งแถวค่ะ
3. ลายกากบาท หรือ ลายครอสติช (Cross Stitch)
ลายกากบาทเป็นลายปักที่นอกจากจะนิยมใช้ในการปักแผ่นเฟรมแล้ว ยังนิยมใช้ในปักครอสติชด้วยค่ะ ลายนี้เกิดจากการปักเส้นตรง 2 เส้นไขว้กันเป็นรูปกากบาท
บีจะเริ่มปักที่มุมซ้ายบนไปทางขวา โดยปักเส้นเฉียงขวาไปตลอดทั้งแถวก่อนค่ะ จากนั้นจึงปักกลับด้วยเส้นเฉียงซ้าย
4. ลายกากบาทแนวตั้ง (Upright Cross Stitch)
ลายกากบาทแนวตั้ง เป็นลายที่มีวิธีปักคล้ายกับลายครอสติช คือปักเส้นตรง 2 เส้นไขว้กัน แต่ต่างกันตรงที่ลายครอสติชปักด้วยเส้นตรงเฉียง ส่วนลายกากบาทแนวตั้งปักด้วยเส้นตรงแนวตั้งและแนวนอน
ลายนี้บีจะปักจากขวาไปซ้ายค่ะ
5. ลายดาว (Smyrna Cross Stitch)
ลายดาวเป็นลายปักผสมระหว่างลายครอสติชกับลายกากบาทแนวตั้ง ก็คือเราจะปักเส้นเฉียงซ้าย เส้นเฉียงขวา เส้นตรงแนวตั้ง และเส้นตรงแนวนอน รวมทั้งหมด 4 เส้น ค่ะ
ลายนี้บีจะปักจากทิศซ้ายไปขวาค่ะ
นอกจากลายปักทั้ง 5 ลายในวันนี้ ก็ยังมีลายปักสวยๆ อื่น ๆ อีกมากมาย ไว้บีจะรวบรวมแล้วนำมาฝากทุกคนอีกค่ะ แล้วเราได้รู้จักกับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปักแผ่นเฟรมกันไปแล้ว ในบทเรียนนี้เรามาทำความรู้จักกับพื้นฐานของการปักแผ่นเฟรมกันดีกว่าค่ะ
1. วิธีตัดแผ่นเฟรม
ถ้าเรามีแผ่นเฟรมขนาดใหญ่ แล้วต้องการตัดชิ้นเล็กลง ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้กรรไกรหรือคัทเตอร์ตัด
ตามตัวอย่างในวันนี้ บีจะตัดแผ่นเฟรมเป็นรูปวงกลม
แพทเทิร์นระบุไว้ว่าต้องการแผ่นเฟรม 16x16 threads
คำว่า "thread" หมายถึง เส้นตารางแนวตั้งและแนวนอน ไม่ใช่ช่องว่างของแผ่นเฟรม
16X16 thread จึงหมายถึง ใช้เส้นตารางแนวตั้งทั้งหมด 16 เส้น และใช้เส้นตารางแนวนอนทั้งหมด 16 เส้น
แต่ถ้าแพทเทิร์นระบุเป็นจำนวนช่อง (Hole) เราก็นับที่ช่องของแผ่นเฟรม ตรงนี้ จะขึ้นอยู่กับแพทเทิร์นระบุเป็น threads หรือ holes ค่ะ
บีจะนับเส้นแนวตั้ง 16 เส้นและเส้นแนวนอน 16 เส้น แล้วตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมก่อนค่ะ
โดยพยายามตัดให้ชิดกับเส้นตารางมากที่สุด จะทำให้ได้ขอบของงานที่เรียบสวย ทำให้การปักไหมรอบขอบของแผ่นเฟรมทำได้ง่ายขึ้น
หลังจากนั้นวาดเส้นตามแพทเทิร์นลงบนแผ่นฟรม ด้วยอายไลน์เนอร์แบบปากกาเขียน เหตุผลที่บีเลือกใช้อายไลเนอร์ ก็เพราะบีค้นเพิ่งพบว่าการใช้อายไลเนอร์เขียนเส้นบนแผ่นเฟรมจะได้เส้นที่เห็นชัด และที่สำคัญเช็ดออกได้ง่ายด้วยเมกอัฟรีมูฟเวอร์ค่ะ
เมื่อวาดเส้นบนแผ่นเฟรมเสร็จแล้ว ก็ลงมือตัดตามเส้นที่เราเขียนไว้ได้เลยค่ะ
จากนั้นก็เช็ดทำความสะอาดเส้นที่เขียนไว้ด้วยเมกอัฟรีมูฟเวอร์
2.ความยาวของไหมที่ใช้ปัก
ความยาวของไหมที่ใช้ปักจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่เราต้องการปัก ถ้าตัดไหมสั้นเกิน ก็ต้องต่อไหมบ่อย ๆ แต่ถ้าตัดไหมยาวเกินไป ไหมก็จะพันกันได้ง่าย สำหรับบีจะตัดไหมยาวประมาณ 24 – 36 นิ้วค่ะ
3. วิธีเริ่มต้นงาน
เริ่มด้วยสอดเข็มจากด้านหลังผ่านช่องว่างขึ้นมาด้านหน้า เหลือปลายไหมด้านหลังไว้ยาวประมาณ 1 - 2 นิ้ว
จับปลายไหมไว้ด้านหลังแผ่นเฟรม จากนั้นลงมือปักทับปลายไหมด้วยลายที่ต้องการได้เลยค่ะ
หลังจากปักได้ 5 – 6 ช่อง ก็ตัดปลายไหมทิ้งค่ะ
4. วิธีเก็บปลายไหม
เมื่อปักแผ่นเฟรมจนเสร็จแล้วต้องการเก็บปลายไหม ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการพลิกด้านหลังของแผ่นเฟรม แล้วสอดเข็มใต้ไหมที่ปักไว้ 5 – 6 ช่อง แล้วจึงตัดไหมที่ไม่ต้องการใช้ทิ้งค่ะ
5. วิธีต่อแผ่นเฟรม
ในกรณีที่ต้องการต่อแผ่นเฟรม 2 แผ่นติดกัน ก็จะใช้วิธีเย็บด้วยลายตะเข็บเย็บหุ้ม (Whip Stitch)
ความยาวของไหมที่ใช้ควรยาวพอที่จะเย็บได้ตลอดทั้งความยาว บีจะพันไหมรอบแผ่นเฟรม 3 รอบ แล้วตัดไหม ก็จะได้ไหมที่ยาวพอสำหรับใช้เย็บแล้วค่ะ ขั้นตอนการต่อแผ่นเฟรม มีดังนี้ค่ะ
จับแผ่นเฟรม 2 ชิ้นประกบด้านผิดเข้าหากัน
แทงเข็มผ่านช่องของชิ้นที่ไกลตัวเรา เหลือปลายไหมไว้ยาวประมาณ 1- 2 นิ้ว, จับปลายไหมไว้ตามแนวของแผ่นเฟรมทั้งสองแผ่น