วิธี เติม น้ำมัน เกียร์ ออ โต้

นำสาระความรู้และข้อมูลพร้อมคำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีการตรวจเช็คและวิธีเติมน้ำมันเกียร์ให้เป็นแนวทางแก่ผู้ใช้รถทุกท่านพร้อมรีวิวน้ำมันเกียร์ที่ดีมีคุณภาพมาให้ผู้อ่านได้นำไปเป็นประโยชน์สำหรับการดูแลรักษาระบบเกียร์รถยนต์ของท่านให้มีประสิทธิภาพสำหรับรถยนต์ของท่านต่อไป


แนะนำการเช็คสภาพและวิธีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์พร้อมแนะนำน้ำมันเกียร์ของดีมีคุณภาพ

น้ำมันเกียร์เป็นสารประกอบน้ำมันที่ใช้หล่อลื่นระบบเกียร์ในรถยนต์ที่ต้องการการตวรสภาพพร้อมการบำรุงรักษาให้อยู่ในปริมาณและสภาพที่ดีอยู่เสมอ ซึ่งวิธีที่ง่ายและดีที่สุดคือนำรถยนต์ของเราเข้าตรวจสภาพและปริมาณของน้ำมันเกียร์ว่ายังปกติอยู่หรือไม่ที่ศูนย์บริการรถยนต์ทั่วไปที่มีอยู่ทั่วไปซึ่งจะมีช่างผู้ชำนาญที่พร้อมให้คำแนะนำให้ช่วยเหลือในขั้นตอนการบำรุงรักษาน้ำมันเกียร์รถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของรถ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นที่ต้องทำด้วยตัวเองเราขอนำวิธีและขั้นตอนด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นกระบวนการตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ และวิธีการเปลี่ยนหรือเติมน้ำมันเกียร์แบบปกติทั่วไปเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านทุกท่านนำไปปฏิบัติดังนี้ 


ก้านวัดน้ำมันเกียร์ในห้องเครื่อง

แนะนำวิธีการตรวจเช็คน้ำมันเกียร์รถยนต์ด้วยตัวเอง 

1.จอดรถของคุณบนพื้นราบโดยที่เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่โดยผู้ขับอาจต้องเลื่อนเกียร์ผ่านตำแหน่งเกียร์แต่ละตำแหน่งที่มีอยู่ก่อนที่จะนำมาไว้ที่ตำแหน่งจอด หรือ สัญลักษณ์ (P) สำหรับเกียร์อัตโนมัติ

2 .ไปที่ห้องเครื่องรถยนต์ของท่านพร้อมเปิดฝากระโปรงรถยนต์ขึ้น

3. ดูที่ห้องเครื่องมองหาป้ายสัญลักษณ์ท่อน้ำมันเกียร์ติดไว้ หรือ ดูจากคู่มือการใช้งานของรถเพื่อหาตำแหน่งท่อน้ำมันเกียร์ กรณีไม่มีป้ายสัญลักษณ์กำกับไว้ พร้อมด้วยการสังเกตก้านวัดระดับน้ำมันบริเวณใกล้กระปุกน้ำน้ำมันเกียร์ ในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ก้านวัดระดับน้ำมันมักจะอยู่บริเวณด้านหลังของเครื่องยนต์ เหนือกระปุกน้ำมันเกียร์ส่วนในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ก้านวัดระดับน้ำมันมักจะอยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่องยนต์ และจะติดอยู่กับชุดเพลาส่งกำลัง และสำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ ก้านนี้จะอยู่ด้านขวาของกระปุกน้ำมันเกียร์

 4. ทำการวัดระดับน้ำมันเกียร์โดยดึงก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์ออกมา. เช็ดก้านวัดระดับน้ำมันบนเศษผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ ใส่ก้านลงไปใหม่ แล้วดึงออกมาอีกครั้งเพื่อตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์ โดยระดับน้ำมันควรอยู่ระหว่างเครื่องหมายทั้งสองแห่งที่ระบุว่า “Full” (เต็ม) และ “Add” (เติม) หรือ “Hot” (ร้อน) และ “Cold” (เย็น)" ปกติแล้วคุณไม่ควรจะต้องเติมน้ำมันเกียร์ ถ้าระดับน้ำมันต่ำกว่าเส้น “Add” หรือ “Cold” มากอย่างเห็นได้ชัด คุณอาจมีการรั่วซึมในระบบและควรนำรถไปหาช่างยนต์

5 .ตรวจเช็คสภาพน้ำมันเกียร์ จากลักษณะสีและสภาพของน้ำมันเกียร์กล่าวคือ น้ำมันเกียร์ที่ดีควรเป็นสีแดง (บางครั้งอาจเป็นสีชมพูหรือน้ำตาลอ่อน) โดยที่ไม่มีฟองหรือกลิ่น ถ้าน้ำมันเกียร์ของคุณมีสภาพดังต่อไปนี้ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ กรณีถ้าน้ำมันเกียร์เป็นสีน้ำตาลด่างๆ หรือมีกลิ่นคล้ายขนมปังไหม้ แสดงว่าน้ำมันเกียร์เดือดจนใช้งานไม่ได้และไม่สามารถกระจายความร้อนที่ระบบเกียร์สร้างขึ้นได้อีกต่อไป น้ำมันเกียร์สามารถนำไปทดสอบเพิ่มเติมได้โดยการป้ายน้ำมันลงบนกระดาษทิชชู่ที่สะอาดและรออีก 30 วินาที เพื่อดูว่าน้ำมันกระจายตัวหรือไม่ ถ้าไม่กระจายตัว ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทันที มิเช่นนั้น จะเกิดความเสียหายร้ายแรงกับระบบเกียร์ ถ้าน้ำมันเกียร์เป็นสีน้ำตาลขุ่น แสดงว่ามีการปนเปื้อนกับน้ำหล่อเย็นจากหม้อน้ำผ่านรอยรั่วในชุดระบายความร้อนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ควรนำรถไปพบช่างทันที หรือ ถ้าน้ำมันเกียร์เป็นโฟมหรือเป็นฟอง แสดงว่ามีน้ำมันในกระบอกสูบมากเกินไป ใช้น้ำมันเกียร์ผิดประเภท หรือรูระบายของระบบเกียร์ในเครื่องยนต์อุดตัน 

6.จากข้อสังเกตเบื้องต้นหากพบว่าน้ำมันเกียร์อยู่ในสภาพที่ต้องเปลี่ยนหรือต้องเติมใหม่ควรศึกษาวิธีการเปลี่ยนที่ถูกต้อง 

วิธีการตรวจวัดน้ำมันเกียร์

วิธีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์รถยนต์ หรือเติมน้ำมันเกียร์

เมื่อเราตรวจสอบสภาพของน้ำมันเกียร์เรียบร้อยหากจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์หากเราไม่สะดวกที่จะไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการที่มีช่างผู้ชำนาญบริการในส่วนนี้ให้ควรศึกษาและนำขั้นตอนการเติมน้ำมันเกียร์ด้วยตัวเองโดยมีวิธีดังนี้

วิธีการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์้ด้วยตัวเอง

1. เตรียมอุปกรณ์ ที่ต้องใช้ได้แก่ น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ,กรวยที่ออกแบบมาพอดีกับท่อน้ำมันเกียร์และเศษผ้าหรือกระดาษทิชชู่  พร้อมเปิดฝากระโปรงทิ้งรอทิ้งไว้พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์

2. ปล่อยให้เครื่องยนต์สตารท์ทิ้งไว้โดยเข้าเกียร์จอดรถและดึงเบรกมือขึ้น. เครื่องยนต์ของรถควรจะเดินเครื่องอยู่ตอนที่คุณเติมน้ำมันเกียร์ แต่คุณต้องอย่าลืมเข้าเกียร์จอดและดึงเบรกมือเพื่อความปลอดภัย

3. เพื่อความแน่ใจตรวจดูวิธีเติมน้ำมันเกียร์ที่ถูกต้องสำหรับรถของคุณในคู่มือมันจะบอกคุณว่าต้องใช้น้ำมันเกียร์ประเภทไหน และต้องมีคำแนะนำพิเศษสำหรับการเติมหรือเปล่า โดยก้านวัดน้ำมันเองก็อาจบอกคุณได้ว่าต้องใช้น้ำมันเกียร์ประเภทไหน โปรดสังเกตว่ามันมีน้ำมันเกียร์หลายประเภท แต่ละประเภทก็มีข้อมูลจำเพาะที่เหมาะกับระบบขับเคลื่อนของเครื่องยนต์แต่ละอย่างดูในคำแนะนำด้วยว่าคุณต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยขนาดไหน ในขณะที่คุณสามารถเติมน้ำมันเกียร์เวลาที่มันเริ่มเหลือน้อย ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายแนะนำว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุกๆ 50,000 ถึง 150,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับชนิดรถยนต์

4. วางกรวยลงในรูเสียบก้านวัดของระบบเกียร์ต้องใช้กรวยที่มีขนาดยาวมากเพื่อให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้เติมมากจนล้น

5. ค่อยๆ รินน้ำมันเกียร์ถูกประเภทลงในระบบเกียร์. เติมทีละน้อยในแต่ละครั้งเพื่อจะได้ไม่เติมจนล้น ส่วนที่ว่าเราต้องใช้น้ำมันเกียร์มากแค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังทำอะไร หรือเรากำลังจะเติมน้ำมันเกียร์ให้เต็มหรือเปล่าให้สังเกตว่าน้ำมันเกียร์มีติดอยู่แค่ปลายก้านวัดให้เริ่มเติมน้ำมันเกียร์ประมาณสามส่วนสี่ควอร์ตไปจนถึงหนึ่งควอร์ต (ราวหนึ่งส่วนสี่แกลลอน) พร้อม เช็คระดับน้ำมันเกียร์อีกครั้งแล้วเติมลงไปคราวละ 1/4 ควอร์ตจนกระทั่งระดับเพิ่มขึ้นมาถึงขีดสูงสุดหากเรากำลังซ่อมระบบเกียร์อยู่โดยใช้ถาดรองและเปลี่ยนฟิลเตอร์หรือเปล่าการซ่อมแบบนี้มักจะใช้น้ำมันเกียร์ราว 4 ถึง 5 ควอร์ตเพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียลงไปในถาดรอง ในกรณีที่เราต้องการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทั้งหมดจะต้องใช้น้ำมันเกียร์ราว 9 ถึง 13 ควอร์ตเพื่อเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ทั้งระบบ

6. เพื่อให้แน่ใจว่าเราอ่านค่าการเติมน้ำมันเกียร์ถูกต้องให้เราจอดรถอยู่กับที่พร้อมปลดเบรกและเปลี่ยนเกียร์ไปทุกตำแหน่งใช้เวลาประมาณ 1 นาที ในเกียร์แต่ละตำแหน่งเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเคลือบน้ำมันอย่างเหมาะสม เมื่อทำเสร็จแล้ว ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อสักสองถึงสามนาที ก่อนที่จะเลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่งจอด (P) มันจะช่วยไหลเวียนน้ำมันเกียร์ไปทั่วระบบและให้แน่ใจว่าคุณอ่านค่าได้ถูกต้อง

7. เมื่อปฏิบัติตามวิธีการในข้อเบื้องต้นแล้วให้ตรวจระดับน้ำมันเกียร์อีกครั้งโดยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มแต่ถ้าต้องทำจะต้องค่อยๆ รินมันลงไปไม่ควรเทลงไปหมดในคราวเดียวเพราะรถยนต์ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเกินระดับ 0.5 ลิตร

8. เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในการเติมน้ำมันและการทดสอบระดับน้ำมันเกียร์แล้วให้นำก้านวัดใส่กลับคืนในรูเกียร์และให้แน่ใจว่ามันแน่นอยู่กับที่โดยหมุนจนกระทั่งมันเข้าล็อคหรือไม่ก็ต้องกดสลักบนก้านวัดให้ล็อคเข้าตำแหน่ง และเสร็จสิ้นวิธีเบิ้องต้นคราวนี้ น้ำมันเกียร์ของรถเราก็อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว และรถยนต์ของเราก็สามารถแล่นได้ตามปกติ

รีวิวน้ำมันเกียร์ยี่ห้อมาตรฐานคุณภาพดีที่ควรซื้อ

1. PTT [AUTOMAT]  ออโต้แมท ราคา: 850 บาท 

รายละเอียดและคุณสมบัติ:  น้ำมันเกียร์คุณภาพสูง เหมาะสำหรับเกียร์อัตโนมัติที่แนะนำมาตรฐาน DEXRON III และพวงมาลัยเพาเวอร์ของรถยนต์ เหมาะสำหรับเกียร์อัตโนมัติทั่วไป ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทั้งจากยุโรป ญี่ปุ่น และอเมริกา ที่ต้องการมาตรฐาน DEXRON III, MERCON หรือต่ำกว่า สามารถใช้เป็นน้ำมันพวงมาลัยผ่อนกำลังได้ มีคุณสมบัติพิเศษ ทำให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลไม่สะดุด ป้องกันการสึกหรอ และทนความร้อนดีเยี่ยมไม่ทำปฏิกิริยากับซีล และลูกยางต่างๆ

2. PTT ออโต้แมท ซีวีที  ราคา 885 บาท 

รายละเอียดและคุณสมบัติ: น้ำมันเกียร์สังเคราะห์ 100% คุณภาพสูง เหมาะสำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งแบบสายพาน และโซ่ของรถยนต์นั่งทุกชนิด โดยเหมาะสมกับรุ่นต่าง ๆ ตามตาราง คำเตือน : ไม่แนะนำให้ใช้กับระบบซีวีทีในรถยนต์ไฮบริด และระบบทอรอยดอล ซีวีที ออกแบบสำหรับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งแบบ Push Belt (VDT Belt) และ แบบ Pull Belt (Chain Type) ทุกรุ่น และสามารถใช้เป็นน้ำมันพวงมาลัยผ่อนกำลังได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้กับระบบ E-CVT and Toroidal CVT

3. น้ำมันเกียร์ Shell SPIRAX S5 ATF X สำหรับเกียร์ Auto ATF   ราคา 899 บาท

รายละเอียดและคุณสมบัติ: ป้องกันการกัดกร่อนจากความร้อนและปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้ดีเยี่ยม พร้อมทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม ยืดอายุการใช้งานของเครื่องเกียร์ได้ยาวนาน และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งในอุณหภูมิต่ำ และอุณหภูมิสูง

4. น้ำมันเกียร์ SHELL SPIRAX S2 G140  ราคา 640 บาท

รายละเอียดและคุณสมบัติ: SHELL SPIRAX S2 G140 เป็นน้ำมันหล่อลื่นเกียร์รถยนต์ที่มีสารเพิ่มคุณภาพ ประเภทมัลติฟังก์ชั่นที่จำเป็นสำหรับการใช้งานภายใต้สภาพที่มีความกดดันสูงปลานกลาง เชลล์สไปแร็กซ์ S2 G 140 เหมาะสำหรับการใชกับชุดเฟืองท้ายและชุดเกียร์ของเกียร์ธรรมดาทีมีการบรรทุกงานหนักปานกลาง โดยมีคุณสมบัติ ป้องกันการสึกหรอได้ยอดเยี่ยมพร้อมต้านทานการเป็นสนิม และคงทนต่อการเสื่อมสภาพได้ดี เหมาะสำหรับจักรยานยนต์ รถยนต์นั่ง และรถทั่วไปที่ใช้เพื่อการพาณิชย์

5. Caltex Havoline® ATF-J  ราคา 910 บาท

รายละเอียดและคุณสมบัติ: Caltex Havoline® ATF-J  เป็นน้ำมันเกียร์อัตโนมัติอเนกประสงค์คุณภาพสูง ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์บริสุทธิ์สูง ทนความร้อนจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้อย่างเหนือชั้น มีค่าความหนืดต่ำ ลดแรงเสียดทานในระบบส่งกำลัง จึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิงทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างราบรื่น พร้อมยืดอายุการใช้งานของเกียร์ได้นานที่สุด รวมถึงยืดระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน เพราะเป็นน้ำมันพื้นฐานสมรรถนะสูงที่ผ่านการไฮโดรแครก (hydrocrack) และมีสารเพิ่มคุณภาพประสิทธิภาพสูง ช่วยให้มีเสถียรภาพทนต่อความร้อน และทนต่อการเกิดออกซิเดชั่นได้อย่างเหนือชั้น ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ และการสะสมตัวของคราบเขม่า มีสารเพิ่มดัชนีความหนืดที่ช่วยต้านทานการหยุดชะงักของเครื่องยนต์ภายใต้สภาวะการทำงานที่มีแรงเฉือนสูงที่มักพบในเกียร์รุ่นในใหม่ และคงสภาพความแข็งแรงของชั้นฟิล์มได้ยาวนาน

6. Caltex Havoline® Full Synthetic Multi-Vehicle ATF  ราคา 990 บาท

รายละเอียดและคุณสมบัติ: Caltex Havoline® Full Synthetic Multi-Vehicle ATF ฮาโวลีน เอทีเอฟ-เจ น้ำมันเกียร์อัตโนมัติอเนกประสงค์คุณภาพสูง ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ ทนความร้อนจากปฎิกริยาออกซิเดชั่นได้ดีเยี่ยมทำให้ระบบเกียร์ทำงานราบรื่น นุ่มนวลด้วยการผสมผสานของสารปรับแรงเสียดทานและสารเพิ่มดัชนีความหนืดจึงทำให้เกียร์ทำงานราบรื่นนุ่มนวลในทุกการขับขี่ พร้อมยืดอายุการใช้งานของน้ำมันเกียร์ และทนความร้อนจากปฏิกิริยายาออกซิเดชั่นได้ดี ช่วยให้น้ำมันเสื่อมสภาพช้า สารเพิ่มดัชนีความหนืดที่ทนต่อแรงเฉือนได้ดี ตึงทำให้ค่าความหนืดของน้ำมันคงที่ตลอดอายุการใช้งาน พร้อมยืดอายุการใช้งานของเกียร์ ด้วยออกแบบสำหรับเกียร์รุ่นใหม่ที่มีรถบบ Torque Converter Lock-Up ใช้สารเพิ่มคุณภาพที่ป้องกันเกียร์กระตุกระหว่างเปลี่ยนเกียร์ และช่วยป้องกันการสึกหรอของแผ่นคลัทช์ ชุดเกียร์ และลูกปืน

หมายเหตุ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นสำหรับน้ำเกียร์ยี่ห้อดีมีคุณภาพสำหรับรถยนต์ทั่วๆไป ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกครั้งต้องเลือกน้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมสำหรับยี่ห้อและประเภทรถยนต์ของท่านหากผู้อ่านต้องการได้น้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมกับรถยนต์ของท่านสามารถสอบถามและเข้ารับบริการถามศูนย์บริการรถยนต์มาตรฐานทั่วไปสำหรับคำแนะนำต่างๆเกี่ยวกับน้ำมันเกียร์ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับรถยนต์ของท่านต่อไป

ดูเพิ่มเติม

  • อะไหล่รถยนต์ส่วนใดควรเปลี่ยนเมื่อรถครบ 3 ปี
  • เผยเคล็ดลับดูแลรถเก่าให้อยู่คู่คนขับไปนานๆ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง