ขูดหินปูนด้วยตัวเอง ทำง่ายๆ ผมแค่ซื้อที่ขูดซอกฟันมาขูดๆ มันก็หลุดแล้ว
การแปรงฟันให้ถูกวิธี ใช้น้ำยาบ้วนปาก ไหมขัดฟัน มันก็ช่วยลดการเกิดหินปูนได้จริง แต่หินปูนก็เกิดขึ้นอยู่ดี
ผมก็ลองซื้อที่ขูดซอกฟันมาอันนึง ขูดตามซอกฟันด้านใน มันก็สะกิดเศษหินปูนออกมาได้เป็นเม็ดๆเลย
หมอฟันปกติก็แนะนำให้ไปขูดหินปูนปีละ 2 ครั้ง ถ้าเราทำเองแบบนี้ก็ลดได้เหลือปีละครั้ง แถมช่วยลดการเกิดปัญหาสะสมอีก
แปลกที่ตั้งแต่โตมา
ไม่เคยมีใครสอนว่าให้ซื้อที่ขูดมาขูดเอง ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
จะมองว่าไปร้านทำฟันขูดก็ง่ายๆสบายๆ แค่นี้ไม่ยอมไป มันก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว
บางทีคนเราก็มีความจำเป็นในการประหยัด ในการรักษาสุขภาพ บางคนก็อยู่ไกลจากตัวเมือง ไม่มีร้านทำฟัน เดินทางมีค่าใช้จ่าย
องค์ความรู้พวกนี้ ถ้าทำให้ประชาชนดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ดียิ่งขึ้น สุขภาพของคนเราก็จะดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้นตามลำดับ
ลองเสิร์ชไปก็เจอคลิปสอนวิธีขูดหินปูนด้วยเอง เป็นการสาธิตกับอุปกรณ์
คราบหินปูนที่เกาะตามไรฟันนอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้ว มันยังสามารถทำลายเนื้อฟันของเราได้ด้วยนะคะ อย่าชะล่าใจปล่อยไว้ให้พอกพูนขึ้นมาเด็ดขาด แต่ช่วงนี้อาจไม่สะดวกในการไปพบทันตแพทย์ Lab Society จะมาแนะนำวิธีกำจัดคราบหินปูนด้วยตัวเอง ทำง่าย ๆ ด้วยของใช้ใกล้ตัว
- น้ำมะนาวกู้ฟันขาวกลับคืน
หลักวิทยาศาสตร์ง่าย ๆ เลยค่ะ การใช้กรดเพื่อกัดกร่อนหินปูน ซึ่งกรดที่หาได้ง่าย ๆ และไม่เป็นอันตรายต่อช่องปากก็คือน้ำมะนาวนั่นเอง อดทนเปรี้ยวนิดนึง อาจเสียงฟันหน่อย ๆ เพียงอมทิ้งไว้สักพักแล้วบ้วนทิ้ง จากนั้นแปรงฟันตามปกติ วิธีนี้หินปูนตามซอกฟันจะหลุดออกมาอย่างแน่นอน
- น้ำมันมะพร้าว ฟันขาวได้ไม่ยาก
นี่เป็นการทำออยล์พูลลิ่ง หรือการใช้น้ำมันดึงคราบจุลินทรีย์ เพียงใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์อมกลั้วไว้ในปากประมาณ 10 นาที แล้วบ้วนทิ้ง หรือไม่ก็กลั้วปากจนกว่าน้ำมันมะพร้าวจะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น แล้วแปรงฟันตามปกติ สูตรนี้สามารถใช้ได้ทุกวัน ดีต่อเหงือก ดีต่อสุขภาพช่องปากด้วยนะ
- กานพลู อมทุกวัน ดีทุกวัน
กานพลูสมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาสุขภาพในช่องปาก เพียงเคี้ยววันละก้านก็สามารถช่วยรักษาสุขภาพเหงือก ลดการอักเสบในช่องปาก แต่ถ้าต้องการขจัดคราบหินปูน แนะนำให้ใช้กานพลูบดเป็นผง ผสมน้ำมันมะกอกแล้วแปรงฟันตามปกติ รับรองว่าคราบหินปูน คราบจุลินทรีย์ต่าง ๆ จะลดลงอย่างแน่นอน
- ชาดำ ดำดี มีคุณประโยชน์
ใครที่ชอบดื่มชามีเฮ เพราะชาดำ ชาเขียวมีคุณสมบัติในการต่อต้านการสะสมของแบคทีเรีย ชาดำอุดมไปด้วยฟลูออไรด์ สามารถป้องกันฟันผุ ลดการสะสมของหินปูน เพียงนำน้ำชาดำมาอมบ้วนไว้ในปากวันละครั้งก่อนแปรงฟัน เพื่อช่วยให้คราบหินปูนหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น
- ผงฟู เบกกิ้งโซดา
บ้านไหนไม่มีผงฟูถือว่าเชยมากจ้า เพราะเจ้าผงฟูใช้ซักผ้าก็ได้ ขัดผิวก็เขียน แถมขจัดคราบหินปูนได้อีก เพียงใช้ผงฟูแตะลงยาสีฟันเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็แปรงฟันตามปกติ ล้างออกด้วยน้ำอุ่น อีกวิธีคือใช้ผงฟูผสมกับเกลือแล้วแปรงฟัน แต่สูตรนี้ใช้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์
- ว่านหางจระเข้
แต่หลายคนอาจไม่ชอบกลิ่นของว่านหางจระเข้สด ฉะนั้นต้องล้างเมือกลื่น ๆ ออกให้หมด จากนั้นนำเนื้อใส ๆ ของว่านหางจระเข้มาถูกับร่องฟันและเหงือก ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก บอกได้คำเดียวว่าแจ่ม เพราะว่านหางนี้มีฤทธิ์คล้ายกับน้ำยาบ้วนปากนั่นเอง
ง่ายใช่ไหมคะ ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอก็มีฟันที่ขาวสะอาดได้ง่าย ๆ แถมไม่สะเทือนกระเป๋า อยากมีรอยยิ้มที่สดใส ต้องดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีนะคะ
ยามที่คุณกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารจานโปรดอยู่นั้น ซี่งนอกจากความสุขของการรับประทาน ทั้งดื่ม ชิม กิน อย่างเพลิดเพลินแล้ว เราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย ต่างก็แทบจะไม่คิดเรื่องอะไรเลย เพราะสมาธิต่างๆ จะถูกจดจ่อไปกับการกินไปทั้งหมดทั้งสิ้น และ ถึงขั้นละเลยจนเราอาจจะชะล่าใจในบางคราวก็เป็นได้ แต่ถ้าเมื่อยามเสร็จสิ้นภารกิจแห่งความสำราญในการกิน ชิม หรือ ดี่มแล้ว หลายๆ คน ก็ไปทำภารกิจอื่นๆ ต่อ ไปโดยไม่ใส่ใจเรื่องในช่องปากเลย หรือถ้าดีประมาณหนึ่ง อาจจะทำได้แค่บ้วนปากให้พอสะอาดเรียบร้อยแบบคร่าวๆ จนแทบจะไม่ใส่ใจเลย โดยหารู้ไม่ว่า เศษอาหารที่คุณ คุณ และคุณ ได้ทานไปนั้น กำลังจะรวมตัวเป็น “หินปูน” อย่างเงียบๆ หินปูนนี้ ดูเผินๆ แทบจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ถ้าหากปล่อยปละละเลยไปไม่สนใจ บางทีสุขภาพฟันของคุณอาจจะมีผลกระทบอย่างไม่ตั้งใจ แล้วเผลอๆ ถ้าเวลายิ้มแล้วมีหินปูนเกาะด้วยแล้ว อาจจะดูไม่สวยงาม เผลอๆ โดนตอกกลับมาด้วยซ้ำ แต่อย่าเพิ่งเสียใจไป เรามีความรู้เกี่ยวกับ ‘หินปูน’ มาให้ทราบกัน และ วิธีที่จะช่วยให้หินปูน แยกจากฟันของเราออกไปเสียที คราบหินปูน คือคราบแบคทีเรียที่สะสมจากน้ำลายรวมกับเศษอาหารและบวกกับเชื้อแบททีเรียจน แข็งตามตัวฟัน ซึ่งเชื้อตัวนี้ จะสามารถย่อยอาหารและหลั่งกรดออกมาทำลายเนื้อฟันทีละนิด แถมสามารถจับตัวที่ร่องเหงือกได้อีกด้วย ซึ่งหากปล่อยสะสมไว้นานวัน ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อเหงือก ซึ่งจะนำไปสู่โรคที่อันตรายต่อช่องปากอย่างฟันผุ และ โรคเหงือกนอกจากนี้ หินปูน ยังส่งผลให้ความสวยงามในการยิ้ม เพราะ หินปูนจะดูดซับคราบสกปรกได้ง่ายกว่า อาจจะทำให้ยิ้มไม่สวยงามอีกด้วย สาเหตุปัจจัยเสี่ยงของการเกิดหินปูน แน่นอนมีปัจจัยต่างๆ มากมาย ที่ทำให้เกิด เช่น การสูบบุหรี่, นอนกัดฟัน,การทานอาหารโดยเฉพาะที่มีน้ำตาล, ปากแห้ง,โรคประจำตัวที่มีอยู่ เช่น เบาหวาน, ฟันสบกันไม่ดี, มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่างกาย หรือการใช้ยาประเภท ยาลดความดันโลหิต เป็นต้น คราบหินปูนกับช่วงเวลา ภายใน 24 ชั่วโมงหินปูนจะก่อให้เกิดคราบในช่องปากก่อน จากนั้น เมื่อครบ 48 ชั่วโมง จะค่อยๆ แพร่เชื้อโรค และทยอยปล่อยสารทำลายฟัน หากเราปล่อยปละละเลยในการใส่ใจดูแล ในที่สุด วิธีแก้ปัญหาเจ้าหินปูน สำหรับการแก้ปัญหานั้น เราก็สามารถจัดการได้โดยไม่ต้องพึ่งคนรอบข้าง ได้แก่ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม ปลายมนไม่แหลม ส่วนการแปรงให้เน้นตรงรอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน ส่วนยาสีฟันที่ใช้ ควรมีส่วนผสมของฟลูออไรต์ประกอบอยู่ ซึงถ้าจะให้ดี ควรใช่ไหมขัดฟันช่วยได้เช่นเดียวกัน แต่ใช้ได้แค่วันละครั้งเท่านั้น, ไม่ควรทานอาหารบ่อย หลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมหวาน ซึ่ง ผักและผลไม้ น่าจะเป็นอาหารว่างที่ดีทีสุดสำหรับสุขภาพปากและฟัน และควรตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน หากไม่อยากมีปัญหา ขอขอบคุณแหล่งที่มาของรูปภาพและบทความจาก
|