บทที่ ๕ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
ผู้แต่ง
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ เจ้าฟ้ากุ้ง ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ ๑ ในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อพระราชบิดาขึ้นครองราชย์ได้สถาปนาตั้งเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงมีพระนิสัยสืบมาจากบรรพชนหลายประการ คือมีพระนิสัยเป็นกวีอย่างสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงดุดันเหมือนสมเด็จพระเจ้าเสือ เพราะครั้งหนึ่งเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงใช้พระแสงดาบไล่ฟันกรมขุนสุเรนทรพิทักษ์ ซึ่งดำรงเพศเป็นภิกษุจึงต้องหนีไปผนวชอยู่เป็นเวลา ๒ ปี ณ วัดโคกแสง เพื่อให้พ้นพระราชอาญาและได้ทรงนิพนธ์หนังสือเกี่ยวกับศาสนา ๒ เรื่อง คือ นันโทปนันทสูตรคำหลวง กับพระมาลัยคำหลวง เจ้าฟ้ากุ้งได้ลาสมณเพศเมื่อ พ.ศ.๒๒๘๔ พระบิดาคงจะประทานอภัยหายกริ้วแล้ว จึงโปรดให้ดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราช ในระหว่างนี้คงจะได้นิพนธ์เรื่องทำนองพิศวาสที่ทำให้พระองค์ได้ชื่อเสียงว่าเป็นกวีเอกผู้หนึ่ง คือ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาทและดีที่สุด คือ กาพย์เห่เรือ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. ๒๒๙๘ เพราะทรงเป็นชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลซึ่งเป็นพระสนมในพระราชบิดาเป็นเหตุให้ต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ งานนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรที่รู้จักแพร่หลาย คือ นันทโปนันทสูตรคำหลวง พระมาลัยคำหลวง กาพย์เห่เรือ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาทและเพลงยาว
ลักษณะคำประพันธ์
กาพย์ห่อโคลง คำ ประพันธ์ประเภทกาพย์ห่อโคลง มีลักษณะทางฉันทลักษณ์ดังนี้ ขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี 1 บท แล้วตามด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บทใจความเหมือนกัน กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง นั้นมีกาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพรวม 108 คู่ และโคลงปิดท้ายมี 2 บท
จุดประสงค์ในการแต่ง
เป็นบทชมธรรมชาติ เพื่อความเพลิดเพลินในการเดินทาง เพื่อพรรณนากระบวนเสด็จทางสถลมารคจากท่าเจ้าสนุกถึงธารทองแดง และพรรณนาธรรมชาติบริเวณธารทองแดง
ที่มาของเรื่อง
หนังสือปริทรรศน์ วรรณคดีไทยของนายตำรา ณ เมืองใต้ ธารทองแดงเป็นชื่อธารน้ำที่อยู่ในบริเวณพระพุทธบาท เป็นที่น่ารื่นรมย์ด้วยธรรมชาติสัตว์ต่างๆพันธุ์ไม้ต่างๆ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรได้เสด็จประพาสป่าและทรงพรรณนาลักษณะของสัตว์ความงามของต้นไม้ดอกไม้ไว้อย่างละเอียดในกาพย์ห่อโคลงเรื่องนี้
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง หรือ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารทองแดง งานพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ ทรงพระนิพนธ์ขึ้นคราวตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไปทรงนมัสการรอยพระพุทธบาทสระบุรี คราวเดียวกับที่ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือและกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๖๖ แจกในการกฐินพระราชทานจางวางโท พระยาไพศาลศิลปศาสตร์ ปลัดทูลฉลองกระทรวงศึกษาธิการ ณ วัดกาญจนสิงหาศน์
เมื่อกรมศิลปากรตรวจสอบชำระและพิมพ์เผยแพร่ในพ.ศ. ๒๕๐๕ ธนิต อยู่โพธิ์ กล่าวถึงต้นฉบับเอกสารสมุดไทยเรื่องนี้ว่า
“...เสียดายที่กาพย์ห่อโคลงนิราศธารทองแดงค้นพบฉบับที่เหลือมาได้ไม่ครบถ้วน ปีบอกไว้ชัดเจนในต้นฉบับ สมุดไทยหมายเลข ๕๕ ว่า มีพระกาพย์ ๒๐๕ บท มีพระโคลงประจำกาพย์ ๒๐๕ บท กับพระโคลง (นำเรื่องและท้ายเรื่อง) ๗ บท แต่เท่าที่พบฉบับในบัดนี้ คงมีกาพย์เพียง ๑๐๘ บท และโคลงประจำกาพย์ ๑๐๔ บท กับโคลงท้ายเรื่องอีก ๕ บท ยังคงค้นไม่พบอีกราวครึ่งเรื่อง เข้าใจว่าตอนต้นเรื่องคงหายไปราวหนึ่งเล่มสมุดไทย...”
ต่อมา ล้อม เพ็งแก้ว ได้พบตัวอย่างกาพย์ห่อโคลง ๘ บท ซึ่งแทรกอยู่ในต้นฉบับเอกสารสมุดไทย แบบเรียนโบราณเรื่อง มณีจินดา และได้เสนอความเห็นว่า กาพย์ห่อโคลงทั้ง ๘ บทนี้น่าจะเป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ และน่าจะรวมอยู่ในเรื่องกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เพราะสำนวนนั้นคล้ายคลึงกัน ซึ่งในการจัดพิมพ์ครั้งนี้ ได้นำมาพิมพ์รวมไว้ในตอนท้ายเรื่องแล้ว
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงประกอบด้วยคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลง ๑๐๘ บท และโคลงสี่สุภาพลงท้ายจำนวน ๕ บท ส่วนที่เป็นกาพย์ห่อโคลงแต่งด้วยกาพย์ยานี ๑๑ สลับกับโคลงสี่สุภาพบทต่อบท เนื้อความที่ปรากฏในกาพย์และโคลงจะคล้ายคลึงกัน
ด้านเนื้อหา กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงกล่าวถึงขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ตั้งแต่ขึ้นจากท่าเจ้าสนุก เดินทางรอนแรมไปในป่า จนถึงธารทองแดง และตำหนักธารเกษม ซึ่งเป็นตำหนักที่ประทับที่บูรณะในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ระหว่างการเดินทางกวีพรรณนาถึงสัตว์ป่าขนิดต่าง ๆ เช่น ช้าง กระบือ กวาง กระทิง หมี เสือโคร่ง เสือเหลือง เสือดาว ระมาด โคแดง โคเพลาะ ละมั่ง เลียงผา งูเหลือม ฯลฯ พรรณนาพืชพรรณธรรมชาติ เช่น พุทธชาด เพกา สาเก มะยม ไม้ดอก ไม้ผล และไม้ยืนด้น ฯลฯ ในตอนท้ายเรื่อง กล่าวถึงรายละเอียดผู้แต่ง วัตถุประสงค์การแต่ง และแสดงคุณค่าด้านความไพเราะงดงามของวรรณคดีเรื่องนี้