หากมีอาการเหงือกอักเสบ เหงือกบวมเช่นนี้อย่านิ่งนอนใจ เพราะถึงแม้จะเป็นอาการเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่ก็นำไปสู่โรคเหงือกและฟันที่รุนแรง และอาจจะถึงขั้นสูญเสียฟันซี่สำคัญไปถ้าหากทำการรักษาไม่ทันเวลา
รู้แบบนี้เแล้วก็หาเวลามาพบทันตแพทย์สักหน่อย พร้อมกับเช็กอาการกันดูซิว่า เหงือกอักเสบ เหงือกบวมที่เป็นอยู่นี้คืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง และจะรักษาและป้องกันอาการเหงือกอักเสบและเหงือกบวมได้อย่างไร
ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตรวจสอบอาการที่เป็นอยู่ และอ้าปากสำรวจไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า!
อาการเหงือกอักเสบ เหงือกบวมเป็นอย่างไร
ผู้ที่มีอาการเหงือกบวม เหงือกอักเสบนั้นมักจะมีอาการขอบเหงือกแดง มีเลือดออกขณะแปรงฟัน เวลารับประทานอาหารมักมีเศษอาหารติดตามซอกฟัน อาจมีอาการเจ็บเวลาเคี้ยวอาหารร่วมด้วย รวมถึงสีของเหงือกจะเปลี่ยนไปจากสีชมพูอ่อนหรือจากสีเดิมกลายเป็นสีแดงเข้ม หรือมีอาการบวมที่สังเกตเห็นได้จนขยายตัวจนปิดคลุมฟันบริเวณนั้น
ซึ่งถ้าปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาก็จะทำให้มีคราบจุลินทรีย์สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการสูญเสียกระดูกเบ้าฟัน หลังจากนั้นก็จะเกิดอาการเหงือกร่นตามมาทำให้เห็นฟันยาวขึ้นผิดปกติ หลังจากนั้นจะมีอาการฟันเคลื่อนหรือฟันโยก ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเคี้ยว และสุดท้ายอาจร้ายแรงจนถึงสูญเสียฟันไปแบบถาวรได้เลย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเหงือกอักเสบและเหงือกบวม
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปาก
การดูแลและทำความสะอาดเหงือกและฟันที่ไม่ดีพอนับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอาการเหงือกอักเสบและเหงือกบวมขึ้นมาได้ เนื่องจากมีคราบจุลินทรีย์สะสมบนตัวฟัน หรือที่เรียกกันว่า คราบพลัค (Plaque) สะสมอยู่เรื่อยๆ จากการแปรงฟันด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ในเบื้องต้นอาจจะมีอาการเหงือกบวมแดง ในบางกรณีที่มีเหงือกบวมมากๆ เหงือกอาจจะบวมจนปกคลุมฟันในบริเวณนั้นๆ ได้ และถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะเกิดอาการอักเสบของเหงือก รวมถึงเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ตัวฟัน ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฟันโยก ฟันหลุด หรือถูกถอนฟันออกไปในที่สุด
ปัจจัยอื่นๆ
อย่างเช่น ภูมิต้านทานต่ำ, ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงพบได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในช่วงตั้งครรภ์สูงขึ้น เหงือกอ่อนแอติดเชื้อได้ง่าย การนอนกัดฟัน การสูบบุหรี่ ซึ่งผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดโรคปริทันต์อักเสบมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ปัญหาฟันคุด เป็นต้น ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำให้ร่างกายอ่อนแอ ส่งผลให้เหงือกอักเสบได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
วิธีการรักษาและป้องกันอาการเหงือกอักเสบ เหงือกบวม
การเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำ
หากมีอาการเหงือกบวมและเหงือกอักเสบ แนะนำให้เข้าพบกันทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยทันตแพทย์จะทำการขูดหินปูนที่แข็งตัวออกจากฟันและร่องเหงือก ถ้ามีอาการมากอาจต้องทำการรักษารากฟันร่วมด้วย ซึ่งถ้าหากทำการรักษาแล้ว และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการเข้าพบกับทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อทำการตรวจสุขภาพภายในช่องปากทุก 6 เดือน ก็จะช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบและเหงือกบวมได้ รวมถึงถ้าหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอีกก็จะสามารถรักษาอาการได้อย่างทันท่วงทีด้วย
2.การแปรงฟันอย่างถูกวิธี
การป้องกันที่ต้นเหตุที่ดีที่สุดเลยก็คือ การเริ่มต้นแปรงฟันด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการแปรงบริเวณขอบเหงือกที่หลายคนอาจละเลย ซึ่งหากทำความสะอาดได้ไม่ดีพอก็จะนำไปสู่การเกิดอาการเหงือกบวม และนำไปสู่อาการเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ได้
โดยวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องเริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยวางแปรงไว้บนขอบเหงือกครึ่งหนึ่งและตัวฟันครึ่งหนึ่งให้ในมุม 45 องศา หลังจากนั้นใช้แรงแปรงเบาๆ เป็นวงกลมสั้นๆ เน้นแปรงไปทีละซี่ โดยแปรงวนซี่ละ 5-10 ครั้ง และขยับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบทุกซี่และครบทุกด้านของฟัน เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันการเกิดอาการเหงือกบวมและเหงือกอักเสบได้แล้ว
3.การใช้แปรงซอกฟัน
แปรงซอกฟันเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการทำความสะอาดบริเวณซอกฟันที่ขนของแปรงสีฟันธรรมดาอาจจะเข้าไปทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งก็ควรพกติดตัวไว้และใช้งานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียที่อาจสะสมจนกลายเป็นคราบพลัคในระหว่างวัน (ดูวิธีการใช้งานแปรงซอกฟันจากคู่มือ เทคนิคการใช้แปรงซอกฟัน จาก Curaprox เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องได้เลย)
จะรู้ได้อย่างไรว่าหายจากอาการเหงือกอักเสบ เหงือกบวมแล้ว
สำหรับใครที่อยากจะรู้ว่า อาการเหงือกอักเสบ เหงือกบวมนั้นหายดีหรือยัง สามารถตรวจสอบได้จากอาการต่างๆ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ รวมถึงดูว่า เหงือกนั้นกลับมามีสุขภาพดีเหมือนปกติหรือเปล่า
โดยเหงือกที่มีสุขภาพดีนั้นจะต้องมีสีชมพูอ่อนๆ หรือถ้ามีสีเข้มกว่านั้นก็ได้ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมหรือลักษณะในแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่มักมีสีเฉดเดียวกันทั้งหมด และควรที่จะมีขอบเรียบชิดและติดกับตัวฟันโดยมีลักษณะเป็นขอบแหลมตามแนวคอฟัน เนื้อแน่นแต่ไม่บวม ซึ่งถ้าคุณปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด แปรงฟันด้วยวิธีการที่ถูกต้องด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มที่ไม่เป็นอันตรายต่อเหงือกและฟัน รวมถึงหมั่นเข้ารับการตรวจสุขภาพภายในช่องปากและฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยทำให้เหงือกของคุณกลับมามีสุขภาพที่ดีได้ดังเดิม
อยากมีเหงือกที่แข็งแรง ปราศจากอาการเหงือกอักเสบและเหงือกบวมอันแสนทรมาน อย่าลืมดูแลสุขภาพภายในช่องปากให้ดีด้วยวิธีการที่เราแนะนำ รับรองว่า จะช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์สะสมบริเวณขอบเหงือกออกให้หมดได้ง่ายๆ หมดกังวลในเรื่องปัญหาสุขภาพเหงือกและฟันอย่างแน่นอน