บริการด้านบัตรเครดิต
บริการดีจัง แบ่งชำระรายเดือน
ทุกเรื่องช้อปแบ่งจ่ายได้กับบริการดีจัง ขอแบ่งชำระ
ดีจัง แบ่งชำระรายเดือน
บริการดีจัง แบ่งชำระรายเดือน ช่วยให้ท่านสนุกกับการใช้จ่าย โดยเปลี่ยนยอดใช้จ่ายสินค้าและบริการจากยอดเต็มจำนวนเป็นการผ่อนชำระแบบรายเดือนเบาๆ สำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ด้วยดอกเบี้ยพิเศษที่ให้ท่านเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 36 เดือน
ดอกเบี้ยเพียง 0.74% ต่อเดือน*
รับดอกเบี้ยเพียง 0.74% ต่อเดือน* (แบบคงที่) สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 4, 6, 9, 10 เดือน หรือ ดอกเบี้ยต่ำเพียง 16% ต่อปี (แบบลดต้นลดดอก) สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 18, 24, 36 เดือน เมื่อทำรายการผ่านช่องทาง SCB EASY APP & SCB EASY NET
ปิดยอดผ่อนชำระก่อนครบกำหนด ไม่เสียค่าธรรมเนียม
กรณีต้องการปิดยอดผ่อนชำระต่อเดือนทุกงวดก่อนครบกำหนด สามารถทำได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเพียงแจ้งความประสงค์ผ่าน SCB Call Center 0 2777 7777
ตัวอย่างตารางการผ่อนชำระ
10,000 | 2,574 | 1,741 | 1,324 | 1,074 |
50,000 | 12,870 | 8,703 | 6,620 | 5,307 |
100,000 | 25,740 | 17,410 | 13,240 | 10,740 |
300,000 | 77,220 | 52,220 | 39,720 | 32,220 |
* ในตัวอย่างคำนวณดอกเบี้ย 0.74% ต่อเดือน
ง่ายๆ เพียงทำรายการผ่านช่องทาง
1. ล็อคอินเข้าใช้งาน SCB EASY APP
จากนั้นเลือก "ธุรกรรมของฉัน"
2. เลือก “หน้ารวมบัญชี”
3. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการแบ่งชำระ
4. เลือก “แบ่งชำระ”
5. เลือกรายการจากแถบ “ยอดยังไม่เรียกเก็บ”
หรือ “ยอดที่เรียกเก็บ” ได้สูงสุด 5 รายการ
จากนั้นเลือก “ตกลง”
6. เลือกจำนวนเดือนที่ต้องการแบ่งชำระ
จากนั้นกด “ดูยอดแบ่งชำระรายเดือน”
เพื่อดูยอดชำระต่อเดือนทั้งหมด
7. กรณีเลือกระยะเวลาแบ่งชำระมากกว่า 10 เดือน
ขึ้นไป
หน้าจอจะแสดงยอดชำระต่อเดือนทั้งหมด
(รวมดอกเบี้ย) ให้ตรวจสอบ
8. ตรวจสอบรายละเอียดการแบ่งชำระทั้งหมด
แล้วกด “ยืนยัน” เพื่อทำรายการ
9. ระบบแสดงหลักฐานยืนยันทำรายการสำเร็จ
ช่องทางอื่นๆ
ข้อกำหนดและเงื่อนไข
ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง
คำที่คุณใช้ค้นหาล่าสุด
ผลการค้นหา <strong>"{{keyword}}"</strong> ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
ข้อแนะนำในการค้นหา
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อความ
- ตรวจสอบภาษาที่ใช้ในการพิมพ์
- เปลี่ยนคำใหม่ กรณีไม่พบผลการค้นหา
“ดอกเบี้ยบัตรเครดิต” เป็นอะไรที่มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะคุ้นเคยเพราะจ่ายค่าบัตรเครดิตไม่ตรงเวลา (แต่หลายๆคนก็จ่ายตรงเวลา ซึ่งพี่ทุยสนับสนุนแบบนี้นะ) พี่ทุยเชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนเกิน 80% ต้องมีบัตรเครดิตพกติดกระเป๋าไว้อย่างน้อย 1-2 ใบแน่นอน เพราะเดี๋ยวนี้บัตรเครดิตแข่งกันออกโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าตามร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ กันเต็มไปหมด ทั้งส่วนลด สะสมแต้ม หรือผ่อน 0% พอเห็นโปรโมชั่นบัตรเครดิตมาล่อตาล่อใจซะขนาดนี้ ก็อดใจไม่ได้ที่จะสมัครเอาไว้ซักใบสองใบ เท่านั้นยังไม่พอ บัตรเครดิตเองก็มีทั้งของแถมของรางวัล มีให้แลกแต้มเยอะแยะลายตายั่วกิเลสไปหมด แล้วใครจะไม่อยากมีบัตรเครดิตถือไว้ซักใบจริงมั้ย
แต่การใช้บัตรเครดิตก็ต้องมาพร้อมกับความมีวินัยเสมอ เราจำเป็นที่จะต้องจ่ายบัตรเครดิตให้ตรงเวลา ถ้าเราเผลอใช้เงินเกินตัว พอถึงรอบวันชำระยอดหนี้บัตรเครดิต แต่ดันมีเงินสดในกระเป๋าไม่พอจ่าย เราก็ต้องกลายเป็น “หนี้” และสิ่งที่ตามมาก็คือ “ดอกเบี้ยบัตรเครดิต” ที่จะต้องจ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แทนที่บัตรเครดิตจะช่วยให้เราได้ส่วนลด ประหยัดรายจ่ายลง กลับกลายเป็นต้องมีรายจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น แทนที่จะประโยชน์กลับกลายเป็นโทษ
แล้วที่น่าตกใจกว่านั้น มีหลายคนมากกกกก ที่ไม่รู้หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับการคำนวณ “ดอกเบี้ยบัตรเครดิต” เลยทำให้เกิดปัญหาหนี้สะสมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามมา มาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดในใจ เข้าเรื่องซะทีเถอะพี่ทุย “ดอกเบี้ยบัตรเครดิต เค้าคิดกันยังไง ?”
“ดอกเบี้ยบัตรเครดิต” จะเกิดขึ้นเมื่อเราชำระค่าสินค้าและบริการไม่เต็มจำนวน ! ไม่ว่าจะเป็นการชำระขั้นต่ำหรือขาดไปแค่ 1 บาทก็ตาม ซึ่งการคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะแยกคำนวณเป็น 2 ส่วน คือ
- คิดจาก “ยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด” ตั้งแต่ “วันบันทึกรายการ” ถึง “วันสรุปยอดค่าใช้จ่าย”
- คิดจาก “ยอดคงค้าง” ตั้งแต่ “วันที่ชำระขั้นต่ำ” ถึง “วันสรุปยอดเดือนถัดไป”
สมมติ พี่ทุยรูดบัตรเครดิตซื้อหญ้าพรีเมี่ยมเมื่อวันที่ 1 มี.ค. จำนวน 10,000 บาท ธนาคารสรุปยอดค่าใช้จ่ายทุกวันที่ 25 ของเดือน และกำหนดชำระเงินทุกวันที่ 10 ของเดือนถัดไป ซึ่งธนาคารคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม 20% ต่อปี ต่อมาในวันที่ 10 เม.ย. พี่ทุยนำเงินไปจ่ายขั้นต่ำ 10% คือ 1,000 บาท
ในรอบบิลถัดไป 25 เม.ย. พี่ทุยจะถูกคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ดังนี้
- ยอดทั้งหมด 10,000 บาท x 20% x 25 วัน / 365 = 136.99 บาท (1 มี.ค. – 25 มี.ค.)
- ยอดคงค้าง 9,000 บาท x 20% x 16 วัน / 365 = 78.90 บาท (10 เม.ย. – 25 เม.ย.)
ดังนั้น ยอดเงินที่พี่ทุยถูกเรียกเก็บคือ 9,000 + 136.99 + 78.90 = 9,215.89 บาท
สมมติ ต่อมาวันครบกำหนดชำระ 10 พ.ค. พี่ทุยไถนาได้มีเงินมาจ่ายเต็มจำนวนยอดเรียกเก็บของ 25 เม.ย. คือ 9,215.89 บาท
ในวันครบรอบบิล 25 พ.ค. พี่ทุยยังมียอดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมค้างอีก
9,000 บาท x 20% x 14 วัน / 365 = 69.04 บาท (26 เม.ย. – 10 พ.ค.)
ซึ่งรวมๆแล้วพี่ทุยต้องจ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมทั้งหมด 284.93 บาท เลยจะเห็นได้ว่าการคิดดอกเบี้ยของบัตรเครดิตเรียกได้ว่าเอาทุกเม็ดเลยทีเดียว แล้วถ้าพี่ทุยยังคงจ่ายบัตรเครดิตยอดขั้นต่ำไปเรื่อยๆ พี่ทุยก็จะต้องเสียดอกเบี้ยของดอกเบี้ยวนไปเรื่อยๆ พอเห็นวิธีการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตแบบนี้แล้ว คงไม่อยากเป็นหนี้บัตรเครดิตกันเลยใช่มั้ยล่ะ
พี่ทุยบอกเสมอว่า ทุกครั้งที่รูดบัตรเครดิต เราต้องมีสติ มั่นใจว่าเงินในกระเป๋าเรามีพอจ่ายตอนนั้นเดี๋ยวนั้น ห้ามไปหวังว่าจะมีเงินก้อนตรงนู้นตรงนี้มา บัตรเครดิตเป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกให้เราไม่ต้องพกเงินสดเท่านั้น ไม่ใช่ที่กู้เงิน ! ห้ามเอาเงินในอนาคตมาใช้ถ้าไม่จำเป็น
พี่ทุยมีทิปส์ง่ายๆให้ไม่รูดบัตรเครดิตเกินตัว คือ ถ้าเรารูดบัตร 1,000 บาท ก็ให้หักเงินสด 1,000 บาทไปใส่ไว้ในบัญชีที่ไม่มี ATM และเอาไว้สำหรับจ่ายยอดบัตรเครดิตอย่างเดียว แต่ถ้ารู้ตัวเองว่าไม่มีวินัย เผลอไม่ได้เป็นรูดปรื๊ดๆ ก็เลิกใช้บัตรเครดิตไปเลยจะดีที่สุด
รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile