เลือก แท็บเล็ต จากขนาดหน้าจอที่เหมาะสม
โดยทั่วไปในเวลานี้ แท็บเล็ตในท้องตลาด จะมีขนาดหน้าจอประมาณ 8 นิ้ว และ 10 นิ้ว รวมถึงขนาดอื่นๆ ให้เลือก ตามรูปแบบการทำตลาดของแต่ละค่าย เพราะผู้ใช้แต่ละคน มีความต้องการที่ต่างกัน เช่น เน้นจอใหญ่ มองภาพสบายตากว่า เช่นจอภาพระดับ 10.1 นิ้วขึ้นไป สามารถนำไปใช้งานหรือท่องเน็ต เล่นโซเชียล ก็ดูรายละเอียดได้ชัดเจน บางครั้งจอขนาดใหญ่ ก็สามารถนำมาใช้ในการทำงาน ด้วยการต่อเมาส์ คีย์บอร์ดไร้สายเพิ่มเติมได้เช่นกัน
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดกระทัดรัด แต่อยากได้จอภาพที่ใหญ่กว่ามือถือ และพกพาสะดวก สามารถใส่ในกระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋าเป้ และนำออกมาใช้ได้สะดวก หน้าจอขนาด 7 หรือ 8 นิ้ว และใกล้เคียงนี้ ก็น่าจะช่วยให้คุณพกพาและใช้งานได้แบบไม่ลำบาก จะหยิบขึ้นมาดูหนัง ฟังเพลงและใช้งานอีเมล์ ตอบแชทในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น
ใส่ SIM ได้ หลากหลายช่องทางเชื่อมต่อถ้าเป็นเมื่อหลายปีก่อน มีเฉพาะแท็บเล็ตบางรุ่นเท่านั้น ที่รองรับการใส่ SIM card และตัวเลือกอย่าง WiFi only ก็มี แต่ในปัจจุบัน แท็บเล็ต ส่วนใหญ่ สามารถติดตั้ง SIM ได้เกือบทุกรุ่น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เลือกใช้งานอินเทอร์เน็ตร่วมกับสัญญาณ 3G/ 4G LTE หรือที่ใหม่กว่า ที่เริ่มจะมีเข้ามาบ้างแล้ว
รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ WiFi ร่วมกับผู้ให้บริการรายต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งเวลานี้มีบริการ WiFi จากบรรดาผู้ให้บริการเครือข่าย อาทิ AIS, TRUE และ DTAC รวมถึงรายอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าเกือบทุกจุดทั่วประเทศ นอกจากนี้หลายคนยังมองว่าแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์สำหรับการติดต่อสื่อสาร การใส่ซิมการ์ดได้ ก็ช่วยให้การโทรติดต่อผ่านทางแท็บเล็ตได้ง่ายขึ้น
สะดวกกับการใช้งานระบบปฏิบัติการแบบใดแท็บเล็ต หากไม่รวมกับระบบปฏิบัติการ iOS หรือเปลี่ยนมาเป็น iPadOS บนไอแพด ก็จะมีให้เลือกอีก 2 รูปแบบคือ แอนดรอยด์ และ วินโดวส์ แต่ที่เรามักจะพบเห็นกันอยู่มากมายในท้องตลาด
สำหรับ Android นั้นจะมีการทำงานคล้ายกับบนสมาร์ทโฟนที่ใช้กันอยู่ทั่วไป เน้นการทำงานที่ง่าย อาทิ เล่นเกม ดูหนัง ท่องเว็บ โซเชียลเน็ตเวิร์กพื้นฐาน โดยมีให้เลือกตั้งแต่ Android 5.1, 6,7, 8 และ Android 9 (Pie) ในตอนนี้
ส่วนบางรุ่นที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows มักจะพบกันในแท็บเล็ตกึ่งโน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอใหญ่ เพื่อให้รองรับการทำงานได้มากกว่าเดิม เช่น การใช้ซอฟต์แวร์สำนักงาน ตกแต่งภาพ หรือใช้สำหรับนำเสนอผลงาน พรีเซนเทชั่นและการดูหนัง ฟังเพลงได้เทียบเท่ากับการใช้โน้ตบุ๊ก แต่มีขนาดเล็กและเบากว่า โน้ตบุ๊ก และมีขอบเขตการใช้งานที่กว้างกว่านั่นเอง
หน่วยประมวลผล ประสิทธิภาพสูงซีพียูหรือหน่วยประมวลผล เป็นอีกสิ่งสำคัญในการเลือกแท็บเล็ต หากต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน ในอดีตอาจจะเป็นซีพียู 1 core หรือ Dual core เท่านั้น ในปัจจบุันมีการพัฒนาไปมาก ว่ากันตั้งแต่ Quad core ขึ้นไป
สิ่งนี้จะเป็นตัวบอกถึงการประมวลผลที่รวดเร็ว เช่นเดียวกับความเร็วเป็น GHz ยิ่งตัวเลขมากยิ่งดี และสถาปัตยกรรมในการติดต่อข้อมูล 32-bit หรือ 64-bit เป็นต้น โดยตัวเลือกมีอยู่หลากหลาย ตามแต่ละผู้ผลิต เช่น Qualcomm® Snapdragon หรือ Mediatek MTxxx Samsung Exynos, Kirin และอื่นๆ นอกจากนี้กรณีที่ต้องการนำแท็บเล็ตไปเล่นเกม ก็ต้องดูที่กราฟิก GPU ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Mali, IMG, Andreno ซึ่งบางรุ่นอาจจะไม่ได้ระบุมา แต่ก็สามารถหาได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต
หน่วยความจำ และพื้นที่เก็บข้อมูล ROM และ RAMStorage หรือ ROM ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ แต่สองสิ่งนี้ ยิ่งเยอะยิ่งดี ในแง่ของการใช้งาน เพราะถ้ามีน้อยไป เครื่องก็จะช้า ตอบสนองช้า มีโอกาสแฮงก์ค้าง เมื่อเจอกับแอพฯ หรือไฟล์ขนาดใหญ่ รวมถึงไม่เพียงพอต่อการติดตั้งแอพฯ และเก็บข้อมูลต่างๆ ได้เพียงพอต่อความต้องการ
ในเวลานี้มีตั้งแต่ 32GB แทบจะเป็นพื้นฐาน เรื่อยไปจนถึง 32GB, 64GB และ 128GB สำหรับแท็บเล็ตที่เน้นการใช้งานจริงจัง ส่วน RAM จะรับหน้าที่ในการจัดการข้อมูลเพื่อส่งให้กับการประมวลผล มีเยอะยิ่งดี อย่างน้อยเวลานี้ ควรมี 3-4GB หรือจะเป็นรุ่น 6GB ก็ได้ ยิ่งมีมาก ก็ทำให้การใช้แอพพลิเคชั่นรวดเร็วขึ้น การเปิดไฟล์ รวมถึงการบันทึกภาพ วีดีโอ ก็จะยิ่งเร็วขึ้นนั่นเอง
เครื่องแรง แบตเตอรี่ต้องเยอะ ใช้ได้นานขึ้นชื่อว่าแท็บเล็ต ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์โมบายอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งมีทั้งความเร็ว ซีพียู จีพียู จอขนาดใหญ่ และการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ทำให้ต้องใช้พลังงานมาก ดังนั้นก็ควรจะต้องเลือกรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ยาวนาน เพียงพอให้คุณนำไปใช้นอกบ้านได้ในระดับหนึ่ง ขนาดของแบตต้องสัมพันธ์กับประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ก็ควรจะต้องนำเรื่องของเทคโนโลยีการชาร์จไฟมาประกอบการพิจารณาอีกด้วย แบตขนาดใหญ่ แต่ชาร์จไฟทีนานหลายชั่วโมงก็ไม่น่าจะไหว หรือแบตน้อยไป ใช้แปปเดียวหมด ก็คงจะไม่เหมาะกับการพกพาเช่นกัน ในตลาดตอนนี้แบตพื้นฐานระดับ 4000-5000mAh แต่บางรุ่นก็มาพร้อมแบตระดับ 7,xxxmAh พร้อมกับ Fast Charge ทำให้ไม่ต้องรอนานนัก แต่ยิ่งเทคโนโลยีเยอะ ราคาก็จะสูงตามไปด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับผู้ที่กำลังมองหา แท็บเล็ต มาไว้ใช้งานสักเครื่อง ข้อมูลของแท็บเล็ตที่เรารีวิวกันในวันนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกันหรือเปล่า เราเข้าใจว่า ผู้ใช้งานแท็บเล็ตนั้นมีความต้องการนำไปใช้หลากหลายประเภท ตั้งแต่ผู้ใช้งานเพื่อดูวีดีโอทั่ว ๆ ไป หรือใช้แค่ฟังก์ชั่นการติดต่อสื่อสาร รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น ไปจนถึงผู้ใช้งานที่ใช้งานระดับสูง เช่น การออกแบบภาพกราฟฟิก การนำเสนองานแบบมืออาชีพ รวมถึงการเล่นเกมส์กราฟฟิกสูง ซึ่งฟังก์ชั่นต่าง ๆ เหล่านี้กำลังตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของคนในสังคมปัจจุบันที่ต้องการทำงานนอกสถานที่มากขึ้น