Iphone 13 ชาร์จเร็ว กี่ วัตต์

Jul 8, 2021

ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น ที่ทำให้หลายคนหลงใหลในผลิตภัณฑ์จากค่าย Apple แต่ยังเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นในคุณภาพ และการมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์คนใช้งานมากขึ้นด้วย อย่างความแข็งแรงทนทานและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ใส่ลงใน iPhone เราก็เห็นชัดเจนแล้วว่ามันทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกได้มากแค่ไหน และประเด็นล่าสุดที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจก็คือระบบ Fast Charge ที่มาช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จไฟให้ลดน้อยลงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนไม่ต้องสะดุดกับเรื่องรอชาร์จไฟอีกต่อไปครับ

รู้จักกับระบบ Fast Charge ให้มากยิ่งขึ้น

Fast Charge คือเทคโนโลยีที่จ่ายไฟด้วยความเร็วสูง ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีคุณสมบัติรองรับการจ่ายไฟนั้น ซึ่งอันที่จริงไม่ได้ใช้กันในสมาร์ทโฟน เพียงแค่เราคุ้นเคยกับระบบ Fast Charge ในสมาร์ทโฟนมากที่สุดเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าระบบ Fast Charge จะถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงที่มีการเปิดตัว iPhone 12 ออกมา แต่ความจริงเรามี Fast Charge ใช้กันมาตั้งแต่ iPhone 8 แล้ว นี่ยังไม่นับรวมสมาร์ทโฟนจากค่ายอื่นที่อาจจะนำเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ก่อนหน้านั้นอีก ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดก็คือ สายชาร์จที่เปลี่ยนรูปแบบไปจนไม่สามารถใช้ร่วมกับ iPhone รุ่นเก่าได้ ตรงนี้สร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้ใช้งานพอสมควรในช่วงแรก แต่เมื่อได้เห็นประสิทธิภาพในการชาร์จไฟที่แตกต่างอย่างมากใน iPhone 12 สิ่งที่เคยถูกมองว่าไม่ดีเลยกลายเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการไปโดยปริยาย

ประเภทของระบบ Fast Charge ที่นิยมใช้ในตลาดสมาร์ทโฟน

เราสามารถแบ่งระบบ Fast Charge ได้หลายประเภท ซึ่งจะยึดตามผู้ผลิตเป็นสำคัญ ที่ผ่านมามีเทคโนโลยี Fast Charge ออกมาให้ได้ลองใช้กันค่อนข้างเยอะ แต่สุดท้ายแล้วก็ได้รับความนิยมอยู่แค่ไม่กี่เจ้าเท่านั้น โดยในครั้งนี้เราจะขอยกมาเป็นตัวอย่างเพียงแค่ 3 ประเภท ซึ่งเป็นแบบที่เราพบเห็นได้บ่อยกว่าประเภทอื่น ๆ

เทคโนโลยี Fast Charge มีอะไรบ้าง

  • Quick Charge หรือที่หลายคนเรียกแบบย่อๆ ว่า QC นั่นเอง Fast Charge ตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเน้นใช้งานกับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีชิปเซ็ตรองรับเทคโนโลยีนี้ได้ ปริมาณการชาร์จไฟก็สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายค่า โดยล่าสุดสามารถชาร์จได้ที่ค่า Maximum ประมาณ 27 วัตต์
  • Power Delivery ชื่อย่อคือ PD เป็นระบบ Fast Charge ที่มีมาก่อน QC และเปิดกว้างมากกว่า สามารถใช้กับอุปกรณ์อะไรก็ได้ ที่ต้องการกำลังไฟตั้งแต่ 15 วัตต์ไปจนถึง 100 วัตต์ ซึ่งประสิทธิภาพในการจ่ายไฟจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหมด ทั้งส่วนของสายไฟและหัวชาร์จ
  • Super Charge เป็นระบบ Fast Charge อีกตัวที่น่าสนใจ เพราะเปิดตัวด้วยการบอกว่าเป็นการชาร์จไฟอย่างรวดเร็วที่ปลอดภัยต่อแบตเตอรี่ด้วย ค่ากำลังจ่ายไฟสูงสุดในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 40 วัตต์ แต่เทคโนโลยีตัวนี้ถูกจำกัดให้ใช้แค่ในผลิตภัณฑ์ของค่าย Huawei เท่านั้น

ความแตกต่างของหัวชาร์จ Fast Charge ของ iPhone แต่ละรุ่น

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า เรามีระบบ Fast Charge ใช้กันมาตั้งแต่มี iPhone 8 จนกระทั่งถึง iPhone 12 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้หัวชาร์จที่มีกำลังไฟเท่า ๆ กันกับ iPhone ทุกรุ่นได้ และเรื่องของเทคโนโลยีที่ใช้ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่จำกัดให้ต้องใช้หัวชาร์จที่ต่างกันไปอีกด้วย โดยรายละเอียดในการเลือกหัวชาร์จจะต้องอ้างอิงตามข้อมูลที่ทาง Apple ได้ชี้แจงเอาไว้ดังนี้

  • iPhone 8 ถึง iPhone 11 ตัวเครื่องรองรับกำลังไฟสูงสุดที่ 15 วัตต์ และต้องใช้ร่วมกับเทคโนโลยีประเภท PD
  • iPhone 12 ตัวเครื่องรองรับกำลังไฟสูงสุดที่ 20 วัตต์ และต้องใช้ร่วมกับเทคโนโลยีประเภท QC ข้อมูลนี้บอกเราว่า ถ้าต้องการใช้ฟังก์ชัน Fast Charge คือการร่นระยะเวลาการชาร์จไฟให้เร็วกว่าปกติ ต้องเลือกอุปกรณ์เสริมตามข้อกำหนดทั้งหมด อย่างเช่น iPhone 12 ต้องใช้หัวชาร์จที่รองรับเทคโนโลยี QC แล้วก็ต้องมีกำลังไฟตั้งแต่ 20W ขึ้นไป ขณะที่ iPhone 8 จะต้องใช้หัวชาร์จแบบ PD แล้วก็มีกำลังไฟตั้งแต่ 15 วัตต์ขึ้นไป เป็นต้น ทีนี้หลายคนก็เกิดข้อสงสัยว่า ในเมื่อ iPhone รุ่นก่อน ๆ รับกำลังไฟได้น้อยกว่า iPhone 12 เราจะสามารใช้หัวชาร์จของ iPhone 12 ไปชาร์จเพื่อหวังความเร็วในการชาร์จได้หรือไม่ คำตอบคือใช้ชาร์จไฟได้ แต่จะไม่ได้ระบบ Fast Charge เป็นเพียงการชาร์จไฟธรรมดาเท่านั้น เพราะ iPhone รุ่นเก่าไม่รองรับเทคโนโลยี QC นั่นเอง นอกจากนี้ ถ้าเราเลือกใช้หัวชาร์จที่มีเทคโนโลยีเดียวกัน แต่กำลังไฟไม่ถึง ก็เท่ากับเราเสียศักยภาพในการทำงานไปแล้วส่วนหนึ่ง ผลลัพธ์คือไม่ได้ Fast Charge เช่นเดียวกัน การเลือกใช้หัวชาร์จจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบทั้ง 2 ส่วนให้ครบถ้วนเสมอ

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ระบบ Fast Charge

  • ข้อดี สำหรับข้อดีก็คงเห็นกันได้ชัดเจนอยู่แล้ว คือช่วยให้เวลาที่ต้องเสียไปกับการชาร์จไฟลดน้อยลง เมื่อเปลี่ยนมาเป็นระบบ Fast Charge จากที่เคยต้องเสียบสายชาร์จข้ามคืนเวลานอน เราก็สามารถหาเวลาช่วงสั้น ๆ ในตอนเช้าประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ก่อนออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ เหมาะกับคนที่ต้องทำงานกับสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ขนาดของหัวชาร์จและอุปกรณ์เชื่อมต่อก็มีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด จึงพกพาได้สะดวกมากกว่า อีกอย่างคือ ถ้าเรามีอุปกรณ์หลายชิ้นที่รองรับเทคโนโลยีเดียวกัน ก็สามารถเลือกใช้หัวชาร์จที่มีกำลังไฟสูงสุดเพียงอันเดียว แล้วนำมาใช้งานด้วยระบบ Fast Charge กับทุกอุปกรณ์ที่มีได้เลยครับ
  • ข้อเสีย เมื่อมีข้อดีแล้ว เป็นธรรมดาที่จะมีข้อเสียรวมอยู่ด้วย จุดแรกที่เป็นประเด็นสำคัญคือ ระบบ Fast Charge จะทำให้ระดับความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างชาร์จไฟให้สมาร์ทโฟน มีค่าสูงกว่าการชาร์จแบบปกติ ซึ่งมีผลทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงได้ ถึงจะมีระบบป้องกันความร้อนอยู่บ้าง แต่ประสิทธิภาพก็ยังไม่สามารถปกป้องแบตเตอรี่แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ได้อยู่ดี นอกจากนี้ อุปกรณ์ในกลุ่ม Fast Charge มักมีราคาค่อนข้างสูง และหลาย ๆ แบรนด์ก็มีข้อจำกัด ไม่ใช้ให้อุปกรณ์ร่วมกับแบรนด์อื่นได้ จะใช้ของเทียมที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าก็ไม่ได้เหมือนกัน ค่าใช้จ่ายตรงนี้จึงเป็นส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมา สุดท้ายแล้วถ้าสมาร์ทโฟนของเราไม่ได้แถมอุปกรณ์ Fast Charge มาด้วย แล้วเราเองก็ไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ที่รีบเร่งมากนัก เวลานี้อาจยังไม่จำเป็นต้องใช้ เว้นเสียแต่อยากจะสัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็สามารถซื้อเพิ่มได้

เป็นยังไงกันบ้างครับ เกี่ยวกับความรู้เรื่องเทคโนโลยี Fast Charge ที่เรานำมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ทราบกัน หวังว่าจะช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ให้มากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจหาหัวชาร์จ Fast Charge มาใช้งาน ก็สามารถเลือกซื้อได้ทันทีที่หน้าเว็บไซต์ Mercular.com โดยมีสินค้าให้เลือกซื้อจากหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน แล้วพบกับบทความที่น่าสนใจจากเราได้ใหม่ในโอกาสหน้าครับ

iPhone 13 ใช้สายชาร์จแบบไหน

สาย USB-C เป็น Lightning (2 ม.)

ไอโฟน 13 ชาร์จกี่นาทีเต็ม

ปิดกันที่น้องเล็กสุดกับ iPhone 13 mini ที่รองรับการชาร์จเร็วแบบ PD ที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 15 W โดยรวมแล้วนั้นพบว่า iPhone 13 mini สามารถที่จะชาร์จจาก 0% ไปจนเต็ม 100% ในระยะเวลาทั้งหมด 87 นาที ทั้งนี้ตามข้อมูลนั้นระบุเอาไว้ว่า iPhone 13 mini จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 2,438 mAh.

iPhone 13 มีที่ชาร์จแบตไหม

ไอโฟน 13 นอกจากสามารถกับสายชาร์จและหัวชาร์จได้ตามปกติแล้ว ที่ชาร์จไร้สาย MagSafe สามารถใช้ได้กับ iPhone 13 ทุกรุ่น โดยจะมีแม่เหล็กในที่ชาร์จและในไอโฟนในแนวเดียวกัน ทำให้การชาร์จไอโฟน 13 ด้วย MagSafe มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้หากตำแหน่งของแม่เหล็กไม่ตรงกันอาจทำให้เวลาชาร์จนานขึ้น ราคาอยู่ที่ 1,490 บาท

iPhone 13 แบตอยู่ได้กี่ชั่วโมง

และ iPhone ทั้ง 3 อันดับที่แบตอึดรองลงมามีดังนี้ iPhone 13 Pro (8 ชั่วโมง 17 นาที) iPhone 13 (7 ชั่วโมง 45 นาที) iPhone 13 mini (6 ชั่วโมง 26 นาที)

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง