จากกรณีมีกลุ่มผู้เอาประกันภัยโควิด-19 จำนวน 280 คน รวมตัวกันที่บริเวณหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อทวงถามความเป็นธรรมและเรียกร้องให้บริษัทฯ จ่ายเคลมค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวันและค่าชดเชยรายได้ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย แต่กลุ่มผู้เอาประกันภัยและบริษัทฯ ไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ จากนั้นกลุ่มผู้เอาประกันภัยดังกล่าวได้ส่งตัวแทน มาร้องเรียนกับสำนักงาน คปภ. เพื่อขอความเป็นธรรม
ล่าสุดจากการประชุมร่วมเพื่อติดตามและพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนดังกล่า นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ (รองเลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ผลการประชุมได้ข้อยุติโดยบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขในประกาศแนวปฏิบัติ และคำสั่งนายทะเบียน ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการใน 5 ประเด็น ดังนี้
1. บริษัทฯ จะจัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นเพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นให้รวดเร็วและเป็นธรรม โดยมีการประสานงานกับสำนักงาน คปภ. อย่างใกล้ชิด
2. กรณีการโต้แย้งความจำเป็นทางการแพทย์ หากบริษัทฯ ประสงค์จะตรวจสอบหรือโต้แย้งดุลพินิจความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษา เมื่อบริษัทฯ ดำเนินการแล้ว ถ้าแพทย์ผู้ทำการรักษาผู้เอาประกันภัยมีความเห็นเป็นประการใดให้บริษัทฯ ยึดปฏิบัติตามนั้น แต่ถ้าติดตามจากแพทย์ผู้ทำการรักษาผู้เอาประกันภัยแล้วยังไม่ทราบผลการพิจารณา ให้บริษัทฯ จัดส่งทีมแพทย์ของบริษัทฯ เข้าไปประสานตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือโรงพยาบาลในแต่ละกรณีโดยเร็ว
3. ในการตรวจสอบรายชื่อและเอกสารประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ให้บริษัทฯ เร่งดำเนินการตรวจสอบเอกสารของผู้เอาประกันภัย หากพบว่าเอกสารยังไม่ครบถ้วนถูกต้อง ให้บริษัทฯ ประสานแจ้งผู้เอาประกันภัยให้ดำเนินการจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาโดยเร็ว ทั้งนี้สำนักงาน คปภ. จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารของผู้เอาประกันภัยควบคู่กันไปด้วย
ผลพวงสงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทบ "เหล็กแพง" ราคาบ้านจ่อปรับขึ้น 3-5% ในครึ่งปีหลัง
จับตา ปอ - โรเบิร์ต เข้ารายงานตัว สภ.เมืองนนทบุรี คดี "แตงโม"
4. กรณีที่ผู้เอาประกันภัยไม่มีประวัติการรักษาพยาบาล หรือมีประวัติการรักษาพยาบาลแต่ระบุรายละเอียดไม่ครบถ้วน บริษัทฯ สามารถใช้เอกสาร A01-4 ที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยสามารถยื่นเอกสารดังกล่าวแทนประวัติการรักษาได้ เพื่อประกอบการพิจารณาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัย ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทน ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนความคุ้มครองที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ และ 5. บริษัทฯ พร้อมจะจ่ายเคลมตามสัญญาประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และรวดเร็ว
ยื่นฟ้อง ‘ทิพยประกันภัย’ เป็นคดีกลุ่ม กรณีผู้บริโภคเคลมประกันโควิดไม่ได้
20 มีนาคม 256621 มีนาคม 2023
สภาผู้บริโภค ยื่นฟ้อง ‘ทิพยประกันภัย’ เป็นคดีกลุ่ม กรณีผู้บริโภคหลายรายเคลมประกันโควิดไม่ได้ ระบุ การยื่นฟ้องแบบกลุ่มจะทำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกันได้รับการชดเชยเยียวยาทั้งหมด
วันนี้ (20 มีนาคม 2566) โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค กล่าวว่า จากการที่มีผู้บริโภคร้องเรียนกับสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) กรณีได้รับความเสียหายจากการซื้อประกันภัยโควิด – 19 กับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทฯ ปฏิเสธการจ่ายเงินค่าชดเชยรายได้รายวันให้กับผู้เอาประกันภัยจากการติดเชื้อโควิด – 19 นอกจากนี้ตามที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ยังพบว่ายังมีผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สภาผู้บริโภคได้มีการเชิญบริษัทฯ หารือและเจรจา แต่ไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้น สภาผู้บริโภค ในฐานะผู้แทนของผู้บริโภคตาม พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. 2562 และตัวแทนผู้บริโภคจำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีแทนผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกัน ยื่นฟ้องคดีผู้บริโภคกับบริษัททิพยประกันภัย เป็นคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้
“คดียื่นฟ้องผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยเป็นคดีสำคัญ เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้บริโภคได้รับความเสียหายจำนวนมากจากการถูกบริษัทฯ ปฏิเสธและทำให้ไม่สามารถเคลมประกันได้ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ดังนั้น สภาผู้บริโภคจึงยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่ม เพื่อให้ผู้บริโภคจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกันได้รับการชดเชยเยียวยา” โสภณ กล่าว
ด้าน สมชาย อามีน ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ระบุถึงเหตุความจำเป็นในการยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่มว่า การยื่นฟ้องของสภาผู้บริโภค และตัวแทนผู้บริโภค รวมทั้งหมด 6 คน มีการยื่นคำร้องขออนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มเพื่อคุ้มครองสมาชิกกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้บริโภคจำนวนนับหมื่นรายที่ได้ซื้อประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อโควิด – 19 ของบริษัทฯ ดังกล่าว
และขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดค่าเสียหายเชิงลงโทษจำนวน 5 เท่าของความเสียหายที่โจทก์และสมาชิกกลุ่มแต่ละรายได้รับจากการที่บริษัทฯ ปฏิเสธการจ่ายเงินตามกรมธรรม์ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรม และเพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยรายอื่นทำพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภคแบบเดียวกันอีก
“การฟ้องคดีแบบกลุ่มเป็นประโยชน์กับสมาชิกและผู้บริโภคที่เกิดความเสียหายจากการซื้อกรมธรรม์กับบริษัทฯ ดังกล่าว โดยหากมีคำพิพากษาออกมาให้บริษัทฯ ต้องเยียวยานั้นจะทำให้ผู้บริโภคทุกรายที่ซื้อกรมธรรม์กับบริษัทฯ ได้รับการชดเชยเยียวยาทั้งหมด อีกทั้งการดำเนินคดีแบบกลุ่มมีความสะดวก และมีความเป็นธรรมกว่าการดำเนินคดีแบบสามัญทั่วไป” สมชาย ระบุ
ทั้งนี้ ศาลจะมีการนัดไต่สวนคำร้องเพื่อพิจารณาว่าจะรับคดีดังกล่าวเป็นคดีแบบกลุ่มหรือไม่ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างไร สภาผู้บริโภคจะแจ้งให้ผู้บริโภคทราบอย่างต่อไป