สำคัญ: ขั้นตอนเหล่านี้จะมีบางขั้นตอนที่ใช้ได้เฉพาะกับ Android 8.0 ขึ้นไปเท่านั้น ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบปัญหาทั่วไปของบลูทูธ
- ปิดและเปิดบลูทูธขึ้นมาใหม่
- ตรวจดูว่าอุปกรณ์ได้จับคู่และเชื่อมต่อกันแล้ว
- รีสตาร์ทอุปกรณ์ ดูวิธีรีสตาร์ทโทรศัพท์ Pixel หรืออุปกรณ์ Nexus
ขั้นตอนที่ 2: แก้ปัญหาตามประเภทปัญหา
จับคู่อุปกรณ์กับรถยนต์ไม่ได้
ขั้นตอนที่ 1: ล้างอุปกรณ์ออกจากหน่วยความจำของโทรศัพท์
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ อุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ หากไม่เห็น "อุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ" ให้แตะบลูทูธ
- หากเห็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้อยู่ ตรงข้างชื่ออุปกรณ์แต่ละเครื่อง ให้แตะ "การตั้งค่า" ไม่จำไม่จำอุปกรณ์
- หากเคยจับคู่โทรศัพท์ไว้กับรถ ตรงข้างชื่อรถ ให้แตะ "การตั้งค่า" ไม่จำไม่จำอุปกรณ์
ขั้นตอนที่ 2: ล้างโทรศัพท์จากหน่วยความจำของรถ
หากต้องการล้างโทรศัพท์ที่จับคู่กับรถ ให้ทำตามคู่มือการใช้งานของรถ
- ล้างโทรศัพท์ที่คุณไม่ได้ใช้
- หากคุณเคยจับคู่โทรศัพท์กับรถมาก่อน ให้ล้างโทรศัพท์เครื่องนั้น
ขั้นตอนที่ 3: รีเฟรชรายชื่ออุปกรณ์ จากนั้นค่อยจับคู่
หากต้องการทราบว่าจะจับคู่จากโทรศัพท์หรือจากรถ ให้อ่านคู่มือการใช้งานของรถ
- จับคู่จากโทรศัพท์
- ตรวจสอบว่ารถของคุณค้นพบได้และพร้อมจับคู่
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- แตะจับคู่อุปกรณ์ใหม่ ชื่อของรถ
- จับคู่จากรถ
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- โปรดเปิดหน้าจอนี้เอาไว้
- ในรายชื่ออุปกรณ์ของรถ ให้เลือกชื่อของโทรศัพท์
- หากระบบถาม ให้ตรวจสอบว่า PIN ที่แสดงในโทรศัพท์และหน้าจอของรถนั้นตรงกัน
- แตะให้สิทธิ์เข้าถึงรายชื่อติดต่อและประวัติการโทร
- แตะจับคู่อุปกรณ์ ยอมรับ หรือ ยืนยัน
จับคู่กับอุปกรณ์เสริมไม่ได้
จับคู่กับ Wear OS ไม่ได้
- หากคุณจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โปรดลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาเหล่านี้
- หากการเชื่อมต่อนาฬิกากับโทรศัพท์ไม่เสถียร ให้ลองทำตามขั้นตอนการเชื่อมต่อเหล่านี้อีกครั้ง
จับคู่กับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่ได้
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสริมของคุณค้นพบได้และพร้อมจับคู่ ทำตามคำแนะนำที่มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม
- คุณมักจะเห็นแสงสีน้ำเงินบนอุปกรณ์เสริมเมื่ออุปกรณ์พร้อมจับคู่
- คุณจะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมบางอย่าง เช่น แป้นพิมพ์ฝาพับ กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณก่อนจึงจะจับคู่กับอุปกรณ์เสริมอื่นได้
- รีเฟรชรายชื่ออุปกรณ์เสริม
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- แตะจับคู่อุปกรณ์ใหม่ ชื่อของอุปกรณ์เสริม
- หากต้องกรอกรหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์เสริมและคุณไม่ทราบรหัส ให้ลองกรอก 0000 หรือ 1234 (รหัสผ่านที่พบบ่อยที่สุด)
ฟังเพลงไม่ได้
สำคัญ: รถยนต์บางรุ่นเล่นเพลงผ่านบลูทูธไม่ได้ หากปัญหาเกิดจากรถยนต์ โปรดอ่านคู่มือการใช้งานของรถ
- ตรวจสอบว่าระดับเสียงดังพอแล้วในโทรศัพท์และรถ หรืออุปกรณ์เสริม
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ ที่จับคู่กับโทรศัพท์ไม่ได้เล่นเพลงอยู่
- ตรวจสอบว่าเปิดเสียงสื่อแล้ว
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- หากเห็นอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ ให้แตะตัวเลือกนี้
- ข้างชื่อรถหรืออุปกรณ์เสริม ให้แตะ "การตั้งค่า"
- เปิดเสียงสื่อ
โทรออกหรือรับสายเรียกเข้าไม่ได้
สำคัญ: รถยนต์บางรุ่นโทรออกหรือรับสายเรียกเข้าผ่านบลูทูธไม่ได้ หากปัญหาเกิดจากรถยนต์ โปรดอ่านคู่มือการใช้งานของรถ
ในระหว่างการขับรถ เราอาจต้องการความบันเทิง เช่น การฟังเพลง เพื่อแก้ง่วง หรือแก้เบื่อ ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นในปัจจุบัน มักจะมีฟังก์ชันบลูทูธ (Bluetooth) ที่ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเปิดบลูทูธกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อรับความบันเทิงในระหว่างการเดินทางได้ แต่บางครั้ง ก็มักเกิดปัญหาเชื่อม ต่อ บ ลู ทู ธ ใน รถ ไม่ ได้ วิธีแก้ไขอย่างไร มาดูกัน
วิธีแก้ไขเมื่อเชื่อมต่อบลูทูธในรถไม่ได้ สำหรับ iOS
เชื่อมต่อโดยใช้ CarPlay
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประเทศ หรือภูมิภาค และรถของคุณรองรับ CarPlay
2. หากรถรองรับการใช้ CarPlay แบบไร้สาย
- ให้กดปุ่มคำสั่งเสียงบนพวงมาลัยค้างไว้ เพื่อตั้งค่า CarPlay หรือตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถของคุณอยู่ในโหมดการจับคู่แบบไร้สาย (บลูทูธ)
- บนโทรศัพท์ iPhone ให้ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > CarPlay > รถที่มี แล้วเลือกชื่อรถที่ต้องการเชื่อมต่อ
- สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคู่มือที่มาพร้อมกับรถ
เชื่อมต่อโดยใช้บลูทูธ
1. รีสตาร์ตอุปกรณ์
2. ไปที่การตั้งค่า > บลูทูธ แล้วปิดบลูทูธ รอประมาณ 5 วินาที จากนั้นเปิดบลูทูธใหม่
3. ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือที่มาพร้อมกับรถ เกี่ยวกับวิธีจับคู่กับอุปกรณ์บลูทูธ รถโดยส่วนใหญ่ต้องมีการตั้งค่าโทรศัพท์บนจอแสดงผลในรถ
4. หากมีการเชื่อมต่อสเตอริโอรถยนต์กับโทรศัพท์หลายเครื่อง ให้ลองเปลี่ยนชื่ออุปกรณ์ โดยไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ > ชื่อ แล้วป้อนชื่อใหม่ จากนั้นให้ลองเชื่อมต่ออีกครั้ง
5. อัปเดทอุปกรณ์ iOS ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน
6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสเตอริโอใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิตรถยนต์ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคู่มือของรถ)
7. หากยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ให้ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple
การแก้ไขและ วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ สำหรับ Android
วิธีที่ 1 ล้างอุปกรณ์ออกจากหน่วยความจำของโทรศัพท์
1. เปิดการตั้งค่าในโทรศัพท์
2. เลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ > อุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ หากไม่เห็น “อุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ” ให้เลือก “บลูทูธ”
3. หากเห็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ ข้างชื่ออุปกรณ์แต่ละเครื่อง ให้เลือก "การตั้งค่า" การตั้งค่า > ไม่จำ > ไม่จำอุปกรณ์
4. หากเคยจับคู่โทรศัพท์ไว้กับรถ ตรงข้างชื่อรถ ให้เลือก "การตั้งค่า" การตั้งค่า > ไม่จำ > ไม่จำอุปกรณ์
วิธีที่ 2 ล้างโทรศัพท์จากหน่วยความจำของรถ
1. ลบชื่อโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้ออก
2. หากเคยจับคู่โทรศัพท์กับรถมาก่อน ให้ลบชื่อโทรศัพท์เครื่องนั้นออก
วิธีที่ 3 รีเฟรชรายชื่ออุปกรณ์ แล้วค่อยจับคู่ใหม่อีกครั้ง
หากต้องการทราบว่าจะจับคู่จากโทรศัพท์หรือจากรถ ให้อ่านคู่มือการใช้งานของรถ
จับคู่จากโทรศัพท์
- ตรวจสอบว่ารถพร้อมจับคู่อุปกรณ์
- เปิดการตั้งค่าในโทรศัพท์
- เลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น “บลูทูธ” ให้แตะตัวเลือกนี้
- เลือกจับคู่อุปกรณ์ใหม่ > ชื่อของรถ
จับคู่จากรถ
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- เลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น “บลูทูธ” ให้แตะตัวเลือกนี้ จากนั้นเปิดหน้าจอนี้ค้างเอาไว้
- ในรายชื่ออุปกรณ์ของรถ ให้เลือกชื่อของโทรศัพท์
- ตรวจสอบว่า PIN ที่แสดงในโทรศัพท์และหน้าจอของรถว่าตรงกันหรือไม่
- เลือกให้สิทธิ์เข้าถึงรายชื่อติดต่อและประวัติการโทร
- เลือกจับคู่อุปกรณ์ “ยอมรับ” หรือ “ยืนยัน”
หากลองทำทุกวิธีแล้ว แต่ยังเชื่อมต่อบลูทูธในรถไม่ได้เหมือนเดิม ให้ติดต่อไปที่ฝ่ายบริการช่วยเหลือของผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ หรือรถยนต์รุ่นนั้น ๆ เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาต่อไป ให้สามารถรับความบันเทิงในระหว่างการขับขี่ได้