หากคุณมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมหายใจไม่ทั่วท้อง อาจเป็นเพราะร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ด้วยอายุที่มากขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคประจำตัว อาทิ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือหากอายุยังน้อยก็อาจมาจากโรคเครียด โรคแพนิก
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมหายใจไม่ทั่วท้องเป็นเพราะร่างกายกำลังฟ้องว่าเกิดความผิดปกติในระบบร่างกาย ควรพักผ่อนให้เยอะขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมง่วงนอน จุดเริ่มต้นอาการคนท้อง
อาการคนท้อง ที่ชัดเจนร่วมกับอาการ เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม คือ อาการง่วงนอน สาวๆ ที่มีอาการคนท้องระยะเริ่มแรกอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่อาการง่วงนอน อ่อนเพลีย ชัดเจนมาก หากสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือไม่ก็ลองซื้อที่ตรวจครรภ์จากร้านขายยา หรือร้านสะดวกซื้อมาเช็ก
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมง่วงนอน แบบอาการคนท้อง จะเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน แม้ว่าดื่มกาแฟ ออกกำลังกาย ล้างหน้าแล้ว ก็ไม่ช่วยให้หายง่วง มีเพียงการนอนงีบพักผ่อนเอนพักสัก 15 นาที พอจะช่วยให้หายเพลียได้ อาการง่วงนอนจะอยู่กับสาวๆ ไปตลอดทุกไตรมาส จนกว่าจะคลอด
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมท้องเสีย จุดเริ่มต้นร่างกายติดเชื้อ
อาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมร่วมกับอาการท้องเสีย เป็นจุดเริ่มต้นบ่งบอกว่าร่างกายรับเชื้อเข้าทางเดินอาหาร อาจเกิดเป็นอาการอาหารเป็นพิษตามมา หากอาเจียนติดต่อกัน 3-4 ครั้งใน 1 ชั่วโมง ควรไปพบแพทย์
หากดื่มน้ำ พักผ่อนแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ ระหว่างการเดินทางไปพบแพทย์ควรจิบน้ำเกลือแร่ เพื่อป้องกันร่างกายสูญเสียน้ำ
วิธีแก้เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม กินอะไรดี
เริ่มแรกเมื่อมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ควรรีบนั่งพักก่อน หากกำลังเดินทางอยู่ก็ควรหาที่ปลอดภัยนั่งพัก ป้องกันอาการบ้านหมุน เป็นลม หากเกิดเหตุในสถานีขนส่ง ควรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เพื่อพาคุณไปยังพื้นที่ปลอดภัย หากเกิดเหตุในบ้านก็ควรแจ้งสมาชิกในครอบครัวเอาไว้ช่วยปฐมพยาบาล
เมื่อร่างกายมีอาการบ้านหมุนฟ้องขึ้นมาแล้ว ก็ควรหยุดพักงานต่างๆ นอนพักก่อน เพื่อไม่ให้ล้ม ป้องกันการเกิดอันตรายหากทำกิจกรรมอื่นๆ นอนราบ ให้เลือดไหลเวียนมายังศีรษะ
รับประทานอาหารอ่อนๆ อย่าง โจ๊ก ข้าวต้ม กวยจั๊บ ที่มีน้ำซุปอุ่นๆ เพื่อช่วยเพิ่มโปรตีน คาร์โบไฮเดรตให้กับร่างกาย อาหารย่อยง่ายเหล่านี้จะเพิ่มพลังให้กับร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช่วยลดอาการพะอืดพะอม
ใช้ถุงพลาสติกใส่น้ำแข็ง แล้วพันผ้าสะอาดอีก 1 ชั้น ประคบศีรษะ ท้ายทอย เพื่อลดอาการเวียนหัวระหว่างนั่งพักหรือนอนพัก
กดจุดชีพจรบริเวณข้อมือ โดยใช้นิ้วกลางกับนิ้วโป้งโค้งเป็นรูปตัว C กดระหว่างบริเวณเส้นเลือดใหญ่บนฝ่ามือ และข้อมือ กดทิ้งไว้ 30 วินาทีแล้วปล่อย ทำจนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือใช้สร้อยข้อมือกดจุด เป็นสร้อยลูกปัด หรือสร้อยสายรัดข้อมือ กดปล่อย กดปล่อย ก็ช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะได้เล็กน้อย
เพื่อป้องกันสายตาเมื่อยล้า ใช้วิธีเลิกดูจอ เลิกดูโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ลดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ได้ด้วย
ดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำขิงร้อนๆ
ดื่มน้ำอุ่น หรือ น้ำขิงร้อนๆ ระหว่างนั่งพัก ลดอาการพะอืดพะอม ใช้ได้กับอาการเวียนและคลื่นไส้ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเป็นคนท้อง หรือผู้ที่ไอจากโควิดก็ใช้วิธีดื่มน้ำขิงลดอาการคลื่นไส้ได้
วิธีที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวิธีบรรเทาอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม หากกินอะไรแล้วไม่หาย ยังอาเจียนและท้องเสียอยู่ ควรรีบไปพบแพทย์ใกล้บ้าน คนไทยทุกคนมีสิทธิรักษาพื้นฐานกับสิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หากยังไม่ป่วยก็เช็กสิทธิและควรสมัครไว้ก่อน เพราะหากเกิดเหตุป่วยขึ้นมากะทันหัน จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังเรื่องค่ารักษาพยาบาล ดูวิธีสมัครบัตรทองที่นี่
เมื่อคุณเข้าใจ คุณก็จะกลัวน้อยลง อาการแพ้ท้องมี 3 ระดับ และระดับที่มากสุดที่พบไม่บ่อยนัก ที่แม่หลายคนอาจเกิดความกังวล เกิดจากระดับฮอร์โมนที่ชื่อว่า "HCG" (Human Chorionic Gonadotropin) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้คุณแม่เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนี้
- จิตใจอ่อนไหว เครียด วิตกกังวลง่าย อารมณ์แปรปรวน
- ประสาทรับกลิ่นมีความไวมากขึ้น เช่น เหม็นอาหาร เหม็นกลิ่นต่างๆ
- รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ และอ่อนเพลียง่าย
- เบื่ออาหารที่เคยทาน แต่อยากทานอาหารแปลกๆ
เมื่อไหร่ถึงจะหายอาการแพ้ท้อง
สำหรับแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องต่างๆ เช่น รู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ เหนื่อยง่าย หรืออาเจียนเป็นบางครั้งคราว ไม่ต้องกังวล เพราะอาการแพ้ท้องเหล่านี้จะหายไปเมื่อมีอายุครรภ์ได้ประมาณ 3 เดือน แต่หากพบว่า มีอาการแพ้ท้องที่หนักกว่านี้ เช่น อาเจียนบ่อย จนคออักเสบ และพบว่าตัวเองไม่สามารถกินอะไรได้เลย ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน
5 วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้อง
- ทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยมื้อ และมีของว่างที่มีประโยชน์เก็บไว้ทานเวลาหิว เช่น ถั่วหรือธัญพืช ขนมปังกรอบและโยเกิร์ต
- กินอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารมันๆ และของคาวจะดีที่สุด
- ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนด้วยการทานอาหารที่มีโปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรตสูงร่วมกัน เช่น ไข่สุก และขนมปังปิ้ง
- ดื่มน้ำอุ่นมากๆ และอาจดื่มน้ำขิงหรือชาขิงที่จะช่วยลดอาการ คลื่นไส้อาเจียนได้ พักผ่อนให้มาก ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส ไม่ควรกังวลและเครียด
- หลังตื่นนอน ควรดื่มน้ำผลไม้ หรือทานขนมขบเคี้ยวที่ไม่หวานเพื่อแก้อาการวิงเวียน คลื่นไส้ เช่น บิสกิตหรือขนมปังกรอบ และอาจนอนพักสัก 20-30 นาที ก่อนลุกจากเตียง
นอกจากนั้น พ่อแม่ควรเข้าใจว่า อาการแพ้ท้อง เป็นเรื่องธรรมชาติที่มากับการตั้งครรภ์ มันจึงไม่สามารถจะป้องกันอะไรได้ เพราะอาการแพ้ท้องเป็นอาการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของแม่ตั้งครรภ์ แต่อย่างน้อย แม่สามารถบรรเทาอาการให้น้อยลงได้ ด้วยวิธีเช่น ผักผ่อนมากๆ ให้เพียงพอ อย่าเครียดง่าย พยายามเพิ่มการรับประทานผัก ผลไม้มาก และงดอาหารมัน เช่น อาหารทอด อาหารผัด อย่าทานครั้งละมากๆ แต่ให้ทานบ่อยๆ แทน และงดของต้องห้ามของคนท้องทุกอย่าง เช่น เหล้า บุหรี่
อาการแพ้ท้องระดับที่ 1 แบบเบาๆ
อาการ Morning Sickness พบได้ในคนท้องส่วนมาก คือเป็นกันมากที่สุด เป็นอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะระดับเล็กน้อย มาเป็นครั้งคราว และอาการพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นในตอนเช้า ส่งผลให้ไม่ค่อยเจริญอาหาร และอาจมีการอาเจียนบ้างเป็นครั้งคราว ไม่บ่อย ถือเป็นอาการปกติธรรมชาติของคนท้องทั่วไป ไม่ควรกังวลใดๆ ควรลดอาการแพ้ท้องนี้ด้วยการดื่มน้ำอุ่นจัด ๆ เป็นประจำ หรือทุกครั้งเมื่อรู้สึกคลื่นไส้ และกินอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารมันๆ และของคาวจะดีที่สุด
อาการแพ้ท้องระดับที่ 2 ระดับกลาง (ต้องพบแพทย์)
ในการแพ้ท้องระดับ 2 นี้ คนท้องจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจถึงระดับที่รับประทานอาหารยาก แม้พักผ่อนเพียงพอ แต่อาการอาจไม่ดีขึ้นเลย พบว่าปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์ พบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
อาการแพ้ท้องระดับที่ 3 Hyperemesis Gravidarum (HG)(ต้องพบแพทย์)
อาการแพ้ท้องระดับที่หนักที่สุด คือระดับ 3 นี้ที่จะพบน้อยมากที่สุด อาการคือ คนท้องจะไม่สามารถรับประทานอาหารได้เลย คลื่นไส้หนัก และอาเจียนอย่างหนัก แทบจะตลอดเวลา ถึงขนาดทำให้ร่างกายขาดน้ำ บางคนอาจเลือดปนมากับอาเจียน พบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อาการแพ้ท้องในระดับนี้ โดยทั่วไป ร่างกายจะแสดงอาการอย่างเร็ว และยังจะกินระยะเวลาการแพ้ท้องนานกว่าคนท้องทั่วไปอีกด้วย
ใครบ้างที่เสี่ยงมีอาการแพ้ท้องในระดับ 3
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ครั้งแรก
- คุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป
- คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด
- คุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป
ระยะเวลาเริ่มมีอาการแพ้ท้อง
ส่วนมาก อาการแพ้ท้องมักเป็นกันในช่วงไตรมาสที่ 1 ของการตั้งท้อง ถ้าเป็นผู้ที่มีอาการแพ้ท้องเร็ว อาจจะเริ่มมีอาการในช่วงที่รู้สึกว่า รอบประจำเดือนมาช้า มีหลายกรณีที่มีอาการแพ้ท้องตั้งแต่ประมาณ 4 สัปดาห์จนถึงประมาณ 15 สัปดาห์ และช่วงเวลาที่จะมีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ ที่จะทรมานที่สุดจะเป็นช่วง 8-9 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ แต่อย่าลืมว่า ช่วงเวลาของการแสดงอาการแพ้ท้องจะไม่เหมือนกันในแต่ละคน และบางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย หรือไม่เป็นเลยก็มีเช่นกัน